วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2021, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ เล่าให้ “หลวงปู่ขาว อนาลโย” ฟัง
...ถึงอดีตชาติสมัยท่านเกิดเป็นรุกขเทวดา
และบอกว่าเทวดาชั้นต่ำมีโอกาสสร้างบารมีมากกว่าเทวดาชั้นสูง


รูปภาพ
:b49: :b50: :b49:

ในคืนต่อมา ได้คุยกันถึงเรื่องเทพบุตรเทวดากันบ้าง หลวงปู่ (หลวงปู่ขาว อนาลโย) เป็นผู้เริ่มต้นถามก่อนเช่นเคย ถามว่า ท่าน (พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ) เคยได้ไปเกิดบนสวรรค์ไหม เล่ามาให้ฟังบ้างซิ ตอบว่า ขอโอกาสหลวงปู่ สวรรค์นั้นกระผมก็เคยไป

การไปสวรรค์แต่ละครั้งนั้น ก็ทำให้หลงได้ เพราะสวรรค์มีความสุขในกามคุณรื่นรมย์ดี แต่กระผมไม่ชอบ เพราะอยู่ในสวรรค์ทำให้เสียเวลาในการสร้างบารมี เพียงไปอยู่ด้วยความสนุกสนานเป็นการพักผ่อนชั่วคราวเท่านั้น ถ้าไปอยู่นานๆ ก็อาจทำให้ลืมตัวได้ เมื่อหมดบุญกุศลที่ได้ทำเอาไว้ในเมืองมนุษย์แล้ว ก็ต้องกลับมาเกิดที่เมืองมนุษย์อีก ถ้ามาเกิดในเมืองมนุษย์ หากได้พบกับบัณฑิตนักปราชญ์เป็นกัลยาณมิตรก็โชคดีไป ถ้าได้ไปเกิดในสถานที่ที่มีคนพาล ก็อาจหลงทำความชั่วได้

ฉะนั้น การไปเกิดบนสวรรค์ชั้นสูง โอกาสที่จะได้สร้างบารมีนั้นยากมาก วันคืนผ่านไปๆ ไม่ได้นึกถึงบุญกุศลแต่อย่างใด มีแต่เสพสุขในกามคุณที่เป็นทิพย์เท่านั้น มนุษย์เขาทำบุญให้ทานรักษาศีลภาวนาอย่างไรก็ไม่เคยรู้เรื่อง ถึงหมู่มนุษย์จะร้องกล่าวบทชุมนุมเทวดาให้มาร่วมบุญกุศล เทวดาชั้นสูงเขาก็ไม่ได้มาร่วมงานด้วย ที่มานั้นเป็นเทวดาชั้นต่ำๆ ที่เรียกว่า รุกขเทวดาและภุมเทวดา นั่นเอง

หลวงปู่พูดว่า ไหนลองเล่ามาให้ฟังซิว่าเขามากันอย่างไร จึงได้เล่าต่อไปว่า

ในสมัยหนึ่งกระผมเป็นหัวหน้าอุบาสกอุบาสิกาอยู่ในเมืองมนุษย์ ได้พาคณะศรัทธาทั้งหลายไปบำเพ็ญกุศลตามวัดต่างๆ และทำประโยชน์ในสาธารณกุศลทั่วไป มีวัดหนึ่งเป็นถ้ำใหญ่ มีพระเป็นจำนวนมาก กระผมได้พาหมู่คณะไปบำเพ็ญกุศลในวัดนี้เป็นประจำ และทำไปจนตราบเท่าอายุขัย เมื่อกระผมตายไป จึงได้ไปเกิดเป็นรุกขเทพบุตร ได้ไปอาศัยต้นรังใหญ่ต้นหนึ่งในป่าใหญ่แห่งนั้น กระผมสามารถเนรมิตให้ต้นรังใหญ่กลายเป็นปราสาทได้อย่างสวยงาม และได้เป็นใหญ่ในหมู่รุกขเทวดาทั้งหลาย ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วัน ๘ ค่ำ วัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ กระผมจะพาหมู่เทวดาทั้งหลายไปบำเพ็ญกุศลตามวัดต่างๆ โดยจะออกเดินทางในช่วงตี ๓-๕ ก่อนที่มนุษย์เขาจะไปถึง สำหรับพาหนะที่ใช้เดินทางนั้นไม่เหมือนกัน บางกลุ่มเขาก็เนรมิตเป็นปราสาทนั่งอยู่ในนั้น แล้วพากันลอยไปเป็นกลุ่มๆ ดูแล้วสวยงามมาก ระดับความสูงที่ลอยไปนั้น สูงกว่าปลายไม้ไปไม่กี่เมตร บางกลุ่มก็แยกไปที่ต่างๆ ตามที่ต้องการ แต่ใครจะไปที่ไหนต้องมารายงานตัวต่อกระผมทุกครั้งไป

อีกงานหนึ่งเรียกว่างานรับเชิญ นั่นคืองานบุญกุศล พวกเทพเหล่านี้จะได้ไปในงานนี้บ่อยครั้งทีเดียว เพราะมนุษย์เวลาทำบุญได้อัญเชิญเทวดา คำอัญเชิญเทวดานั้น มีความหมายแปลว่าอย่างไรก็ให้ไปถามท่านนักปราชญ์เอาเอง และมีเทวดาอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า เคหเทวดา คือ เทวดาที่อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนของมนุษย์ เทวดากลุ่มนี้ไม่ต้องเชิญเขาก็รู้หน้าที่กันเอง เพราะเขาถือว่าเป็นเจ้าของบ้านดูแลรักษาบ้านนั้นอยู่ เมื่อเจ้าของบ้านจะทำบุญเขาก็ส่งข่าวให้รุกขเทวดาให้มาร่วมบุญนี้เหมือนกัน บ้านที่เทวดากลุ่มนี้อยู่เจ้าของบ้านต้องมีคุณธรรม มีการบำเพ็ญกุศลอยู่เสมอ เช่น เทวดาที่อาศัยบ้านของโยมแม่ของพระโสณกุฏิกัณณะที่ร้องทำนองสรภัญญะให้พระพุทธเจ้าฟัง เมื่อร้องจบลง พระพุทธเจ้าก็อนุโมทนาสาธุ เทวดาของโยมแม่ของพระโสณะ ก็ได้สาธุด้วยเช่นกัน ฉะนั้น รุกขเทวดา ภุมเทวดา หรือ เคหเทวดา จึงได้เปรียบกว่าหมู่เทวดาชั้นสูงเพราะได้บำเพ็ญบารมีกับหมู่มนุษย์เป็นประจำ เรื่องของเทวดานั้นยาวมาก จะไม่นำมาเขียนไว้ในที่นี้ทั้งหมด

เมื่อเล่าเรื่องเทวดาทั้งหมดให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่ก็ยอมรับว่าความจริงเป็นอย่างนั้น แล้วหลวงปู่ก็ได้อธิบายต่อไปว่า การเป็นเทวดาอยู่ในระดับต่ำนี้มีกำไร เพราะได้บำเพ็ญบุญกุศลร่วมกันกับหมู่มนุษย์มิได้ขาด ได้อนุโมทนาส่วนบุญที่มนุษย์ได้ทำแล้ว การไปอยู่บนสวรรค์ชั้นสูงๆ นั้นก็เหมือนอย่างที่ท่านว่านั้นแหละ ถึงจะไปอยู่ก็อยู่ได้ไม่ตลอด เมื่อบุญกุศลหมดเมื่อไรก็ต้องลงมาเกิดในเมืองมนุษย์อีก เพราะการบำเพ็ญบุญกุศลนั้นต้องกระทำอยู่ในเมืองมนุษย์นี้ ผู้จะเป็นพระพุทธเจ้าหรือพระอริยเจ้าทั้งหลาย ก็ต้องมาสร้างบารมีอยู่ที่เมืองมนุษย์นี้ทั้งนั้น ฉะนั้น เมืองมนุษย์จึงเป็นสถานที่สร้างบารมี ถ้าผู้มีความประมาทลืมตัว ก็เอาเมืองมนุษย์นี้เป็นสถานที่ทำบาปอีก น่าเสียดายที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วไม่ได้ทำประโยชน์ให้แก่ตัวเอง ส่วนใหญ่จะทำเพื่อเสียประโยชน์ให้ตัวเองทั้งนั้น คำว่าเสียประโยชน์นั้น คือเราทำในสิ่งที่ไม่ดีนั่นเอง เมื่อทำไปแล้วผลที่ไม่ดีก็ต้องได้รับเอง


หลวงปู่ขาวได้พูดกับข้าพเจ้าอีกว่า “นี่ทูล จากนี้ไปจงตั้งใจประกาศศาสนา อบรมพระเณรและญาติโยมให้เขาได้รู้จักแนวทางปฏิบัตินะ เพราะแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องอย่างแท้จริงนั้น หาผู้สอนได้ยากมาก”

จาก...หนังสือ อัตโนประวัติพระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ
หัวข้อ ณ วัดถ้ำกลองเพล หน้า ๑๐๗-๑๐๘
วัดป่าบ้านค้อ ต. เขือน้ำ อ. บ้านผือ จ. อุดรธานี
โทรศัพท์ (๐๘๒) ๒๔๕-๔๘๘ ISBN 974-8414-16-7

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=42881

:b44: รวมคำสอน “หลวงปู่ขาว อนาลโย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43187

:b44: รวมคำสอน “หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=42885


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2021, 20:39 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2021, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2022, 07:26 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron