ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=34021 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 17:31 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
วันนี้ได้นัดกับพี่สมาชิกในห้องพันทิพไปทำบุญร่วมกันที่วัตรทรงธรรมกัลยาณี พี่เขาเพิ่งจะทราบข่าวว่า สมาชิกกลุ่มพี่หมอจักรแก้วรัตนะได้บวชสามเณรี ดังนั้น พี่เขามีจิตศรัทธาที่จะมาทำบุญให้กับน้องสามเณรี และตั้งจิตอุทิศตัวในการทำกับข้าวมาถวายกองทานในครั้งนี้ คือ แกงจับฉ่าย ส่วนตัวของบัวลอยไข่หวานและไข่เค็มได้ซื้อขนมมัน ตะโก้เผือก ขนมเปียกปูน และได้จัดพิมพ์หนังสือตำรายาสมุนไพร นำไปร่วมถวายด้วยเช่นกัน และหลังจากที่ถวายอาหารและตักบาตรแล้ว เราสามคนก็ลาสามเณรีเพื่อไปยังวัดเสนหา กราบนมัสการหลวงพ่อมานิตย์ ทำบุญถวายปัจจัยเพื่อเป็นค่ารักษาโรคไตและต้อกระจก และถวายอุปกรณ์การเรียนแด่สามเณร เพื่อไว้ใช้ในการศึกษาต่อไป บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าทั้งสามคนทำมาในวันนี้ ขอเผื่อแผ่มายังเพื่อนๆ ในเวบธรรมจักร และกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอให้ท่านได้มีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าทั้งสามคนทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ
|
เจ้าของ: | bbby [ 22 ส.ค. 2010, 18:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ |
กลุ่มสมาชิกของคุณบัวลอยไข่หวาน ยามว่างจากงานก็ไปท่องเที่ยวตามวัดเหรอค่ะ เรายังไม่ค่อยเข้าใจ คำว่า ภิกษุณี กับคำว่าแม่ชี แตกต่างกันอย่างไรค่ะ ภิกษุณีที่เมืองไทย มีมานานหรือยังค่ะ แล้วที่วัด ที่มีภิกษุณีบวช มีพระหรือปล่าวค่ะ คุณบัวลอยไข่หวาน ทานอาหารมังสะวิรัตเหรอค่ะ ถ้ามีรายการอาหารอะไรที่อร่อยๆ ช่วยไปโพสที่กระทู้อาหารเจบ้างสิค่ะ ลงรูปเยอะๆยิ่งดีค่ะ พวกเราที่อยู่ไกลๆ จะได้ดูรูปภาพ เวลาทานข้าว ก็นึกภาพไป สิ่งที่เราสงสัย เราถามหมดแล้วค่ะขอบคุณค่ะ |
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 18:42 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | ||
ที่จริงยังลงรูปไม่เสร็จอ่ะคะ แต่พอลงรูปทีไร เน็ตมีปัญหาทุกที ไม่ทราบเป็นที่เวบ หรือเป็นเน็ตของบัวลอยไข่หวานกันแน่ งั้นขอต่อเลยแล้วกันนะคะ ถวายหนังสือเป็นธรรมทานต่อไป หลังจากถวายหนังสือแล้ว ได้เวลาขึ้นสวดทำวัตรเช้าบนชั้น 3 อ้างคำพูด: กลุ่มสมาชิกของคุณบัวลอยไข่หวาน ยามว่างจากงานก็ไปท่องเที่ยวตามวัดเหรอค่ะ เรายังไม่ค่อยเข้าใจ คำว่า ภิกษุณี กับคำว่าแม่ชี แตกต่างกันอย่างไรค่ะ ภิกษุณีที่เมืองไทย มีมานานหรือยังค่ะ แล้วที่วัด ที่มีภิกษุณีบวช มีพระหรือปล่าวค่ะ ขอตอบนะคะ ส่วนที่ว่ายามว่างจากงานไปท่องเที่ยวตามวัดที่ถามมานั้น คือ ต้องแล้วแต่โอกาสเหมาะสม และธรรมะจัดสรรค่ะ ส่วนคำว่า ภิกษุณี เท่าที่อ่านและฟังจากหลวงแม่ ท่านบอกว่า ผู้ที่จะบวชเป็นภิกษุณีได้ จะต้องบวชเป็นสามเณรีมาแล้ว 2 ปี จึงจะบวชเป็นภิกษุณีได้ ภิกษุณี ถือศีล 311 ข้อ มากกว่าพระภิกษุ ซึ่งพระภิกษุถือแค่ 227 ข้อ คำว่าภิกษุณี และแม่ชี แตกต่างกันอย่างไรนั้นที่จริงไข่หวานไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเหล่านี้สักเท่าไรหรอกค่ะ ต้องให้พี่หมอจักรแก้วรัตนะเข้ามาตอบ หรือผู้รู้ ผู้ถนัดในเรื่องนี้มาให้ความกระจ่างจะดีกว่า ถ้าเกิดไข่หวานตอบไปอาจจะไม่ใช่ แล้วจะกลายเป็นผิดศีลค่ะ ภิกษุณีในเมืองไทยนั้นมีมาสมัยพุทธกาลแล้ว วัตรทรงธรรมนี้จะไม่มีพระภิกษุจำพรรษาค่ะ มีแต่ภิกษุณี รูปเดียวคือ หลวงแม่ธัมมนันทา หรือ ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ค่ะ ส่วนนอกนั้นจะเป็นสามเณรี และพุทธสาวิกา (ที่นุ่งขาวห่มขาว) แต่เวลามีพิธีบวชสามเณรีประจำปี (2 ครั้ง คือ เมษายน และธันวาคม) ของทุกปี จะมีพระภิกษุ มาร่วมเป็นพระอุปัชฌาชย์ค่ะ
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 18:48 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | ||
อ้างคำพูด: คุณบัวลอยไข่หวาน ทานอาหารมังสะวิรัตเหรอค่ะ ถ้ามีรายการอาหารอะไรที่อร่อยๆ ช่วยไปโพสที่กระทู้อาหารเจบ้างสิค่ะ ลงรูปเยอะๆยิ่งดีค่ะ พวกเราที่อยู่ไกลๆ จะได้ดูรูปภาพ เวลาทานข้าว ก็นึกภาพไป สิ่งที่เราสงสัย เราถามหมดแล้วค่ะขอบคุณค่ะ ตัวของไข่หวานเองไม่ได้ทานมังสะวิรัติหรอกค่ะ จะทานบ้างก็เฉพาะตรงกับวันเกิด (เช่น วันจันทร์ อังคาร ฯลฯ) เท่านั้น แต่ไม่ได้เคร่งอะไรนักหรอกค่ะ บางวันก็เผลอเรอ ลืมไปก็มี และมักจะทานแค่มื้อเดียวเท่านั้น จะมื้อใดก็ได้ เช้า กลางวัน หรือเย็น ขอบคุณนะคะ บางคำตอบอาจจะไม่กระจ่างเพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยจำอะไรมากนัก สมาธิสั้นค่ะ จำได้บ้างเป็นบางอย่าง ประวัติของหลวงแม่ค่ะภิกษุณีธัมมนันทา ชื่อเดิม รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ (เกิด พ.ศ. 2486) ภิกษุณีชาวไทย สังกัดสยามนิกาย ประเทศศรีลังกา อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.ฉัตรสุมาลย์ เป็นบุตรของนายก่อเกียรติ ษัฏเสน และนางวรมัย กบิลสิงห์ (ต่อมาบรรพชาเป็นภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์) จบการศึกษาจากโรงเรียนราชินีบน และปริญญาตรีสาขาปรัชญาจากมหาวิทยาลัยศานตินิเกตัน ประเทศอินเดีย ได้รับทุนรัฐบาลแคนาดาไปศึกษาปริญญาโทและเอกจากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา และมหาวิทยาลัยมคธ ประเทศอินเดีย ดร.ฉัตรสุมาลย์ เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อ พ.ศ. 2512 และเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่าง พ.ศ. 2516 - 2543 มีผลงานวิชาการ เขียนบทความธรรมมะ และเป็นพิธีกรรายการธรรมะ ถ่ายทอดทางช่อง 3 เป็นผู้แปลหนังสือ ลามะจากลาซา ของทะไลลามะ ดร.ฉัตรสุมาลย์ บรรพชาเป็นภิกษุณี โดยคณะภิกษุสงฆ์ และภิกษุณีสงฆ์ สยามนิกาย ประเทศศรีลังกา ที่ประเทศศรีลังกา เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 มีฉายาว่า ธัมมนันทา ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่ วัตรทรงธรรมกัลยาณี ตำบลพระประโทน จังหวัดนครปฐม (สามเณรี และ ภิกษุณี ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากคณะสงฆ์ไทย)
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 18:53 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | ||
*ความหมาย ภิกษุณี คือ หญิงที่ได้อุปสมบทแล้ว, พระผู้หญิงในพระพุทธศาสนา ความเป็นมา ภิกษุณี เกิดขึ้นในพรรษาที่ ๕ แห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ โดยมีพระมหาปชาบดีโคตรมี พระมาตุจฉา ซึ่งเป็นพระมารดาเลี้ยงของเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นพระภิกษุณีรูปแรก ดังเรื่องปรากฏ ในภิกษุณีขันธกะและอรรถกถา สรุปได้ความว่า หลังจากพระเจ้าสุทโธทนะ ปรินิพพานแล้ว วันหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ที่นิโครธาราม ในเมืองกบิลพัสดุ์ พระนางมหาปชาบดีโคตรมี เสด็จเข้าไปเฝ้า และทูลขออนุญาตให้สตรีสละเรือนออกบวชในพระธรรมวินัย แต่การณ์นั้นมิใช่ง่าย พระพุทธเจ้าตรัสห้ามเสียถึง ๓ ครั้ง ต่อมาพระพุทธเจ้าเสด็จไปยังเมืองเวสาลี ประทับที่กูฎาคารศาลาในป่ามหาวัน พระนางมหาปชาบดีโคตรมี ไม่ละความพยายาม ถึงกับปลงผม นุ่งห่มผ้ากาสาวะเอง ออกเดิน ทางพร้อมด้วยเจ้าหญิงศากยะจำนวนมาก (อรรถกถาว่า ๕๐๐ นาง) ไปยังเมืองเวสาลีและได้มายืน กันแสงอยู่ที่ซุ่มประตูนอกกูฏาคารศาลาพระบาทบวม พระวรกายเปรอะเปื้อนธุลี พระอานนท์มาพบเข้า สอบถามทราบความแล้ว รับช่วยไปกราบทูลขออนุญาตให้ แต่เมื่อ พระอานนท์กราบทูลต่อพระพุทธเจ้าก็ถูกพระองค์ตรัสห้ามเสียถึง ๓ ครั้ง ในที่สุด พระอานนท์เปลี่ยนวิธีใหม่ โดยกราบทูลถามว่า “สตรีออกบวชในพระธรรม วินัยแล้วจะสามารถบรรลุโสดาปัตติผลจนถึงอรหัตผลได้หรือไม่” พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่าได้ พระอานนท์จึงอ้างเหตุผลนั้น พร้อมทั้งการที่พระนางมหาปชาบดีโคตรมีเป็นมาตุจฉาและเป็น พระมารดาเลี้ยง มีอุปการะมากต่อพระองค์ แล้วขอให้ทรงอนุญาตให้สตรีออกบวช พระพุทธเจ้า ทรงอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่า พระนางจะต้องรับปฏิบัติตาม “ครุธรรม ๘ ประการ” พระนางยอมรับตามพุทธานุญาตที่ให้ถือว่าการรับคุณธรรมนั้นเป็นการอุปสมบทของ พระนาง ส่วนเจ้าหญิงศากยะ ที่ตามมาทั้งหมดพระพุทธเจ้าตรัสอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์อุปสมบท ให้ ในคราวนั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า การให้สตรีบวชและเป็นเหตุให้ พรหมจรรย์ คือ พระศาสนาหรือสัทธรรมตั้งอยู่ไม่ได้ยั่งยืนจะมีอายุสั้นเข้าเปรียบเหมือนตระกูลที่ มีบุรุษน้อยมีสตรีมากถูกผู้ร้ายทำลายได้ง่าย หรือเหมือนนาข้าวที่มีหนอนขยอกลง หรือเหมือนไร่ อ้อยที่มีเพลี้ยลง ย่อมอยู่ได้ไม่ยืนนานพระองค์ทรงบัญญัติครุธรรม ๘ ประการ กำกับไว้ก็เพื่อเป็น หลักคุ้มกันพระศาสนาเหมือนสร้างคันกั้นสระใหญ่ไว้ก่อน เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลล้นออกไป (พระศาสนาจักอยู่ได้ยั่งยืนเช่นเดิม) และได้ทรงแสดงเหตุผลที่ไม่ให้ภิกษุไว้ภิกษุณีให้ภิกษุณีไว้ ภิกษุได้ฝ่ายเดียว เพราะนักบวชในลัทธิศาสนาอื่นทั้งหลาย ไม่มีใครไหว้สตรีกันเลย กล่าวโดย สรุปว่า หากถือเหตุผลทางด้านสภาพสังคมศาสนาแล้ว จะไม่ทรงอนุญาตให้สตรีบวชเลย แต่ด้วย เหตุผลในด้านความสามารถโดยธรรมชาติ จึงทรงอนุญาตให้สตรีบวชได้ เมื่อภิกษุณีสงฆ์ เกิดขึ้นแล้ว สตรีที่จะบวชต่อมาต้องเป็น สิกขมานา รักษาศีล ๖ ( คือ ๖ ข้อแรกในศีล ๑๐) ไม่ให้ขาดเลยตลอด ๒ ปีก่อน จึงขออุปสมบทได้ และต้องรับการอุปสมบท โดยสงฆ์สองฝ่าย คือ บวชโดยภิกษุณีสงฆ์แล้ว ต้องบวชโดยภิกษุสงฆ์ เจริญแพร่หลายในชมพูทวีปอยู่ช้านาน เป็นแห่งให้การศึกษาแหล่งใหญ่แก่สตรีทั้งหลาย ภิกษุณีสงฆ์ประดิษฐานในลังกาทวีป ในรัชการของพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ โดยพระสังฆมิตตาเถรี พระราชธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราช เดินทางจากชมพูทวีปมาประกอบอุปสมบทกรรมแก่นางอนุฬาเทวี ชายาของพระเจ้ามหานาค อนุชาของพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ พร้อมด้วยสตรีอื่นอีก ๑,๐๐๐ คน ภิกษุณีสงฆ์เจริญรุ่งเรืองในลังกาทวีปยาวนานไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ปี แต่ในที่สุดได้สูญ สิ้นไปด้วยเหตุใด สากลใดไม่ปรากฏชัด ส่วนในประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้เคยมีการ ประดิษฐานภิกษุณีสงฆ์
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 18:58 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | ||
เอตทัคคะในพระพุทธศาสนา หมวดภิกษุณี ภิกษุณีในสมัยพุทธกาล มีเอตทัคคะ 13 พระองค์ คือ 1.พระมหาปชาบดีเถรี เอตทัคคะในฝ่ายผู้รัตตัญญู เป็นทั้งพระน้านางและพระมารดาเลี้ยง / ขอบวชแต่ผิดหวัง / พระอานนท์ช่วยกราบทูลจึงได้บวช 2.พระเขมาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีปัญญา หลงอุบายถูกหลอกให้ไปวัด / พระอรหันต์ฆราวาสเป็นได้ไม่นาน 3.พระอุบลวรรณาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีฤทธิ์ เพราะสวยบาดใจจึงต้องให้บวช / บวชแล้วยังถูกข่มขืน / พระขีณาสพเหมือนไม้แห้งไม้ผุ / ห้ามภิกษุณีอยู่ป่า 4.พระปฏาจาราเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ทรงพระวินัย ดอกฟ้าได้ยาจก / คลอดลูกกลางทาง / สามีถูกงูกัดตาย / หัวใจสลายเพราะสูญเสียลูกน้อยทั้งสอง / ทราบข่าวตายของบิดามารดาถึงกับเสียสติ / หายบ้าแล้วได้บวช 5.พระนันทาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้เพ่งด้วยฌาน เพราะรักญาติจึงออกบวช / พอเบื่อหน่ายก็ได้สำเร็จ 6.พระธรรมทินนาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้เป็นธรรมกถึก ถูกสามีตัดเยื่อใยจึงออกบวช / ถูกอดีตสามีลองภูมิ / เป็นผู้เลิศทางทรงธรรม 7.พระโสณาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ปรารภความเพียร จากเศรษฐีเป็นอนาถา / ไร้ที่พึ่งพาจึงออกบวช / พอสำเร็จอรหันต์ก็แสดงอภินิหาริย์ / ได้รับยกย่องว่าเลิศทางความเพียร 8.พระสกุลาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีทิพยจักษุ ออกบวชเพราะเบื่อโลก / ได้รับยกย่องว่าเป็นเลิศทางทิพยจักษ 9.พระภัททากุณฑลเกสาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ตรัสรู้เร็วพลัน ลูกปุโรหิตเกิดฤกษ์โจร / ดอกฟ้าในมือโจร / สันดานโจรไม่เจือจาง / ปัญญามิได้มีไว้เพื่อต้มแกงกิน / โจรชั่วสิ้นชีพ / ถอนผมบวชเป็นเดียรถีย์ / โต้วาทีกับพระสารีบุตร / ขอบวชในพุทธศาสนา 10.พระภัททกาปิลานีเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ไม่ทำบาปแต่ต้องคอยรับบาป / บวชในสำนักปริพาชก 11.พระภัททากัจจานาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ทรงอภิญญา พอประสูติโอรสพระสวามีก็หนีบวช / บวชตามพระสวามีและโอรส 12.พระกีสาโคตมีเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง เงินทองของเศรษฐีกลายเป็นถ่าน / ถ่านกลับเป็นเงินทองตามเดิม / อุ้มศพลูกหาหมอรักษา / พระศาสดาบอกยาให้ 13.พระสิงคาลมาตาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้พ้นกิเลสด้วยศรัทธา สิงคาลกุมารไหว้ทิศ ๖ / สิงคาลมาตาออกบวช
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 19:05 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
ทรงธรรมกัลยาณีภิกษุณีอาราม ยินดีต้อนรับค่ะ ทรงธรรมกัลยาณีภิกษุณีอาราม อยู่ริมถนนเพชรเกษม กม. 52-53 ต. พระประโทน อ. เมือง จ. นครปฐม เป็นวัตรฯ ที่พระมหาโพธิธรรมาจารย์ ภิกษุณีโพธิสัตต์ วรมัย กบิลสิงห์ ได้ก่อร่างสร้างไว้ด้วยทุนส่วนตัว ร่วมกับลูกหลานญาติมิตรฝ่ายโพธิสัตต์ เป็นสถานที่สำหรับผู้มี “หลักใจ” ในการปฏิบัติธรรมเพื่อสร้างบารมีตามรอยพระพุทธองค์เพื่อพุทธภูมิในภายหน้าตัวอาคารเป็นตึกสามชั้นงามสง่า ตั้งอยู่ในบริเวณเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ประกอบด้วย โบสถ์ พระวิหาร พระอาราม ตึกกรรมฐาน สามารถคลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้ค่ะ http://www.thaibhikkhunis.org/ หลังจากสวดทำวัตรเช้า เสร็จ พวกเราก็ถืออาหารที่ถวายหลวงย่า บูรพมหากษัตริย์ และเหล่าเทพเทวาทั้งหลาย ที่ดูแลรักษาปกปักสถานที่แห่งนี้ ลงมาด้านล่าง เพื่อนำไปที่โรงทาน พุทธสาวิกากัน และตักบาตรถวายหลวงแม่ สามเณรี ต่อไป
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 19:06 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 19:30 ] | ||||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | ||||
อาหารมังสะวิรัติ และขนมต่างๆ ที่ญาติธรรมนำมาถวาย
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 19:32 ] | ||||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | ||||
ถึงเวลาตักบาตรกันแล้ว
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 19:37 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
วันนี้มีพระอาจารย์จากประเทศไต้หวัน มาบรรยายธรรมะเกี่ยวกับสุขภาพ แต่ไม่อยู่ฟังหรอกค่ะ เพราะต้องไปนมัสการหลวงพ่อมานิตย์ วัดเสนหา เพื่อไปถวายปัจจัยเป็นค่ารักษาโรคไต และถวายปัจจัยและอุปกรณ์การเรียนของสามเณร หลังจากตักบาตรเรียบร้อยแล้ว ก็ลงมือรับประทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญ ก็นิมนต์สามเณรีมานั่งคุย ได้ความว่า สามเณรีจะสึกแล้ว ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่หลวงแม่ท่านต้องหาฤกษ์สึกให้ก่อน หลังจากสึกแล้ว ก็ยังต้องรับประทานอาหารมังสะวิรัติ ไปก่อนจนกว่าคุณพ่อจะหายเป็นปกติดี
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 20:36 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
หลังจากคุยกับสามเณรี แล้ว ก็ได้เวลาอันสมควร จึงขอนมัสการลาท่าน ไปวัดเสนหา มาถึงวัด ก็เกรงว่าหลวงพ่อท่านจะไม่อยู่ เผื่อท่านไปโรงพยาบาล เพราะว่าตอนนี้ท่านป่วยเป็นต้อกระจก เพิ่งจะไปลอกตามาเมื่อไม่นาน ส่วนอีกข้างหนึ่งก็เริ่มมัว มองอะไรไม่ค่อยเห็น ก็จะต้องไปลอกตาเหมือนกัน และโรคไตที่ท่านเป็นอยู่ก็ยังไปฟอกไตเป็นประจำทุกสัปดาห์
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 20:38 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
และได้ถวายปัจจัยเป็นค่ารักษาโรค อีกทั้งถวายปัจจัยและอุปกรณ์การเรียนของสามเณร
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 22 ส.ค. 2010, 20:40 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ | |||
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 24 ส.ค. 2010, 19:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นำบุญถวายกองทานวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม มาฝากค่ะ |
มาขอแก้ไขเรื่องการถือศีลของพระภิกษุณี ซึ่งพระภิกษุณีจะต้องถือศีล 311 ข้อ มากกว่าพระภิกษุโดยทั่วไปค่ะ ขอบคุณที่พี่หมอจักรแก้วรัตนะ แจ้งเข้ามาให้ความกระจ่างแก่บัวลอยไข่หวาน(คนรู้น้อย) ค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |