ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การให้ผลของบุญบาปเก่า-ใหม่ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=52107
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Hanako [ 19 มี.ค. 2016, 05:07 ]
หัวข้อกระทู้:  การให้ผลของบุญบาปเก่า-ใหม่ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


นี่แหละคนไม่เข้าใจเรื่องบุญและบาปมันให้ผลแตกต่างกันไป เรื่องบุญเก่ากับบุญใหม่ หรือบาปเก่ากับบาปใหม่ ผู้ใดไม่วินิจฉัยให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้วมันสับสนไปหมดเลย เพราะว่าบุญเก่าบาปเก่านี้มันให้ผลอยู่ในอัตภาพร่างกายอันนี้ ไปให้ผลไปแล้ว เมื่อมันหมดอายุมันลงอย่างนี้ นั่นแหละบุญเก่าหรือบาปเก่ามันจึงให้ผลสืบต่อได้

ในขณะที่บุญเก่าหรือบาปเก่ามันให้ผลอยู่นี่ บุญใหม่จะให้ผลต่อร่างกายอันนี้ไม่ได้เลย อืม เป็นอย่างนั้น มีแต่ผลแห่งบุญเก่า ผลแห่งบาปเก่า ทั้งนั้นแหละมันให้ผลอยู่ เช่นอย่างว่า บุคคลผู้มีผู้ทำบาปมาแต่ก่อนอย่างนี้นะ ถึงเวลาบาปนั้นมันให้ผลละมันก็บีบบังคับให้ร่างกายอันนี้ทรุดโทรมลง วิบัติลง เจ็บไข้ได้ป่วย รักษาอย่างไรก็ไม่หาย นี่เรียกว่า อานุภาพผลแห่งบาปกรรมที่บุคคลกระทำมาน่ะ ไม่มีอะไรจะไปลบล้างได้เลย หมอก็ช่วยไม่ได้

อย่างนั้นแหละ พระพุทธเจ้าจึงได้สอนให้พุทธบริษัททั้งหลายนั่นให้เบื่อต่อบาปกรรม อย่าไปชอบทำบาป อย่าไปชอบเบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่น มันเป็นกรรมเป็นเวรตามมาสนองตนในภายหลัง ในขณะที่ทำอยู่นั่นน่ะบาปกรรมมันยังไม่ให้ผลหรอก เช่นไปฆ่าคนตายทั้งคนอย่างนี้น่ะมันก็เฉยๆ อยู่อย่างนั้นแหละ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยในกายในใจของคนเรานั่นน่ะ แต่ว่าจะว่าไม่เปลี่ยนแปลงเสียเลยก็ไม่ใช่ เปลี่ยนแปลงทางจิตใจ ใจนั่นแหละมืดมนเข้า ใจมัวหมองเข้าไป แต่ทางร่างกายแล้วเหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าพอฆ่าคนลงไปแล้วแบบนี้บาปกรรมนั้นมันจะสนองเอา ให้มีผู้มาฆ่าผู้นั้นทันทีเลยอย่างนี้ ไม่ใช่ เพราะบุญเก่าที่เขาทำมายังรักษาชีวิตอันนั้นอัตภาพร่างกายอันนั้นไว้อยู่ เออ มันเป็นอย่างนั้น

ต่อเมื่อบุญเก่านี้หมดลงเมื่อใดแล้ว บาปกรรมที่บุคคลผู้นั้นทำไว้ มันจึงมีโอกาสให้ผลสืบต่อไป นี่มันเป็นอย่างนั้น ต้องใช้ปัญญาพิจารณาให้มันเห็น ให้เห็นเหตุเห็นผลเหล่านี้ ดังนั้นเมื่อบุคคลผู้ใดมาชำระบาปอกุศลออกจากจิตนี้ด้วยภาวนาสมาธิ หรือด้วยการเจริญปัญญาสอนจิตนี้ให้เห็นโทษให้เบื่อให้หน่ายต่อความชั่วทั้งหลายเสมอๆ ไปแล้วอย่างนี้ จิตนี่มันก็จะละต้นเหตุแห่งบาปอกุศลนี้ไปเรื่อยๆ ละความโลภ ความคิดเพ่งเล็งอยากได้สมบัติผู้อื่นมาเป็นของตน หมู่นี้นะมันเป็นหนทางให้สร้างบาปทั้งนั้นแหละ ละความโกรธ ความไม่พอใจให้บุคคลหรือสัตว์เดรัจฉาน



:b47: :b47:


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“สุขทุกข์อยู่ที่ใจดีหรือใจร้าย”



:: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/