วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 14:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 14:31
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำกรรมอะไรมาถึงมีเลือดออกจากจมูกตั้งแต่เล็กจนโต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


สมุทฐานหรือเหตุให้เจ็บป่วยมี๔อย่างคือ เกิดจากกรรม๑ จิต๑ อุตุ๑ หรืออาหาร๑

โรคบางโรคเกิดเพราะ"จิต"เช่นคนที่เครียดหรือมีโทสะมาก จึงเป็นโรคต่างๆมีความดัน กระเพาะ โรคจิต ฯลฯ.
.โรคเกิดจากอุตุ คืออยู่ที่ร้อนหรือหนาวหรือชื้น ก็ป่วยได้ต่างๆเช่นเป็นหวัด โรคปอด ฯลฯ.

โรคเกิดจากอาหาร ดังที่ทราบกันแพร่หลายในปัจจุบันเช่นกินอาหารมันมากก็เป็นโรคอ้วนหรือกินเนื้อมาทำให้เสี่ยงต่อการ เป็นมะเร็ง ฯลฯ.

สำหรับเหตุจากกรรมใดนั้น นอกจากพระพุทธเจ้าแล้วคนอื่นๆไม่สามารถทราบแน่ชัดและระบุได้..แต่อาศัยพระธรรมที่แสดงไว้ในพระไตรปิฎกก็พออนุมานคาดคะเนเอาว่าเหตุคือการเบียดเบียนผู้อื่นมาก่อน อาจทำร้ายสัตว์ ทารุณสัตว์ (นึกถึงนักมวยที่ชกคนอื่นจนเลือดไหลทางจมูกฯลฯ..)..เป็นต้น

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 00:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตีสัตว์ด้วยไม้ค่ะ แหย่อะไรเข้าจมูกสัตว์ อะไรประมาณนั้นค่ะ แต่ยังดีที่ไม่มาก และเจตนาไม่ได้จะฆ่า กรรมเลยตอบสนองให้เลือดออกจมูกเรื่อยๆค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"กรรม(กำ)ดาว"...ครับ

ล้อเล่นน่า...

ส่วนใหญ่ก็เกิดจากการผิดศีลข้อปาณาติบาต..ครับ

แต่ถ้าให้ดี อย่าไปสนใจเลยว่าเป็นกรรมจากอะไร

เพราะทำให้จิตเราตก ไปคิดถึง "อกุศลกรรม"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2010, 00:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช้เลยครับ..

ผมเชื่อว่า..กรรมทุกชนิด..พวกเรา ๆ ทำกันมาหมด..นั้นแหละ

ต่างกันเพียงแต่..มันจะสนองเราตอนไหน..เท่านั้นเอง

อย่าไปซีเรียดกับมันดีกว่า...มาถึงเราก็ชั้งมัน

มาทำกรรมดี ๆ กันใหม่ดีกว่า..เน๊าะ :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2010, 09:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


สนับสนุน แนวคิด คุณ DD ครับ

ขอเพิ่มเติมในรายละเอียด และแนวทางแก้ไขพอสมควร


สมุฏฐานของรูปไม่ว่าดี หรือ ร้าย มี ๔ อย่าง

กัมมชรูป รูปที่เกิดจากกรรม, จิตตชรูป รูปที่เกิดจากจิต,

อุตุชรูป รูปที่เกิดจากอุต และ อาหารชรูป รูปที่เกิดจากอาหาร


อาจมาจาก สาเหตุเดียว ๒ สาเหตุ ๓ สาเหตุ หรือ ๔ สาเหตุรวมกันครับ

๑.กรรม
๒.จิต
๓.อุตุ
๔.อาหาร

๑. เกิดจากกรรม คือ รูปที่ดีและร้ายที่เกิดขึ้นจากผลแห่งกรรมที่ตนเองทำไว้ อาจให้ผล
ถ้าเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ มักจะเป็นผลจากปาณาติบาต หรือใกล้เคียง เช่นทรมานสัตว์โดยตรง
หรือโดยอ้อม


ถ้าจิตหยั่งรู้ได้เอง ให้แก้ตามอาการ (เคยพบผู้หยั่งรู้กรรมครับ เกาถูกที่คัน หายไว)

ถ้าไม่รู้ ให้หาผู้รู้ดูให้ แล้วแก้ แต่ยังไงต้องแก้ด้วยตัวเอง

วิธีแก้โรคภัยด้วยตัวเอง (ห้ามอธิษฐานจิต ยินดีรับกรรม ชดใช้เวร ที่เคยทำมา แบบนี้ เจ้าหนี้มาทวงตรึม
เพียบ หนัก ไม่ฟื้น ต้องผ่อนผันให้เป็น ให้สุขภาพแข็งแรง ทำงานใช้หนี้ครับ)

เมื่อทำกรรม(ไม่ดี)แล้ว

ผู้ทำจะได้รับผลกรรมที่ทำมาพอสมควรระดับนึง เจ้ากรรมนายเวรพอใจ

ให้ทำบุญหนัก เช่น เจริญวิปัสสนา ถวายพระพุทธรูปใหญ่ สังฆทานถูกตามวิธี

ให้อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร โดยระบุให้ชัดเจนเท่าที่ทำได้ คือให้ผู้ที่ทำให้เราเป็นแบบนี้

แล้วเจ้ากรรมนายเวร รับบุญ อนุโมทนา แล้วอโหสิกรรมให้

(บางส่วน บางวิธี นะครับ มีรายละเอียดเยอะคับ ถามผู้รู้ในนี้ มีเยอะ)

แบบนี้เป็นการ ทำบุญใช้หนี้ เฉพาะกรณี แต่ถ้าใช้วิธีทำบุญให้มาก อย่าให้บาปมีโอกาสให้ผล เป็นทาง
เลือกที่ดีอย่างหนึ่งครับ


๒. เกิดจากจิต คือ รูปดีและร้ายที่เกิดจาก จิตของตนเอง จิตผ่องใส โกรธ เครียด เป็นต้น
ก็ทั่ว ๆ ไป รู้กันอยู่ครับ เกิดแต่ใจ

๒.๑ มองโลกแง่ดี คิดบวก ทำจิตปภัสรให้บ่อย

๒.๒ เจริญเมตตาภาวนาให้มาก

๒.๓ รู้ละ รู้ปล่อยวาง มองรูป มองนามให้เห็น (ข้อนี้ยากมาก ๆ แต่ถ้าทำได้ รักษาได้ทุกโรค)



๓. อุตุ แปลตามศัทพ์ว่า ฤดู หมายถึง ความเย็น ร้อน อ่อน แข็ง หย่อน ตึง ของรูป

แปลแบบชาวบ้านเรา คือ การทำให้อิริยาบถ ๔ ให้สม่ำเสมอ สมดุลกัน ออกกำลังกาย

อากาศและการหายใจ ระบบหมุนเวียนโลหิต ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น แข็งแรง

ร่างกายจะรักษาตัวมันเอง โดยธรรมชาติ



๔. อาหาร อันนี้ต้องถามเหล่านักโภชนาการ หรือนักโภชนบำบัดทั้งหลาย
อาหารที่เกื้อกูลต่อโรค เป็นคุณ เป๊นโทษแต่ละโรคในแต่ละคน อาจจะแตกต่างกันไป
แต่โดยรวมคือ ควรทานอาหารให้พอเหมาะ โดยเฉพาะประเภทพืชให้มาก
ขอเป็นพืชที่สด ๆ จะดีต่อสุขภาพ


ที่สำคัญ จิบน้ำบ่อย ๆ ครับ น้ำโมเลกุลเล็ก จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดี เลือดไม่หนืด หัวใจทำงานไม่หนัก การกินยาก็ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน ให้รักษาสุขภาพแบบองค์รวมให้ดีทุก ๆ ส่วน มันจะซ่อมแซมมันเอง ครับ

องค์รวมใหญ่ คือ แก้ทั้งกรรม ทั้งจิต ทั้งบริหารร่างกาย ทั้งอาหาร คือ เหมาเข่งคับ

อนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2010, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ก้ทำที่ตรงข้ามกับข้อปาณาติบาต บ้างสิ เพิ่มความเมตตาให้กับจิต โดยทำทานด้วยการปล่อยชีวิตสัตว์
เป็นประจำ ปล่อย หอย ปลา ปลาไหล ตัวเล็กก้ได้นะ หาง่ายและราคาถูก ทำให้ไม่สิ้นเปลืองด้วย
บวก เจริญพุทธานุสสติ ด้วยการสวดพุทธมนต์บทไหนก้ได้เป็นประจำ จะได้ทั้งทานมัย ศีลมัยและอนุโมทนามัยไปในตัวพร้อมกันไปเรย และ ที่ขาดไม่ก้มีความอดทนกับโรคเรื้อรังที่ยังเป็นอยู่ อดทน
กับการสร้างบุญ คือ ความสบายใจ คืนกลับมายังตัวเอง เช่น พาหุง-มหากา กับบทถวายพรพระ พร้อมทั้งแผ่ไปยังเพื่อนร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตายในโลกนี้ และสรรพสัตว์ที่เราอาจเคยเบียดเบียนเขาไว้ในอดีต
พูดไป ก้ไม่รู้จขกท.จะมาอ่านอีกรอบรึป่าว ถ้าอย่างนั้นพูดเท่านี้ก่อนคับ ไม่จขกท.มาอ่านหรือมา
โพสท์ ผมถึงจะมาตอบอีกที หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :b34: :b28: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2010, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b3:
...ขออนุญาตเขียนตามหลักเหตุและผลของกรรม...
:b13:
...เอากรรมในปัจจุบันก่อน...แคะ...แกะ...เกาในรูจมูกบ่อยไหม...
...ในจมูกเป็นแค่เยื่อบางๆห่อเส้นเลือดฝอยเอาไว้...เวลามีฝุ่นเข้า...
...เราก็จะจาม...ร่างกายก็จะผลิดเมือกลื่นๆมาป้องกันร่างกายอีกที...
...พอนานเข้ามันก็จะแข็งกลายเป็นขี้มูกแข็งติดที่เยื่อบางๆในจมูก...
:b6:
...เวลาใช้นิ้วไปแกะ...มันก็ทำให้เยื่อบางๆลอกออก...เส้นเลือดฝอยก็แตกเลือดออก...
...กลายเป็นเลือดกำเดาไหลออกมา...บางทีไม่แคะแต่อากาศร้อนไปมันก็แตกออกมา...
...บางคนเครียดมากๆ...ความดันทุรังสูงเลือดขึ้นหน้า...ก็มีเลือดกำเดาไหลก็มีอ่ะค่ะ...
...ร่างกายเรามันบอบบางตกจากที่สูงก็แตกทะลุง่ายมาก...ทนร้อนมากหนาวมากก็ไม่ได้...
:b32:
...กรรมก็น่าจะมีส่วนไม่ทางตรงและทางอ้อม...ก็เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ล้วนเหตุแต่กรรมมั้งคะ
:b9:
:b22:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2010, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2010, 10:36
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้นเหตุของเลือดออกจมูกคืออะไร ไปหาหมอมาหรือยังครับ ถ้าไปหามาแล้ว หมอว่าอย่างไร แล้วมีทางรักษาให้หายได้ไหม ขั้นตอนเหล่านี้ปฏิบัติไปหรือยังครับ ถ้าข้อมูลมีแค่นี้ ผมว่า ยังสรุปอะไรไม่ได้นะครับ นอกจากว่าเราจะทำไปตามกระบวนการที่ควรจะทำก่อน ด้วยความปรารถนาดี :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร