วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 08:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2013, 15:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 มี.ค. 2012, 14:29
โพสต์: 102


 ข้อมูลส่วนตัว


การออกแบบชีวิตไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่คนคาดไม่ถึงมากกว่า ถ้าพูดถึงการออกแบบ คนทั่วไปก็จะนึกถึงอุปกรณ์ทางเรขาคณิต มีการคำนวณรากฐานการรับน้ำหนัก โครงสร้างที่แข็งแกร่งมั่นคงปลอดภัย มีนักออกแบบ มีวิศวกรคอยดูแล การออกแบบชีวิตก็ต้องอาศัยอุปกรณ์เช่นเดียวกัน ต่างแต่อุปกรณ์ในการออกแบบชีวิตไม่ต้องอาศัยเครื่องมือทางเรขาคณิต หรืออุปกรณ์ก่อสร้างใดๆ อาศัยเพียงอย่างเดียวก็คือ กรรม ซึ่งก็ได้แก่การกระทำของเรานี่เอง

พระพุทธศาสนาสอนให้เราเชื่อในกฎแห่งกรรมว่า ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว สรรพสัตว์ทั้งหลายจะดีจะเลว จะสูงส่งหรือตกต่ำล้วนเป็นไปตามอำนาจแห่งกรรมที่ตนได้กระทำไว้ กรรมจึงเปรียบเหมือนเบ้าหลอมชะตาชีวิตของคนให้มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปเบ้าหลอมที่ดี รูปแบบที่ออกมาก็ย่อมดีมีสุข ร่ำรวย สวยงาม แต่ถ้าหากเบ้าหลอมไม่ดี รูปแบบชีวิตที่ออกมาย่อมขี้ริ้วขี้เหร่ เป็นทุกข์ยากจน

พระพุทธศาสนายังสอนอีกว่า กมฺมุนา วตฺตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คือใครทำอย่างใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมอย่างนั้นนั่นหมายความว่าเราทุกคนเป็นผู้สร้างเบ้าหลอมหรือออกแบบชีวิตให้กับตนเอง ความดี ความเลว ความสุข ความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ณ ปัจจุบันก็ล้วนแต่กรรมที่เราออกแบบไว้

ชีวิตของคนเราที่เกิดมานั้นมีมิติหรือหน้าที่ที่ต้องกระทำอยู่ ๒ ประการ คือ

๑. ชดใช้กรรมเก่า ที่เราได้สร้างไว้ในอดีต ซึ่งอาจเป็นในอดีตชาติหลายร้อยชาติที่ผ่านมา หรืออดีตในชาตินี้
๒. สร้างกรรมใหม่ คือออกแบบชีวิตให้กับตัวเองใหม่เพื่อสร้างเบ้าหลอมที่ดีให้กับตนเองในอนาคต

หากพิจารณามิติชีวิตทั้ง ๒ แบบนี้ จะเห็นได้ว่าชีวิตมีจุดศูนย์รวมอยู่ที่ปัจจุบันขณะ เพราะการรับผลกรรมในอดีตก็เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะ หรือการสร้างกรรมใหม่เพื่อกำหนดอนาคตข้างหน้าก็เป็นเรื่องที่ต้องทำในปัจจุบันขณะ ด้วยเหตุนี้นี่เองพระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนว่าไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว เพราะมันไม่อาจจะกลับไปแก้ไขได้ และไม่ควรพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ปัจจุบันต่างหากที่ควรใส่ใจและทำให้ดีที่สุด นั่นหมายความว่าเราจะรับมือกับผลกรรมที่เราออกแบบสร้างไว้อย่างมีสติและเป็นทุกข์ให้น้อยที่สุดได้อย่างไร และขณะเดียวกันเราก็ต้องสร้างกรรมใหม่เพื่อปูทางไปสู่อนาคตที่ดีอย่างมีสติและเป็นทุกข์ให้น้อยที่สุดเช่นกัน

จากข้อความเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าพระพุทธศาสนาสอนให้เราเชื่อและยึดมั่นในกฎแห่งกรรมก็จริงอยู่ แต่พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้เราก้มหน้าก้มตารับกรรมแต่เพียงอย่างเดียว สอนให้เรารับกรรมอย่างมีสติ และสร้างกรรมเพื่อออกแบบชีวิตในอนาคตต่อไปด้วย ไม่ใช่ให้จมปลักยอมรับชะตากรรมคร่ำครวญน้อยใจในวาสนาฟ้าดินโดยไม่ทำอะไร

ยังมีกระแสความเชื่อที่ยังหลงผิดอยู่เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมว่า“กรรมไม่สามารถแก้ไขได้ ใครทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้นเสมอ” แต่ความเป็นจริงแล้ว กรรมสามารถแก้ไขได้ และหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาที่เป็นหัวใจสำคัญทั้งหมดก็คือ สอนให้ทุกคนตัดกรรม คือสอนให้ทุกคนดำเนินไปสู่เป้าหมายที่สูงสุดอันเดียวกันคือ การเข้าถึงพระนิพพาน เพราะการเข้าถึงพระนิพพานนี้เป็นการตัดกรรมได้โดยเด็ดขาด

ดูอย่างพระองคุลิมาลที่ฆ่าคนตั้งมากมาย ซึ่งต้องตายไปชดใช้กรรมและถูกเขาฆ่าไปอีกหลายร้อยชาติ แต่ท่านไม่ต้องรับผลกรรมนั้น เพราะท่านสามารถเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันแล้วและพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ในพระสูตรหนึ่งว่า

“ถ้าแม้นว่ากรรมไม่สามารถที่จะตัดได้ การตรัสรู้ของตถาคตก็คงไม่มี เพราะตถาคตได้ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน นับหมื่นนับแสนชาติและแต่ละชาติก็สร้างกรรมมากมายจนไม่อาจนับได้ กว่าจะชดใช้กรรมนั้นหมดก็คงไม่มีโอกาสได้ตรัสรู้”

นั่นหมายความว่า ชีวิตของคนเราแม้จะมีกรรมในอดีตที่ต้องชดใช้ในปัจจุบันก็จริง แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ชีวิตมีความสุขได้ ณ ปัจจุบัน

รูปภาพ


เครดิต :: หนังสือ “ออกแบบชีวิต ให้พ้นอำนาจกรรม”


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2013, 17:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




ดอกบัวธรรมจักร 7.jpg
ดอกบัวธรรมจักร 7.jpg [ 10.13 KiB | เปิดดู 4511 ครั้ง ]
:b20: พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงตรัสไว้ว่า :b20:

“ตัณหาเป็นกรรม สมุทัยคือ เหตุให้เกิดกรรม มรรคเป็นทางดับกรรม ฉะนั้น จึงไม่ต้องกลัวอดีต แต่ให้ระวังปัจจุบันกรรม และระวังใจ ตั้งใจให้มั่นไว้ในธรรม ธรรมก็จะรักษาให้มีความสวัสดีทุกกาล ทุกสถาน”

สิ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งสอนไว้นั้น เพื่อเตือนสติให้เรา อยู่ในโลกแห่งปัจจุบันเพราะอดีตนั้นล่วงเลยไปแล้ว จงเพียรทำความดีเพื่อให้มีความสุข


:b44: ♡(✿◠‿◠✿)♡ กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอให้ท่้านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ♡(✿◠‿◠✿)♡ :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร