พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
นี่เรื่อง ปุพฺเพ จ กตปุญฺญตา
ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในปางก่อนนี้
นับว่าเป็นหลักอันสำคัญ
ในการนับถือพระพุทธศาสนานี้นะ
ดังนั้นทุกคนให้พากันเพ่งพิจารณา
ดูตัวเองให้ได้ โดยเฉพาะดูจิตนี้แหละ
เพราะว่ามาเพ่งดูจิตใจตัวเอง
ก็รู้ได้เลยว่า แต่ชาติก่อนนู่น
ตนได้ทำกุศลความดีมากน้อยเพียงใด
รู้ได้..ถ้ารู้ไม่ชัดก็เรียกว่าพออนุมานได้
ถ้าจิตของผู้ใด เมื่อได้รับรสแห่งพระธรรมแล้ว
มีความชื่นชมยินดี พอใจที่จะปฏิบัติตามพระธรรม
ที่ได้ยินได้ฟังนั้นอย่างเต็มที่จนเกิดปีติ
ขนพองสยองเกล้าขึ้นมาในใจ
ผู้นั้นแหละได้ชื่อว่า มีบุญกุศลมากพอสมควร
ที่ได้สั่งสมมาแต่ชาติก่อนหนหลัง
แต่ถ้าผู้ใดฟังธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
และรู้แนวทางข้อปฏิบัติอยู่
แต่ทว่าหากไม่พอใจที่จะปฏิบัติตามเท่าไรนัก
ไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามเท่าไร
ยังนึกท้อใจว่า ข้อปฏิบัตินี้เคร่งครัดเกินไป
เราไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามได้
จะได้ก็ได้เป็นบางสิ่งบางอย่าง ไม่ได้เต็มที่
ผู้นั้นแสดงว่า ได้กระทำคุณงามความดี
มาแต่ในชาติปางก่อนนู่นน้อยไป
กำลังบุญกุศลในชาติปางก่อนมันน้อยไม่พอ
ที่จะมาสนับสนุนกำลังศรัทธาความเชื่อในปัจจุบันนี้
ให้มีกำลังแก่กล้าขึ้นได้
เพราะฉะนั้นจึงไม่เข้มแข็งในการพากเพียร
พยายามบำเพ็ญศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่องเต็มที่
จึงไม่มีความพากเพียรพยายาม
ที่จะบำเพ็ญสมาธิให้เกิดให้มีขึ้นในดวงจิตนี้เต็มที่ได้
ไม่มีความพากเพียรพยายาม
ที่จะเจริญปัญญาให้แก่กล้าขึ้นในดวงจิตนี้ได้เต็มที่
นี่แหละต้องสังเกตดูจิตใจตัวเองทุกคน
เมื่อรู้ว่า บุญบารมีของตนมันน้อยไปแต่ชาติก่อน
เช่นนี้แล้วก็พยายามปลุกปลอบใจของตนให้เข้มแข็งขึ้น
ไม่ควรท้อแท้ใจไปตามบุญบารมี
เพราะบุญบารมีนี่มันจะมากได้ก็เพราะอาศัยเราทำเอา
ไม่ใช่อยู่เปล่าๆ แล้วมันแก่กล้าขึ้นเอง..หามิได้
ที่มา : ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนา
https://www.youtube.com/watch?v=3iqAEEWlLAw
ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708
รวมคำสอนและประมวลภาพ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689
