ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=21515 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 05 เม.ย. 2009, 18:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
ประมวลภาพ
“ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต บ้านแพ ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง ขอกราบขอบพระคุณ..ที่มาของรูปภาพ fb. Dhamma Satid Rayong, yajai.com, คุณสมหมาย เอี่ยมตระกูล * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * • ประวัติและปฏิปทา “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=27449 • รวมคำสอน “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=47090 |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 20 ธ.ค. 2011, 14:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” |
ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพ : คุณสมหมาย เอี่ยมตระกูล |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 20 ธ.ค. 2011, 14:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” |
ที่มาของภาพ : คุณอริยชน แห่งลานธรรมจักร |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 16 ก.พ. 2012, 09:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 16 ก.พ. 2012, 09:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 16 ก.พ. 2012, 09:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก กับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม (กลาง) พระอาจารย์สุชิน ปริปุณโณ เจ้าอาวาสวัดธรรมสถิตรูปปัจจุบัน (ขวา) พระครูญาณวิศิษฏ์ (ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมสถิต จากซ้าย : ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, พระคุณเจ้าอีกองค์ไม่ทราบนามฉายา |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 16 ก.พ. 2012, 09:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
พระเถรานุเถระศิษยานุศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต บันทึกภาพร่วมกันในงานผูกพัทธสีมาอุโบสถ วัดอโศการาม บ้านนาแม่ขาว ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๐๓ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีกุน แถวนั่ง จากซ้าย : หลวงปู่มหาปิ่น ชลิโต, หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน, หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร, หลวงปู่แว่น ธนปาโล, หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร, พระเทพวรคุณ (หลวงพ่ออ่ำ ภทฺราวุโธ), ท่านพ่อลี ธมฺมธโร, พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่แดง ธมฺมรกฺขิโต), พระปลัดศรี (วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี) และหลวงปู่จันทร์ เขมปตฺโต แถวกลาง จากซ้าย : พระอาจารย์ไสว, หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ, พระอาจารย์สวด, พระครูพรหมวิหาร, พระอาจารย์เม้า ธมฺมุตฺตโม, สมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร), พระมหาสมจิตร จิตฺตวโร (วัดควนจงหรือวัดเขาล้อม จ.สงขลา), พระครูญาณวิศิษฏ์ (ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก), หลวงปู่ถวิล จิณฺณธมฺโม, พระอาจารย์บุญมี ปญฺญาปทีโป และพระครูสัน (วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี) แถวหลัง จากซ้าย : พระครูธงชัย (วัดพุทธมงคลนิมิต จ.นครสวรรค์), หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม, พระอาจารย์ปทุม (วัดหนองบัว จ.จันทบุรี), พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม และพระใบฎีกา (ตุ๋ย) >>> หมายเหตุ : ในงานฉลองกึ่งพุทธกาล ๒๕ พุทธศตวรรษ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๐ ณ วัดอโศการาม ยังไม่มีอุโบสถ ดังนั้น พระภิกษุสงฆ์ที่เข้าพิธีอุปสมบทในครั้งนั้น จึงได้อุปสมบทกันภายในเรือที่ลอยอยู่ในน้ำ โดยใช้เรือเป็นสิมน้ำ จากซ้าย : พระโสภณคุณาธาร (หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ), พระวิจิตรธรรมภาณี (หลวงปู่สิงห์ สุขปญฺโญ), พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่แดง ธมฺมรกฺขิโต) และ “พระครูญาณวิศิษฏ์ (ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก)” บันทึกภาพร่วมกันในงานบำเพ็ญกุศลศพและสวดมนต์อุทิศถวาย พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) ณ วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจาก “ท่านพ่อลี ธมฺมธโร” ได้มรณภาพลงอย่างสงบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายี) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งยังทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหาร มีบัญชาให้เก็บสรีระสังขารของท่านพ่อลีไว้ ยังไม่ให้ถวายเพลิง เอาอย่าง “ท่านพระมหากัสสปเถระ” ที่ในวันหนึ่งในอนาคตกาลจะมีพระศรีอริยเมตไตรย มาถวายเพลิงสรีระสังขารพระมหากัสสปเถระอย่างสมศักดิ์ศรี ในเวลาที่พระมหากัสสปเถระจักนิพพาน พระเถระได้เข้าไปอยู่ในระหว่างภูเขา ๓ ลูกที่เมืองฮ่อ (สันนิษฐานว่าตั้งอยู่ในประเทศจีน) ภูเขา ๓ ลูกนั้นได้ประชุมรวมกันเข้าเป็นลูกเดียว ปกปิดกำบังร่างของพระเถระเพื่อมิให้ปรากฏแก่มหาชนทั้งหลาย ต่อเมื่อในอนาคต พระศรีอริยเมตไตรยได้เสด็จลงมา ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในโลกแล้ว พระองค์ก็จะนำเอาร่างของพระมหากัสสปเถระ ยกขึ้นไว้บนฝ่าพระหัตถ์เบื้องขวา ชูขึ้นประกาศสรรเสริญคุณของพระเถระ แล้วเตโชธาตุก็จะเกิดขึ้นเผาสรีระของท่าน บนฝ่าพระหัตถ์ของพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้านั้น เนื่องจากเวรกรรมที่ท่านทั้งสองได้เคยทำต่อกันในอดีตชาติ เมื่อคราวที่พระศรีอริยเมตไตรยเกิดเป็นนายควาญช้าง และพระมหากัสสปเถระเกิดเป็นพญาช้างเผือก อดีตชาติในครั้งนั้น “นายควาญช้างได้สั่งให้พญาช้างเผือก เอางวงอุ้มเหล็กแดงเอาไว้เพื่อเป็นการลงโทษ ที่พญาช้างเผือกวิ่งหนีเข้าป่าติดตามกลิ่นสาปของนางช้าง พญาช้างเผือกได้รับความเจ็บปวดจากแท่งเหล็กนั้น จนกระทั่งล้มตายในที่สุด สรุปคติธรรมที่ได้จากเรื่องนี้คือ ราคะนี้มีความเผ็ดร้อนทารุณยิ่งกว่าไฟ มีพิษร้ายยิ่งกว่าพิษของพญานาค” นัยของท่านพ่อลีก็ขอให้เอาเยี่ยงอย่างนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า “ผู้มีบุญกรรมที่เกี่ยวข้องกับท่านในวันข้างหน้า จะได้มาถวายเพลิงสรีระร่างของท่านอย่างสมศักดิ์ศรี ที่เป็นอัศวินนักรบธรรมกรรมฐานผู้มีพลังจิตแก่กล้า สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต” พร้อมนี้เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ท่านยังมีบัญชาอีกว่า ให้บำเพ็ญกุศลและสวดมนต์อุทิศถวายท่านพ่อลีทุกคืน บรรดาบรรพชิตซึ่งเป็นคณะศิษยานุศิษย์ของท่านพ่อลี ก็ได้ปฏิบัติตามบัญชามาโดยตลอด และคณะทายกทายิกาได้ทำบุญอุทิศถึงด้วยความเคารพ จุดธูปเทียนบูชาด้วยความศรัทธาเลื่อมใส ต่อมาระยะหนึ่ง บรรดาศิษยานุศิษย์ผู้ใหญ่ทางฆราวาส ปรารภจะทำฌาปนกิจศพของท่านพ่อลีด้วยว่าพระกรรมฐานไม่เก็บศพไว้นาน และอีกฝ่ายหนึ่งปรารภจะเก็บไว้บูชาสักการะให้เป็นที่อบอุ่นอยู่ตลอดไป เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีเสียงขึ้นเป็น ๒ เสียง ๒ ฝ่าย เสียงฝ่ายหนึ่งจะทำฌาปนกิจศพของท่าน อีกฝ่ายหนึ่งว่าไม่ควรทำ ควรเก็บไว้อย่างนี้ เป็นเหตุให้มีการประชุมใหญ่ของบรรดาศิษยานุศิษย์ ทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ลงคะแนนเอาเสียงข้างมาก ก็ปรากฏว่าเสียงที่ไม่ให้ทำการฌาปนกิจศพเป็นเสียงข้างมาก เนื่องด้วยชาวจันทบุรีที่เลื่อมใสท่านพ่อลี พากันแห่มาออกเสียงเป็นจำนวนนับหมื่นคน สรุปคือไม่ได้ถวายเพลิง จึงได้เก็บสรีระสังขารท่านไว้ตลอดมาจนทุกวันนี้ โดยอัญเชิญไว้ในโลงทอง ณ วิหารสุทธิธรรมรังสี วัดอโศการาม เป็นที่น่าอัศจรรย์ !! ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ดอกไม้บูชาท่านพ่อลีไม่เคยเหี่ยวแห้ง เพราะมีผู้คนนำดอกไม้มากราบไหว้บูชาท่านไม่เคยขาด เสียงสวดมนต์ปฏิบัติบูชาจากสานุศิษย์ ตั้งแต่ ๒ ทุ่มถึง ๔ ทุ่มของทุกวัน ดังกึกก้องมาไม่รู้จบ วันมรณภาพเวียนมาบรรจบประชาชนจะหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย พระกรรมฐานมารวมกันในคราวจำเป็นในข้อธรรมวินัย ณ วัดอโศการาม ซึ่งมีพระธุตังคเจดีย์อันยิ่งใหญ่ได้ปรากฏมาจนกระทั่งทุกวันนี้ นี่คือท่านพ่อลี ที่รักเคารพบูชาอย่างหาที่สุดมิได้ สายธารธรรมหลั่งไหลไปไม่มีวันหยุด สายน้ำแห่งคุณงามความดีของท่านแผ่ซึมซับไปโดยทั่ว ท่านคือพระผู้รุ่งเรืองด้วยเดช ด้วยยศ และเป็นพระผู้สละโลกได้อย่างสิ้นเชิง สมศักดิ์ศรีเป็นพุทธสาวกที่พระพุทธเจ้าได้ทำนายไว้ว่า ในยุคกึ่งพุทธกาลพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองในดินแดนสุวรรณภูมิ อันเป็นดินแดนสุดท้ายที่ยังมีท่านผู้บรรลุเป็นพระอรหันต์ นับเป็นบุญของพวกเราชาวไทยจริงๆ ที่ผืนแผ่นดินแห่งนี้มีสิ่งอันเป็นมิ่งมงคล เรามีทั้งพระพุทธศาสนา มีพระผู้แกร่งกล้า คือ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล, ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต, ท่านพ่อลี ธมฺมธโร และหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ฯลฯ ตลอดจนมีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คัดลอกเนื้อหาบางตอนมาจาก... หนังสือ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร พระอริยเจ้าผู้มีพลังจิตแก่กล้า วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=42731 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 16 ก.พ. 2012, 16:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
อนุโมทนาสาธุด้วยครับ |
เจ้าของ: | Hanako [ 11 ม.ค. 2014, 04:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |