เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด

เมื่อถึงวาระประสบกับชะตากรรมของชีวิต หลาท่านอาจหาที่พึ่งเช่น หมอดู ร่างทรง สิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย ประเภทใดๆ ก็ตาม บรรดาหมอดู ร่างทรง ส่วนมากเขาเหล่านั้นมักจะเคยมีปัญหาชีวิต มีปมด้อย เคยหาที่พึ่งทางใจ ได้ศึกษาเรียนจำพวกไสยศาสตร์ถ่ายทอดอุปาทานจากการตกภวังค์ของจิตขณะเป็นสมาธิ กลวิธีการรูปแบบที่ทำให้น่าเชื่อถือสืบต่อๆ กันมา เมื่อขาดความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในสิ่งที่ตนไม่เคยเห็น จึงทำให้เกิดความเชื่อฝังใจหลงยึดมั่น คิดว่าสิ่งที่เป็นที่เห็นนั้นเป็นจริงเป็นจัง มั่นหมายเกิดคิดว่าตนเป็นนั่นเป็นนี่ แต่ส่วนมากแล้วสุดท้ายเมื่อเขาเหล่านั้นรู้ตัวรู้ถึงสิ่งที่เป็นว่าไม่จริง จึงมักเป็นเรื่องของผลประโยชน์ กับการต้องความยอมรับนับถือ โดยอาศัยความกลัว ความไม่รู้ ความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นเครื่องมือหากิน ถ้าตรวจสอบลึกๆ แล้วเบื้องหลังของคนกลุ่มนี้มักมีเบื้องหลังที่ไม่งามแทบทั้งสิ้น

การที่ใครบางคนหลุดพ้นจากความทุกข์ในช่วนั้น ถ้าบังเอิญเป็นจังหวะพอดีกับที่ได้ไปทำการทำพิธี สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาหรืออะไรก็ตาม จึงมักทึกทักคิดไปเองว่า คงเป็นเพราะอาจารย์คนนั้นได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือแก้ด้วยพิธีกรรมต่างๆ เป็นต้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วนั่นเป็นเพราะกรรมบางอย่างหยุดส่งผลตามวาระ ถ้ากรรมถูกแก้ด้วยการกระทำดังกล่าวแล้ว การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาคงได้ผลกับทุกๆ คน และท่านที่ตั้งตนเป็นอาจารย์เหล่านั้นคงไม่ต้องเรียกร้องเงินค่าครู หรือค่าพิธีกรรมต่างๆ เพราะถ้าดีเป็นจริงอย่างที่ล่ำลือ ท่านอาจารย์เหล่านั้นก็จะได้รับการดูแลจากลูกศิษย์ที่ได้ผ่านพ้นมรสุมชีวิตเป็นอย่างดี เพราะนิสัยคนไทยส่วนใหญ๋ไม่แล้งน้ำใจกับผู้มีบุญคุณที่ได้ช่วยตนเองให้หลุดพ้นจากความเดือดร้อน
แต่ทั้งนี้เรื่องอิทธิฤทธิที่เกินวิสัมนุษย์นั้น ส่วนตัวผู้เขียนยอมรับว่ามีจริงแต่ที่เป็นจริงนั้นมีน้อยนักแทบจะหาไม่ได้ ส่วนมากท่านที่ทำได้จริงก็ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ พร้อมกับชี้ทางถูกทำนองคลองธรรมให้ด้วย ดังนั้นขอให้ผู้ที่เดือดเนื้อร้อนใจจากวิบากกรรมต่างๆ ได้หยุดคิดพิจารณา ไม่ควรรีบตัดสินใจทำอะไรลงไปจะทำให้เกิดความสูญเสียทรัพย์สิน เสียโอกาส เสียเวลาเพราะผู้มีวิบากในปัจจุบันนั้นมักจะถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจากการถูกหลอกลวงจากบุคคลต่างๆ ที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์คอยต้อนรับซ้ำเติมท่านอยู่โดยทั่วๆไป วิธีการเหล่านั้นไม่ใช่หนทางดับทุกข์ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่เป็นวิธีการของบัณฑิต

จากหนังสือมรรคาพุทธ-๑๓
อนุโมทนาค่ะ

อนุโมทนาครับ

อนุโมทนาค่ะ

สาธุ อนุโมทนามิ