วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2022, 13:31 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


เทวดาจำแลง (ฝูงลิงหาหน่อไม้)

รูปภาพ

สำหรับเรื่องเทวดาจำแลง (ฝูงลิงหาหน่อไม้) นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ขณะนั้นหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้จำพรรษาอยู่ที่ถ้ำเป็ด บ้านหนองม่วง ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ในระหว่างพรรษาปีนี้หลวงปู่ได้ทราบข่าวว่าท่านพระอาจารย์สีลา เทวมิตฺโต แห่งวัดโชติการาม บ้านหนองบัว ซึ่งอยู่ห่างจากถ้ำเป็ดประมาณ ๖-๗ กิโลเมตร ท่านได้อาพาธ หลวงปู่ก็ได้นำพาพระเณรไปเยี่ยมไข้หลายครั้ง บางครั้งก็ได้ปฏิบัติดูแลท่านอย่างใกล้ชิด เพราะว่าท่านพระอาจารย์สีลานั้นท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย มีชื่อเสียงโด่งดังในเขตนั้นอีกรูปหนึ่ง ลูกศิษย์ลูกหาทุกฝ่ายก็พยายามช่วยกันรักษาพยาบาลเพื่อต้องการให้ท่านมีชีวิตเป็นที่พึ่งของชาวบ้านสืบต่อไปอีก หลายครั้งหลวงปู่ต้องเดินทางไปเอายาจากกรุงเทพฯ มารักษา ถึงแม้ว่าจะพยายามกันขนาดไหนก็แล้วแต่ อาการของท่านพระอาจารย์สีลามีแต่ทรุดลงทุกวัน และที่สุดท่านก็ได้ถึงแก่มรณภาพในระหว่างพรรษาปีนั้น เป็นที่อาลัยเศร้าโศกเสียใจของบรรดาผู้ที่เคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง เมื่อหลวงปู่สมชายทราบข่าวการมรณภาพของท่านพระอาจารย์สีลาแล้ว ก็ได้ปรึกษาหารือว่าจะต้องนำพาพระเณรและญาติโยมชาวบ้านไปช่วยปฏิบัติศพ มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณีอย่างสมเกียรติของครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะเรื่องโรงเลี้ยงโรงทานต้องให้มีตลอดงาน ตั้งใจว่าจะไปร่วมงานศพของครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ แต่การไปร่วมงานครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ระดับนี้นั้นจะไปแต่ตัวหรือไปแบบมือเปล่าๆ นั้น ก็ออกจะดูไม่เป็นการอันสมควรด้วยประการทั้งปวง จึงได้เรียกญาติโยมมาปรึกษาหารือเรื่องการจะไปงานศพครูบาอาจารย์ในครั้งนี้ ถ้าได้หน่อไม้ไปร่วมในงานนี้บ้างก็จะเป็นการดี จะได้ประกอบอาหารถวายพระและเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน จึงขอให้ญาติโยมพากันขึ้นไปบนภูเขาหาเก็บหน่อไม้สัก ๒-๓ กระสอบเพื่อจะได้นำไปร่วมงานครั้งนี้

บรรดาญาติโยมทั้งหมดเมื่อทราบจุดประสงค์ของหลวงปู่แล้ว ก็จัดหามีด เสียมและกระสอบ รีบออกเดินทางขึ้นไปบนภูเขาเพื่อหาหน่อไม้ทันที ญาติโยมทั้งหมดได้เดินทางไปหาหน่อไม้ตั้งแต่เช้าจนเที่ยง ตะวันบ่ายคล้อยแล้วก็ยังไม่ปรากฏว่าจะได้หน่อไม้แต่อย่างไร เนื่องจากในช่วงนั้นใกล้ออกพรรษาแล้ว หน่อไม้จึงถูกชาวบ้านขึ้นมาหาไปประกอบอาหารกันทุกวัน ที่พอจะมีหลงเหลืออยู่บ้างก็เป็นลำต้นสูงๆ ไปหมดแล้ว และบ้างก็เพิ่งจะปริ่มดินขึ้นมาอยู่ในกลางกอ สรุปแล้วก็คือจะหาหน่อไม้ไปร่วมในงานจำนวนมากๆ เช่นนี้คงไม่มีทาง คณะชาวบ้านที่ได้ขึ้นไปหาหน่อไม้เดินวนเวียนกันจนอ่อนล้าไปตามๆ กัน จึงได้พากันกลับลงมาจากภูเขาเข้าไปกราบเรียนหลวงปู่ว่า “พวกกระผมได้พากันขึ้นไปหาหน่อไม้ตั้งแต่เช้าจนบ่ายป่านนี้แล้ว ยังไม่ได้หน่อไม้เลยแม้แต่หน่อเดียวเพราะว่าหน่อไม้บนภูเขานั้นพวกกระผมก็ได้ขึ้นไปหามาทำอาหารกินกันทุกวัน แต่กว่าจะได้แต่ละหม้อนั้นก็ยากลำบาก บางหน่อก็ติดปลายลำเป็นต้นไปหมดแล้วก็มี ยิ่งต้องการจำนวนมากๆ อย่างนี้ด้วยแล้ว เห็นจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ...”

เมื่อหลวงปู่สมชายได้รับแจ้งจากญาติโยมดังนั้นแล้ว จึงนั่งพิจารณาว่า “เอ...! จะทำอย่างไรดี ถ้าไม่ได้สิ่งของไปร่วมงานครูบาอาจารย์ในครั้งนี้เราก็ไม่ควรไป...! เพราะนิสัยของเรานั้นจะไปงานไหนก็แล้วแต่ จะไม่ไปเอาประโยชน์ ณ ที่แห่งนั้น มีแต่จะเอาประโยชน์ไปให้เท่านั้น ยิ่งครั้งนี้ด้วยแล้ว เป็นงานของครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเราไปมือเปล่าโดยที่ไม่มีอะไรติดมือไปร่วมงานเลยนั้นเราก็ไม่ควรไป และควรจะรีบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ไปเสียให้ไกล เพื่อหมู่คณะจะได้รู้ว่าเราไม่อยู่ ถ้าเราขืนอยู่แล้วไม่ไปร่วมงานก็เห็นจะหน้าเกลียด...”

ท่านได้นั่งพิจารณาอยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงได้ปรารภกับญาติโยมว่า “อาตมาเห็นจะไปร่วมในงานครูบาอาจารย์ครั้งนี้ไม่ได้แน่แล้ว และก็เห็นว่าจะอยู่ที่นี้ต่อไปไม่ได้อีกด้วย...” เมื่อบรรดาญาติโยมได้ยินได้ฟังดังนั้นแล้วต่างคนต่างก็ตกอกตกใจไม่รู้ว่าจะทำประการใดดี จึงกราบเรียนหลวงปู่ว่า...มีวิธีไหนที่ครูบาอาจารย์จะไปร่วมในงานครั้งนี้ได้ขอให้บอกพวกกระผมเถิดครับ ? แต่ขออย่างเดียวขอให้ท่านอาจารย์อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พวกกระผมที่นี่ต่อไป อย่าได้หนีจากพวกกระผมก็แล้วกัน...


หลวงปู่จึงปรารภขึ้นว่า “เอาอย่างนี้ อาตมาขอให้พวกเราทุกคนนี่ ทดลองขึ้นไปหาหน่อไม้บนเขาอีกสักครั้งหนึ่ง ถ้าได้หน่อไม้ไปร่วมงานครูบาอาจารย์ อาตมาก็จะขออยู่กับญาติโยม ณ ที่นี้ต่อไป แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ อาตมาก็เห็นจะอยู่ที่นี้ต่อไปไม่ได้แน่...” การขึ้นไปหาหน่อไม้ก็พึ่งจะลงมายังไม่ทันจะหายเหนื่อยเลย แต่ทุกคนก็ขันอาสาขอขึ้นไปหาหน่อไม้ลองดูอีกสักครั้งตามที่หลวงปู่ต้องการ ว่าแล้วต่างคนต่างก็หยิบฉวยมีดบ้างกระสอบบ้าง เสียมบ้างคนละอย่างสองอย่าง เดินขึ้นภูเขาไปตามเส้นทางเก่าเพื่อค้นหาหน่อไม้เป็นรอบที่สอง ต่างคนต่างก็เดินไปคิดไปว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะได้หน่อไม้ตามที่หลวงปู่ต้องการได้ เพราะว่าป่านี้ทั้งป่าก็แทบจะไม่มีหน่อไม้ลัดออกมาอยู่แล้ว เพราะลัดออกมาก็ไม่ทันคนกิน ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินคิดถึงเรื่องการหาหน่อไม้อยู่นั้น สายตาทุกคู่จ้องจับอยู่ที่แห่งเดียวกัน ทุกคนแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ถึงความมหัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน

“...ฝูงลิงตัวโตๆ ไม่ทราบว่าออกมาจากที่ไหนมากมายเต็มป่าไปหมด ลิงทุกตัวเหมือนรู้หน้าที่ต่างก็ปีนขึ้นไปหักหน่อไม้แล้วก็โยนออกมากองระเนระนาดเต็มทางเดินไปหมด บ้างก็หักแล้วเอาเหน็บไว้ที่กอไผ่ กะสูงขนาดศีรษะ พอเอามือยื่นไปหยิบถึง บ้างก็เอามือขุดล้วงเข้าไปในกอ พอชักมือออกมาก็มีหน่อไม้ติดมือออกมาด้วยทุกครั้งไป...” นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากทีเดียว

ไม่ว่าชาวบ้านจะเดินทางไปทางไหน พวกลิงเหล่านั้นก็จะออกเดินนำหน้าแล้วหักหน่อไม้ออกมากองตามทางตลอดไป ผิดกับที่ขึ้นมาครั้งแรกจะหาหักเองยังหาไม่ได้เลย แต่ครั้งนี้เพียงแต่เก็บใส่กระสอบอย่างเดียวก็แทบจะเก็บไม่ทัน จึงทั้งงุนงง ทั้งสงสัย ทั้งตื่นเต้น บางคนตื้นตันจนน้ำตาไหล ความงวยงงสงสัยจึงมีเกิดขึ้นกับทุกคนว่า “...ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา บางคนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆ จนอายุถึง ๖๐-๗๐ ปี ยังไม่เคยเห็นลิงป่าประเภทนี้เลย สมัยก่อนนั้นก็เคยมีอยู่บ้าง แต่เป็นลิงอีกประเภทหนึ่ง...” และต่อมาก็ได้พากันหนีไปจากป่านี้ เข้าไปในป่าลึกกันจนหมดสิ้นเพราะกลัวภัยจากพวกมนุษย์


วันนี้จึงนับว่าเป็นวันแห่งความมหัศจรรย์แห่งชีวิตของบรรดาญาติโยม บางคนถึงกับอุทานออกมาว่า “...ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็เพิ่งมีบุญได้พบเห็นสิ่งมหัศจรรย์ ก็ครั้งนี้เอง...” เมื่อพากันเก็บหน่อไม้ใส่กระสอบได้มากพอสมควรแล้ว จึงได้พากันลำเลียงลงจากภูเขา บรรดาฝูงลิงทั้งหลายเมื่อหมดหน้าที่แล้วก็ได้พากันวิ่งเข้าป่าหายไป บรรดาญาติโยมจึงได้พากันลำเลียงหน่อไม้ลงมาถึงถ้ำเป็ดอย่างทุลักทุเล แล้วทุกคนก็พากันไปกราบเรียนหลวงปู่ถึงเหตุการณ์ที่ได้ประสบมาสดๆ ร้อนๆ นั้นให้ทราบอย่างตื่นเต้น และปลื้มปีติ

จึงเป็นอันว่าการที่จะเดินทางไปร่วมงานศพท่านพระอาจารย์สีลา เทวมิตฺโต ก็ได้เป็นไปตามเจตนาของหลวงปู่ทุกประการ และได้นำหน่อไม้ไปร่วมงานเพื่อปรุงอาหารถวายพระภิกษุสามเณร และเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานครั้งนั้นอย่างอุดมสมบูรณ์


รูปภาพ
ชาวบ้านญาติโยมที่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ “ฝูงลิงหาหน่อไม้” ในครั้งนั้น
บันทึกภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับองค์ “หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย”

ในคราวที่องค์หลวงปู่มาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำเป็ด ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร


รูปภาพ
เทวมิตฺโตเจดีย์ พระอาจารย์สีลา เทวมิตฺโต (พ.ศ. ๒๔๖๐-๒๕๐๒)
วัดโชติการาม บ้านหนองบัว ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร


-------------------------
หนังสือชีวประวัติพระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) ฉบับสมบูรณ์
วัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี :b8: :b8: :b8:


:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=58572

:b44: รวมคำสอน “หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43691


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron