ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=37002
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Nothing [ 28 ก.พ. 2011, 23:44 ]
หัวข้อกระทู้:  แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วเมื่อตัวเองได้สิ่งที่ขอ กลับละทิ้งไปซะดื้อๆ
ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ก็ไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอนมาระยะหนึ่ง แล้วจู่ๆก็มีคนนัดสัมภาษณ์งาน
เป็นที่ๆอยากทำมาก บริษัทที่อยากทำมาก ตำแหน่งที่อยากทำมาก
แต่เมื่อผมไปสัมภาษณ์ จิตใจผมกลับไม่พร้อมจะทำงาน เหมือนรู้สึกท้อแท้ ไม่มีแรงและกลัวการเริ่มต้น
และผมก็บอกเขาว่าไม่ไปทำแล้วครับ ทั้งๆที่เขาบอกว่าคุณสัมภาษณ์ผ่านแล้ว

โดยก่อนจะไปก็สวดมนต์ขอให้ผ่านการสัมภาษณ์ และบอกขอเป็นที่สุดท้ายของการทำงาน
ปรากฏปฎิเสธซะงั้น แต่ก่อนทำงานไม่เคยเกี่ยงเลย ได้เงินเดือน 9พัน ขึ้นรถไฟไปทำงานก็ทำมาแล้ว
ตอนนี้หมดกำลังใจ ไม่อยากทำอะไรเลยครับ ไปหาอ่านดูอาการเหมือนตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า
เหนื่อยง่าย อยากนอน
เขาบอกว่าการขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่ทำตาม ก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง จริงไหมครับ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 ก.พ. 2011, 23:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

อ้างคำพูด:
เขาบอกว่าการขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่ทำตาม ก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง จริงไหมครับ


ไม่เคยรู้..และไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับ... :b6: :b6: :b6:

เจ้าของ:  สุดปลายฟ้า [ 28 ก.พ. 2011, 23:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

tongue :b8: :b8: ขอให้คุณหายจากโรคซึมเศร้า เหนื่อยง่าย และอยากนอน นะคะ เป็นโรคเหมือนกับสุดปลายฟ้าเลยค่ะ แปลก อยากนอน เหนื่อยง่าย เพลียง่าย แปลกจังเลยค่ะ แต่อย่าท้อแท้นะคะ หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดี๋ยวก็หายเองละค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ tongue

เจ้าของ:  Supareak Mulpong [ 03 มี.ค. 2011, 22:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

คนละเรื่องละราวกัน สิ่งศักสิทธิ์ ถ้าขอได้ตามที่ขอ ป่านนี้ไม่มีอะไรเหลือมาถึงรุ่นเราแล้วครับ รุ่นพ่อแม่ปูย่าตาทวดขอไปหมดไม่มีอะไรเหลือมาถึงเราหรอกครับ จุดธูปขอทีจุดทีละกำมือ เราเกิดมาตอนนี้คงเป็นทาสได้อย่างเดียว .... มันเป็นศีลพตปรามารส

ที่คุณได้งาน มันก็เป็นวิบากกรรมของคุณเอง คนเป็นคนลิขิตตัวเอง คุณไม่ทำก็เป็นวิบากของกรรมเก่าเหมือนกัน ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการสวดมนต์แล้วเลิก หรือการขอร้องอ้อนวอนใดๆ มันเหมือนจะบังเิอิญ แต่ธรรมชาติไม่มีอะไรบังเอิญ เพราะไม่มีคำว่าบังเอิญในธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณมันมาจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวเท่านั้น

กรรม คือ การกระทำ มีผลเป็นบุญเป็นบาป คนเราทำกรรมตั้งแต่ตื่นจนหลับ ทำบุญก็จะส่งผลดีในอนาคต ทำบาปก็จะส่งผลไม่ดีในอนาคต บุญมีสมมุติฐานมาจากจิตที่เป็นกุศล บาปมีสมมุติฐานมาจากจิตที่เป็นอกุศล ปัจจุบันของเราก็คือผลจากการกระทำในอดีต และสิ่งที่เราทำวันนี้ ก็จะส่งผลต่อเราในอนาคต กฏของกรรมก็สรุปได้ง่ายๆ แค่นี้ แต่วิธีบุญวิถีบาปมันมีเหตุปัจจัยประกอบมาก ประมาณได้ยาก พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์วิถีบุญวิถีบาปไว้เพียง ๓ ลักษณะ คือ

- บุญที่ส่งผลแน่นอนชาตินี้ คือ มรรค ๔ ผล ๔

- บาปที่ส่งผลแน่นอนชาตินี้ คือ อนันตริยกรรม ๕

- ส่วนที่เหลือไม่แน่นอน อาจจะส่งผลชาตินี้ ชาติหน้า ชาติต่อๆ ไป หรือ ไม่ส่งผลเลยก็ได้

พระพุทธองค์จึงตรัสไว้ว่า คนเรามีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมลิขิต ไม่ได้มีสิ่งใดลิขิต ...

เจ้าของ:  ทักทาย [ 03 มี.ค. 2011, 23:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

พระพุทธศาสนา ไม่สนับสนุนการกราบไหว้วิงวอนร้องขอ
มีแต่สอนว่า "ตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน" :b1: :b1: :b1:

เจ้าของ:  nida nida [ 05 มี.ค. 2011, 15:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

:b8: :b8: ขอให้หายจากโรคซึมเศร้า เร็วๆนะค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ นะค่ะ สาธุ สาธุ tongue

เจ้าของ:  ปลีกวิเวก [ 05 มี.ค. 2011, 16:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

tongue สวัสดีค่ะ คุณจขกท

การอ้อนวอน ร้องขอ ต่อเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใหญ่เป็นพวกนับถือ ฮินดู
แต่ ศาสนาพุทธ ของเรา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงสอนเช่นนั้น
ท่านทรงสอนเรื่อง "กรรม" ที่ประกอบด้วยเจตนา ทำให้เกิดการกระทำผ่านทาง
กาย วาจาและใจ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "มนุษย์มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์"
"มนุษย์มีกรรมเป็นแดนเกิด" นั่นเอง

ถ้าคุณได้ศึกษา"พุทธธรรม" คุณจะซาบซึ้งใจที่ได้เกิดมาพบพุทธศาสนา

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม :b8:

เจ้าของ:  student [ 05 มี.ค. 2011, 17:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

อ้างคำพูด:
taktay เขียน
พระพุทธศาสนา ไม่สนับสนุนการกราบไหว้วิงวอนร้องขอ
มีแต่สอนว่า "ตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน"

อนุโมทนา มากๆ เลยครับกับข้อความนี้ ประเสริฐสุดแล้วครับ

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 09 มี.ค. 2011, 12:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

ทุกข์มีไว้ให้รู้ ไม่ได้มีไว้ให้จม ถ้าเรายังจมอยู่กับทุกข์ก็ไม่อาจพ้นทุกข์ไปได้ครับ ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง มีกรุณาต่อตนเอง
อย่าลืมว่าเราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งการเบียดเบียนตนเองเป็นสิ่งไม่สมควร ความผิดทุกชนิดที่ผ่านมาเราต้องให้อภัยตัวเองก่อน แล้วค่อยไปขอขมาต่อผู้ที่คุณเคยล่วงเกินไว้

อดีตที่ผิดพลาดไปแล้วลืมลืมไป ปล่อยวางบ้างก็ดีครับ อย่าให้อดีตมาทำร้ายเรา พระพุทธเจ้าสอนให้มีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ต้องฉุดตัวเองขึ้นมา ดึงมันขึ้นมา บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ให้อภัยๆ ชั้นจะให้อภัยเธอ(หมายถึงตัวเอง)

การจมอยู่กับปัญหา จมอยู่กับความเศร้าไม่มีประโยชน์ ต้องกลับมารักตัวเอง กลับมาเยียวยาหัวใจตนเอง สิ่งที่ผ่านมาก็ผ่านไป ตนจะเป็นกำลังใจของตน ตนจะไม่ทำร้ายตนด้วยการจมกับความผิดพลาด จะให้อภัย และมีชีวิตที่เข้มแข็ง จะลุกขึ้นมาสร้างสรรสิ่งดีงาม สร้างความสว่างสดไสให้ตนเองอีกครั้ง หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ อย่างแผ่วเอา อย่างนุ่มนวล สัมผัสถึงความเบิกบาน เอาลมหายใจแห่งสติกลับคืนมาอีกครั้ง

ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้นะครับ

เจ้าของ:  bluebird [ 26 มี.ค. 2011, 16:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

ตั้งจิตพิจารณาตนเองใหม่นะคะ หาตัวเองให้พบ การฝึกปฎิบัติธรรมช่วยได้

ในบอรดนี้มีข้อความดีๆของหลายๆท่านมากมาย ที่นำมาโพสไว้ อ่านดูและลองเลือกนำไปปฎิบัติ

ให้เหมาะสมกับตัวคุณ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอให้เจริญในสติสัมปชัญญะนะคะ

:b8: :b44:

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 27 มี.ค. 2012, 15:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: แบบนี้เป็นกรรมไหมครับ

กราบอนุโมทนาบุญนะเจ้าค่ะ tongue tongue tongue Kiss

ไฟล์แนป:
Lotus928.jpg
Lotus928.jpg [ 5.11 KiB | เปิดดู 5397 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/