วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 02:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 14:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 13:52
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


มีคำถามเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมค่ะ

มีัปัญหากับญาติสามี สามีไม่แก้ปัญหาและเลือกที่จะเดินจากไป ทิ้งให้เผชิญปัญหาลำพัง
ดิฉันเข้าใจว่าเป็นวิบากกรรม ที่ทำให้ต้องพบเจอสามี และญาติสามีเช่นนี้
ดิฉันเลือกที่จะออกมาตั้งหลักพร้อมลูกอ่่อน ออกมาอาศัยบ้านพ่อแม่ ไม่ได้นำสิ่งมีค่าใดติดตัวมาด้วย
ต่อมาสามีมาขอกุญแจบ้านคืน เวลาผ่านไปเป็นปีปี สามีไม่เคยมาหาลูก
บ้านที่ซื้อไว้เป็นสินสมรส (เงินจากดิฉันครึ่งหนึ่ง) ญาติสามีอยู่อาศัยแบบถาวร ของมีค่าีทั้งหลาย (ของมีค่าที่พ่อแม่ดิฉันรับขวัญวันแต่งงาน) แม่สามีเก็บรักษา

ปัจจุบัน ดิฉันเลี้ยงลูกคนเดียว ลูกเติบโตมาโดยไม่รู้จักคำว่าพ่อ เพราะไม่เคยเห็นหน้า
เงินเก็บส่วนตัวและค่าสินสอดดิฉันนำไปจ่ายค่าบ้านหมดแล้ว และปัจจุบันบ้านก็ถูกอยู่อาศัยโดยสามีและญาติ

ดิฉันเลือกที่จะเงียบทีุ่สุด ยอมรับวิบากกรรม ตั้งใจเลี้ยงลูกให้ดี
ญาติสามีอยากได้บ้าน เราให้อยู่อาศัยไป แม่สามีอยากเก็บของมีค่าของเราไว้ เราไม่ได้ทวง
แต่ละวันเหนื่อยมาก ทั้งทำงานนอกบ้านและเลี้ยงลูกเอง ประหยัดในทุกๆเรื่อง
สองปีที่ผ่านมา อยู่อย่างลำบาก ต้องประหยัดมาก เพราะเงินเดือนไม่มาก พอใช้เดือนชนเดือน
ยังต้องขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่อยู่

ถ้าเป็นไปได้อยากต่างคนต่างเดิน ยินดีและเต็มใจที่จะดูแลลูกคนเดียว ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆเรื่องค่าเลี้ยงดู ขอแค่คืนทรัพย์สินส่วนที่เป็นของดิฉันมาก็พอ

อยากฟ้องหย่า เพราะอยากได้สิทธิในการปกครองบุตร และอยากได้ทรัพย์สินส่วนที่เป็นของเราเองคืน
ไม่ทราบว่าการฟ้องหย่า จะเป็นการสร้างกรรมใหม่หรือไม่คะ
ถ้าฟ้อง กลัวว่าสามีจะได้สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร ไม่อยากให้ครอบครัวเค้าเลี้ยงลูก เหตุเพราะตั้งแต่เกิดสามีไม่เคยเลี้ยงเลย และครอบครัวสามีโดยพื้นฐานเป็นประเภทชอบเอาชนะ คงไม่ยอมให้ดิฉันได้ลูกและทรัพย์สินไปโดยง่าย
และถ้าไม่ฟ้อง ดิฉันก็ต้องเสียทรัพย์สินส่วนที่เป็นของตัวเองไป และมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก เป็นภาระพ่อแม่ต่อไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 15:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2012, 21:18
โพสต์: 18


 ข้อมูลส่วนตัว


ลองคุยกับสามีก่อนดีไหมคะ คุยกันโดยใช้เหตุผล เพราะเขาเองไม่ได้เลี้ยงดูลูกมาแต่ต้น คงไม่มีความผูกพันมากมาย แล้วเรื่องบ้านเราเป็นคนผ่อนจ่าย เขาน่าจะมีเหตุผลพอ อย่างน้อยขอเป็นของลูก
คุยแบบดีๆ ใช้เหตุผล หากตกลงกันได้ก็หย่าแบบสบายใจทั้งสองฝ่ายแบ่งสินสมรสกันไป เรื่องการสร้างกรรมใหม่หรือไม่ ไม่แน่ใจคะ(ไม่มีความรู้มากนั


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 13:52
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยคุยกันแล้วค่ะ แต่ไม่เป็นผล
เคยตกลงกันว่า จะขายบ้าน แล้วไปซื้อบ้านใหม่ อยู่กันเองเป็นครอบครัว
ให้ญาติย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิม ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

แต่หลังจากที่สามีไปคุยกับครอบครัวเค้า เค้าก็กลับมาบอกว่า
แม่สามีไม่ยอมให้ญาติจะไม่ย้ายไปไหน จนกว่าจะขายบ้านได้
และไม่ยอมให้เราขาย แม่สามีจะเป็นคนขายเองเท่านั้น
ถ้าเรากับลูกไม่สบายใจที่จะอยู่ร่วมกับญาติเค้า ให้ออกไปอยู่ที่อื่นก่อน
เวลาผ่านไปเป็นปี ไม่มีการประกาศขายใดๆ สอบถามไปก็บอกว่ายังไม่ได้ดำเนินการ
ตั้งแต่ย้ายออกมา สามีก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่แม้กระทั่งมาหาลูก (เคยมาหาครั้งเดียว ต้นปี 54)

หน้าที่การงานของสามี ต้องพึ่งพาบารมีของแม่สามี ไม่สามารถขัดขืนได้
จนลืมหน้าที่ความเป็นพ่อของลูก
สามีรอให้เรื่องเงียบไปเอง เพราะทุกวันนี้เค้าไม่เดือดร้อน
เค้ามีที่อยู่อาศัย มีรถขับ มีเงินทองใช้ มีหน้าที่การงานที่ก้าวหน้า
หากหย่ากัน เค้าต้องเดือดร้อนเรื่องแบ่งบ้าน และสินสมรส ทำให้เค้าเลือกที่จะอยู่เฉยๆ
กอร์ปกับสามีรู้นิสัย ว่าดิฉันเป็นคนอ่อนแอ ยอมคน

ยิ่งดิฉันทุกข์มากเท่าไหร่ ก็ถามในใจเสมอว่าเราเคยทำให้ผู้อื่นทุกข์ได้ขนาดนี้เลยเหรอ
พยายามยอมรับ แต่ก็ยากเหลือเกินคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 18:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2012, 21:18
โพสต์: 18


 ข้อมูลส่วนตัว


คงต้องถามตัวเองก่อนคะว่า
๑.ยังอยากอยู่เป็นครอบครัวไหม (เช่นยังรักเค้าไหมและเค้าน่าจะยังรักและต้องการเรากับลูกหรือเปล่า เขามีนิสัยรับผิดชอบแค่ไหน,)
๒.สถานการณ์จะดีขึ้นไหมหากพยามปรับตัว หรือเข้าไปอยู่ในบ้านนั้น
คิดว่าคุณน่าจะรู้แล้วว่าจะหย่าหรือไม่ เพียงแต่ว่าจะใช้วิธีไหนฟ้อง/ไม่ฟ้อง ถ้าคุยกันไม่ได้ การพิทักษ์สิทธิของตัวเองก็ไม่น่าจะผิด เพราะมีเหตุและปัจจัยต้องทำแบบนี้ เอาใจช่วยนะคะ ขอให้เรื่องผ่านไปได้ด้วยดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2012, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


หย่าหรือไม่หย่า ก็เป็นการสร้างกรรมใหม่ทั้งนั่นแหละครับ
ต่างกันหน่อยตรงที่ ไม่หย่า ก็เป็นการสะสมบ้าง สร้างบ้าง
จากความรู้สึกนึกคิดอารมณ์เดิมๆ ที่เราที่เขามีต่อกัน

ซึ่งก็จะเป็นกรรมใหม่ๆ ที่ไปสะสมกะของเก่า ถ้าเป็นกุศลกรรม
สิ่งที่ได้รับ คือผลของความสุข หรือเรียกว่าบุญ

ถ้าเป็นอกุศลกรรม สิ่งที่ได้รับ คือผลของความทุกข์ เรียกว่าบาป
ถ้าวันนี้ ณ ปัจจุบันผลที่ได้รับเป็นความทุกข์ ทรมานใจก็แสดงว่า
เราได้สร้างอกุศลต่อกันขึ้นมา แม้บางทีเราคิดว่าดี แต่มันดีสำหรับ
เราเท่านั้น หรือดีสำหรับลูกเรา แต่หากเขาไม่คิดอย่างนั้น เรียกว่า
ความคิดส่วนทาง ดีของเราก็ไม่ใช่ของเขา

กรณีนี้ ยื้อไว้ อาลัยอาวร อยากให้เขาเป็นอย่างที่เราหวัง ความอยาก
ความคาดหวังนี่แหละ คือตัวการที่ทำให้เกิดความทุกข์ ยิ่งไม่รู้เนื้อรู้ตัว
คิด พูด ทำ ไปด้วยแรงขับแรงอยาก โดยขาดสติปัญญา

ที่จะได้รับก็เป็นแค่ ความบาดหมาง ความผิดหวัง ความแค้นเคือง
ที่แลกมา เปิดรับเข้ามาสู่ใจเราเท่านั้นเอง

ดีกว่าไหมที่จะ ตั้งสติ หย่ากับความรู้สึกนึกคิด หย่ากับความไม่รู้
ความคาดหวัง ความต้องการ พอเรามีสติ เราก็จะเข้าใจความต้อง
การของเราของเขาออก เห็นทางออก มองเห็นวิธีแก้ไข
แบบชนิดที่ กรรมใหม่นั้นๆ จะส่งผลให้ตัวเรา ลูกเรามีความสุข
อย่าจับให้มั่น คั้นให้ตาย ไม่ต้องรีบร้อน ดับเพลิงกิเลส ในใจเรา
เสียก่อน หย่ากับความสับสนฟุ้งซ่านน่ารำคาญ ดูพระพุทธรูป
เป็นตัวอย่างสิครับ ทรงนิ่งยิ้มน้อยๆ สำรวมตา หู ไม่สอดส่าย
นำพาเรื่องราว หรือแบกรับปัญหาไว้ แต่ก็ไม่ถอย

ไม่ด่วนหักด้ามพร้าด้วยเขา ค่อยคิดๆ อ่านแก้ไขปัญหา หย่าก็ต้อง
ให้สวยงาม ไม่ต้องมัวสนใจว่า เขาจะเป็นยังไง หมายถึงกรรมระหว่าง
เรากะเขาจะยืดเยื้อต่อไปในภายภาคหน้าหรือไม่

ข้อนี้ ให้ดูว่า เราถือโกรธถือแค้น ผูกเคืองในจิตใจแค่ไหน ถ้ามองว่า
เป็นกรรมที่เราทำเอาไว้จริง ทำไมจะอโหสิให้เขาไม่ได้ ก็ในเมื่อ
กรรมมันยุติธรรม สำหรับคนที่ทำ อยู่แล้ว ก็ต้องอดทน ยอมรับความจริง
ถ้าเราหมดความ พยาบาทอาฆาต แค้นเคืองได้เมื่อไหร่ ต่อให้วันที่เรา
พร้อมหย่ามาถึงจริงๆ ก็จะไม่ติดกรรมตรงนี้อีกต่อไป

ส่วนที่ รักกันหลงกัน ก็กรรมหนึ่ง ส่วนที่ต้องแชร์ ต้องยื้อต้องหวง
เพื่อความจำเป็นเพื่อปากท้อง ก็อีกส่วนหนึ่ง

ไม่เอามาปะปนกัน กำทีละกุญแจ ที่ละเงื่อนไข ค่อยๆ คิดค่อยๆ
ตัดสินใจ แบบไม่ใช้อารมณ์ เปลี่ยน(พฤติ)กรรม ของเราเองที่ร้อน
ก็ให้มันเย็น ที่เย็นก็ให้มันหวานเย็นไปเลย ใครๆ ก็รักก็ชอบ หาเวลา
เจริญสติ ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา สงเคราะห์เด็กๆ ยากจน ดูตัวอย่าง
น้องๆ ที่ไม่มีพ่อมีแม่ หรือพ่อแม่ไม่รับผิดชอบ เพราะรักเพราะหลงมัน
บังหน้าบังตา บังใจ จึงเป็นกรรมเป็นวิบาก เนิ่นนาน คาราคาซังกัน

เข้าวัด เข้าเวบฟังเทศน์ ฟังธรรม ขัดเกลาจิตใจ ทำอะไรแล้ว
ไม่เีบียดเบียนตนเอง และไม่เบียดเบียนทั้งคนอื่น แบบนี้
ให้ A คือมีความสุขทั้งสองฝ่าย
ทำอะไรแล้วไม่เบียดเบียนตนเอง แต่เบียดเบียนคนอื่น แบบนี้ให้ B
เราสุข แต่เขาทุกข์
ทำอะไรแล้วเบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนคนอื่น แบบนี้ให้ C
เราทุกข์ เขาไม่ทุกข์
ทำอะไรแล้วเบียดเบียนตนเอง เบียดเบียนคนอื่นด้วย แบบนี้ให้ D
เราก็ทุกข์ เขาก็ทุกข์

ค่อยๆ ตั้งสติใจเย็นๆ พิจารณาดีๆ เจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2012, 11:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2012, 13:52
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบขอบคุณพระคุณเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2014, 11:05 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron