วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 20:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 10:28
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เคยสมหวังในรักเลย เคยเป็นเมียน้อย มาก่อน ด้วยความหลงมัวเมา บาปกรรมนี้แรงจนส่งผลตอนนี้ใช่ไหมคะ รู้สึกผิดบาปมาตลอด อยากเริ่มชีวิตใหม่ ก็ไม่เคยเจอคนจริงใจ หรือคนโสดเลย บางคนมีแฟนแล้ว บางคนมีภรรยาแล้ว ก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวค่ะ บาปกรรมครั้งก่อน ยังวนเวียนไม่หายไป มีบางคน มีแฟนแล้ว แต่มาขอคบด้วย โดยเลิกกับแฟน คบได้เพียงไม่นาน เค้าก็กลับไปคืนดีกัน ด้วยเหตุผลว่า เราไม่ใช่ และตัดใจจากแฟนเก่าไม่ได้ เหมือนบาปกรรม ที่ตามหลอกหลอน รู้สึกอยากไถ่ถอนบาปนี้ค่ะ เข้าวัด ไหว้พระ แต่ไม่รู้ว่าทำถูกวิธีหรือเปล่า โดยส่วนตัว เชื่อค่ะ ว่านิสัยส่วนตัวอาจมีส่วนทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่า อีกส่วนหนึ่ง มาจากบาปกรรม ไม่ชาตินี้ ก็ชาติที่แล้ว อยากได้คำแนะนำ เรื่องการชดใช้กรรม จากเจ้ากรรม นายเวร อย่างถูกวิธีด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 11:38
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนากับคุณที่คิดได้ มีดวงตาเห็นธรรม
แนะนำให้คุณทำบุญ ถวายสังฆทานมาก ๆ สวดมนต์
อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และคนที่คุณไปทำร้ายจิตใจเขา
ซักวันคุณคงหลุดพ้นจากเวรกรรมที่คุณสร้างไว้

เจริญในธรรมค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...มนุษย์ทุกคนเกิดมาไม่มีใครสมบูรณ์แบบ...จึงพยายามหาทางเติมส่วนขาดให้ตนเอง...
...ด้วยการแสวงหาด้วยคิดว่าการกระทำตามที่ใจตนเองต้องการเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุข...
...การไม่รู้ว่าจิตอยู่ในสภาวะสมมุติ...จึงหลงไหลได้ปลื้มกับการกระทำที่ตนเองพอใจจะให้เป็น...
...โดยไม่ยับยั้งชั่งใจไตร่ตรองหาเหตุผลว่าทำไปแล้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไร...คือไม่คิดผลที่ตามมา...
...เพราะผลของเหตุการณ์ที่เกิดวันนี้...ลองย้อนไปดูว่าถ้าวันนั้นเราไม่ทำ...สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้นในวันนี้...
...ทุกข์ตัวเราเป็นผู้สร้างเองมาแต่เริ่มต้น...จะแก้ต้องแก้ที่ตัวเราเอง...วันนี้คุณกำลังเริ่มต้นแก้ไข...
...ใหม่ๆมันอาจจะฝืนใจไม่เคยชิน...ให้อดทนทำ...อย่าย้อท้อเพราะทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ไม่มีสายไป...

:b12:
:b4: :b4:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 13:20
โพสต์: 131

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้นหญ้ารู้สึกดีใจกับคุณด้วยจริง ๆ ที่สามารถห้ามใจบังคับใจตัวเองให้ก้าวออกมาจากบ่วงกรรมนั้นได้ ขอให้คุณทำบุญเยอะ ๆ นะคะ แผ่เมตตามาก ๆ คนที่เคยทำผิดและกลับตัวกลับใจได้ นอกจากจะรับการให้อภัยแล้ว สักวันเมื่อกรรมที่เคยทำมาได้ถูกชดใช้หมดไป คุณก็จะพบแต่ความสุขค่ะ เชื่อในความดีนะคะ ทำดีย่อมได้ดีค่ะ เป็นกำลังใจให้ทำดีต่อไปนะคะ :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ต้นหญ้า เมื่อ 18 ก.พ. 2010, 12:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 10:28
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาในชีวิตของตัวเองแล้ว เชื่อเสมอค่ะ ว่าชาติที่แล้ว มีกรรมผุกติดมา
แต่กับชาตินี้ ยังวนเวียน เพราะเคยหลงมัวเมา ตอนนี้พูดได้เต็มปาก ว่าก้าวออกมาแล้ว
ไม่อยากจะโทษอะไร หรือโทษใครเลยค่ะ
ได้แต่ก้มหน้า โทษตัวเองมาตลอด
มันเลยยิ่งทำให้รู็สึกหดหู่ หมดกำลังใจ
รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสุขเลยค่ะ...
อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
อยากหลุดพ้นบ่วงกรรม พยายามสวดมนต์ แผ่เมตตา
อีกใจก็ไม่อยากออกไปพบปะกับใคร
มันขัดแย้งกันในใจหลายๆอย่าง ค่ะ
ตอนนี้จิตใจไม่นิ่งเลย ทุกข์เหลือเกิน....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...คุณยอมจำนนฟ้าดินคะ...ดิฉันขอแนะนำเริ่มที่ศีลข้อ 3 ก่อนเลยค่ะ...
...เจตนาศีลข้อ 3 ให้บริสุทธิ์...ไม่ล่วงศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร...ยังคิดอยู่ศีลก็ยังไม่ขาด...
...คือให้งดเว้นการเสวนากับชายที่เราเคยมีอะไรด้วยและไม่ให้เจอไม่เข้าใกล้แตะต้องตัวกันค่ะ...
...ทำอย่างนี้ทุกกรณีถ้ามีใครจะมาชักชวนให้เราไปทำเสื่อมเสียเกียรติตนเอง...แสดงว่าเขาดูถูกเรา...

:b33:
...ไม่สมควรเข้าใกล้คนประเภทนี้...อย่าลดตัวลงไปคบชายที่จิตใจมีแต่ความเห็นแก่ได้ของตัวเอง...
...เพราะชายประเภทนี้...จะสรรหาคำพูดแบบเข้าข้างตนเองแล้วก็มาคิดว่าตัวเขาสงสารเห็นใจผู้หญิง...
...ให้คิดเป็นพื้นฐานเลยว่าผู้ชายทุกคนไว้ใจไม่ได้...นอกจากพ่อ..พี่ชาย...น้องชายร่วมสายโลหิต...
...ผู้ชายในลานธรรมจักร...ก็อาจจะไว้ใจไม่ได้หรือเปล่า...อันนี้ต้องถามพวกเขาดูก็แล้วกัน...

:b9: :b32:
:b12:
...การปฏิบัติธรรมช่วยรักษาใจ...มีโอกาสลองประพฤติพรหมจรรย์ไปหัดถือศีล 8บ้างก็จะดีไม่น้อย...
...ขอให้รักนวลสงวนตัว...เป็นการรักษาเกียรติตนเองและบรรพบุรุษผู้สร้างเรา...ให้เลือดเนื้อชีวิตเรา...
...ไม่กลับไปทำอย่างที่เคยทำมาอีก...คบหาดูใจกับชายคนใดให้เข้าหาผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายให้ท่านดูให้...
...เพราะชายคนใดที่ไม่กล้าพาเราเข้าหาผู้ใหญ่...ก็คือมีอะไรปกปิดไม่อยากให้เรารู้จักคนที่สนิท...
...ผู้ใหญ่ท่านผ่านโลกมาก่อน...ท่านจะดูออกว่าสมควรคบหาเพื่อฝากชีวิตได้หรือไม่ค่ะ...

:b4: :b4:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 13:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 10:28
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ เพื่อนลานธรรมจักรทุกท่าน เชื่อหรือไม่คะ
ว่าปัจจุบันนี้ ตัวเองยังโดนผู้ชายคนที่เคยเป็นน้อยเขา ตามรังควานอยู่เลย
ทั้งๆที่ผ่านมานานเป็นปีแล้ว เค้าทั้งขู่สารพัด
อย่างที่บอกว่าตัวเองเคยเปิดใจคบใครสักคนที่ผ่านมา แต่เค้าก็กลับไปด้วยความผูกพันกับคนเก่าของเค้า
ผู้ชายคนที่ตัวเองเคยเป็นน้อยนั้น ก็วนเวียน สืบหาคนที่คบด้วยคนใหม่ทุกวิธี
จนในที่สุด ก็มีปัญหากัน ตัวเองตอนนี้เข็ดแล้วจริงๆ
แบบนี้ ถือว่าผู้ชายคนนั้นเคยมีบ่วงกรรมกันมาใช่ไหมคะ
ดิฉันเป็นน้อยเค้า และเลือกเดินออกมาเอง เพื่อครอบครัวเค้าเอง
แต่เค้ายังไม่ยอมหยุด ทั้งๆที่ดิฉันเองก็เป็นน้อยที่เท่าไหร่ยังนับไม่ถ้วน....
ตอนนี้ได้แต่หนีห่างจากกัน จนต้องระหกระเหินออกมา อยู่คนละจังหวัด
ก็ยังไม่วาย... ปัจจุบันไม่ได้ติดต่อเค้าแล้ว และโกหกเค้าว่ายังไม่เลิกกับแฟนใหม่ เพราะกลัวเค้าจะมาวุ่นวาย แต่เค้าก็ไม่หยุด แถมยังพูดหยาบคายกับดิฉัน ว่า ขอให้ดิฉันมีสามี 2 คน...
ดูซิคะ ตอนนี้แฟนคนใหม่ดิฉันเค้าก็จากไป แถมตัวเองยังต้องมาเจ็บช้ำกับคำพูดแบบนี้
เข็ดแล้วจริงๆคะ ผู้ชาย...
ขออโหสิกรรมจากครอบครัวเค้า และตัวเค้าด้วยค่ะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไม่เคยสมหวังในรักเลย เคยเป็นเมียน้อย มาก่อน ด้วยความหลงมัวเมา บาปกรรมนี้แรงจนส่งผลตอนนี้ใช่ไหมคะ รู้สึกผิดบาปมาตลอด อยากเริ่มชีวิตใหม่ ก็ไม่เคยเจอคนจริงใจ หรือคนโสดเลย บางคนมีแฟนแล้ว บางคนมีภรรยาแล้ว ก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวค่ะ บาปกรรมครั้งก่อน ยังวนเวียนไม่หายไป มีบางคน มีแฟนแล้ว แต่มาขอคบด้วย โดยเลิกกับแฟน คบได้เพียงไม่นาน เค้าก็กลับไปคืนดีกัน ด้วยเหตุผลว่า เราไม่ใช่ และตัดใจจากแฟนเก่าไม่ได้


อาศัยเหตุเก่าคือการที่เคยล่วงศีลข้อ๓มาก่อนทั้งในอดีตชาติและปัจจุบัน จึงเป็นปัจจัยให้บาปกรรมนั้นมาส่งผลในขณะนี้ ให้ได้พบแต่ความผิดหวังในเรื่องคู่ ต้องพบชายที่ไร้ศีลขาดธรรมอยู่เรื่อยๆ แม้มีคนรักเขาก็ทิ้งไป..หรือถูกนอกใจ..เป็นต้น ว่ากันที่จริง นี้เป็นเพียง"เศษกรรม"เท่านั้นเพราะผลโดยตรงของการผิดศีลข้อ๓ที่ได้รับคือการได้เกิดในนรก..

อ้างคำพูด:
เหมือนบาปกรรม ที่ตามหลอกหลอน รู้สึกอยากไถ่ถอนบาปนี้ค่ะ เข้าวัด ไหว้พระ แต่ไม่รู้ว่าทำถูกวิธีหรือเปล่า โดยส่วนตัว เชื่อค่ะ ว่านิสัยส่วนตัวอาจมีส่วนทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่า อีกส่วนหนึ่ง มาจากบาปกรรม ไม่ชาตินี้ ก็ชาติที่แล้ว อยากได้คำแนะนำ เรื่องการชดใช้กรรม จากเจ้ากรรม นายเวร อย่างถูกวิธีด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า


ขออนุโมทนาครับที่มีจิตสำนึกในบาปบุญเช่นนี้ นับว่าคุณเป็นผู้มีบุญมากทีเดียวที่คิดได้เช่นนี้..สิ่งที่ทำไปผิดพลาดนั้นเป็น"กรรมใหม่" ส่วนความทุกข์เดือดร้อนนั้นเป็น"ผล"(วิบาก)ของ"กรรมเก่า" พึงแยกแยะให้ถูกต้องจะได้ไม่เหมาคลุมว่าอะไรๆก็เป็นกรรมเก่า ซึ่งจะเป็นการตีความเข้าข้างตนโดยไม่รู้ถูกผิด มีโทษมาก.

เรื่องการใช้กรรมกับเจ้ากรรมนายเวรนั้น เป็นเรื่องที่ป๊อบปูล่าร์มาก แต่ขอให้เข้าใจว่า แท้จริงนั้น ตนเองคือเจ้าของกรรมที่ทำมาอย่างแท้จริง อย่ามัวแต่กลัวเจ้ากรรมนายเวรอยู่เลย แต่ให้"กลัว"เจตนาของตนเองให้มาก เพราะเจตนาคือ"กรรม" เมื่อทำกรรมแล้ว ที่จะไม่มีผลตามมาหาใช่ฐานะที่จะมีได้ไม่..ดังนั้น พึงเจริญ"กุศลกรรม"อยู่เนืองๆ โดยนัยแห่งกุศลนั้นมีรวมเป็น๓อย่างคือ ทาน ศีลและภาวนา หรือแยกย่อยก็มี๑๐อย่าง ที่เรียกว่า"บุญกิริยาวัตถุ๑๐" คือ

1. ทานมัย การให้ทาน
2. ศีลมัย การักษาศีล
3. ภาวนามัย การอบรมจิตใจ
4. อปจายนมัย การอ่อนน้อมถ่อมตน
5. เวยาวัจมัย การช่วยเหลือผู้อื่น
6. ปัตติทานมัย การแผ่ส่วนบุญ
7. ปัตตานุโมทนามัย การอนุโมทนาบุญ
8. ธัมมัสสวนมัย การฟังธรรม
9. ธัมมเทสนามัย การแสดงธรรม
10. ทิฏฐุชุกรรม การทำความเห็นให้ตรง

ดังนั้นจึงขออนุญาตแนะนำการปฏิบัติเพื่อเปลื้องทุกข์ดังนี้..

ก่อนอื่น ทำความเห็นให้ตรงว่า กรรมมีผลเสมอ แล้วให้ยุติความเดือดร้อนในบาปใหม่ที่ตนทำไปแล้ว เมื่อคิดถึงแล้วร้อนใจทีไร ให้ตั้งอธิษฐานขึ้นว่าเราจะไม่ทำเช่นนี้อีก..เพราะการปล่อยใจให้เดือดร้อนกับบาปที่ทำไปเป็นการปล่อยใจให้เป็นไปกับโทสะ เป็นการทำบาปใหม่แล้วๆเล่าๆ เช่นนี้ย่อมเป็นช่องทางนำร่องเอาบาปอื่นๆไหลเนื่องมาส่งผลทับซ้อนทวีขึ้น จงให้อภัยตนเองที่พลาดพลั้งไป ไม่คิดถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วอีกซ้ำๆซากๆ แล้วหันหน้าเข้าหาที่พึ่งอันเกษมมีการถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ประพฤติศีล๕ ให้มั่นคง สวดมนตร์ทุกวันเท่าที่มีโอกาส สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราทำได้ประจำ เมื่อทำได้เป็นปรกติเรียกว่าอาจิณกรรม คือกรรมที่ทำได้บ่อยๆเนืองๆ ย่อมมีผลมีอานิสงค์มากและแรง หากกำลังของวิบากแห่งบาปเก่าอ่อนลง อำนาจของบุญใหม่นี้จะสามารถตัดรอนวิบากเก่าให้ยุติไปได้ ..แต่หากบาปเก่ามีกำลังมากและยังส่งผลอยู่ ก็ไม่พึงท้อ เพราะการทำกุศลย่อมเป็นทางแห่งความสุขใน อนาคตแน่นอน..อนึ่ง พึงทราบว่า แม้วิบากเมื่อส่งผลลดแล้วก็ย่อมลดหรือหมดอำนาจไป ดังนั้น จึงควรเจริญกุศลให้บ่อยๆเป็นประจำ และละเว้นความชั่วโดยประการทั้งปวง..


อ้างคำพูด:
แบบนี้ ถือว่าผู้ชายคนนั้นเคยมีบ่วงกรรมกันมาใช่ไหมคะ
ดิฉันเป็นน้อยเค้า และเลือกเดินออกมาเอง เพื่อครอบครัวเค้าเอง
แต่เค้ายังไม่ยอมหยุด ทั้งๆที่ดิฉันเองก็เป็นน้อยที่เท่าไหร่ยังนับไม่ถ้วน....
ตอนนี้ได้แต่หนีห่างจากกัน จนต้องระหกระเหินออกมา อยู่คนละจังหวัด
ก็ ยังไม่วาย... ปัจจุบันไม่ได้ติดต่อเค้าแล้ว และโกหกเค้าว่ายังไม่เลิกกับแฟนใหม่ เพราะกลัวเค้าจะมาวุ่นวาย แต่เค้าก็ไม่หยุด แถมยังพูดหยาบคายกับดิฉัน ว่า ขอให้ดิฉันมีสามี 2 คน...
ดูซิคะ ตอนนี้แฟนคนใหม่ดิฉันเค้าก็จากไป แถมตัวเองยังต้องมาเจ็บช้ำกับคำพูดแบบนี้
เข็ดแล้วจริงๆคะ ผู้ชาย...
ขออโหสิกรรมจากครอบครัวเค้า และตัวเค้าด้วยค่ะ...


ไม่มีใครทราบว่าเขาและคุณมีบ่วงกรรมเกี่ยวข้องกันมาก่อนหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือคุณได้เคยทำกรรมคล้ายๆกับที่ชายคนนี้เคยทำมาแล้ว เพราะหากคุณไม่เคยทำกรรมเช่นนี้มา แม้คุณจะอยู่ร่วมกับคนชั่วนี้คุณก็จะไม่ ได้รับทุกข์เดือดร้อนใดๆเลย พูดง่ายๆคือ กรรมของคุณนั่นเองที่จัดสรรค์ความเดือดร้อนทั้งมวลมาให้...ชายคนนั้นเป็นเพียง"เครื่องมือ"หรืออุปกรณ์ให้กรรมของคุณสามารถส่งผลให้ได้เท่านั้นเอง..
สำหรับการที่คุณต้องได้ฟังคำพูดที่ไม่น่าชอบใจจากพาลชนนี้ก็มาจากกรรมที่คุณเคยด่าว่าใครๆมาก่อนเช่นกัน พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนว่าทุกสิ่งล้วนไหลมาจากเหตุทั้งสิ้น หากเหตุเก่าทำมาไม่ดี ผลที่ได้ย่อมเลวตรงตามเหตุ ...ในสังสารวัฏอันยาวไกล..ไม่มีใครทำแต่ความชั่วอย่างเดียวแน่ แม้เราก็ย่อมเคยทำดีมามากเช่นกัน อย่าท้อครับ..นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่บุญกำลังจะมาส่งผลครับ

ขอให้อภัยตนเองแล้วพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสนะครับ ขอให้พ้นทุกข์โดยเร็วไวนะครับ :b47: :b48: :b41:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณ ยอมจำนนฯ

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

อนุโมทนากับกุศลจิตที่กำลังเพียรทำอยู่

ขอให้มีสติกับตัวตน ในปัจจุบัน ในวันนี้ ในขณะนี้
ไม่มีประโยชน์ที่จะมาจดจำ วันคืนเก่า ๆ คำพูดเก่า ๆ
มันผ่านมาแล้ว มันดับไปแล้ว ถ้าคุณ คิดถึงมัน มันก็เกิดขึ้นอีก ไม่คิด ก็ไม่เกิด ,ไม่เกิด ก็ไม่เสียใจ

เข็มแข็ง และอดทน

เชื่อมั่นว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ทองแท้ไม่กลัวไฟ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

:b17:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 10:28
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ โดยเฉพาะสำหรับคุณ dd ที่ให้ความกระจ่าง
ตอนนี้ ตัวเอง ยังมีความรู้สึกเหงาๆเสมอค่ะ เวลาอยู่คนเดียว
ตอนอยู่ที่ทำงานก็ไม่เท่าไหร่ ตอนกลับไปอยู่คนเดียว มันก็ล่องลอยๆ ยังไงไม่ณุ้
เมื่อวานตอนเย็นเลยตัดสินใจ ไปวิ่งออกกำลังกายค่ะ
รวดเดียว 2 กิโล ตอนแรกคิดว่า วิ่งไป ร้องไห้ไป คงสะใจดี
แต่พอเอาเข้าจิงๆ วิ่งไป ก้มมองแต่ปลายเท้าตัวเอง
แล้ว เข้าพุธ ออกโท ไปเรื่อยๆ จนเหนื่อยๆสุดๆไปเลยค่ะ
กลับมาไม่มีอารมณ์จะคิดถึงใครอีกเลย
ใช้พลังงานให้มันหมดไปแบบนี้ รู้สึกเบาดีเหมือนกันค่ะ
กลับมา หลับไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งไที่นอนไม่หลับมาหลายคืน....
แต่ก่อนนอนก็ไม่ลืมที่จะสวดมนต์ แผ่เมตตาให้เจ้ากรรม นายเวร และตัวเองค่ะ
ตอนนี้ รู้สึกเหมือนทุกอย่างเคลื่อนไหวไปอย่างเชื่องช้า...
ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ...
ภาพที่มองออกไปนอกประตูที่ทำงาน มันภาพสโลว์ๆ
สงสัยยังเหนื่อยไม่หาย
ขอบคุณทุกๆคนมากเลยนะคะ
ขอก้มหน้าชดใช้บาปเวรที่ได้ก่อไว้ เพื่อหมดกรรมเสียที....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนา สาธุ ค่ะคุณยอมจำนนฯ

เป็นกำลังใจให้....ขอให้คุณห่างไกลจากกิเลสและชนะมารทั้งปวง

มีความสุขกับชีวิตใหม่ตามที่คุณปรารถนา พบแต่คนดีๆ

สิ่งที่ดีๆ...สว่างทั้งทางโลกและทางธรรมนะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b8:
...พระอริยะที่ท่านปล่อยวางกรรมในอดีต...
...คือเคยถูกทักท้วงเรื่องชอบทำอะไรสักอย่าง...
...ที่เป็นอาบัติ...ท่านก็จะพูดสวนขึ้นมาทันทีเลยว่า...
...เดี๋ยวนี้กระผมไม่ได้ทำแล้ว...คือท่านก็ไม่ต้องอาบัติ...
:b20:
:b27: :b27: :b27: :b27: :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 08:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรๆก็ให้ยกกับความเป็นไปเองของธรรมชาติบ้าง ปลงใจ วางใจ ทุกสิ่งอย่างไม่ยึดติดกันอยู่เองแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่จะได้ดั่งใจ ดั่งหวัง ดั่งต้อง ที่ไปตั้ง ไปต้อง ไปคอยที่จะอะไรๆกับอะไร คอยนิดคอยหน่อยนี่ละคือตัวสมุจทัย ตัวตัณหา พยายามเกาะ ยึด ถือเอาจะทำให้มันเที่ยง คงถาวรละ ดำเนินเหตุแห่งทุกข์ก็มีแต่ทุกข์อยู่ล่ำไป เมื่อรับรู้ รับทราบอย่างนี้ ทุกสิ่งอย่างไม่ใช่สิ่งยึดติด (อนิจจัง) ก็ไม่ควรไปอะไร อะไรกับมัน ปลงใจ ช่างมันแทน

ที่ว่าเหมือนอะไร อะไรมันดูช้าลงก็ เพราะว่าแต่ก่อนมีแต่ไหลตามอารมณ์ไปเรื่อย ตอนนี้มาบำเพ็ญมีสติ สัมปชัญญะแล้ว รู้ทันนั่นนี้แล้วจึงดูเหมือนช้าลง แต่ก็ให้ช่างมัน ปลงใจไม่เอ๊ะอ๊ะ อะไร จึงจะไม่ติดขัด ในภาวะหนึ่ง ภาวะใด

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/


ขอให้มีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2010, 11:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 13:45
โพสต์: 51

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา กับความตั้งใจดีของคุณนะค่ะ และขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นมันไปได้โดยเร็วนะค่ะ

และอยากให้ผู้หญิงที่เป็นกิ๊ก เป็นน้อย เป็นมือที่สาม คิดได้แบบคุณจังเลยค่ะ โลกนี้คงสงบสุขกว่านี้

วันนี้ได้อ่านข่าว อาฆ่าหลานสาวตัวเอง...แค้นที่หลานสาวไปเป็นกิ๊กกับสามีตัวเองมั้ยค่ะ กรรมมันช่างส่งผลรุนแรงจริงๆ เลย คิดเสียว่าคุณยังโชคดี ที่ผลกรรมยังไม่รุนแรงเท่านั้น.... และยังมีบุญอยู่มากที่คิดได้.....

สู้ สู้ สู้ นะค่ะ อย่ายอมแพ้ ต่อ กิเลส ตัณหา... และมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

.....................................................
แค่ปล่อยก็ลอยตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2010, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2010, 21:06
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ขอให้สู้กับสิ่งต่างที่เข้ามาอย่างห้าวหาญและมีธรรมมะในหัวใจนะคะ แล้วเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ฟ้าใสๆก็จะเข้ามาค่ะ :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร