ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

สีลานุสสติ (หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=50187
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 30 พ.ค. 2015, 23:42 ]
หัวข้อกระทู้:  สีลานุสสติ (หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)

:b8: :b8: :b8:

สีลานุสสติ
พระธรรมเทศนาโดย...หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖


รูปภาพ

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส (๓ จบ)
สีเลน สุคตึ ยนฺติ
สีเลน โภคสมฺปทา
สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ
ตสฺมา สีลํ วิโสธเย


ณ บัดนี้จักได้อธิบาย ในคุณสมบัติของศีล
ศีลเป็นสมบัติอันสำคัญที่ทำให้เราได้เป็นมนุษย์

เปรต ผี สัตว์เดรัจฉาน ไม่มีศีล
มีแต่มนุษย์ผู้ได้พบปะพระพุทธศาสนาจึงจะเป็นผู้รู้จักการรักษา รู้จักคุณของศีล
ผู้ที่มิได้พบปะคำสอนศาสนาของพุทธะ ก็ไม่รู้จักศีล
วันนี้เราทุกคน เดี๋ยวนี้เราทุกคนเกิดมาแล้วได้พบปะอะไร ให้คิดอ่านให้ดี
ได้พบสมบัติอันดีที่สุดแล้ว ธรรมะศาสนาของพุทธะ ชี้บอกหนทางที่จะไปข้างหน้า
แต่เราทุกคนนี้เองยังมืดหลงกันอยู่ ยังมืดเมาอยู่

“มืด” ตัวนี้เป็นของใจ
มืดจนใจไม่รู้อะไร เราจึงไม่รู้ว่ามาจากไหนมาเกิด
จะไปไหนก็ไม่รู้ จะเป็นอะไรข้างหน้าก็ไม่รู้


ให้คิดนึกคิดว่า เป็นปุถุชน ความชั่วใดๆ มีทุกอย่าง
ยังไม่หนีไปจากใจ ยังเกาะห้อยอยู่กับใจ อยู่ในใจของพวกเรา
บาปตัวนี้มีมาแต่อเนกชาติ เหตุเพราะเราเกิดมามิได้พบปะบัณฑิตผู้รู้แต่อย่างใด
จึงรู้จักแต่การกิน การหา การใช้ การหลับ การนอน
นี่เรียกว่าสะสมสมบัติกรรมความชั่ว เป็นมูลมรดกความชั่ว
บาปกรรมความชั่วนี้ ที่มาไม่รู้จัก ที่ไปไม่รู้จัก ที่อยู่ไม่รู้จัก
เป็นอยู่อย่างนี้ของพวกเราทุกคน

จึงให้คิดนึกถึงพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้ได้องค์ญาณ
รู้จักตนของตนได้ รู้จักที่มา รู้จักที่ไป รู้จักเป็นอยู่
นี่แปลว่าท่านผู้รู้จักเพิ่มเติมความดี
คือบุญกุศล คือธรรมะ คือสมบัติความดีทั้งหลาย
รู้จักว่าสมบัติความดีเป็นของสะอาด ใสสว่าง
พาให้รู้จักในการเกิดมา รู้เราเกิดมา
รู้จะไปไหน รู้จะเป็นอะไร รู้แก้ไขตนของตน
เรียกว่าเป็นผู้ได้พุทธรัตนะ ธัมมรัตนะ สังฆรัตนะ ศีลวัตร จาควัตร

รัตนะ แปลว่า แก้ว ของใส ของสะอาด
ให้คิดอ่านให้ดี รัตนะของเราอย่างไร วัตรของเราอย่างไร
ใสสะอาดหรือเศร้าหมอง ให้รู้จักที่มา ให้รู้จักที่ไป
จึงให้ตั้งใจในชีวิตบัดเดี๋ยวนี้ ในนิสัยปัจจัยของตนต่อไป
ตัวเราคือใจ มิใช่กาย ดีติดตามใจ ความสว่างเกิดขึ้น
องค์ญาณเกิดขึ้น อริยเจ้าเกิดขึ้น
พระอริยเจ้าเมื่อยังเป็นปุถุชนอยู่ ก็เฝ้าพยายามทำความดี
รักษาความดีของตนมาโดยตลอด
รู้ในการเกิด รู้ในการตาย รู้โลกนี้ว่าเป็นของไม่แน่นอน
ดี - ทุกข์ - สุข - ดี - ชั่ว - ทราม - โง่ - ฉลาด เป็นอยู่เช่นนี้ จึงเรียกว่าโลก
เราทุกคนวันนี้ มารู้ภาวะดีแลชั่วแล้วนี้
ให้ตั้งใจในการรักษารัตนะ แก้ว ๓ ประการ ให้สว่างไสวผ่องใสอยู่เสมอ
จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้สะสมความดีของตน

ทำไป ตั้งใจไปจนแก่กล้า แกล้วกล้าสามารถเอาชนะในความชั่วใดๆ
ที่สุดบรรลุมรรคผล ก็ได้พ้นสำเร็จกันไป
อย่างหมู่พระสาวกทั้งหลายขององค์พระพุทธเจ้า
มีมากถึง ๒๐ ล้าน ๕ หมื่นคน
นอกกว่านั้น สาวกของอสีติสาวก สาวกของอนุอสีติสาวก
สาวกของพระอรหันตเจ้า สำเร็จกันไปจนนับมิได้ ไปสู่มรรคผลนิพพาน
จากที่ผ่านมาและต่อไปอีกเมื่อหน้า

นี่ตัวพวกเราเองเกิดมาในโลกนี้จนนับมิได้แล้ว แต่เริ่มเกิดเริ่มตายมาจนวันนี้
เหมือนกับสัตว์วิญญาณล่องลอยในโลก ก็อจินไตยนับมิได้
ใหญ่โตขึ้นเป็นลำดับจนได้เป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ผู้ไม่รู้จักอันใด
ก็เมาหา เมาอยู่ เมากิน เมาใช้ เมารายได้ เมารายจ่าย
หลงภพ หลงเกิด หลงตายของตน จนที่สุดนานแสนนานจึงได้ทำความดี
ได้ทำความดีเป็นนานต่อไปอีกเนิ่นนานจึงได้สำเร็จได้

ในชีวิตนี้คิดอ่านให้ดี ความดีเราสะสมมาแล้ว ความชั่วเรามีอยู่
ความดีอันเราสะสมนับแต่พบปะพระพุทธเจ้า กราบไหว้ สักการบูชา
พบปะพระอรหันต์ ฟังธรรมคำสอน พบปะบัณฑิต ฤๅษี โยคี ตั้งใจปฏิบัติกันมา
บัดเดี๋ยวนี้เราอยากจะได้สุข อยากจะสำเร็จ อยากพ้นทุกข์
จึงมาทำความดีให้ได้เป็น นิสฺสยปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย
ปุเรชาตปจฺจโย ปจฺฉาชาตปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย อธิปติปจฺจโย
อาเสวนปจฺจโย เหตุปจฺจโย
ทำเหตุเอาไว้จึงได้ปัจจัย

คำว่า ปัจจัย แปลว่าได้รับผล
ได้รับผลดีเป็นสุข ได้รับผลชั่วเป็นทุกข์ ได้รับผลตลอดไป
เหตุถูกต้อง ปัจจัยถูกต้อง ได้สมบัติอันดี
ผู้ชั่วก็เสาะหาแต่ชั่ว ผู้ดีก็เสาะทำแต่ความดี ได้รับผลดีตลอดไป
ให้คิดอ่านให้ดี วันหนึ่ง คืนหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง ชีวิตหนึ่ง ชีวิตนี้ วันนี้ วานนี้
อะไรบ้างที่เป็นความดีของใจ ใช้ปัญญาคิดอ่านพิจารณา
ท่านจึงให้สมาทานรักษาศีล ระลึกถึงศีลของตน
เพราะศีลเป็นรัตนะให้ได้สมบัติอันดี

นี่เริ่มต้นตั้งใจทำความดี ตั้งใจ จนใจตั้ง สมบัติใดๆ ในโลกมิอาจตามได้
ทรัพย์ใดๆ มีแต่จะกองทิ้งไว้ ตลอดแม้รูปกายอันนี้ ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนา
คิดอ่านพิจารณาหาช่องทางให้บุญเกิด ไม่ให้เนิ่นช้า ใช้ปัญญาให้ดี
จึงชื่อว่ามาฟังเทศน์ มาสมาทานศีล มาทำบุญให้ทาน
มาไหว้พระ กราบไหว้ มาฝึกหัดในนิสัยปัจจัย
จึงให้รู้จักหนทางของตน รู้ตนดี รู้ตนชั่ว รู้ธรรมะเกิดในใจ
ธรรมคุ้มครองผู้ตั้งใจในธรรม เพราะเป็นความดีของตน
สมกับว่า ปุญฺญานิ ปรโลกสฺสมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินนฺติ

ผู้สะสมบุญ บุญย่อมรักษาใจให้ตั้งอยู่ได้ เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ได้
ใจตั้งได้นั้น ทรัพย์ใดๆ เกิด ของทิพย์ใดๆ เกิด วิชชาใดๆ เกิด
การเกิดมาของเราชีวิตนี้จึงได้รับผลอันดี
จงตั้งใจของตนตลอดไป ตั้งใจในศีลของตน
เพราะศีลย่อมให้ถึงสุคติ
ศีลย่อมให้ถึงโภคทรัพย์
ศีลย่อมให้ถึงความหลุดพ้น มรรคผลนิพพาน


เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้


คัดมาจาก : หนังสือ พระธรรมเทศนาของหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
จัดพิมพ์โดยคณะศิษย์ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ :b8: :b8: :b8:


:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

:b44: รวมคำสอน “หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50221

เจ้าของ:  daoduan [ 16 พ.ย. 2015, 03:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สีลานุสสติ : หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ

ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
Kiss :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ดาราวรรณ [ 14 ก.ค. 2019, 09:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สีลานุสสติ (หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Duangtip [ 27 ก.ค. 2019, 10:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สีลานุสสติ (หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  น้องพลอย [ 25 ก.ย. 2020, 08:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สีลานุสสติ (หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)

Kiss :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  sirinpho [ 24 ธ.ค. 2021, 19:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สีลานุสสติ (หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/