ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=21704
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 16 เม.ย. 2009, 13:30 ]
หัวข้อกระทู้:  คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

จูฬกัมมวิภังคสูตร
เขียนโดย พระตะวัน ปัญญาวชิโร

"คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก
คนที่มักฆ่าสัตว์ คนที่มักโกรธ พยาบาท
คนที่มักดูถูกเหยียดหยามคนอื่น
คนที่ไม่ชอบทำบุญให้ทาน
ผลกรรมจะเป็นเช่นไร ค้นหาคำตอบ"


จูฬกัมมวิภังคสูตร ว่าด้วยกฎแห่งกรรม
ออกอากาศในรายการตะวันธรรม
โดยพระตะวัน ปัญญาวชิโร วัดป่าอริโซน่า
เมืองแชนด์เลอร์ รัฐอริโซน่า สหรัฐอเมริกา
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยสกลนคร
สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าถ้ำโพรง

:b48: :b48: :b48:

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี.
สมัยนั้นแล สุภมาณพ
โตเทยยบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับ
แล้วได้ทักทายปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้นผ่านคำทักทายปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
ได้นั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง

(๕๘๐) สุภมาณพ โตเทยยบุตร พอนั่งเรียบร้อยแล้ว
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
อะไรหนอแล เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่
ปรากฏความเลวและความประณีต
มนุษย์ทั้งหลายย่อมปรากฏมีอายุสั้น มีอายุยืน
มีโรคมาก มีโรคน้อย มีผิวพรรณทราม มีผิวพรรณงาม
มีศักดาน้อย มีศักดามาก มีโภคะน้อย มีโภคะมาก
เกิดในสกุลต่ำ เกิดในสกุลสูง ไร้ปัญญา มีปัญญา
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
ให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ปรากฏความเลวประณีต.

(๕๘๑) พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนมาณพ
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้.

สุภมาณพ. ข้าพระองค์ย่อมไม่ทราบเนื้อความโดยพิสดารของอุเทศ
ที่พระโคดมผู้เจริญตรัสโดยย่อ มิได้จำแนกเนื้อความโดยพิสดารนี้ได้
ขอพระโคดมผู้เจริญ ได้โปรดแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์
โดยประการที่ข้าพระองค์จะพึงทราบเนื้อความ
แห่งอุเทศนี้โดยพิสดารได้เถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้า. ดูก่อนมาณพ ถ้าอย่างนั้น ท่านจงฟัง
จงใส่ใจให้ดี เราจะกล่าวต่อไป.
สุภมาณพ เทยยบุตร
ทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ชอบแล้วพระเจ้าข้า.

(๕๘๒) พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูก่อนมาณพ
บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม
เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง
เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด
หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต
เขาตายไปจะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุสั้น.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่ออายุสั้นนี้
คือ เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคนโหดเหี้ยม
มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร
ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต.

ว่าด้วยการเว้นขาดจากปาณาติบาต

(๕๘๓) ดูก่อนมาณพ ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม ละปาณาติบาตแล้ว เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต
วางอาชญา วางศาสตราได้ มีความละอาย ถึงความเอ็นดู
อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะกรรมนั้นอันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ภายหลัง จะเป็นคนมีอายุยืน.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่ออายุยืนนี้ คือ ละปาณาติบาตแล้ว
เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต วางอาชญา วางศาสตราได้
มีความละอาย ถึงความเอ็นดู
อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่.

(๕๘๔) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีปกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ
หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา
เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น
อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรคมาก.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมากนี้
คือ เป็นผู้มีปกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ
หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา.

(๕๘๕) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีปกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ
หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น
อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรคน้อย.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคน้อยนี้
คือ เป็นผู้มีปกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ
หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาสตรา.

(๕๙๖) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง
ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย
ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ.
เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะกรรมนั้นอันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง
จะเป็นคนมีผิวพรรณทราม.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อผิวพรรณทรามนี้
คือ เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง
ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย
ทำความโกรธ ความร้ายและความขึ้งเคียดให้ปรากฏ.

ความเป็นผู้ไม่มักโกรธ

(๕๘๗) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง
ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย
ไม่ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ.
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้าเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนน่าเลื่อมใส.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใสนี้
คือ เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง
ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย
ไม่ทำความโกรธ ความร้าย ความขึ้งเคียดให้ปรากฏ.

(๕๘๘) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีตาม
บุรุษก็ตาม มีใจริษยา ย่อมริษยา มุ่งร้าย
ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้
และการบูชาของคนอื่น. เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น
อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีศักดาน้อย.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อยนี้
คือ มีใจริษยา ย่อมริษยา มุ่งร้าย ผูกในอิจฉาในลาภสักการะ
ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น.

(๕๘๙) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นผู้มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย
ไม่ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ
การไหว้ และการบูชาของคนอื่น.
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีศักดามาก.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดามากนี้
คือ มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย
ไม่ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ
ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น.

(๕๙๐) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม ย่อมไม่เป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้
ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย
เครื่องตามประทีป แก่สมณะพราหมณ์.
เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโภคะน้อย.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อยนี้
คือ ไม่ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้
ที่นอน ที่อยู่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะพราหมณ์.

การให้ข้าวเป็นต้น

(๕๙๑) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม ย่อมเป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้
ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย
เครื่องตามประทีป แก่สมณะพราหมณ์.
เขาตายไป จะเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าสู่สุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโภคะมาก.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมากนี้
คือ ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้
ที่นอน ที่อยู่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะพราหมณ์.

(๕๙๒) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง
ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ
ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ
ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง ไม่สักการะแก่คนที่ควรสักการะ
ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ
ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ ไม่บูชาคนที่ควรบูชา.
เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนตระกูลต่ำ.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำ
คือ เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้
ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ
ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง
ไม่สักการะแก่คนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ
ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ ไม่บูชาคนที่ควรบูชา.

(๕๙๓) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง
ย่อมกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ
ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่ควรสมควรแก่ทาง
สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ
นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา.
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลสูง.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีสกุลสูงนี้
คือ เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง
ย่อมกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ
ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง
สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ
นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา.

ความไม่สอบถาม

(๕๙๔) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม ย่อมไม่เป็นผู้เข้าหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า
อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ
อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ
ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน
หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน.
เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากเขาตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญาทราม.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทรามนี้
คือ ไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า
อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ
อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ
อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน
หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน.

(๕๙๕) ดูก่อนมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม
บุรุษก็ตาม ย่อมเป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า
อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ
อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ
ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสิ้นทุกข์สิ้นกาลนาน
หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน. เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้าเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญามาก.
ดูก่อนมาณพ ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญามากนี้
คือ เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า
อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ
อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ
ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน
หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน.

(๕๙๖) ดูก่อนมาณพ ด้วยประการฉะนี้แล
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้น ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุสั้น
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุยืน ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีอายุยืน
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคมาก
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโรคน้อย
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อผิวพรรณทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีผิวพรรณทราม
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใส ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนน่าเลื่อมใส
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อศักดาน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดาน้อย
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อศักดามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีศักดามาก
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อย ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะน้อย
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อความมีโภคะมาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีโภคะมาก
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำ ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลสูง ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนเกิดในสกุลสูง
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทราม ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญาทราม
ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญามาก ย่อมนำเข้าไปสู่ความเป็นคนมีปัญญามาก
ดูก่อนมาณพ สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีต.

(๕๙๗) เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วอย่างนี้ สุภมาณพ โตเทยยบุตร
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า แจ่มแจ้งแล้ว พระเจ้าข้า
แจ่มแจ้งแล้ว พระเจ้าข้า
พระโคดมผู้เจริญทรงประกาศธรรมโดยปริยายมิใช่น้อย
เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ หรือเปิดของทีปิด
หรือบอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีปในที่มืด
ด้วยหวังว่าผู้มีตาดีจักเห็นรูปได้ฉะนั้น
ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระโคดมผู้เจริญ พระธรรม
และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
ขอพระโคดมผู้เจริญ จงทรงจำ ข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก
ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.

จบ จูฬกัมมวิภังคสูตรที่ ๕
http://www.wataz.org


คัดลอกจาก...
http://www.kamma.kroophra.net/index.php ... &Itemid=50

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  annyko [ 19 เม.ย. 2009, 15:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b49: ชอบคุณลูกโป่งค่ะ มีแต่ข้อความดีๆ มาก ตลอดเลย

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 19 เม.ย. 2009, 21:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 26 เม.ย. 2009, 15:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  หมูตอน [ 29 พ.ค. 2009, 14:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  น้องจ๋า [ 11 มิ.ย. 2009, 12:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b8: :b8: อนุโมทนาสาธุ สาธุ ค่ะ

เจ้าของ:  -dd- [ 11 มิ.ย. 2009, 13:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

อนุโมทนาสาธุครับ :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ลุงชู [ 16 มิ.ย. 2009, 08:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b8:
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ข้าพเจ้าขออนุโมทนา

เจ้าของ:  สุนันท์ [ 22 มิ.ย. 2009, 13:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

:b8: :b8: :b8: เจ้าคะ

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 22 มิ.ย. 2009, 14:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

อดใจรอสักกะเดี่ยว หลังวันที่ 12 สิงหา

จะนำเรื่องจริงผ่าลานธรรมจักรมาลงให้อ่าน คอยติดตาม

เรื่องจริงผ่านธรรมจักร

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 22 มิ.ย. 2009, 17:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

tanaphomcinta เขียน:
อดใจรอสักกะเดี่ยว หลังวันที่ 12 สิงหา

จะนำเรื่องจริงผ่าลานธรรมจักรมาลงให้อ่าน คอยติดตาม

เรื่องจริงผ่านธรรมจักร


ตกลงว่า ผ่า หรือ ว่า ผ่าน ครับ :b10: :b12:
จะคอยติดตามนะครับท่าน tanaphomcinta
สาธุครับ :b8:

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 22 มิ.ย. 2009, 19:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

อมิตาพุทธ เขียน:
tanaphomcinta เขียน:
อดใจรอสักกะเดี่ยว หลังวันที่ 12 สิงหา

จะนำเรื่องจริงผ่าลานธรรมจักรมาลงให้อ่าน คอยติดตาม

เรื่องจริงผ่านธรรมจักร


ตกลงว่า ผ่า หรือ ว่า ผ่าน ครับ :b10: :b12:
จะคอยติดตามนะครับท่าน tanaphomcinta
สาธุครับ :b8:


โหสิโหสิโหสิ ผ่านจะผ่าน คนแก่แล้วก็ยังงี้แหละ

ตาลายมั่งใจมันไวกว่ามือ และก็ตาไม่ดีด้วยแหละ ดูแต่ต้องพิมพ์ตัวหญ่ายๆไว้

เจ้าของ:  แมวขาวมณี [ 22 มิ.ย. 2009, 23:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

tanaphomcinta เขียน:
อมิตาพุทธ เขียน:
tanaphomcinta เขียน:
อดใจรอสักกะเดี่ยว หลังวันที่ 12 สิงหา

จะนำเรื่องจริงผ่าลานธรรมจักรมาลงให้อ่าน คอยติดตาม

เรื่องจริงผ่านธรรมจักร


ตกลงว่า ผ่า หรือ ว่า ผ่าน ครับ :b10: :b12:
จะคอยติดตามนะครับท่าน tanaphomcinta
สาธุครับ :b8:


โหสิโหสิโหสิ ผ่านจะผ่าน คนแก่แล้วก็ยังงี้แหละ

ตาลายมั่งใจมันไวกว่ามือ และก็ตาไม่ดีด้วยแหละ ดูแต่ต้องพิมพ์ตัวหญายๆไว้


แมวขาวฯว่าใช้ชื่อ... เรื่องเล่าผ่านลาน น่าจะเหมาะนะคะท่าน tanaphomcinta
เพราะเรื่อง จริง เค้าให้ผ่าน จอ ไปแล้วอ่ะค่ะ


อิ อิ
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  tanaphomcinta [ 23 มิ.ย. 2009, 11:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

ได้เลยเดี๋ยวจัดให้

เจ้าของ:  AAAA [ 26 ม.ค. 2019, 17:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่ชอบอิจฉาคนอื่น คนที่ชอบพูดโกหก...ผลกรรมเป็นอย่างไร

4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/