คนที่โดนคนอื่นฆ่าตาย เป็นกรรมเก่าของเขา หรือ กรรมใหม่ของคนฆ่า

เป็นวิบากของเขา (คนที่โดนคนอื่นฆ่า)
เป็นกรรม การกระทำของคนอื่น (กรรมใหม่ของคนฆ่า)

เขาตีให้เราเจ็บ ที่เจ็บเป็นผลจากกรรมเก่าของเรา
เมื่อเราเจ็บเราด่าเขาหรือเราตีเขาเพื่อเอาคืนนั่นเป็นกรรมใหม่ของเรา

ถูกทั้ง 2 อย่าง เป็นกรรมเก่าของคนถูกฆ่า กรรมใหม่ของคนที่จะฆ่า

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐
สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค นวปุราณวรรคที่ ๕ กรรมสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 449&Z=3475

ลัทธิของเดียรถีย์ ๓ หนึ่งในนั้นมี กรรมเก่าแบบนอกพระพุทธศาสนา



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต มหาวรรคที่ ๒ ติตถสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/read/?20/501/222

สิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ที่ประสบในปัจจุบัน = วิบากของกรรมเก่า
การตัดสินใจกระทำการใดๆ กับสิ่งแวดล้อม และเหตุการณ์ในปัจจุบัน = กรรมใหม่
แล้วการตัดสินใจของคนอื่นที่จะทำอะไรกับเราล่ะ เช่น เค้าเอามีดมาเเทงเรา มัรคือการตัดสินใจของเค้า(กรรมใหม่ของเค้า)คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา(เป็นวิบากกรรมเก่าของเรา

1)ถ้างั้นการตัดสินใจของเค้าก้มีวิบากกรรมมารองรับทุกๆกรณีงั้นหรอคะ
2)หรือ หมายความว่า การตัดสินใจของเค้ามีผลมาจากกรรมเก่าส่วนหนึ่ง กรรมใหม่ส่วนหนึ่ง ที่เกิดกิเลสขึ้นในใจเค้า(กรรมเก่าและตัดสินใจเเทงเรา(กรรมใหม่) ก็เลยเรียกรวมๆว่ากรรมเก่าคือเหตุการณ์ แล้วถ้าหมายความว่าเเบบนี้ เคยไปอ่านเจอในหนังสือมาว่า เหตุการณ์ที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันมาจาก2ประการ 1กรรมเก่า2กรรมใหม่
ถ้าอย่างนี้กรรมเก่าก้ไม่ไช่เหตุการณ์อย่างที่เค้าว่ากันสิค้ะ หรือที่เค้าพูดเเบบนี้เพราะทุกๆเหตุการณ์มีผลมาจากกรรมเก่าด้วยเสมอๆ แต่มันก้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเราอย่างเดียวซึ่งไม่มีกิเลสเข้ามาเกี่ยวนั่นคือกรรมใหม่อยู่เเล้ว อย่างนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก้ไม่ได้เป็นกรรมเก่าทั้งหมด บางเหตุการณ์เป็นผลมาจากกรรมใหม่ บางเหตุการณ์มีผลมาจากกรรมเก่า
บางเหตุการณ์มีผลมาจากกรรมเก่าส่วนหนึ่งกรรมใหม่ส่วนหนึ่ง
อยากจะถามว่าข้อ1หรือข้อ2ที่หนูเข้าใจถูกค้ะ

สาธุ ๆ

ที่มีเจตนา มีแรงจูงใจ มากพอ มีการปรุงแต่งผสมกันทั้ง วิบากเก่า ทั้งกรรมใหม่ ก็เป็นข้อ 2.) ที่ไม่ได้เจตนาเท่าไหร่ แต่ก็มี เหตุปัจจัยต่างๆ ประกอบกันแล้วเกิดขึ้น นั่นแหละ กตัตตากรรม...นั่นเอง เป็นข้อ 1.)

และถูกต้องครับ กรรมเก่า ก็ไม่ใช้อย่างที่เขาว่าๆ สืบต่อกันมา เล่าต่อๆ พูดต่อๆ กันมาเสมอไป เพราะนั่นเป็นความเชื่อที่ยังไม่ถูกต้องดีพอมากนัก สักแต่ว่ากรรมเก่าหมด เป็นลัทธิความเชื่อนอก พระพุทธศาสนามา มีมาก่อนพุทธศาสนาด้วย ทำให้คนไม่เชื่อกรรมตัวเอง ไม่เชื่อในตัวเอง พออะไรเกิดขึ้นก็สรุปว่า เพราะเคยทำกรรมเอาไว้ ที่ถูกต้องๆ พิจารณาว่านี้เป็นเหตุจากอะไร นี้เป็นผลจากอะไร ด้วยปัญญา จึงจะสามารถประกอบ กรรมดีได้ต่อไป อนุโมทนาครับ

ขอบคุณมากๆค่ะ แล้วกรรมเก่านี่คืออะไรบ้างคะ คือเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเราเองและไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของใครด้วยไช่ไหมคะ

ตามพุทธวจนะข้างต้น กายกับใจเรานี่แหละ ที่รู้สึกได้เจ็บเป็นทุกข์เป็นสุขเป็น
อันนี้แหละ มีปัจจัยปรุงแต่ง ด้วยเจตนา เป็นที่ตั้งแห่งเวทนา ทรงตรัสเรียกว่า กรรมเก่า

อภิธรรมเรียก ทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ ดวง เกิดขึ้นรับอารมณ์ทางทวารทั้ง ๕
รับอารมณ์ที่ดี ๕ รับอารมณ์ที่ไม่ดีอีก ๕ รวมเป็น ๑๐ ศัพท์วิชาการเรียก
อเหตุกจิต ๑๘ ยกมาพูดถึง ๑๐ ดวง ละเอียดหน่อย แต่ก็ค่อยๆ ศึกษาไปนะครับ

มีอีกสองตัว เรียกว่า ปัญจทวารราวัชชนะ กับ มโนทวาราวัชชนะ สองดวงนี้
พูดง่ายๆ พอเห็นได้ยิน เป็นหน้าที่ของปัญจทวาร พอรู้สึกนึกคิด เป็นหน้าที่ของ มโนทวาร

เริ่มเยอะแล้วเนาะ กลับมาที่ กรรมเก่า คือเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเราเอง
และไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของใครอื่นด้วย ใช่ไหม? ใช่ครับ อันนั้นก็เรียกว่า
เหตุการณ์หนึ่งๆ ไปเลยก็ได้ อะไรก็ตาม ที่ประกอบด้วย เจตนาทางกาย ทางวาจา
ทางใจเมื่อไหร่ก็เป็นกรรมนั่นเอง เกิดขึ้นแล้วเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ห้านาที สิบนาทีที่แล้ว
ก็กลายเป็น กรรมเก่าไปโดยปริยาย ทุกๆ ขณะ ทุกๆ เวลาก็จะมี วิบากเกิดขึ้นจากตัวเราเอง
หรือคนอื่นๆ ก็ได้ ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ และกรรมใหม่ ก็คือ การกระทำใหม่ทางกาย วาจาใจ ใน
ณ บัด now นั่นเองครับ

เดี๋ยวออกไปธุระ กำลังเพลินแหะๆ

นอกจาก ตัวเราเอง กายกับใจเราเอง รู้สึกได้เจ็บเป็นทุกข์เป็น เป็นกรรมเก่า
ขอยกตัวอย่าง ช ญ ที่รักกันใหม่ๆ พอเลิกกันไป ฝ่าย ญ รู้สึกทุกข์ เพราะฝ่าย ช
ไปมี ญ คนอื่น ผู้หญิงที่ดีงามชาวพุทธเราจะบอกต่อๆ กันว่า เป็นเพราะกรรมเก่า
เคยทำเอาไว้ รับผลของกรรมนั้นๆ เถอะชาวเราเอ๋ย

จะบอกให้ประจักษ์แจ้งกันเอาไว้เลย ที่พระท่านพูดว่ากรรมเก่าๆ ท่านพูดนะถูกนะ
แต่พวกเราด้อยปัญญา หมายถึงตัวฏีกาน้อยเองนะครับ เคยสงสัยว่า เอ๊ ที่อกหักเนี้ย
เพราะเคยไปหลอกเขาเมื่อชาติก่อนเหรอ พอมาศึกษา มาปฏิบัติตามที่พระองค์สอน
อ่อ... การที่ ญ สักคนยึดมั่นในสิ่งดีงาม รัก ช เดียวคนเดียวไม่นอกใจ ไม่รู้ไม่เห็น
กรรมในอดีต จู่ๆ เจอ ช สักคนมาเอารัดเอาเปรียบ ก็สู้อดสู้ทน ความจริงคือ จะพูดว่า
กรรมเก่า ก็ต้องเข้าใจให้แจ่มแจ้งว่า ที่เป็นกรรมเก่า ก็เพราะ ทรงตรัสเรียก กายใจที่
รู้สึกได้เจ็บเป็นทุกข์เป็น หรือสุขเป็นนี่แหละกรรมเก่า

ดังนั้น ญ คนหนึ่งรักษาศีล แต่ฝ่าย ช ไม่ได้รักษา ไม่รักเดียวใจเดียว พฤติกรรมของ
ฝ่ายชาย ที่ผิดศีลข้อ ๓ นั่นก็หมายถึง เจตนาอกุศลที่เกิดขึ้นของเขา กายวาจาใจ
ของเขาที่ประพฤติผิดในกาม นอกใจแฟน นั้นแหละเกิดจาก(กิเลส กรรม วิบาก)เดิม,เก่า
บางอย่างที่ให้ผลเอาไว้ เป็นคนอยากได้อยากมีไม่พอ เป็นค่านิยม หรือมีปัญหาทาง
ครอบครัว ขาดความอบอุ่น จึงมักอยากให้ใครๆ มาหลงมารัก ฯลฯ

การที่ฝ่าย หญิง จะเสียเปรียบ ถูกทำร้ายจิตใจ นั่นก็เพราะกรรมเก่าจริงๆ แต่ควรหมายถึง
พฤติกรรมเก่าๆ (ชั่ว,มักมาก,ไม่พอ,ไม่มีศีล) ที่ฝ่ายชายมี การที่เขาไม่รักษาศีล รวมกันกับ
ฝ่ายหญิง อันนั้นแหละส่งผลให้ ฝ่ายหญิง ต้องประสบกับ(พฤติ)กรรมเก่าที่ฝ่ายชายก่อ
ส่วนกรรมใหม่(ดีงาม,ไม่มักมาก,รู้จักพอ,มีศีล) หากฝ่ายชายปรับตัว ได้ในปัจจุบัน
ผลหรือวิบากเก่าๆ ที่เคยทำให้ ผู้หญิงเสียใจก็ไม่เกิดขึ้น เพราะเขามีกรรมใหม่ที่ดี
รักษาศีล ถ้าจะพูดถึงกรรมเก่า ต้องเข้าใจกันโดยนัย โดยลักษณะที่มีเหตุมีผล หาก
ไม่ได้สามารถระลึกชาติ มัวคาดคะเน เพ้อฝัน ด้นเดา ก็ไม่ควรไปเหมาเป็นกรรมเก่า
แบบวนเวียน งูกินหาง เป็นความเห็นผิด แท้จริง เป็นกิเลส กรรม วิบาก ต่างหาก
ที่วนเวียน หากมีความยึดถือเห็นผิดชนิดอัตตาตัวกูของกูวนเวียน ก็ไม่พ้นโลกพ้นสงสาร
อริยสัจ ๔ ที่พาพ้นโลก พ้นทุกข์ ที่ว่างเปล่าปราศจากความยึดมั่นถือมั่นชนิด มีอัตตา
ตัวกูของกูเที่ยงยั่งยืน ก็เลิกพูดกันได้เลย ไม่มีวันพ้นแหะๆ

ถึงคุณ pang99 เดี๋ยวหลังจากเสร็จธุระมีเวลา จะขอรวบรวมคำถาม เรื่องกรรมหลายๆ กระทู้ ของคุณแป้ง ย้ายไปบอร์ด กฏแห่งกรรมแทนนะครับ
viewforum.php?f=4

ขอบคุณที่คอยให้คำปรึกษามาตลอดนะคะ อนุโมทนาค่ะ