วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 03:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ทำแท้งบาปมากมั้ยหนอ (พระอาจารย์สุโข กตปุญโญ)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=605

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นบรมครูของมนุษย์และเทวดา..... ขอน้อมกราบไหว้พระธรรมพระสัมมาประเสริฐเลิศในโลกาจะหาสิ่งใดปาน..... ขอน้อมบูชาสักการะแด่พระสงฆ์ผู้ดำรงพระธรรมวินัยศีลาสมาจารปฏิบัติตัดสงสารสู่นิพพานพ้นวัฏฏะภัย..... ขอบูชาน้ำใจดีน้ำใจอันประเสริฐที่เกิดขึ้นในดวงจิตทุกท่านผู้กำลังคิดดีพูดดีทำดีในขณะนี้..... ขอเจริญพรมายังญาติโยมสมาชิกสายบุญทั่วทุกสารทิศทุกจังหวัด... ขอให้เจริญอยู่ในศีลสมาธิและปัญญา... ขอให้เจริญในธรรมอันประเสริฐ มีจิตใจมั่งคงอยู่ในการละบาปบำเพ็ญบุญรักษาศีลปฏิบัติ ทุกข์หนักให้เบา ทุกข์เบาให้สิ้นไป มีกำลังใจประพฤติธรรมตัดเวรกรรมและมารภัย..... สุขสงบสว่างสะอาดบริสุทธิ์ทุกท่านเทอญ
สำหรับวันนี้มีโอกาสอีกวันหนึ่งมาให้ธรรมทานมอบ อมตธรรมให้ อันบาปอกุศลเป็นมลทินความเศร้าหมองอย่างหนึ่ง ที่ใครทำเข้าแล้วมีมากๆ แล้วเป็นความเสื่อมราศีของชีวิต บาปที่ทำแล้วด้วยความตั้งใจ..... จะเป็นผลเสมอไปไม่วันใดก็วันหนึ่งต้องตามส่ง..... บาปที่ทำแล้วจะไม่มีผลนั้นเป็นอันไม่มี

อันบาปกรรมชั่วร้ายทำลายสิ้น เป็นมลทินเศร้าหมองไม่ผ่องใส
ทั้งโลกนี้โลกอื่นหมื่นโลกัย ทำบาปไว้บาปชั่วก็พัวพัน
บาปอัปรีย์มีอยู่รู้กับจิต มันตามติดแทรกซ้อนไม่ผ่อนผัน
ทุกภพชาติเกิดดับทุกกัปกัลป์ จะโศกสันต์สิ้นสุขทุกเวลา

ขึ้นชื่อว่า ‘บาป’ แล้วนั้น..... มันไม่กลัวใครและทันสมัยอยู่เสมอ บาปนั้นยังมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย มีเวลาที่จะตามติดส่งผลในชาตินี้บ้าง อนาคตบ้าง บาปไม่กลัวว่า... เราจะมีอำนาจมีเงินมากเงินน้อย บาปไม่กลัวว่า... เราจะเป็นพระธรรมดาหรือจบเปรียญ ๙ ประโยคเป็นมหา บาปไม่กลัวว่า... เราจะเป็นพระลูกวัดหรือเจ้าอาวาส บาปไม่กลัวว่า... เราจะเป็นพระครูหรือเจ้าคุณ บาปนี้ยังไม่ตาย คือ ยังไม่เสื่อมจากโลก บาปยังให้ผลร้ายแก่ผู้ทำบาป ทุกคนจงโปรดทราบ..... จงหยุดทำบาปเสียก่อนตาย หยุดบาปเดี๋ยวนี้ โอกาสมีที่จะแก้ตัวให้ไปสวรรค์ได้ หยุดบาปให้ทันควัน อย่าดื้อรั้นจนสายเกินไป..... และอย่าดูถูกบาปกรรมจำนวนน้อย จะไม่ต้อยตามต้องสนองผล แม้นตุ่มน้ำเปิดหงายรับสายชล ย่อมเต็มล้นด้วยอุทกที่ตกลง..... ผู้ไม่รู้ทำแต่บาปนั้นอยู่บ่อยๆ ทีละน้อยทำไปด้วยใจหลง ย่อมเต็มด้วยบาปนั้นอย่างมั่นคง..... บาปนำส่งสู่นรกอเวจี บาปนำส่งให้ทนทุกข์ทรมาน

ขอปรารภเรื่องการทำแท้ง..... มนุษย์นี้เป็นคนใจสูง มนูมนุษย์ มาจากคำว่า คนใจสูง ใจสูงในลักษณะเชิงกล้า คือ กล้าทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว ..... ตอนไหนที่มีกำลังใจกล้าในการทำความดี ก็สามารถทำความดีได้มากมาย เงินทองเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นที่หามาได้โดยกำลังของตนเอง ก็สละออกไปได้ กล้าทำบุญในการให้ทาน เคยทาปากทาแป้งติดสุขติดสบายในบ้านในเรือน ตอนศรัทธากล้าก็อดข้าวตอนเย็นได้ อดทาปากทาแป้งตกแต่งประดับประดา มาถือศีล ๘ ได้เฉย บางครั้งก็ถือศีลอดได้ ๕ วัน ๗ วันไม่ทานข้าว นั่งสมาธิเคยนั่งได้ ๒๐–๓๐ นาที ก็ลุก แต่ตอนใจกล้าก็อดทนนั่งถึง ๑๓ ชั่วโมง จึงลุก กล้าเก็บตัวเงียบไม่ไปไหนมาไหน เหมือน "หลวงพ่อเจ้าคุณ น." อยู่แต่ในวัดหลายสิบปี กล้าฝึกจิตตัวเองไม่ออกไปไหน..... นี่คือจิตที่กล้าในการสร้างบารมีที่มีกำลังใจเมื่อศรัทธาเกิด

ส่วนในทางบาปก็กล้า ฆ่าได้ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลาหมูหมาเป็ด ไก่ ช้างม้า วัวควาย..... แม้สัตว์จะร้องโอดโอยควาญครางทุรนทุราย ก็ไม่ใส่ใจไร้เมตตาปราณี อย่าว่าแต่สัตว์เลย แม้นคนพนมมือนั่งคุกเข่าอ้อนวอนอย่าฆ่าผมนะ ก็ยังยิงเปรี้ยง นี่คือความกล้าทำบาป ลูกตัวเองก็ยังกล้าฆ่า..... แม้แต่พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์มีความดีมากก็ยังจะฆ่า..... ถ้าเหาะไปฆ่าเทวดาได้ก็คงจะไป
เรื่องการฆ่า การเบียดเบียนชีวิต การทำแท้งนั้น..... ต่อไปคอยดูเถอะโยม จะมีอีกเยอะเพราะคนห่างวัดห่างศีลห่างธรรมกันมาก เมื่อก่อนนี้ผู้ชายจะไปแต่งงานกับผู้หญิง ก็ต้องดูใจกัน มีความรับผิดชอบ มีการระวังตัวกลัวความชั่ว ฝ่ายผู้หญิงจะไปเที่ยวที่ไหนก็มีพ่อแม่หรือพี่น้องตามไปด้วย ไม่ไปคนเดียว จะจีบกันจะคุยกันก็ระวังตัว..... กลัวผิดประเพณี กลัวผิดศีลผิดธรรมน่าเกลียดน่าตำหนิ มีความเกรงใจต่อคนอื่นมาก ต่อพ่อแม่มาก ต่อประเพณีมาก กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง วงศ์ตระกูลบ้าง ก็เลยเกิดเป็นผลดี..... ตอนนี้ไม่มีความเกรงใจเพราะเชื่อว่าล้าสมัยแล้วสำหรับความเกรงใจ ต้องทันสมัยไว้ก่อน ไปไหนไปสองคนได้ ไม่ต้องมีใครมาช่วยสอดส่องดูแลรักษาเนื้อรักษาตัวหรอก เขาดูแลตัวเองได้ เมื่อไฟกับน้ำมันอยู่ใกล้กัน ก็อดที่จะลวนลามเสียมิได้..... ก็เกิดเสียเนื้อเสียตัวตั้งท้องโดยไม่ตั้งใจ เมื่อตั้งท้องไม่มีพ่อแล้วทำอย่างไร ก็อับอายขายหน้า..... ก็ต้องทำแท้ง

การทำแท้ง..... เบื้องต้นบาปก็เกิดที่ตัวแม่เพราะแม่ยินยอมให้เขาทำแท้ง..... บาปที่สองต่อมาก็คือตัวหมอ ฆ่าคนแรกก็หวาดเสียวบ้างแต่ไม่เห็นบาปส่งผล พอคนที่สองก็หวาดเสียวบ้าง แต่ก็ยังไม่เห็นบาปส่งผลอีก ได้แต่เงิน การฆ่าสัตว์ ๑๐๐ ตัว ฆ่าปลา ๑๐๐ ตัว ฆ่าสุนัข ๑๐๐ ตัว ฆ่าควาย ๑๐๐ ตัว ถึงจะบาป..... แต่บาปไม่เท่ากับการฆ่าคนเพียง ๑ คนหรอกนะโยม
บาปไม่มีตัวตน..... แต่มันมีฤทธิ์มีเดชมีอานุภาพถ้าทำบ่อยๆ ทำบาปครั้งสองครั้งแล้วบาปยังไม่ส่งผล เพราะบุญกุศลรักษา..... แต่ถ้าทำบาปบ่อยๆ บาปกรรมที่เคยเบาบางก็หนักหนา ยิ่งขึ้นๆ เริ่มผลิดอกออกผล
ส่วนผู้เป็นแม่ตอนตั้งท้องก็ไม่อยากมีลูก ยังไม่พร้อมก็เลยทำแท้งเสีย พอตอนมีลูกจริงๆ ลูกก็ผลาญสมบัติเลยทีนี้..... พ่อแม่มีปากก็พูดไม่ได้ห้ามไม่ฟัง สมบัติที่ได้มาก็พินาศวอดวายหมดสิ้นไป เดี๋ยวก็เรื่องโน้น เดี๋ยวก็เรื่องนี้..... ทำอะไรก็เหมือนกับมีอะไรมีใครมาปิดบังหน้าปิดบังตาไม่เห็นความดี ทำความดีแล้วเหมือนไม่เห็นผลเลย..... ให้รู้เถิดว่า..... นั่นแหละคือกรรมมาบังหน้าบังตาเราไว้ ทำความดีเท่าไหร่คนอื่นมองไม่เห็นเลย เพราะกรรมมาบังไว้จนกว่าจะได้ชดใช้..... ถ้าโยมรีบทำความดี ความดีเพิ่มมากขึ้นๆ บาปกรรมก็ลดลงๆ แต่ในอนาคตอย่างน้อยพอไปเกิดในท้องแม่ ก็จะต้องโดนแม่รีดทำแท้งออกอีก เพื่อไม่ให้ได้เกิดมา ๗ ชาติเป็นอย่างต่ำ..... แต่ถ้าไม่ได้สร้าง “ความดี” เพิ่มมากขึ้นๆ ก็อีก ๕๐๐ ชาติเป็นกำหนด..... เหมือนตอนนี้ขณะนี้ที่มีอีกหลายๆ จิตวิญญาณที่รอจะเกิด แล้วยังไม่ได้เกิดมากมายเหลือเกิน

การเกิดเป็นคนต้องมีบุญมาก ถ้าบุญไม่ส่งแล้วเกิดเป็นคนไม่ได้..... แต่พอได้มาเกิดเป็นคนแล้วก็ยังประมาทอีก หลงลืมตัวมัวเมาอีก มนุษย์หนอมนุษย์สับสนวุ่นวาย ในบางครั้งไม่อยากทำบาปแต่ก็ต้องทำ

อาตมาได้สนทนากับแม่ชีท่านหนึ่ง..... ท่านสารภาพหมดเลยว่า ตอนที่ยังไม่ได้บวชชี เคยทำแท้งมา ๓ ครั้ง ชีวิตเคยเล่นไพ่เล่นไฮโล ดื่มเหล้าทำมาหมดเลย ต่อมาบ้านแตกสาแหรกขาดพินาศวอดวายปั่นป่วน สามีมีชู้มีเมียน้อย เงินทองที่ได้มาจากการพนันไม่เคยทำให้ใครร่มเย็นเป็นสุขอยู่นานเลย มีเงินซื้อบ้านกี่หลังก็ตามบ้านนั้นพินาศหมด มีญาติโยมหลายๆ ท่านแจ้งมายังอาตมาว่า..... หลังจากทำแท้งมาแล้ว ได้รับความทุกข์แสนสาหัสมาก วุ่นวายเดือดร้อนไปหมด

ฤทธิ์แห่งบาปไม่มีตัวตนเหมือนนั่งวัวนั่งควายนั่งช้างมา..... แต่มีอิทธิพลแก่ดวงจิตจริงๆ นะ แต่บุญของแม่ชีท่านนี้คงจะยังมีอยู่ ท่านมีเพื่อนบ้านชวนไปวัด ท่านได้ฟังพระเทศน์แล้วขนลุกขนพอง เกิดความศรัทธาเลื่อมใส ได้มาถือศีลวันอาทิตย์บ้างวันพระบ้าง ไปๆ มาๆ จนได้มาบวชชีถึงทุกวันนี้..... ตอนนี้ท่านเป็นสุขแจ่มใสยิ้มได้แล้ว..... นี่คืออานิสงส์ของการทำความดีให้เหนือความชั่ว..... ไม่ว่าความชั่วจะมากน้อยขนาดไหน ถ้าทำความดีมากยิ่งขึ้นๆ ด้วยการประพฤติธรรมถือศีล ๕ ศีล ๘ ความชั่วจะลดลงคลายลง แต่บาปกรรมชั่วยังไม่หมดสิ้นไป เพียงแต่เบาบางลงน้อยลงเท่านั้น
ผลจากการทำทาน ถวายสังฆทาน..... ไม่สามารถทำให้กรรมที่เกิดจากการทำลายชีวิต ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน หมดไปได้เลย..... อกุศลกรรมอันเกิดจากการทำลายชีวิต ฆ่าสัตว์ ฆ่าคนนั้น จะน้อยลงเบาบางลงได้ ก็ต่อเมื่อประพฤติธรรมรักษาศีล ๕ ในวันธรรมดา ศีล ๘ ในวันพระหรือถือศีลปฏิบัติไปตลอดชีวิต จึงจะมีผลกุศลที่แรงมากเพราะการถือศีล ๕ ยังมีสิทธิไปสวรรค์ไปสุขคติมีความเจริญได้ ถ้าทำความดีให้มากกว่าความชั่ว..... ส่วนการแก้กรรมนี้แก้ยากมาก
ทำแท้งชั่วโมงเดียวเสร็จ วันเดียวเสร็จ แต่ผลกรรมรับวันเดียวไม่ได้เลย รับวันเดียวไม่เสร็จเลย นี่คือพยานในการสร้างบาปว่า การทำลายชีวิต ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน มันมีผลเผ็ดร้อนจริงๆ

อปุตกะเศรษฐีตอนสมัยพุทธกาลฆ่าลูกของพี่ชาย ตอนหลังก็ทำทานตลอดเพราะกลัวนรก..... พอสิ้นชีวิตก็ไปลงนรก คือ แค่ทำทานไม่พ้นนรก พ้นจากนรกแล้วก็มาเกิดเป็นมหาเศรษฐี..... แต่ไม่ทำบุญให้ทานเหมือนเดิม ลืมความดีเก่าเพราะไม่ได้ฟังคำสอนพระพุทธองค์ ไม่ได้ฝึกปฏิบัติ ทำความดีแล้วทำไม่ต่อเนื่อง..... พอรวยแล้วเห็นการทำบุญทำทานไม่มีความหมายเลย ก่อนสิ้นชีวิตไม่มีบุตรสักคนมารับมรดกๆ จึงตกเป็นของพระราชาไป..... พอเกิดมาชาติที่ ๒ ก็เป็นมหาเศรษฐีอีกจนถึงชาติที่ ๖ เป็นมหาเศรษฐีตลอดโดยไม่ต้องทำบุญทำทานเลยใน ๖ ชาตินี้ มีความร่ำรวยตลอดแต่ไม่มีบุตรสักคน ชาวบ้านจึงเรียกว่า อปุตกะเศรษฐี..... เศรษฐีที่ไม่มีบุตร..... นี่ก็เพราะอกุศลกรรมที่ได้เคยฆ่าลูกของคนอื่นไว้
การฆ่าลูกของตัวเองก็มีบาปมาก คือ บางคนพอมีลูกอยู่ในท้องก็ฆ่าปุ๊บ..... ทันทีที่วิญญาณของลูกออกจากร่าง ก็จะมาจับปฏิสนธิมาเกิดใหม่กับแม่คนเดิมนั่นแหละ ซึ่งพอเกิดกำเนิดขึ้นมาแล้วก็คอยตามล้างตามผลาญ ผลาญทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ให้เดือดร้อนวุ่นวายไปหมดเลย

ที่อาตมาพูดมาทั้งหมดนี้ อย่าพึ่งเชื่อนะโยม บุคคลผู้มีศรัทธาที่เคยเป็น "เทวดา" มาในอดีตชาติ ถ้าพูดเรื่องบาปบุญคุณโทษแล้วจะเชื่อมาก แล้วรีบทำความดีฟังพระธรรมแบบไม่รู้จักเบื่อจักหน่าย คือ เป็นนิสัยเก่าที่เคยทำความดีจนติดนิสัยมา ไปสวรรค์แล้วเศษบุญยังหลงเหลือได้มาเกิดในเมืองมนุษย์ จึงเป็นเหตุให้ทำความดีได้ง่าย
แต่คนที่ไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษมีนิสัยที่ดื้อรั้นนั้น ไม่ว่าจะชักจูงโดยยกเหตุผลใดๆ ก็ไม่เชื่อเพราะคิดว่าพระหลอก พระพูดเอานรกมาขู่อย่างนั้นเอง..... แต่พอได้ประสบผลอกุศลวิบากด้วยตนเองแล้ว จึงจะประจักษ์แจ้งเชื่อเต็มร้อย
ถ้าไม่มีปัญญาก็จะมองไม่เห็น แต่จะมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญไป บางคนคิดว่าชาตินี้เขาไม่เคยทำบาปใดๆ เลยก็ยังได้รับความเดือดร้อน ซึ่งถ้าเขามีปัญญาก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่า เขาเคยทำบาปอกุศลในอดีตชาติมาก่อน
"พระมหาโมคคัลลานะ" ยังไม่เคยทำบาปกับพ่อแม่ในชาตินี้เลย แต่โดนทุบตีก่อนตายทุกชาติ นี่คือการทำบาปชาติเดียวเท่านั้นที่เคยทุบตีพ่อแม่..... อกุศลกรรมบางอย่างรุนแรงมากส่งผลข้ามภพข้ามชาติเลยทีเดียว นี่แหละคืออกุศล ทุกคนต้องพลาดพลั้งไปบ้างแน่นอน ถ้ามีอวิชชาปิดบังดวงจิต อันพิษร้ายของสัตว์ทุกชนิด..... มันมีพิษทำให้ตายเพียงหนึ่งหน..... แต่พิษร้ายของกรรมชั่วติดตามตน..... มันส่งผลร้ายกาจทุกชาติไป

อันคนพาลทำบาปแล้ว..... บาปยังไม่ส่งผล ก็เหมือนบาปนั้นเป็นของเอร็ดอร่อยหอมหวานน่าลิ้มลองเสียเหลือเกิน แต่เวลาบาปส่งผลแล้วก็หนีไม่พ้น ถึงอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็คุ้มครองไม่ได้..... ก็เพราะกรรมใครก็กรรมท่าน กฎแห่งกรรมตายตัว ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วแน่นอน..... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะคุ้มครองเฉพาะบุคคลที่มีความดีเท่านั้นหรือบุคคลที่มีบาปยังน้อยอยู่แล้วผลยังไม่ส่งให้ แต่ถ้าเป็นบุคคลที่มีบาปหนักสาหัสแล้วจะอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่เกิดผล

หนุ่มๆ สาวๆ ถ้าไม่รู้จักระวังใจระวังตัวแล้วสนุกไปกับกาม จนลืมพ่อลืมแม่ ลืมความดี ลืมศีลธรรม ลืมประเพณี เราจะร้อนใจ วุ่นวายใจในภายหลัง การไปให้ความสำคัญกับประเพณีของชาวตะวันตก ๑๔ กุมภาพันธ์วันวาเลนไทน์..... คนจะตั้งท้องอีกเยอะเพราะวันแห่งความรัก ไม่ใช่ความรักแบบเมตตากรุณา..... แต่เป็นความรักแบบเสน่หาอาลัยเสียเนื้อเสียตัว จะมีลูกไร้พ่ออีกมาก คอยดูให้ดีๆ ไม่ใช่ขู่ แต่คอยดูให้ดีๆ ความสนุกจะพาให้ทุกข์มหันต์

พอที่ไหนมีการฆ่า ใจของแม่โหดร้ายมอำมหิตมากๆ ในยุคๆ หนึ่งสมัยๆ หนึ่ง..... ตอนวิบากส่งผลก็จะส่งพร้อมกันเป็นหมู่ใหญ่ๆ คือ จะมีข่าวแม่โดนฆ่าจากลูก พ่อโดนฆ่าจากลูก ทรัพย์สมบัติวอดวายเสื่อมสิ้น มีภัยพิบัติไฟไหม้ที่นั่น น้ำท่วมที่นี่ โดนฆ่าที่นั่น นี่คือผลมาจากการทำลายล้างชีวิตของบุคคลอื่น ตอนรับผลก็รับไปเป็นหมู่ใหญ่ๆ เลยทีเดียว..... ทั้งนี้ก็เพราะกระทำกันเป็นหมู่ใหญ่ๆ..... นี่คือโลกีย์วิสัย นี่คือโทษภัยของวัฏฏะสงสาร

ตราบใดใครยังสยบอยู่ในเนื้อหนังมังสา ตราบนั้นก็ยังต้องเผ็ดร้อนในนรก เหมือนเถรีคาถาพระอรหันต์ภิกษุณีเถรี ท่านบอกว่า..... "ผู้ใดติดอยู่ในกาม บุคคลนั้นจะไม่พ้นจากนรก" นรกก็ตั้งแต่บนดินนี้จนถึงนรกในอบายภูมิในปรโลก
ฟังคำพระให้ดีเถิด ตอนนี้พระโปรดได้ถ้ากรรมยังไม่หนัก แต่ถ้าทำกรรมหนักแล้วพระโปรดไม่ได้เลย..... กรรมนี้ต้องชำระ หนี้ชำระด้วยหนี้ ทุกข์ชำระด้วยทุกข์ เราทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ขนาดไหน เราก็จะต้องเป็นทุกข์เพิ่มอีกหลายเท่า

บุคคลใดไม่มีคู่ครองไม่มีแฟน ไม่ได้ไปเที่ยวกับแฟน ไม่ได้ควงกับแฟน ก็อย่าเสียใจน้อยใจหรือเป็นทุกข์ ถึงบางครั้งแม้จะเศร้าเหงาหว้าเหว่ แต่ไม่ต้องไปชดใช้ในนรกให้ทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส..... ในที่สุดเมื่อมีศีลมีธรรมมากขึ้น..... เราก็จะมีความสุขสงบร่มเย็นยิ่งกว่าการบำเรออยู่ในกิเลสตัณหา ..... ความสุขแบบสงบร่มเย็นมักจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีความทุกข์ความลำบากก่อน เช่น ถือศีลปฏิบัติธรรมรู้สึกยุ่งยากลำบาก แต่พอถือปฏิบัติได้แล้วมันสุขจริงๆ ในภายหลัง..... เหมือนกินอ้อยจากปลายไปหาโคน ตอนต้นจืดหน่อย ส่วนความทุกข์ที่มาในรูปแบบของความสุขนั้น ดูสนุกคึกคักตื่นเต้นดีใจเร้าใจ แต่พอ กระทำไปแล้ว ผลมันเผ็ดร้อนเหลือเกิน เหมือนกินอ้อยจากโคนไปหาปลาย ตอนต้นหวานฉ่ำแต่ต่อไปก็จืดชืด

ขออนุโมทนากับแม่ๆ ทุกท่านทุกคนที่รู้ตัวว่าทำผิดไปแล้ว กำลังมาถือศีลปฏิบัติธรรม ถวายสังฆทาน ฯลฯ ด้วยเพราะกำลังกลัวผวา ความกลัวนี่แหละเป็นเหตุทำให้บาปกรรมลดลงน้อยลง..... บางคนกำลังหาทางแก้มากๆ เลยตอนนี้ เพราะบาปกรรมกำลังจะมาตามทวงแล้ว ความสว่างนี่แหละชนะความมืดได้..... ขอให้เจริญในธรรมตลอดไปทุกท่านทุกคนเทอญ เจริญพร

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แก้ไขล่าสุดโดย วรานนท์ เมื่อ 28 มี.ค. 2010, 19:58, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 18:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 20:20
โพสต์: 47

ชื่อเล่น: ซี
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโทนา สำหรับความรู้ดี ๆครับ :b50:

.....................................................
ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่น
ตามแต่บาปบุญแล ก่อเกื้อรักษา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: ธรรมสวัสดีค่ะ ท่านวรานนท์

ทำแท้งบาปมากมั้ยหนอ (พระอาจารย์สุโข กตปุญโญ)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=605

หนังสือเล่มนี้ “สาวิกาน้อย” เป็นผู้รวบรวมและเรียบเรียง เองค่ะ

:b13: เลยแปลกใจ เอ๊ !!! ว่า...ทำไมถึงไปเป็น
:b12:
ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์ประดิษฐ์ ติกฺขปญฺโญ
ศูนย์พัฒนาคุณธรรม วัดหนองจิกยาว ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี


ตั้้งแต่เมื่อไหร่กันค่ะ แล้วท่านวรานนท์นำเนื้อหามาจากแหล่งไหนเอ่ย

:b10: สงสัยนิดหน่อยค่ะ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


55 ตีกันเองซะแล้ว แล้วเนื้อหานี่เดียวกันไม๊เน้อ :b9:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เนื้อหาเดียวกันแต่ของพี่สาวิกานี้มากกกว่าน่อ smiley

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




ss67692.jpg
ss67692.jpg [ 33.62 KiB | เปิดดู 7277 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

ขออภัยคุณสาวิกาน้อยด้วยครับ

วรานนท์ก็ไม่ทราบว่าเป็นเป้นบทความของใคร

เพราะในข้อความที่ได้มาเป็นตามเนื้อความที่ลงนั้นเลยครับ

วรานนท์ก็เฃ้าใจว่าท่านเทศน์เอง และเห็นว่ามีประโยชน์

เลยนำบทความของท่านมาลงให้อ่านกัน...ไม่น่าเลยครับ

ขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ

แต่ข้อความที่วรานนท์นำมามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ

ไม่ได้แก้ใขอะไรเลย


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

ขออภัยคุณสาวิกาน้อยด้วยครับ

วรานนท์ก็ไม่ทราบว่าเป็นเป้นบทความของใคร

เพราะในข้อความที่ได้มาเป็นตามเนื้อความที่ลงนั้นเลยครับ

วรานนท์ก็เฃ้าใจว่าท่านเทศน์เอง และเห็นว่ามีประโยชน์

เลยนำบทความของท่านมาลงให้อ่านกัน...ไม่น่าเลยครับ

ขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ

แต่ข้อความที่วรานนท์นำมามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ

ไม่ได้แก้ใขอะไรเลย


:b8: :b8: :b8:

:b8: ธรรมสวัสดีอีกครั้งค่ะ ท่านวรานนท์

โดยปกติแล้วบทความเนื้อหาธรรมะที่ปรากฏใน “เว็บธรรมจักร”
ทางเว็บก็ไม่ได้มีลิขสิทธิ์หรือหวงกันไว้แต่อย่างใด
ด้วยให้ความสำคัญถึงการเผยแผ่ธรรมเป็นหลักใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งใด


:b20: “สาวิกาน้อย” ก็ยึดถือหลักนี้น้อมนำมาปฏิบัติสืบต่อมาโดยตลอด
ที่ถามถึงแหล่งที่มาของเนื้อหาดังกล่าวนั้น
ก็ด้วยความสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะไปเพ่งโทษผู้หนึ่งผู้ใดเลยค่ะ
ท่านวรานนท์ จึงไม่ต้องขออภัยใดๆ ต่อสาวิกาน้อยหรอกค่ะ


ชิโนะซึเกะ เขียน:
55 ตีกันเองซะแล้ว แล้วเนื้อหานี่เดียวกันไม๊เน้อ :b9:

:b13: น้องชิโนะซึเกะ

พี่สาวิกาน้อย กับ ท่านวรานนท์ ไม่มีการตีกันเองนะจ๊ะ
เพียงแต่ถามไถ่กันเพื่อให้เข้าใจตรงกันเท่านั้นเองจ๊ะ

รับทราบนะ
:b4:

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


รับทราบขอรับบ :b19:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ขอบคุณ คุณสาวิกาน้อยด้วยครับที่เข้าใจ

วรานนท์แก้ใขข้อความให้ก็แล้วกันครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 13:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 เม.ย. 2010, 17:48
โพสต์: 24

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 14:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b47: :b41: :b47: :b41: :b47: :b41: :b47:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำแท้งบาปมากมั้ยหนอ อันนี้ขึ้นอยู่กับเจตนาของเขา และขึ้นอยู่กับสังคมและวัฒนธรรมด้วย

ทุกคนย่อมเคยทำความผิดพลาดกันมาทั้งนั้น ถ้าคนที่ทำแท้งเพราะตนเองหลงผิดไปมีชู้กับผัวของพี่ เธอเลยต้องทำแท้งโดยมีเจตนาเพื่อไม่ให้ครอบครัวของพี่ต้องแตกสลาย อันนี้แม้บาป ก็บาปไม่มาก และอาจเป็นบุญด้วย ยิ่งตอนหลังเธอผู้นั้นสำนึกในบาป ทำบุญทำทาน อุทิศกุศลให้ลูกที่ตายเสมอ จนเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นลูกของเธอให้อภัย วิบากกรรมในปรโลกของเธอจะมีได้อย่างไร

อ่านเรื่องทำแท้ง(แล้วได้ขั้นสวรรค์ ไม่ต้องรับกรรมในนรก)
โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
viewtopic.php?f=4&t=20694


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกคนย่อมต้องผ่านการทำบาปกันมาทั้งนั้น เราต้องรู้จักให้อภัย และต้องรู้วิธีแก้กรรมของเรา

ผมขอนำคำตอบของผมในเว็บพลังจิตและในกระทู้เว็บธรรมจักร ที่วิเคราะห์คำตัดสินของพระยายม มาลงนะครับ


1. พระยายมท่านบอกว่า บุญเธอมีมาก และเด็กก็ไม่ได้จองเวรเธอ เธอไปรับผลความดีก่อน คือไปสวรรค์ และ 3. เทวทูตบอกว่าไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

....ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ย่อมต้องมีการทำผิดหรือบาปมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ผู้หญิงคนนี้ได้ทำการก้าวล่วงบาปกรรม หรือ การสำนึกบาปแล้ว วิบากกรรมในปรโลกของเธอจึงกลายเป็นเศษกรรมไป ส่วนผลบุญที่เธอทำมันใหญ่พอสมควร เธอจึงต้องไปรับผลบุญนั้น จะเห็นได้จากข้อ 2.ในกระทู้ทำแท้ง

2. แต่เมื่อฟังผู้ใหญ่พูดกันว่าคนทำแท้งนั้นบาปมาก เพราะฆ่าเด็กในครรภ์ จึงตั้งใจบูชาพระทุกวัน สวดมนต์ เมื่อจบแล้วก็นั่งหลับตานึกถึงลูกที่ตาย ขอให้มารับส่วนบุญและไม่จองเวร อ้อนวอนขอให้พระพุทธเจ้าช่วย ทำอย่างนี้เป็นปกติทุกวัน เมื่อถึงฤดูกาลบวชพระ ก็เป็นเจ้าภาพบวชพระให้ปีละองค์ทุกปี อุทิศให้ลูก

การที่เขาทำการล่วงบาปกรรม (สำนึกบาป) และยังทำบุญอุทิศให้วิญญาณเด็กประจำ เด็กซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรเขาก็มิได้เอาเรื่องแล้ว ถ้าหญิงนั้นจะได้รับเศษกรรมก็คือ ชาติหน้าหลังจากออกจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว เขาอาจจะไปเกิดเป็นคน แต่แม่ของเขาอาจจะตาย ทำให้เขาเป็นเด็กกำพร้าแม่ (รับเศษกรรม) แต่ก็จะสุขสบาย ไม่มีผลอะไรมากกับชีวิต เพราะเธอทำบุญมามากนั่นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 20:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 14:20
โพสต์: 9

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ต้องชดใช้ไปตามที่กรรมนั้นครับ เงยหน้ายินยอมรับกรรมที่ได้กระทำไว้ครับ :b8:
บาปติดตัว ติดตามใจไปทุกที่ ยังไงก็ลืมไม่ได้แน่นอน ความรู้สึกผิดนั้นจะตราตรึงจิตใจไปตลอด
แต่ขอความรู้สึกผิดนั้น เตือนให้เรารู้จักที่จะทำสิ่งที่ดียิ่งๆขึ้นไป เพื่อหวังจะบรรเทาความรู้สึกผิดนั้น ไม่ว่าจะมาก หรือน้อย แต่ได้สำนึกจริงๆ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 21:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ท่านถามว่า เมื่อทำแล้ว หลังจากนั้นทำบุญอะไรบ้าง

เธอบอกว่า ที่จำได้ดีเพราะทำเป็นประจำก็คือ บูชาพระ ว่านะโม 3 จบ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง และสวดอิติปิโส ภควา แล้วกรวดน้ำอุทิศให้ลูกที่ทำแท้ง ขออย่าจองเวรจองกรรมเลย เมื่อถึงปีก็เป็นเจ้าภาพบวชพระทุกปี อุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแท้ง

เธอพูดได้ชัดเจนชัดถ้อยชัดคำ ไม่เหมือนรายอื่นๆ ที่พูดไม่ค่อยเต็มเสียง และมีมากรายไม่พูดเลย พระยายมท่านบอกว่า บุญเธอมีมาก และเด็กก็ไม่ได้จองเวรเธอ เธอไปรับผลความดีก่อน คือไปสวรรค์


บาปยังคงมีอยู่..หากเธอหมดกำลังของบุญเมื่อไร..กำลังบาปจะให้ผล

นี้แหละคือโลก..ทั้ง 3 โลกนั้นแหละคือโลก..

คือที่ที่ไม่อาจจะพ้นจากกฎแห่งกรรม..ไม่อาจพ้นไปจากกฎแห่งไตรลักษณ์..ไปได้เลย..

ไม่มีแม้สักที่เดียว..ที่กฎแห่งกรรมและกฎแห่งไตรลักษณ์..จะเข้าไปไม่ถึง

นี้แหละคือ..บ่อเกิดแห่งความทุกข์ทั้งหลาย..

หากไม่อยากมีทุกข์..ก็อย่ามาเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในวัฏฏะสงสารนี้เลย

ทางออกจากวังวนนี้มีทางเดียว..คือมรรคมีองค์ 8

ขอให้เร่งรีบปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า..ทุก ๆ พระองค์..บอกเถิด

ละความชั่วทั้งปวง..บำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม..ชำระจิตใจให้ใสสะอาด


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 08 เม.ย. 2010, 21:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร