วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 17:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 มี.ค. 2012, 14:29
โพสต์: 102


 ข้อมูลส่วนตัว


หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า นักโทษที่ถูกกักขังหรือจำคุกตลอดชีวิต ยังมีการลดหย่อนผ่อนโทษหรือปล่อยตัวก่อนกำหนด ถ้าหากว่านักโทษผู้นั้นประพฤติตัวดี แล้วกรรมร้ายที่เราก่อไว้พอจะมีทางลดหย่อนผ่อนโทษให้เบาบางลงได้หรือไม่ คำตอบก็คือได้บ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะแก้ได้ทั้งหมด ในหนังสือวงจรชีวิต เขียนโดย พระครูธรรมธรไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล ได้กล่าวว่าวิบากกรรมจะเบาบางลงเมื่อ

๑. กรรมนั้นส่งผลจนหมดกำลัง เปรียบเหมือนนักโทษที่ถูกจำคุกได้รับโทษสมกับความผิดของตนแล้ว ก็ถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระไม่ต้องถูกจองจำรับโทษอีกต่อไป

๒. ขอขมาและอโหสิกรรม พระพุทธเจ้าตรัสว่า ชีวิตหนึ่งชีวิตที่เกิดมาในชาตินี้ ล้วนเคยผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมานับครั้งไม่ถ้วน หากจะนับก็มากกว่าเม็ดทรายในทะเล และในชาติหนึ่งก็ได้สร้างกรรมทั้งดีและร้ายเอาไว้มากมายด้วย เช่น เคยฆ่าสัตย์ ลักทรัพย์ ผิดลูกผิดเมียคนอื่น ซึ่งเป็นการสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจแก่ผู้อื่น ทำให้เขาเคียดแค้นอาฆาตพยาบาทและตามทวงแค้น ที่เรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร สัตว์ทุกตัวที่ถูกฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร ไม่ว่าจะฆ่าเอง หรือคนอื่นฆ่าเพื่อจำหน่ายก็ตาม ล้วนเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้บริโภค เช่น สัตว์บางตัวอาจจะสาปแช่งคนที่บริโภคเนื้อของเขาให้เจ็บป่วย เป็นโรคร้ายต่างๆ เป็นต้น การที่เราได้ขอขมาต่อเขาและขอให้เขาอโหสิกรรมต่อเรา จะเป็นทางช่วยลดผลแห่งกรรมร้ายให้หมดไปได้

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) แห่งวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ได้แนะนำวิธีขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรไว้ว่าให้ตั้งใจ สวดมนต์บทมหาเมตตาใหญ่ และเจริญสมาธิ แผ่เมตตาให้เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรยอมอภัยให้เราได้ เปรียบเหมือนผู้ต้องหาที่ทำความผิดสำนึกผิด ยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โทษที่หนักก็ลดหย่อนให้เบาลง

๓. สั่งสมบุญเอาไว้ให้มากๆ เพื่อตัดรอนวิบากของกรรมร้ายให้แสดงผลได้ไม่ถนัดหรือหมดโอกาสให้ผลไปเลย การกระทำเช่นนี้ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า อุปีฬกกรรม กรรมบีบคั้นและอุปฆาตกกรรม กรรมเข้าไปตัดรอน คือสร้างกรรมดีเอาไว้มากๆ เพื่อลบล้างกรรมชั่วที่เคยทำไว้ เปรียบเหมือนผู้กระทำผิดแล้วยังไม่ถูกจับ ภายหลังได้สร้างความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่จนสามารถลบล้างความผิดที่เคยทำไว้ทำให้ไม่ต้องรับโทษ

ยกตัวอย่างเช่น คนที่ป่วยเป็นโรคร้ายรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ครั้นหันมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน สวดมนต์ แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเป็นประจำ กลับทำให้หายเจ็บป่วยได้ เรียกว่า ทำความดีเพื่อหลีกหนีกรรมชั่ว สอดคล้องกับ อมตธรรมของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่ว่า

“กรรมในอดีต ไม่อาจลบล้างได้
กรรมดีในปัจจุบัน จะช่วยเจ้าเอง”


ซึ่งหมายความว่า กรรมในอดีตนั้น เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ แต่เราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ด้วยการประกอบกรรมดีอย่างมีสติและปัญญา เพราะกรรมดีที่เราสร้างในปัจจุบันนี่เอง จะช่วยให้เรารอดพ้นจากบ่วงกรรมได้


เครดิต : หนังสือ "รู้ทันกรรม ตัดกรรมทันตา หน้า ๔๐-๔๑"
ส่งเสริมคุณธรรม พัฒนาชีวิต นึกถึงธรรมะ คิดถึง พุทธะดอทคอม
www.พุทธะ.com


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2013, 23:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 เม.ย. 2013, 19:16
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2015, 08:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร