ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
การอโหสิกรรม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=22498 |
หน้า 3 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | เมธาพร ภูสอน [ 04 เม.ย. 2013, 22:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การอโหสิกรรม |
อนุโมทนาบุญด้วยคะ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 ก.ค. 2013, 06:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การอโหสิกรรม |
การอโหสิกรรม เป็นการให้อภัยกับผู้ได้กระทำกับเรา โดยการไม่ถือสาเอาความ เป็นการตัดวิบากกรรมที่จะสืบต่อไปข้างหน้า ดังมีมาในธรรมบท เรื่องในอรรถกถาพระธรรมบท พระพุทธโฆษาจารย์เล่าว่า ครั้งหนึ่ง มีคฤหบดีผู้หนึ่งมีภรรยาคนแรกเป็นหมัน ต่อมาเขาได้นำหญิงอีกคนหนึ่งมาเป็นภรรยาน้อย เหตุการณ์โกลาหลเกิดขึ้นเมื่อภรรยาหลวงนำยาแท้งลูกมาให้ภรรยาคนน้อยกิน จนกระทั่งภรรยาน้อย ตกเลือดเสียชีวิตไปในที่สุด ในชาติต่อมา ตามกฎแห่งกรรม หญิงทั้งสองคนนี้ก็ตามล้างตามผลาญ กันอีก โดยหญิงคนหนึ่งเกิดเป็นไก่ ส่วนหญิงอีกคนหนึ่งเกิดเป็นแมว อีกชาติต่อมาเมื่อหญิงคนหนึ่ง เกิดเป็นเนื้อสมัน หญิงอีกคนหนึ่งเกิดเป็นนางเสือดาว และในที่สุดคนหนึ่งมาเกิดเป็นธิดาของเศรษฐี ในกรุงสาวัตถี ส่วนอีกคนหนึ่งมาเกิดเป็นทางยักษิณี นางยักษิณีตนนี้มีชื่อว่านางกาลียักษิณี ได้ไล่ ติดตามหญิงบุตรสาวของเศรษฐีที่อุ้มบุตรอยู่ในวงแขน เมื่อนางผู้ถูกไล่ติดตามนี้ทราบว่าพระศาสดา กำลังทรงแสดงธรรมอยู่ที่วัดพระเชตวัน จึงวิ่งหนีไปทางนั้น แล้วนำบุตรที่อุ้มมาไปวางลงที่เบื้องบาท ของพระศาสดา นางกาลียักษิณีถูกเทวดาผู้รักษาประตูพระเชตวันสกัดไว้ที่ประตูไม่ยอมให้เข้าไป แต่ต่อ มาพระศาสดาได้อนุญาตให้นางเข้าไปได้ และทั้งสองคนคือหญิงที่เป็นมนุษย์กับหญิงที่เป็นยักษ์ก็ได้รับ การอบรมสั่งสอนจากพระศาสดา โดยพระศาสดาได้ตรัสเล่าเรื่องกฎแห่งกรรมที่ทั้งสองเคยล้างผลาญกัน มาในในอดีตชาติ ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นภรรยาของสามีคนเดียวกัน เป็นแมว เป็นแม่ไก่ เป็นเนื้อสมัน และ เป็นนางเสือดาวตามลำดับ พระศาสดาทรงตรัสอบรมนางยักษิณีและนางกุลธิดาว่า “เหตุไร เจ้าจึงทำ อย่างนั้น ก็ถ้าพวกเจ้าไม่มาสู่เฉพาะหน้าพระพุทธเจ้าผู้เช่นเราแล้ว เวรของพวกเจ้า จักได้เป็นกรรมตั้งอยู่ ชั่วกัลป์ เหมือนเวรของงูกับพังพอน, ของหมีกับไม้สะคร้อ และของกากับนกเค้าง, เหตุไฉน พวกเจ้าจึง ทำเวรและเวรตอบแก่กัน เพราะเวรย่อมระงับได้ด้วยความไม่มีเวร หาระงับด้วยเวรไม่” จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 5 นี้ว่า น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ อเวเรน จ สมฺมนฺติ เอส ธมฺโม สนนฺตโน ฯ ในกาลไหนๆ เวรทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมไม่ระงับด้วยเวรเลย ก็แต่ย่อมระงับได้ด้วยความไม่มีเวร ธรรมนี้เป็นของเก่า. เมื่อพระศาสดาทรงแสดงพระสัทธรรมเทศนาจบลง นางยักษิณีได้บรรลุพระโสดาบัน. |
เจ้าของ: | บัวฟ้า [ 24 ม.ค. 2014, 21:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การอโหสิกรรม |
สาธุ...อโหสิกรรมกันแล้ว ขอให้จบในชาตินี้ ชาติหน้าไม่ขอเกิด กล้วเจอคนเลว |
เจ้าของ: | กุหลาบดำ [ 14 พ.ค. 2014, 00:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การอโหสิกรรม |
สาธุ ขออนุโมทนาบุญ ในทุก ๆ คำตอบค่ะ ขอให้ลูก สามารถอโหสิกรรม ได้ด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยเถิดค่ะ |
เจ้าของ: | บัวฟ้า [ 15 พ.ค. 2014, 22:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การอโหสิกรรม |
กุหลาบดำ เขียน: :b42: สาธุ ขออนุโมทนาบุญ ในทุก ๆ คำตอบค่ะ ขอให้ลูก สามารถอโหสิกรรม ได้ด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยเถิดค่ะ ตอนนี้...บัวฟ้าไม่รัก...ไม่แค้น...ไม่โกธร...ไม่เกลียด...เฉยๆ แล้ว...เรียกว่า...สามารถอโหสิกรรม ได้ด้วยใจบริสุทธิ์ ไหมค่ะ |
เจ้าของ: | กุหลาบดำ [ 06 เม.ย. 2015, 17:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การอโหสิกรรม |
ยากจังคะ ผ่านมาสามปี แต่เรายังอโหสิกรรมให้เค้า ด้วยใจบริสุทธิ์ยังไม่ได้เลยคะ คือ ถ้าไม่เจอไม่เห็นจะรุสึกเฉยๆ ไม่สนใจอะไร แต่พอคิด หรือพอจะเจอ เราจะรุสึกไม่อยากเจอ จะปฏิเสธทุกครั้ง และมักคิดว่าชาตินี้อย่ามาเจอกันอีกเลย แบบนี้ถือว่า เรายังไม่ได้อโหสิกรรมให้เค้าใช่มั้ยคะ บอกตรงๆ คะ ใจเรารุสึกไม่อยากเจอคนๆนี้จริงๆ แบบนี้จะต้องทำอย่างไรให้ใจเราสามารถคิดอโหสิกรรมด้วยใจบริสุทธิ์ได้คะ ผู้รู้ ช่วยตอบด้วยนะคะ |
หน้า 3 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |