หลักการถือศีล ศีล ๕ / ๘
ถ้าอยากสมาทานศีล ให้ศึกษาเรื่องของศีลให้เข้าใจดีเสียก่อน ทั้งในแง่ขององค์ประกอบ แง่ของกาลเวลา แง่ของขอบเขตของศีลแต่ละข้อๆก่อน จะสมาทานแต่ละครั้ง ให้ระลึกถึงพระรัตนตรัย แล้วจึงค่อยสมาทานเอาเอง จะตั้งใจรักษาแบบปกติ หรือ รักษาแบบอุโบสถศีล ก็ได้ (ในแง่ของอุโบสถศีลนั้น เป็นการรักษาชั่วกาลวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ในวันพระ ๘ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ) โดยไม่จำเป็นต้องไปขอรับจากพระ เพราะหากเราไปขอรับศีลจากพระ แล้วเราไม่ได้ตั้งใจรักษา หรือรักษาไม่ได้ ก็เปล่าประโยชน์ จะกลายเป็นว่า เป็นการโกหกผู้อื่นและโกหกตนเองไปซะ...ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่จะถือศีล
นั่งคุกเข่า / นั่งพับเพียบ (ไม่ต้องจุดธูปเทียน) พนมมือขึ้นเหนือศีรษะ(หันหน้าไปทางไหนก็ได้) แล้วระลึกถึงพระรัตนตรัยกราบ ๓ หน กล่าวด้วยวาจาว่า...
“ขอความนอบน้อม ของข้าพเจ้าจงมีแด่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ชอบเอง ข้าพเจ้าขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า กับทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง กำจัดภัยได้จริง
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า กับทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง กำจัดภัยได้จริง จริง
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า กับทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง กำจัดภัยได้จริง” กราบ ๓ หน แล้วกล่าวว่า
“ข้าพเจ้าขอเจตนางดเว้น ซึ่งสิกขาบททั้งหลายอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ เพื่อจะรักษาไว้ให้ดี ไม่ให้ขาด ไม่ให้ทำลาย ตลอด ๑๕ คืน ๑๕ วัน ณ เวลาวันนี้ คือ
๑. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
๒. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้
๓. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้นจากการประพฤติที่มิใช่พรหมจรรย์
๔. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการพูดเท็จ
๕. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการเสพของมึนเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นฐานแห่งความประมาท
๖. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการบริโภคอาหารล่วงเวลา (เลยเที่ยงวันไป)
๗. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการฟ้อน เต้น รำ ขับร้อง ประโคมดนตรี ดูการละเล่นต่างๆ ประดับกายด้วยดอกไม้ ลูบไล้ด้วยของหอม และเครื่องตกแต่งประดับกาย
๘. ข้าพเจ้าเจตนางดเว้น จากการนอนบนที่นอนอันสูงและกว้างใหญ่ ที่ยัดด้วยนุ่นและสำลี
ด้วยผลบุญของการงดเว้นสิกขาบท ๘ ประการนี้ ขอจงเป็นอุปนิสัย เป็นปัจจัย เพื่อจะกระทำให้แจ้ง ซึ่งพระนิพพาน ในปัจจุบันกาลนี้เทอญ และ ขอบุญนี้จงเป็นอาหาร น้ำทิพย์ วิมาน เสื้อผ้า ให้ญาติทิพย์ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคของข้าฯ พร้อมทั้งอุทิศบุญนี้ให้ถึงแก่ เปรต ผี ปีศาจ เทวดา มาร พรหม ยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ นาค ครุฑ อสูร กินรี กินรา เงือก ที่เกี่ยวข้องกับข้าฯทั้งหมด จงเป็นสุขจากบุญที่ข้าฯ ให้แล้วเถิด"

ในการรักษาอุโบสถศีล คือ การรักษาศีล ๘ ในวันพระ ส่วนการรักษาศีล ๘ โดยทั่วไปหากจะปฏิบัติที่บ้านก็ได้ ถ้ามีความสะดวก แต่ต้องอธิบายให้คนในครอบครัวเข้าใจด้วย เพราะศีลข้อ ๓ (อะพรหมะจะริยา) จะสัมผัสแตะต้องกับเพศตรงข้ามไม่ได้เลย ปฏิบัติได้สะดวกที่สุดก็คือ ที่วัด (สิกขาบททั้งหลายเหล่านี้ ๕ หรือ ๘ บุคคลทั้งหลายจะไปสุคติ ก็ด้วยศีล บุคคลทั้งหลายจะถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์ ก็ด้วยศีล บุคคลทั้งหลายจะถึงพระนิพพานได้ ก็ด้วยศีล ฉะนั้น บุคคลทั้งหลายพึงชำระศีลให้สะอาดหมดจด)
* หมายเหตุ เมื่อละเมิดศีลสิกขาบทข้อใดในคราใด ก็ให้เจตนางดเว้นสิกขาบทข้อนั้น ขึ้นมาใหม่เองได้เลย
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “บุคคลผู้ประพฤติธรรมไม่สม่ำเสมอ เป็นเหตุให้ตกนรก"
ดอยธรรมนาวา
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ๑๐.๕๐ น.

ความสำรวมในที่ทั้งปวง เป็นดี ท่านว่าศีล เป็นความดี


กราบอนุโมทนาบุญ พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา ท่านใดมีทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ ท่านมีความสุขขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ