ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

...นกแขกเต้ากับชาวนา...
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=20457
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 05 ก.พ. 2009, 18:14 ]
หัวข้อกระทู้:  ...นกแขกเต้ากับชาวนา...

รูปภาพ

ทุกๆ คนมีความสุข เมื่อแสวงหาทรัพย์มาได้
หลายๆ คนมีความสุขกับการครอบครองหวงแหนทรัพย์นั้นไว้
ในขณะที่อีกหลายๆ คนก็มีความสุขกับการใช้จ่ายทรัพย์นั้น
แท้จริงแล้ว เราจะแสวงหาความสุขจากทรัพย์สินได้ด้วยวิธีการใด ทำอย่างไร?
เราจึงจะได้รับความอิ่มกายอิ่มใจจากทรัพย์ของเราให้ได้มากที่สุด

มีนกแขกเต้าฝูงหนึ่งประมาณ 500 ตัว
อาศัยอยู่ในป่างิ้วบนยอดเขาแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาหากิน
ฝูงนกแขกเต้าต่างพากันบินไปกินข้าวสาลีในนาของชาวมคธ

เมื่อกินข้าวสาลีอิ่มแล้ว ต่างก็บินกลับรังด้วยปากเปล่าๆ ทั้งนั้น
ส่วนพญานกแขกเต้าที่เป็นหัวหน้า เมื่อกินอิ่มแล้ว
ยังต้องคาบข้าวสาลีอีก 3 รวงกลับไปด้วย ชาวนาเห็นก็แปลกใจ
จึงพยายามดักจับพญานกแขกเ ต้าให้ได้ ด้วยการสังเกตที่ยืนของพญานกนั้น
แล้ววางบ่วงดักไว้วันหนึ่งพญานกถูกจับได้ ชาวนาจึงถามพญานกว่า

" นกเอ๋ย ท้องของท่านคงจะใหญ่กว่าท้องของนกอื่น
เพราะเมื่อท่านกินอิ่มแล้ว ยังต้องคาบรวงข้าว กลับไป อีกวันละ 3 รวง
เป็นเพราะท่านมียุ้งฉาง หรือเป็นเพราะเรามีเวรต่อกันมาก่อน? "

พญานกตอบว่า

" ข้าพเจ้าไม่ได้มียุ้งฉาง และเรา ก็ไม่มีเวรต่อกัน แต่ที่คาบไป 3 รวงนั้น
รวงหนึ่งเอาไปใช้หนี้เก่า รวงหนึ่งเอาไปให้เขา และอีกรวงหนึ่งเอาไปฝังไว้ "


ชาวนาได้ฟังก็เกิดความสงสัย จึงถามว่า

" ท่านเอารวงข้าวไปใช้หนี้ใคร เอาไปให้ใคร ? และเอาไปฝังไว้ที่ไหน?! "

พญานกแขกเต้าจึงตอบว่า

" รวงที่หนึ่งเอาไปใช้หนี้เก่า คือเอาไปเลี้ยงดูพ่อแม่ เพราะท่านแก่แล้ว
และเป็นผู้มีพระคุณอย่างมาก ทั้งให้กำเนิดและเลี้ยงดูข้าพเจ้าจนเติบใหญ่
นับว่าข้าพเจ้าเป็นหนี้ท่าน จึงสมควรเอาไปใช้หนี้ "

" รวงที่สองเอาไปให้เขา คือ เอาไปให้ลูกน้อยทั้งหลายที่ยังเล็กอยู่
ไม่สามารถหากินเองได้ เมื่อข้าพเจ้าเลี้ยงเขาในตอนนี้
ต่อไปยามข้าพเจ้าแก่เฒ่า เขาก็จะเลี้ยงตอบแทน จัดเป็นการให้เขา "

" รวงที่สามเอาไปฝังไว้ คือ เอาไปทำบุญด้วยการให้ทานกับนกที่แก่ชรา
นกที่พิการหรือเจ็บป่วยไม่สามารถหากินได้ เท่ากับเอาไปฝังไว้
เพราะบัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า การทำบุญเป็นการฝังขุมทรัพย์ไว้ "


ชาวนาฟังแล้วเกิดความเลื่อมใสว่า นกนี้เป็นนกกตัญญต่อพ่อแม่
เป็นนกมีความเมตตาต่อลูกน้อย และเป็นนกใจบุญ
มีปัญญา รอบคอบ มองการณ์ไกล

พญานกได้อธิบายต่อไปว่า

" ข้าวสาลีที่ข้าพเจ้ากินเข้าไปนั้น ก็เปรียบเหมือนเอาทิ้งลงไปในเหว
ที่ไม่รู้จักเต็ม เพราะ ข้าพเจ้าต้องมากินทุกวัน วันนี้กินแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องมากินอีก
กินเท่าไหร่ ก็ไม่รู้จักเต็ม จะไม่กินก็ไม่ได้ เพราะถ้าท้องหิวก็เป็นทุกข์ "

ชาวนาฟังแล้วจึงกล่าวว่า

" พญานกผู้มีปัญญา ทีแรกข้าพเจ้าคิดว่า ท่านเป็นนกที่โลภมาก
เพราะนกตัวอื่นเขาหากินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่คาบอะไรไป
ส่วนท่านบินมาหากินแล้วก็ยังคาบรวงข้าวกลับไปอีก
แต่พอฟังท่านแล้ว จึงรู้ว่าท่านไม่ได้คาบไปเพราะความโลภ
แต่คาบไปเพราะความดี คือเอาไปเลี้ยงพ่อแม่ เอาไปเลี้ยงลูกน้อย
และเอาไปทำบุญ ท่านทำดีจริงๆ "

ชาวนามีจิตเลื่อมใสในคุณธรรมของพญานกมาก
จึงแก้เครื่องผูกออกจากเท้าพญานก ปล่อยให้เป็นอิสระ
แล้วมอบนาข้าวสาลีให้พญานกรับนาข้าวสาลีไว้เพียงส่วนหนึ่ง
ซึ่งกะคะเนแล้วว่าเพียงพอแก่บริวาร จากนั้นจึงให้โอวาทแก่ชาวนาว่า

" ขอให้ท่านเป็นผู้ไม่ประมาท หมั่นสั่งสมกุศลด้วยการทำทาน
และเลี้ยงดูพ่อแม่ผู้แก่เฒ่าด้วยเถิด "

ชาวนาได้คติจากข้อปฏิบัติของพญานกจึงตั้งใจทำบุญกุศล
ตั้งแต่นั้นมาจนตลอดชีวิต

นกแขกเต้า ผู้มีปัญญา รู้ว่าควรบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างไร
จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อตนเอง ต่อครอบครัว และต่อสังคม
นับเป็นการใช้ทรัพย์อย่างชาญฉลาด ที่ยิ่งใช้ก็ยิ่งมีความสุขความเจริญ
สุขทั้งกาย สุขทั้งใจ สุขทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

เราทุกคนเมื่อรู้จักเก็บ รู้จักหาทรัพย์แล้ว
ก็ควรจะรู้จักหาความสุขจากการใช้ทรัพย์อย่างถูกต้องด้วย
เพราะการแสวงหา? หรือครอบครองทรัพย์สินที่มี ไม่อาจสร้างความสุขใจ
ไม่อาจทำให้เกิดบุญกุศลได้
เทียบเท่ากับการใช้ทรัพย์นั้นให้เกิดคุณค่าอย่างแท้จริงต่อชีวิต


ข้อมูลจาก FWD อีเมล์ / ขอขอบพระคุณผู้เขียนเป็นอย่างสูง

คัดลอกจาก...

http://www.budpage.com/bpi04.shtml

ภาพประกอบจาก...http://lomamilkyway.com/go/images/4/44/Red-breasted_Parakeet.jpg

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  อัญญาสิ [ 11 ก.พ. 2009, 19:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...นกแขกเต้ากับชาวนา...

:b8:

พญานกแขกเต้าจึงตอบว่า

" รวงที่หนึ่งเอาไปใช้หนี้เก่า คือเอาไปเลี้ยงดูพ่อแม่ เพราะท่านแก่แล้ว
และเป็นผู้มีพระคุณอย่างมาก ทั้งให้กำเนิดและเลี้ยงดูข้าพเจ้า จนเติบใหญ่
นับว่าข้าพเจ้าเป็นหนี้ท่าน จึงสมควรเอาไปใช้หนี้ " :b8: :b8: :b8:
...
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวัน
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝังไว้ให้วังเวง

:b8: เจริญในธรรม

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/