วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2014, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



ถ้าหากว่าจิตคิดเป็นอกุศลอยู่อย่างนี้
หากเมื่อความตายมันมาตัดรอนชีวิตนี่
ในขณะที่จิตคิดเป็นอกุศลอยู่อย่างนี้
ตายแล้วมันจะต้องไปสู่อบายภูมิทั้ง ๔
มีนรกเป็นต้น แน่นอนเลยอย่างนี้
พอมาเตือนตนได้อย่างนี้
มันก็หยุดคิดไปในทางอกุศลแล้ว


เช่นอย่างว่า คิดโกรธคนนั้น เกลียดคนนี้
คิดจะเบียดเบียนคนโน้นคนนี้อะไรอย่างว่านี้นะ
นี่ล่ะว่า "จิตคิดเป็นอกุศล" น่ะ
มันจะได้ยุติลงล่ะเมื่อมันเตือนตนได้อย่างว่านี้นะ
แล้วมันก็เป็นความจริงเสียด้วย

อย่างเช่น ท่านแสดงไว้ในตำราเรื่อง "พระเจ้าอโศกมหาราช"
ผู้เป็นใหญ่ในประเทศอินเดีย
หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานมาได้แล้ว ๒๐๐ กว่าปีมา
มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาทำบุญสุนทานเยอะทีเดียว
แต่ว่า ไม่ได้ฝึกฝนอบรมจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ด้วยดี
เรียกว่าให้ตั้งมั่นอยู่ในบุญในคุณเต็มที่


ทีนี้เมื่อเวลาเจ็บหนักลงไป
บรรดาเสนาอำมาตย์ทั้งหลายก็มาวิจารณ์กันว่า
พระราชาองค์นี้ใช้จ่ายพระราชทรัพย์ฟุ่มเฟือยเหลือเกิน
ทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะต้องขาคแคลนลำบาก
ทำบุญให้ทานก็ทำเกินขอบเขต

พอได้ยินเสียงเสนาอำมาตย์วิจารณ์กันอย่างนั้น
ก็เสียพระทัย กลุ้มอกกลุ้มใจ น้อยเนื้อต่ำใจ
เรียกว่า โกรธให้กับเสนาอำมาตย์นั้น
แต่ทำอะไรเพื่อนไม่ได้ ตนมันหมดโอกาสแล้ว
อาการมันเพียบหนักเต็มทีแล้ว

ครั้นพอตายลงอย่างนี้นะ ก็ไปเกิดเป็นงูเหลือม
เอาหางเกี่ยวต้นไม้ เอาหางเกี่ยวกิ่งไม้
แล้วก็เอาหัวลงไปมุดหากินปลาอยู่ในน้ำมหาสมุทร ทะเลนู่น
แต่ก็ยังดี ท่านได้ลูกสาวลูกชายออกบวช
บำเพ็ญไปก็ได้สำเร็จอรหันต์ เช่น พระมหินทเถรเจ้า
ได้เข้าฌานพิจารณาเห็นว่า พระบิดาของตน
ตายแล้วได้ไปเกิดเป็นงูเหลือม จึงได้เหาะไปตักเตือน
ให้ระลึกถึงบุญถึงกุศล ความดีที่ตนทำมามากมายนั้นเป็นอารมณ์

เมื่อได้รับตักเตือนมาอย่างนั้น มาระลึกถึงบุญ
ถึงกุศลความดีที่ตนทำมาได้แล้ว
ก็เลยตายจากงูเหลือมก็ไปเกิดสวรรค์ได้

เนี่ยลองคิดดูให้ดี

พระเจ้าอโศกมหาราชนี่ได้สร้างวิหารถึง ๘๔,๐๐๐ ห้อง
แล้วก็ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
ไปประดิษฐานไว้ในพระวิหารนั้นมากมาย
แล้วก็ทำบุญฉลองอยู่ถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน อย่างนั้นน่ะ
แล้วเมื่อเวลาได้กระทบกับเรื่องไม่ดีไม่งามต่างๆ เข้ามา
จิตใจยังเศร้าหมองขุ่นมัวไปด้วยความโกรธ
ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความโศกเศร้าเสียใจ อะไรต่ออะไร

นั่นแหล่ะลองคิดดู เวลาจวนจะสิ้นชีพทำลายขันธ์อย่างนั้น
ถ้าหากว่าปล่อยใจให้เศร้าหมองขุ่นมัวอย่างว่านี่นะ
"ทุคติ" ก็เป็นอันหวังได้เลยทีเดียว


แต่นี่เรียกว่า เพื่อนมีบุญมากแต่จิตใจเป็นอกุศล
ก็ไม่มากเท่าไรนักเพราะฉะนั้นถึงไม่ได้ไปนรก
เพียงแค่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเท่านั้นแหล่ะ
ถ้าหากว่าไม่ได้ทำบุญมากมายมหาศาลอย่างนั้น
สงสัยว่าจะต้องไปนรกแน่นอนทีเดียว



:b45: :b45:


ที่มา : ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนา
แสดงไว้เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๐

https://www.youtube.com/watch?v=ghsV7d0fZSw



:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708

:b44: รวมคำสอนและประมวลภาพ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2015, 12:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
อย่างเช่น ท่านแสดงไว้ในตำราเรื่อง "พระเจ้าอโศกมหาราช"
ผู้เป็นใหญ่ในประเทศอินเดีย
หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานมาได้แล้ว ๒๐๐ กว่าปีมา
มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาทำบุญสุนทานเยอะทีเดียว
แต่ว่า ไม่ได้ฝึกฝนอบรมจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ด้วยดี
เรียกว่าให้ตั้งมั่นอยู่ในบุญในคุณเต็มที่


ทีนี้เมื่อเวลาเจ็บหนักลงไป
บรรดาเสนาอำมาตย์ทั้งหลายก็มาวิจารณ์กันว่า
พระราชาองค์นี้ใช้จ่ายพระราชทรัพย์ฟุ่มเฟือยเหลือเกิน
ทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะต้องขาคแคลนลำบาก
ทำบุญให้ทานก็ทำเกินขอบเขต

พอได้ยินเสียงเสนาอำมาตย์วิจารณ์กันอย่างนั้น
ก็เสียพระทัย กลุ้มอกกลุ้มใจ น้อยเนื้อต่ำใจ
เรียกว่า โกรธให้กับเสนาอำมาตย์นั้น
แต่ทำอะไรเพื่อนไม่ได้ ตนมันหมดโอกาสแล้ว
อาการมันเพียบหนักเต็มทีแล้ว

ครั้นพอตายลงอย่างนี้นะ ก็ไปเกิดเป็นงูเหลือม
เอาหางเกี่ยวต้นไม้ เอาหางเกี่ยวกิ่งไม้
แล้วก็เอาหัวลงไปมุดหากินปลาอยู่ในน้ำมหาสมุทร ทะเลนู่น
แต่ก็ยังดี ท่านได้ลูกสาวลูกชายออกบวช
บำเพ็ญไปก็ได้สำเร็จอรหันต์ เช่น พระมหินทเถรเจ้า
ได้เข้าฌานพิจารณาเห็นว่า พระบิดาของตน
ตายแล้วได้ไปเกิดเป็นงูเหลือม จึงได้เหาะไปตักเตือน
ให้ระลึกถึงบุญถึงกุศล ความดีที่ตนทำมามากมายนั้นเป็นอารมณ์

เมื่อได้รับตักเตือนมาอย่างนั้น มาระลึกถึงบุญ
ถึงกุศลความดีที่ตนทำมาได้แล้ว
ก็เลยตายจากงูเหลือมก็ไปเกิดสวรรค์ได้

เนี่ยลองคิดดูให้ดี

พระเจ้าอโศกมหาราชนี่ได้สร้างวิหารถึง ๘๔,๐๐๐ ห้อง
แล้วก็ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
ไปประดิษฐานไว้ในพระวิหารนั้นมากมาย
แล้วก็ทำบุญฉลองอยู่ถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน อย่างนั้นน่ะ
แล้วเมื่อเวลาได้กระทบกับเรื่องไม่ดีไม่งามต่างๆ เข้ามา
จิตใจยังเศร้าหมองขุ่นมัวไปด้วยความโกรธ
ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความโศกเศร้าเสียใจ อะไรต่ออะไร

นั่นแหล่ะลองคิดดู เวลาจวนจะสิ้นชีพทำลายขันธ์อย่างนั้น
ถ้าหากว่าปล่อยใจให้เศร้าหมองขุ่นมัวอย่างว่านี่นะ
"ทุคติ" ก็เป็นอันหวังได้เลยทีเดียว

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร