วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 15:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 14:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

เรื่องราวและที่มาของนิทานอีสป
เนื่องจากอีสปมีชีวิตอยู่เมื่อหลายหลายพันปีล่วงมาแล้ว
จึงยากที่จะได้ข้อมูล เกี่ยวข้องกับประวัติของอีสปที่ถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อมูล อยู่หลายกระแส
แต่นักค้นคว้าประวัติส่วนใหญ่ของอีสปก็เห็นพ้องต้องกันว่า
ข้อมูล ต่อไปนี้ "น่าจะเป็นเรื่องราวของอีสปที่ถูกต้องมากที่สุด"

อีสป เป็นทาสชาวกรีกคนหนึ่งซึ่งมีชีวิตอยู่
ในช่วงเวลา 560-620 ปีก่อนคริสต์ศักราช หรือ 208 ปี ก่อนพุทธศักราช
(พระพุทธเจ้าประสูตรเมื่อ 80 ปี ก่อนพุทธศักราช)
นับเวลาถึงปัจจุบันได้ 2,755- 2,815 ปี
เขาอาศัยอยู่ที่เมืองซาร์ดิส บนเกาะซามอสของประเทศกรีก
เกาะนี้ตั้งอยู่ที่นอกชายฝั่ง ของประเทศตุรกีในปัจจุบัน
ในสมัยกรีกโบราณชายฝั่งทะเลทั้งหมดของประเทศตุรกี
ก็มีชาวกรีก อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
อีสปเป็นคนพิการ ขี่เหร่ แต่เขามีจิตใจที่งดงาม
ซึ่งตรงกันข้ามกับ สังขารของเขา

เริ่มแรกนั้น อีสปมาจากเทรซซึ่งเป็นนครรัฐแห่งหนึ่งในสมัยโบราณ
ปัจจุบันเทรซ เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของกรีกและบัลแกเรีย
อีสปไปทำงานเป็นทาสที่เกาะซามอสกับนายทาส ชื่อเอียดมอน
ในระหว่างที่เป็นทาส อีสปได้นำชื่อเสียงมาสู่ตนเองและนายของเขา
ด้วยการเป็นนักเล่านิทานผู้มีความสามารถจนเป็นที่รู้จักกันดีในท้องถิ่นนั้น
ในที่สุดอีสปก็ถูกปลดปล่อยให้ เป็นอิสระจากการเป็นทาส
เนื่องจากความเป็นผู้ที่มีไหวพริบและสติปัญญาอันเฉียบแหลมของเขานั่นเอง

เมื่ออีสปได้รับอิสรภาพนั้น เขามีชื่อเสัยงโด่งดังในการเล่านิทานมาก
จนได้รับเชิญให้ไปทำงานอยู่ในราชสำนักของกษัตริย์เครซุส
ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายปห่งราชอาณาจักรลิเดียของ เอเซียไมเนอร์
ขณะนั้นราชสำนักแห่งนี้มีนักปราชญ์ราชบัณฑิตผู้ฉลาดรอบรู้อยู่แล้วหลายท่าน
เช่น โซลอน แห่งกรุงเอเธนส์ และเทลีส แห่งมิเลทัส เป็นต้น
ในไม่ช้า กษัตริย์เครซุสก็ทรง โปรดปรานอดีตทาสผู้นี้อย่างรวดเร็ว
เพราะทรงพอพระทัยในสติปัญญาอันเฉียบแหลมและไหวพริบ
ตามธรรมชาติของเขา อีสปสามารถถวายทั้งความสนุกสนาน
และแง่คิดในด้านต่าง ๆ แก่พระองค์ ทำให้ทรงเรียนรู้ความจริงหลายอย่าง
เกี่ยวกับการบ้านการเมืองของพระองค์จากการฟังนิทานของอีสป
มากกว่าจากการสนทนากับนักปราชญ์ประจำราชสำนักคนอื่น ๆ

ขณะนั้นกษัตริย์เครซุสทรงเป็นประมุขแห่งนครรัฐเล็ก ๆ ทั้งหลายของกรีกด้วย
พระองค์ทรงส่งอีสปให้ไปปฏิบัติหน้าที่ราชทูตยังเมืองหลวงของนครรัฐเหล่านี้
อีสปใช้นิทานของเขาทำให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
อย่างชาญฉลาด ที่เมืองโครินธ์
อีสปใช้นิทานของเขา เป็นสื่อตักเตือนชาวเมืองถึงภยันอันตรายที่จะเกิดขึ้น
จากการใช้กฏหมู่ที่กรุงเอเธนส์ เขาใช้นิทาน เรื่อง "กบเลือกนาย"
เป็นสื่อชักชวนให้ชาวเมืองเลื่อมใสในการปกครองของปีซัสเตรตัส เป็นผลสำเร็จ

อวสานชีวิตของอีสปมาถึง เมื่อกษัตริย์เครซุสส่งเขาไปปฏิบัติหน้าที่
ราชทูตที่เมืองเดลฟิ ณ เมืองนี้ อีสปเล่านิทานโดยใช้สัตว์
เป็นสัญาณบอกความจริงเกี่ยวกับความอยุติธรรมทางการเมืองให้ชาวเมืองรู้
การกระทำของเขาได้จุดไฟแห่งความโกรธแค้น
ให้ไหม้โหมกระหน่ำในหัวใจของนักการเมืองแห่งเมืองเดลฟิอย่างหนัก
นักการเมืองเหล่านี้ จึงคิดแก้แค้นอีสปโดยการแอบเอาขันทองศักดิ์สิทธิ์
แห่งวิหารเทพอะพอลโลไปใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระของอีสป
แล้วกล่าวหาว่าเขาเป็นขโมย ในที่สุด อีสปจึงถูกตั้งข้อหาว่า
กระทำการลบหลู่และทำลายชาวเดลฟิอย่างร้ายแรง
อีกทั้งเป็นคนป่า เถื่อนและดุร้าย อีสปถูกตัดสินประหารชีวิต
โดยถูกโยนลงมาจากหน้าผาสูงจนถึงแก่ความตาย ไปอย่างน่าเสียดายในที่สุด...


การสร้างแนวคิด การอบรมสั่งสอน ให้คนมีความเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง
ในสมัยเมื่อสามพันปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะนอกจากคนในสมัยนั้นยังมองเห็นโลกไม่กว้าง
ไม่มีเรื่องราวของวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ ให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
แล้วการที่จะตั้งตัวว่าเป็น ผู้รู้หรือที่เรียกกันว่า เป็นนักปราชญ์ นั้น
มีโทษอย่างร้ายแรงทีเดียว เพราะในสมัยนั้น
ผู้ที่จะเป็นผู้รู้ได้จะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในศาสนาเท่านั้น
หากคนนอกวัดแสดงตัวเป็นผู้รู้ โอกาสที่จะถูกพวกพระ
พวกผู้นำทางศาสนากล่าวหาเอาเอาได้ว่า
เป็นพวกพ่อมดหมอผีซึ่งมีโทษถึงตายทีเดียว

จะเป็นด้วยเจตนาที่อีสปสร้างเรื่องราว เพื่อสั่งสอนให้คนทำความดี
รู้จักตัวเอง มีคุณธรรม แต่เขารู้ว่า เขาจะทำอย่างตรง ๆ ไม่ได้
เพราะจะมีภัยมาถึงตัว เขาจึงผูกเรื่องเพื่อการสั่งสอนของเขาออกเป็นเรื่องราว
และใช้ตัวแสดงในเรื่องราวของเขาเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่
เพื่อให้คนฟังเข้าใจว่า เป็นเรื่อง เล่าขานกันเพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว
ไม่เกี่ยวกับการสั่งสอนใคร

ด้วยเหตุนี้เอง การเล่าเรื่องของอีสป จึงไม่มีใครคิดว่า
เขากำลังสั่งสอนให้คนอยู่ในศีลในธรรม
แต่ทุกคนฟังเรื่องราวของเขาเพราะความสนุกสนาน

เรื่องราวของเขาจึงถูกเรียกขานกันในนามว่า "นิทาน"

นิทานของ อีสปได้รับความนิยมอย่างมากจากคนฟัง
ชีวิตของเขาจึงทำงานด้วยการเล่านิทานเป็นกิจวัตร
จนทำให้ทุกคนในท้องถิ่นที่เขาอยู่รู้จักเขาเป็นอย่างดี
และทุกคนต่างก็อยากฟังนิทานของเขาไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่

รูปภาพ

ชีวิตของอีสปจบสิ้นลงอย่างน่าเสียดายแค่ตรงนั้น
แต่นิทานของ อีสปยังถูกกล่าวขานกันอยู่ในหมู่ของผู้คนที่กระจายเพิ่มมากขึ้น
จากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง

นิทานอีสปจึงไม่ตายไปพร้อมกับตัวของอีสปด้วย

หลังจากที่อีสปตายไปไม่นานชาวเอเธนส์ผู้หนึ่งชื่อ ลีซิฟัส
ก็ได้ปั้นรูปของอีสปตั้งไว้ข้างหน้าของอนุสาวรีย์ยอดนักปราชญ์ทั้งเจ็ดของชาวเอเธนส์
ซึ่งถือได้ว่าอีสปได้รับการยกย่องเทียบเท่ากับ
ยอดนักปราชญ์ผู้โด่งดังของชาวเอเธนส์ในยุคนั้นทีเดียว
นิทานอีสปได้รับการเผยแพรเรื่อยมาตลอดชั่วระยะเวลากว่าสามพันปี
ผู้อพยพจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง จดจำนิทานอีสปไปเล่าขาน
เรื่องราวเหล่านั้นจึงกระจายไปทั่วโลกและทุกมุมโลก
ทุกคนเมื่อได้ฟังนิทาน ของอีสปแล้ว พวกเขาจะเกิดความรู้สึก สำนึกที่ดี
ได้รับบทเรียน ได้รับรู้สิ่งที่ดีงาม และความชั่วร้าย ไปพร้อม ๆ กับความสนุกสนาน

นิทานของอีสปจึงกลายเป็นนิทานอมตะ ที่ไม่มีวันตายไปจากโลกนี้
แทบจะบอกได้เลยว่า นิทานอีสปนั้นมีอยู่ในทุกประเทศทุกหนทุกแห่งในโลกนี้ก็ว่าได้

อีสป ทาสชาวกรีกนักเล่านิทานอัจฉริยะของโลก
และบทบาทของนิทานอีสปนับแต่ อดีตกาลจวบจนปัจจุบัน
ย่อมเป็นสิ่งที่ชี้ชัดให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของนิทานอีสปที่มีต่อมวลมนุษย์ได้เป็นอย่างดี


คัดลอกจาก...
http://sukumal.net/isoppu/isoppustory/i ... ory01.html

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 15:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ขอบคุณ คุณลูกโป่งครับ

ที่หามาให้อ่าน


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 15:08
โพสต์: 162

ที่อยู่: ปราจีนบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


โมทนาครับ :b8: :b8:
ชีวิตของคนเราไม่สำคัญว่าจะยาวจะสั้น
จะสุขหรือทุกข์ยากลำเค็ญเพียงใด
สิ่งที่เหลือไว้ก็คือ :b41:
สิ่งดีๆที่คนนั้นเหลือไว้ แทนตัวเอง
คนกี่พันล้านบนโลกที่อยู่บนโลกนี้
จะมีใครถูกจดจำและไม่เลือนหาย
ไปตามกาลเวลา :b20:

.....................................................
สติคือธรรมคุ้มครองโลก

มีสติรู้กายและใจลงเป็นปัจจุบัน

เมื่อใดมีสติเมื่อนั้นมีความเพียร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 10:01
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


มองเห็นโลกกว้างขึ้นเยอะมากๆๆเลยเนอะ ขอบคุณนะครับผม :b4: :b22:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร