วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 21:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2019, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


การแผ่เมตตามีประโยชน์อย่างไร
วิสัชนาธรรมโดย...หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร


รูปภาพ

:b49: :b50: ปุจฉา :
หลวงปู่ครับอยากจะขอเรียนถามถึงปัญหาธรรมสัก ๕ ข้อ
หวังว่าหลวงปู่คงไม่ขัดข้องนะครับ
๑. หลวงปู่ครับ อะไรครับที่ทำให้เกิดภพ เกิดชาติ
๒. หลวงปู่ครับ อะไรครับที่ไม่ต้องการเกิดภพ เกิดชาติ
๓. หลวงปู่ครับ การแผ่เมตตานั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้างครับ
๔. หลวงปู่ครับ การแผ่เมตตานั้นช่วยให้คนที่คิดจะปองร้ายนั้นให้หายได้หรือเปล่าครับ
๕. การแผ่เมตตากับการกรวดน้ำนั้นมีค่าเหมือนกันหรือไม่ครับหลวงปู่
หลวงปู่ครับ กระผมขอรบกวนเวลาของหลวงปู่เพียงเท่านี้ละครับ


:b49: :b50: วิสัชนา :
๑. อุปธิคือกิเลสและอวิชชา อวิชชาก็แปลว่าความโง่
ความโง่ก็มีความหมายอันเดียวกัน เป็นตัวทำให้เกิดภพเกิดชาติ

๒. การพิจารณาสังขารทั้งปวงตามความเป็นจริง
ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาให้กลมกลืนกันอยู่
พร้อมกับลมหายใจออก-เข้าให้ติดต่ออยู่ไม่ขาดสาย
อันนี้เองที่จะไปทำลายความโง่คืออวิชชา
เมื่อทำลายความโง่คืออวิชชาแล้วก็กลายเป็นวิชชาอยู่ในตัว
แล้วก็เร่งภาวนาพิจารณาเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่สงสัยในโลกทั้งปวง
เมื่อไม่สงสัยในโลกทั้งปวงโดยถ่องแท้
โลกทั้งปวงคืออะไรก็คือสังขารทั้งปวงนั่นเอง
เกิดขึ้นมาแล้วก็แปรปรวนแตกสลายไป
หยาบก็แตกสลายไปตามหยาบ ละเอียดก็แตกสลายไปตามละเอียด
แม้ผู้รู้อยู่ในขณะปัจจุบันนี้ก็เกิดขึ้นแปรปรวนแตกสลายอย่างเร็วที่สุด

ฉะนั้นผู้รู้ในอดีต ผู้รู้ในอนาคต ผู้รู้ในปัจจุบันจึงเป็นสังขารอันละเอียดมาก
ท่านผู้ใดไม่ยึดถือผู้รู้ทั้งอดีตทั้งอนาคตทั้งปัจจุบัน
ว่าเป็นเรา เขา สัตว์บุคคลแล้ว
ท่านผู้นั้นก็ข้ามทะเลหลงไปด้วยพระปัญญาญาณแบบไม่มีรอยแล
ก็ไม่ต้องภามหาภพๆ ชาติๆ

๓. มีประโยชน์เพื่อจะไม่ให้จิตใจของตนมีพยาบาทและเบียดเบียน
เมื่อจิตใจของตนไม่มีพยาบาทและเบียดเบียนแล้วใจก็อยู่เป็นสุข
ธรรมที่เป็นคู่กันกับใจในตอนนี้ก็เป็นสุข
และอีกประการหนึ่งผู้แผ่เมตตาอยู่ไม่มีกลางวันกลางคืน
ก็คือผู้นั้นแหละเป็นพรหมทั้งกาย วาจา ใจ จิตผู้นั้นก็รวมเป็นสมาธิง่าย
หน้าตาก็ผ่องใส เวรภัยจะมาก่อใหม่ก็ไม่มี เทวดาก็รักษา
มิตรสหายก็มาก สัตว์ทั้งหลายก็กลัวอำนาจความไม่เบียดเบียน
และไม่ตายด้วยพิษเขี้ยว งา และศาสตราวุธ
โดยใจความที่เรียกกันหยาบๆ ว่า ตายโหง
เว้นไว้แต่โรคชราและพยาธิต่างๆ เท่านั้น
ถ้าไม่พ้นทุกข์โดยด่วนในชาตินี้ก็ไม่เกิดในครรภ์ต่อไป
ได้เกิดเป็นกายทิพย์ ใจทิพย์ ในพรหมโลกโดยไม่สงสัย

๔. ถ้าหากเขาจะมาก่อใหม่ในชาตินี้ก็สามารถหายได้
ถ้าหากว่าเราได้สร้างกับเขามาชาติก่อนๆ อย่างหนักๆ ก็เบาลง
ถ้าอย่างกลางๆ ก็เบาลงอีกเหลือนิดเดียว
ถ้าอย่างละเอียดนิดเดียวก็หายไปเลย

๕. มีค่าเหมือนกัน คำว่ากรวดน้ำก็คือกรวดน้ำใจนั่นเอง
จะเอาน้ำภายนอกหยดลงหรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหา
ย่อมมีคุณค่าเสมอกันกับการแผ่เมตตากับการอุทิศกุศลผลบุญ
ผู้มีปัญญาน้อยก็สมมติอุทิศขึ้นไปอีกส่วนหนึ่ง


ต่อไปถ้าสงสัยอะไรก็ถามมาในจดหมายหาหลวงปู่
ไม่ถือเป็นเครื่องรบกวนอะไรเลย
เพราะหลวงปู่ไม่หัดนิสัยเป็นผู้ตระหนี่ธรรม
ที่เรียกเป็นภาษาบาลีว่า ธัมมมัจฉริยะ ตระหนี่ธรรมะ



คัดมาจาก...หนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐, เดือนกันยายน ๒๕๕๓
:b8: :b8: :b8:

:b50: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44660

:b50: รวมคำสอน “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38521

:b50: ประมวลภาพ “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต” วัดภูจ้อก้อ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=44375


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2019, 20:24 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร