วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2009, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

แก้กรรม
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา



ชีวิตทุกชีวิตมันขึ้นอยู่กับกฎของกรรม

สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าสอนว่าสิ่งนี้มันเป็นบาป
พระองค์เคยทำบาปสิ่งนี้ตกนรกมาแล้ว

สิ่งนี้เป็นบุญพระองค์เคยทำบุญขึ้นสวรรค์มาแล้ว

การบำเพ็ญตบะบำเพ็ญฌานได้สำเร็จฌานสมาบัต
ตายแล้วไปเกิดเป็นพระพรหมในพรหมโลก พระองค์ก็เคยปฏิบัติมาก่อนแล้ว

เรื่องบุพเพนิวาสานุสติญาณการระลึกชาติในหนหลังได้ทำให้พระองค์รู้สิ่งเหล่านี้
เพราะฉะนั้นคำสอนของพระองค์นี้มันจึงเป็นสัจจธรรม
เพราะเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ลองของมาแล้วด้วยตนเอง

อย่างที่ท่านมาสอนให้เราบำเพ็ญเพียรภาวนาให้เราบรรลุอริยมรรคอริยผล
พระองค์ก็ปฏิบัติสำเร็จมาก่อนแล้วจึงได้มาสอนเรา
ไม่ใช่ลักษณะที่ว่านอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาเทศน์สอน
ล้วนแต่พระองค์เอาของจริงมาว่ากันทั้งนั้น

วิถีชีวิตของคนเราจะผิดหวังสมหวังมีสุขมีทุกข์มั่งมียากดีมีจนอย่างไร
มันขึ้นอยู่กับกฎของกรรม
แต่ถ้าไปหาหมอโหรเขาว่าดวงชะตามันตก

แต่แท้ที่จริงกฎของกรรมอันเป็นบาปซึ่งเราอาจจะทำแต่ชาติก่อนภพก่อนมันให้ผล
แล้วทีนี้ เราจะไปแก้กรรม แก้ผลของกรรมนี่มันแก้ไม่ได้
ใครทำกรรมใดไว้ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น จะดีก็ตามชั่วก็ตาม

แต่พิธีกรรมที่เขาให้ทำนั้น บางอย่างถ้ามันถูกต้องเป็นแนวทางแห่งบุญกุศล
พอเราทำแล้วมันได้บุญ บุญนี้ก็ต่อวิถีชีวิตของเราให้ยืนยาวไปอีกสักพักหนึ่ง
เมื่อหมดบุญแล้ว กรรมเก่าที่มันวิ่งตามอยู่เหมือนกับหมาไล่เนื้อ
มันทันเมื่อไรมันก็กระโดดกัดเมื่อนั้น


เพราะฉะนั้น การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรมแก้เวร
เราจะตัดกรรมตัดเวรก็รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์


ทีนี้ กรรม ที่เราทำนั้นผลของมัน ไม่มีใครตัดได้
แต่ เวร คือความผูกพยาบาทอาฆาตกันนี้เรา สามารถตัดได้
ถ้าหากว่าเราพูดจาตกลงกันได้


เช่นอย่างคนข้างบ้านเคยด่ากันอยู่ทุกวันๆ ๆ
ต่างคนต่างก็อาฆาตพยาบาทจองเวรซึ่งกันและกัน
ถ้าหากว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วเรายกโทษให้กัน อันนี้เรียกว่า ตัดเวร
คือตัดความผูกพยาบาทอาฆาต

แต่ว่าผลกรรมที่เราด่าเขา เขาด่าเรา นั่นมันตัดไม่ได้

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 07:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ม.ค. 2009, 18:00
โพสต์: 64


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เวร ตัดได้ แต่กรรม ตัดไม่ได้ เหมือนเคยได้ยินหลวงพ่อปราโมทย์พูดเหมือนกันนะ :b32:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ทุกคนต้องมีกรรมเป็นของตน :b8:
:b48: วิถีชีวิตของคนเราจะผิดหวังสมหวังมีสุขมีทุกข์มั่งมียากดีมีจนอย่างไร
มันขึ้นอยู่กับกฎของกรรม แต่ถ้าไปหาหมอโหรเขาว่าดวงชะตามันตก
:b48:
ถามค่ะ เราเคยดูหมอ (ในส่วนตัวไม่นิยมและไม่เชื่อ)แค่ดูสนุกๆ แต่ต้องอึ้งนะคะ เมื่อหมอสามารถ
พูดเรื่องเราได้แม่นมากๆ จากคนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอกันมาก่อน แบบนี้เค้ามีญาณ หรืออะไรหรือเปล่าคะ
ที่สามารถรู้เรื่องคนอื่นๆได้ โดยใช้แค่วันเดือนปีเกิด หรือไพ่แค่นั้น
:b48: อย่างวันก่อนดูสแกนกรรมดูแล้วก็เกิดความสงสัยน่ะค่ะ ว่ามีจริงหรือ :b10:
:b48: ใครมีความคิดเห็นลองมาคุยกันให้ฟังบ้างซิคะ คือเราจะเชื่อเรื่องเวรกรรมมากกว่า แต่ในบาง
คนจะเชื่อในหมอดูมากๆ แบบน้องเราหมอดูทักว่าดวงตก ต้องแก้ไขด้วยการทำบุญด้วยซื้อโลงศพ
เราว่าตรงนี้ดีนะคะได้บุญ แต่คิดว่าไม่เต็ม 100% เพราะทำเพื่อหวังผลตามหมดดูทัก แต่ยิ่งกว่านั้น
หมอดูบอกว่าต้องซื้อแล้ว ต้องลงไปนอนแก้ดวงในโลงด้วยถึงจะแก้ได้ แบบนี้มัน :b6: :b6: งมงาย
นะคะ เราบอกเลยว่าเดี๋ยวนี้ไม่เชื่อหมอดูเลย แต่ก็ไม่เคยขวางคนที่เชื่อนะคะ เดี๋ยวโดน :b34: :b34:
:b39: ขออนุญาต K.คามินธรรมใช้กระทู้นี้นะคะ เพราะเดี๋ยวคุณต้องมีคำตอบมาแน่ๆ :b39: :b39:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


วิบากกรรมนั้นแม้ตัดไม่ได้ แต่ทำให้เบาบางลงได้ พระพุทธองค์เรียกว่า "การก้าวล่วงบาปกรรม" จริงๆ การก้าวล่วงบาปกรรมนั้น ก็คือการสำนึกบาปอย่างจริงใจนั่นเอง แล้วตั้งใจมั่นว่า จะไม่ทำบาปกรรมเข่นนั้นอีก สิ่งนี้เป็นการขจัดมลทินแห่งอกุศลออกไปจากจิต(ใต้สำนึก) ทำให้กรรมดำกลายเป็นกรรมขาว

พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:

" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "

ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง แม้เจ้ากรรมนายเวรไม่ได้ให้อภัย

ส่วนในปรโลก วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป

ตัวอย่าง . หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ในวัยเด็กท่านเคยฆ่าไก่ตายเป็นจำนวนมากด้วยการหักคอไก่ ต่อมาหลังจากท่านมาบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็สำนึกในบาปกรรมที่เคยได้ทำในวัยเด็ก และท่านก็รู้ในจิตของท่านจากการปฏิบัติกรรมฐานด้วยว่า เหล่าวิญญาณไก่ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านตามมาทวงหนี้แล้ว ท่านก็ต้องรับผลกรรมนั้น โดยต้องคอหักตายในวันที่ 14 ตุลาคม 2521 (ขออภัยถ้าจำผิด)

และแล้ว.....เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ ท่านรถคว่ำคอหัก แต่ทว่าท่านไม่ตายครับ อยู่ต่อมาถึงทุกวันนี้ให้เราได้กราบไหว้ เป็นผลมาจากการสำนึกบาปหรือการก้าวล่วงกรรมของหลวงพ่อจรัญ ทำให้วิบากกรรมของท่านนั้นเบาบางลงนั่นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:

" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "

ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง แม้เจ้ากรรมนายเวรไม่ได้ให้อภัย

แต่ถ้าเจ้ากรรมนายเวรให้อภัย วิบากกรรมนั้นจะหมดไปเลย มีอีกครั้งหนึ่งหลวงพ่อจรัลป่วยเป็นโรคลำไส้เน่า หลวงพ่อจรัลทำกรรมฐานรู้เห็นในจิตว่า โรคที่ท่านเป็นนี้ เกิดจากท่านเคยตอนไก่มามากในวัยเด็ก แต่ทำไม่เป็น ทำให้ลำไส่ไก่เน่าและพวกมันต้องตาย

ครั้งนี้นอกจากท่านสำนึกบาป ทำการก้าวล่วงบาปกรรมแล้ว ท่านยังแผ่เมตตาให้กับวิญญาณของไก่เหล่านั้นด้วย ผลของการแผ่เมตตาเหมือนกับการใช้หนี้กรรม คุณเป็นหนี้ 100 บาท แต่แผ่เมตตาจากฌานซึ่งมีค่าอาจจะ 10 ล้านบาท มีที่ไหนที่เจ้าหนี้จะไม่พอใจ เมื่อเจ้าหนี้พอใจแล้ว กรรมนั้นก็หมดไป หลวงพ่อจรัลหายจากโรคไส้เน่า

สรุป

หลวงพ่อจรัญไม่ตายจากโรคไส้เน่า และยังหายป่วยด้วย เป็นผลมาจาก
1. ทำการก้าวล่วงบาปกรรม
2. แผ่เมตตาใช้หนี้กรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณพลศักดิ์อ้างเรื่อง "การก้าวล่วงบาปกรรม"

อีกทั้งยังอ้างไปทำนองที่ว่าพระพุทธเจ้าพูดอย่างนั้นอย่างนี้
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:
" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "



ขอให้คุณช่วยเอาหลักฐานในพระไตรปิฏกมาได้ไหม
ว่าตรงไหนพระพุทธเจ้าพูด



-----------------------

อีกประการหนึ่ง ที่ว่าหลวงพ่อจรัญก้าวล่วงบาปกรรม นี่ก็เป็นการเล่นแร่แปรธาตุ
เหตุการณ์ของหลวงพ่อเป็นเรื่องจริงที่ท่านเทศน์
แต่ว่าเอาการก้าวล่วงบาปกรรมที่คุณไปยืมเอาศาสนาคริสต์(สารภาพบาป) มาผสมปนเปกันไปหมด
หลวงพ่อไม่ได้สอนเรื่องก้าวล่วงบาปอะไรนี้เลยสักนิดเดียว
ถ้าหลวงพ่อสอน ช่วยเอาหลักฐานมาด้วย
-----------------------



ท่านผู้ใดสนใจคำพูดคุณพลศักดิ์
ขอให้พิจารณาให้มากถึงมากที่สุด
เพราะชอบแอบอ้างพุทธพจน์เป็นนิจ ปรามาสพระเถระเป็นนิจ ชอบชักชวนผู้คนให้ผิดศีล
ชอบสอนผู้คนให้ศึกษาธรรมะแบบศรีธนลไชย

อันเนื่องมาจากการหลงในกิเลสอันละเอียด หลงในรูปอันละเอียด หลงในนิมิต มีทิฐิวิปลาส
มีความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งปรุงแต่งเหล่านั้น

อย่างไรก้ตาม สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตน ตาดีได้ ตาร้ายเสีย

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


แต่พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยสอนให้แก้กรรมนะครับผมงงจริงๆเลยนะเนี่ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 22:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนหนึ่งจากหลวงพ่อพุธ ตอบปัญหาธรรม
http://www24.brinkster.com/thaniyo/thaniyodham.html


ถาม - เราเป็นฆราวาสทำผิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง ถ้าทำการล้างบาปจะหมดกรรมหรือไม่?

หลวงพ่อพุธ - "ไม่มีทาง พระพุทธเจ้าสอนว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้
ศีล ๕ นั่นแหละเป็นการทำผิดบาปโดยกฎของธรรมชาติ

ถ้าหากเราปฏิบัติผิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง แล้วมาทำพิธีล้างกรรมล้างเวร นั่น
จะเปลี่ยนศาสนาพุทธให้เป็นศาสนาคริสต์


สิ่งที่เราทำลงไปนั้น มันล้างกรรมไม่ได้
แล้วมันจะหมดบาปไปเพราะการอาบน้ำการล้าง หรือการเสกมนต์อะไรไม่ได้ทั้งนั้น

เช่น อย่างเขาทำพิธีตัดกรรมตัดเวร แต่งขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ ขึ้นมาแล้ว
เขาก็นำสวดว่า “ยัง กัมมัง กะริสสามิ” “กัลยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาโน ภะวิสสามิ” แล้วก็ว่ามันตัดได้ หมดกรรมหมดเวร
อันนี้เขาหลอกลวง อย่าไปเชื่อ


ถ้าใครอยากจะตัดกรรมตัดเวรก็ให้มีศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปก็ได้ชื่อว่าตัดกรรมตัดเวร


.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 17:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้เห็นข้อความที่คุณ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ และคุณ คามินธรรม แล้ว
ในความรู้สึก ผมเห็นว่าคุณ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ ควรจะเข้าใจเจตนาที่ดีของคุณ คามินธรรม นะครับ
ผมเคยเห็นข้อความของคุณ พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พบว่าบางครั้ง ทำให้ผู้อ่านที่ไม่หลักธรรมะมั่นคง ไขว้เขวได้ การกระทำอะไรของคุณ พลศักดิ์ คุณต้องระวังไว้ อย่าทำแบบขนมหวานใส่ยาพิษ เด็กที่เข้ามาอ่านไม่รู้เรื่อง ซึ่งอ่านผ่านๆ จะหลงทางเอา คุณควรระวังความคิดคุณไว้มากนะครับ หลักธรรมอะไรก็ตามที่อ่านจากพระไตรปิฎก ท่องจำได้มาก จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าคุณไม่นำไป ปฎิบัติ
สำหรับ คุณ คามินธรรม ก็ขอให้ใจเย็นๆ นะครับ

สุดท้ายก็ขอฝากคำจากท่านอาจารย์พระมหาบัว ว่า
ให้หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


แก้ไขล่าสุดโดย kritsadakorn เมื่อ 17 เม.ย. 2009, 17:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 17:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:

" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "


การแอบอ้างอย่างไม่บังควรอย่างนี้ไม่สมควรอยู่ในเวปธรรมะ

พระพุทธวัจนะเป็นของสูงสุด ไม่ใช่เฉพาะโลกมนูษย์

แต่ทั้งสามโลก

แล้วยังเอามาทำเล่นกันอย่างไม่กลัวนรกกันอีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
อ้างคำพูด:
พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:

" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "


การแอบอ้างอย่างไม่บังควรอย่างนี้ไม่สมควรอยู่ในเวปธรรมะ

พระพุทธวัจนะเป็นของสูงสุด ไม่ใช่เฉพาะโลกมนูษย์

แต่ทั้งสามโลก

แล้วยังเอามาทำเล่นกันอย่างไม่กลัวนรกกันอีก

ผมไม่เห็นว่าข้อความดังกล่าวจะเป็นการเอาพระพุทธองค์มาล้อเล่นเลยครับ ช่วยแนะนำด้วยว่าตรงไหนที่เอาพระพุทธองค์มาล้อเล่นครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 23:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ประโยคนี้ พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดครับ คุณพลศักดิ์เขาทำใหม่ขึ้นมาเอง
พลศักดิ์ เขียน:
" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "



แล้วก็แสดงเหมือนประหนึ่งว่าเป็นคำพูดพระพุทธเจ้า ด้วยการใช้คำว่า
พลศักดิ์ เขียน:
พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:
" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "


จึงถือว่าเป็นการแอบอ้างพระพุทธเจ้า
คนไม่รู้ นึกว่าพระพุทธเจ้าพูด แต่ที่จริงถ้าให้หาหลักฐาน หาไม่ได้หรอกครับ

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
ประโยคนี้ พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดครับ คุณพลศักดิ์เขาทำใหม่ขึ้นมาเอง
พลศักดิ์ เขียน:
" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "



แล้วก็แสดงเหมือนประหนึ่งว่าเป็นคำพูดพระพุทธเจ้า ด้วยการใช้คำว่า
พลศักดิ์ เขียน:
พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:
" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "


จึงถือว่าเป็นการแอบอ้างพระพุทธเจ้า
คนไม่รู้ นึกว่าพระพุทธเจ้าพูด แต่ที่จริงถ้าให้หาหลักฐาน หาไม่ได้หรอกครับ

ผมว่าคุณใจเย็นๆก่อนดีกว่าน้าครับ คุณปู่ ช่วยใจเย็นๆก่อนครับ จริงๆแล้ว คนที่แปลพระไตรปิฎกอาจจะแปลต่างกันไปก็ได้ครับ อย่าไปว่าเค้าเลยครับ เค้าอาจจะฟังพระมาอีกทีไม่งั้นเค้าจะปักใจเชื่อเหรอครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2009, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 00:52
โพสต์: 8


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าใช้เหตุผลตัวเองตัดสินความหมายในสิ่งที่เธอเห็น โดยที่ไม่รับฟังเหตุผลจากอีกฝ่ายหนึ่งให้ดีเสียก่อน
> สาธุ < smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร