วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2010, 06:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระอาจารย์จันทา ถาวโร
ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพ :
อ.อนัตตา ห้องพระ udon108


:b44: :b44:
สิกขาบทที่ ๑
ภิกษุเสพเมถุน ต้องปาราชิก

หนังสือ พระวินัย ๒๒๗ เทศน์ภาคปฏิบัติ
โดย พระอาจารย์จันทา ถาวโร
วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร


เสพอย่างไร บางคนไม่รู้นะ เสพเมถุนสังวาสกับมนุษย์ก็ดี สัตว์เดรัจฉานก็ดี ทางทวารหนัก ทวารเบา ตลอดถึงรักแร้ แอบแอขา หรือปากตุ๊กแก มันจะไม่กัดเอาบ่ บ่.. ตุ๊กแกมันตัวใหญ่นะสมัยนั้น กำปากให้มันอ้าแล้วเอาเหล็กแข็งๆ หั่นเขี้ยวมันหักแล้ว ปากมันแดงจ้า ยัดองคชาติเข้าไปมันก็ขบกัดเข้า ความกำหนัดเกิดขึ้น น้ำสุกกะ (อสุจิ) เคลื่อนออกก็สำเร็จได้เหมือนกัน

เมื่อเสพเข้าไปแล้ว ทางทวารหนักก็ดี ทวารเบาก็ดี ตลอดถึงรักแร้ แอบแอขาของผู้หญิงนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง มีความกำหนัดพอที่จะเสพได้ทั้งนั้น ไม่เลือก ได้ทุกอย่าง ได้ทุกสถานที่ พอใจเสพได้ เพราะร่างกายของผู้หญิงนิ่มนวลดี กลิ่นมันก็หอมหื่นชื่นใจหอมหวนชวนใจ จับที่ไหนมาดมก็หอมหื่นชื่นใจ นี่ก็เป็นบ้าเลย บ้าตัณหา บ้ากามเกิดขึ้น ถ้าเสพเข้าไปแล้ว ยัดองคชาติเข้าไปทางทวารเบานั่น พอสัมผัสพึ่บ ความกำหนัดเกิดขึ้น เมื่อน้ำสุกกะเคลื่อนพึ่บ สะเม่นหมดตัวนะ นั่นแหละต้องอาบัติปาราชิกนะ อะสังวาโส

หาสังวาสในศาสนาพุทธต่อไปไม่ได้ นี่แหละมันหนักแน่นถึงขนาดนั้น

สิกขาบทนี้ ครั้งพุทธกาลโน้น พระสุทินเป็นตัวอย่าง ลูกชายของเศรษฐีเมืองเวสาลี บวชได้นานหลายปีแล้ว เจริญสมณธรรมก็ยังไม่เป็นไปเพราะอินทรีย์ยังอ่อน บารมียังอ่อน ไม่ถึงคราวจะเกิดขึ้น

ไปเยี่ยมบ้าน พ่อกับแม่และภรรยาเก่าก็ช่วยกันอ้อนวอนขอให้สึก


“โอ๊ย..สึกไม่ได้ เสียดายการบวชในศาสนานี้นะ บวชได้สำเร็จมรรคผล ธรรมวิเศษเป็นพระอรหันต์กันสนั่นหวั่นไหว เหาะเหินเดินฟ้าได้ก็มี ไปนรกไปสวรรค์ได้ก็มี ถ้าสึกออกมาสร้างโลกก็ไม่สำคัญอะไรหรอก”

“ถ้าไม่สึกก็ขอพืชนะท่าน”

“เออ ขอพืชพันธุ์ไว้ได้ไม่เป็นไร”

ก็เข้าไปในห้องเลย เมียก็เป็นคนใหญ่นะ ท้ายก็ใหญ่ อะไรมันก็ใหญ่ เข้าไปก็นอนเลย เสพกันสนั่นหวั่นไหว หิวมาหลายปีแล้ว นั่นแหละจนได้บุตร เมื่อได้บุตรแล้ว โลกเขาก็เห็น หมู่เพื่อนก็เห็นเป็นอย่างนั้น

อ้าว…นักบวชทำอย่างนี้ใช้ไม่ได้

พระสงฆ์ก็เลยนำเรื่องขึ้นกราบทูลพระพุทธเจ้า


“ข้าแต่พระองค์เจ้าผู้ประเสริฐ พระสุทินเสพกามกับภรรยาเก่าแล้วจนได้บุตร จะทำอย่างไรหนอพระเจ้าข้า”

แต่นั่นคืนหลังไปนะ พระองค์เจ้ายังไม่ได้ตั้งสิกขาบท ฉะนั้นพระองค์เจ้าจึงเรียกประชุมสงฆ์ ๕๐๐ องค์ เรียกพระสุทินเข้ามาซักไซ้ไต่ถาม “เธอได้เสพกามอย่างเขาว่าหรือ”

“เสพ พระเจ้าข้า”

“เสพเพราะเหตุใด”

“ข้าพเจ้ายังมีใจยินดีในศาสนาอยู่ แต่ภรรยาและพ่อแม่เขาอ้อนวอน อยากได้พืชพันธุ์ไว้สืบชาติสืบตระกูล สมบัติ ๘๐ โกฏิ ไม่มีใครจะครองต่อไป ข้าพเจ้าก็เลยเสพกามให้จนได้บุตร ๑ คน”

พระองค์เจ้าก็เลยปรับโทษพระสุทิน เป็นปฐมสิกขาบทครั้งแรก

นี่แหละ มีพระสุทินเป็นเหตุนะ จำไว้ พระองค์จึงได้ตั้งสิกขาบทนี้ขึ้นตั้งแต่นั้นมา ปาราชิก สิกขาบทที่ ๑ ภิกษุเสพเมถุน ต้องปาราชิก

พระสุทินนี่จะว่าเป็นคุณก็ใช่นะ เพราะเป็นเหตุให้พระองค์เจ้าตั้งสิกขาบทขึ้น แล้วพระองค์เจ้าก็ปรับโทษแต่เพียงสังฆาทิเสสเท่านั้น ไม่ปรับโทษถึงขั้นปาราชิก นั่นแหละก็เลยให้อยู่ปริวาสกรรม ๒๓ วัน เสร็จแล้วอยู่มานัต ๖ ราตรี แล้วภิกษุสงฆ์ ๒๐ รูปก็นำสวดอัพภานต่อหน้าพระพุทธเจ้า ไม่มีโบสถ์เหมือนทุกวันนี้ดอก พระพุทธเจ้าและสงฆ์นั่งล้อมรอบ ๒๐ องค์ แล้วก็มีพระผู้สวดอัพภาน คล้ายกันกับการบวชนั่นแหละ พระสุทินก็เลยพ้นจากโทษ

พระสุทินก็ตั้งใจเจริญธรรม ใจก็ผ่องใสได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์นะ ลูก (เจ้าพืช) ก็ออกบวชได้สำเร็จพระอรหันต์เหมือนกัน แม่เจ้าพืชก็ออกบวชเป็นภิกษุณี สำเร็จเป็นพระอรหันต์เหมือนกัน


แต่ทุกวันนี้ไม่ได้นะ พระจะไปเสพกามไม่ได้ทั้งนั้น เพราะพระองค์เจ้าตั้งสิกขาบทไว้แล้ว ใครพลาดลงไปนะผิดหวังทั้งนั้น เมื่อต้องปาราชิกเข้าไปแล้ว บุญเก่าก็สาปสูญหมดในวันนั้น บุญใหม่ก็หมดเสียสิ้นไม่เหลืออะไร เหมือนตอกลางไร่ เหมือนผ้าเหลืองห่อตอเฉยๆ อย่าทำนะเจ้า อย่าทำ อย่าประพฤติ ถ้าอดไม่ได้ก็สึกเสีย ไม่เป็นไรหรอก อย่าให้เสียมรรคเสียผล บุญกุศลเก่าก่อนสร้างสมมาแล้ว ทั้งบุญใหม่ก็อย่าให้หมดไป

“โอ๊ยอยู่ไม่ได้แล้ว ครูบาอาจารย์หมู่เพื่อนทั้งหลาย ขอไปเถอะเพราะกามมันเผา”

นี่..ไม่เป็นไร ใครไม่ปรับโทษดอก ไปให้บริสุทธิ์ใจ อย่าให้มันเสียอะสังวาโส หาสังวาสไม่ได้ อัปเปหิ แก้ผ้าไปเลย

นี่ พระสุทินเป็นปฐมเหตุองค์แรกนะ ทีนี้องค์ที่ ๒ ก่อเหตุขึ้นอีก

ภิกษุองค์หนึ่งอยู่ป่า ไปทำร้านอยู่ในป่านั้นมีนางวานรตัวใหญ่นะ ของลับมันก็ใหญ่แดงร่า พระไปบิณฑบาตได้ข้าวต้มขนมมา ก็เอามาให้มันกิน กินแล้วกระสันมันเกิดขึ้น เต้นโน่นเต้นนี่ ง้างดากให้ดูของลับแดงจ้ายวาย หัวงูเห่ามันได้กลิ่นอาหาร มันอยากพ่นพิษ พระก็เลยเอาเสียเท่านั้นแล้ว ยัดเข้าไปจ้ำมับเลย นางวานรก็สบาย ทำกรรมกันอยู่อย่างนั้น นานวันเข้าหมู่เพื่อนไม่เห็นมาทำกิจวัตร ปัดกวาดเสนาสนะ เอาน้ำใช้น้ำฉัน ก็ไม่เห็นมา ไปไหนหนอ ก็เลยเลียบๆ ไปดู โอํ เสพกามกับนางวานรอยู่

“อ้าว..เพื่อนทำไมจึงเสพกามกับนางวานร”

“พระพุทธเจ้าไม่ได้ปรับโทษเรื่องเสพกามกับสัตว์ ปรับโทษแต่เสพกับมนุษย์เท่านั้น ผมก็เลยเสพกับนางวานรละเว้ย กระสันมันเกิดขึ้นแรงเพื่อน มันจะตาย ตาก็ฟาง หูก็หนวก เมื่อกามมันเผาเข้าแล้ว เดินก็ไม่ถูกทาง เซซ้ายเซขวา เมื่อได้เสพกามกับนางวานรแล้วสบาย น้ำกามไหลออก ตาก็สว่าง หูก็แจ้ง ก็เลยเสพเสียเท่านั้นแหละเพื่อน”


“เออดี..ถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะไม่ได้ตั้งสิกขาบทนี้ก็ตาม แต่ว่ามันผิดวิสัยของสมณะ สมณะแปลว่าผู้สงบ เอากายพรากจากกามแล้ว ใจก็พรากจากกามอีกด้วย ถ้าจะเอากายกับใจมาบริโภคกามอย่างนี้ การเจริญสมณธรรมก็ไม่เป็นไปนะเพื่อน ไม่เกิดขึ้น ตายเสียเปล่า มันผิดวิสัยของสมณะผู้จะออกจากโลกไปสู่พระนิพพาน คล้ายกับว่าไม้ไผ่นั้นชุ่มด้วยยางแช่อยู่ในน้ำ บุรุษมาผ่าครึ่งทำเป็นราง เอาของอ่อนๆ ไปรอง แล้วก็เอาไม้มาถูไถกันเข้า ก็เหน็ดเหนื่อย เปล่าประโยชน์ไม่สามารถเกิดไฟได้ เพราะไม้นั้นชุ่มแช่ด้วยยางและน้ำ อันนี้ฉันใด ใจของสมณะที่จะมาบริโภคกามเป็นอาหาร ฉาบทาใจด้วยน้ำกามนั้นมันมืด มืดหนักหนาสาโหด ไม่สามารถจะเจริญสมณธรรมให้เกิดมรรคเกิดผลได้ ถ้าสมณพราหมณ์ผู้ใดเอากายกับใจพรากจากกามแล้ว อดนอนผ่อนอาหารเผาผลาญกิเลสให้เร่าร้อนทั้งกลางวันกลางคืน นั่นแหละ มันจึงจะเป็นไปให้เกิดมรรคเกิดผลได้โดยไม่ต้องสงสัย เปรียบเหมือนกับไม้ไผ่แห้งตั้งอยู่บนบก บุรุษต้องการได้ไฟจากไม้นั้น เอามาผ่าครึ่งทำเป็นรู เอาของอ่อนๆ มาทับข่มกัน แล้วถูไถเข้าไม่นานก็เกิดไฟได้ หุงต้มกินสบาย อันนี้ฉันใด สมณชีพราหมณ์ก็ฉันนั้น เราจะมาบริโภคกามใช้ไม่ได้….ไป ไปหาพระพุทธเจ้า”

เมื่อไปถึงแล้วก็กราบไหว้พระพุทธเจ้า

“ภันเต ข้าไหว้เจ้ากู อันเป็นสัพพัญญูครูสอนมวลมนุษย์เทพนิกรในโลกทั้งสาม ภิกษุนี้เสพกามกับนางวานรทุกวันคืน สมณะทำอย่างนั้นสมควรหรือ จะปล่อยไว้หรือทำอย่างไรดี พระเจ้าข้า”

พระองค์เจ้าก็เรียกประชุมสงฆ์ ๕๐๐ องค์ แล้วตรัสถามภิกษุนั้น

“เธอเสพกามกับนางวานรใช่ไหม”

“ใช่ พระเจ้าข้า เพราะพระองค์ไม่ได้ตั้งสิกขาบทห้ามไว้ ห้ามแต่มนุษย์เท่านั้น”

“เออ ดีล่ะ ต่อไปนี้เราจะตั้งสิกขาบทเพิ่มเติมอีกว่า”

“มนุษย์ก็ดี สัตว์เดรัจฉานก็ดี วัว ควาย หมู หมา เป็ด ไก่ ตุ๊กแก ช้าง ม้า ทวารหนัก ทวารเบา อย่าเพิ่งไปเสพ ถ้าเสพไปแล้วน้ำสุกกะเคลื่อนปรับอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ”


“ทีนี้เธอเป็นปฐมเหตุของสิกขาบทข้อนี้ คือเสพกับนางวานร ต่อไปนี้อย่าเสพนะ ถ้าเสพแล้วต้องอาบัติปาราชิก แต่ครั้งแรกนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เธอจงอยู่ปริวาสกรรมนะ จึงจะพ้นโทษได้”

พระองค์นั้นก็เลยอยู่ปริวาสกรรม แล้วก็นำอัพภานพ้นจากโทษหนัก จากนั้นก็ตั้งใจเจริญสมณธรรม เป็นเพราะเหตุนี้หนอ เพราะเราเลี้ยงกาม กินให้อิ่ม นอนให้อิ่ม นี่เป็นเหตุเป็นปุ๋ยส่งเสริมกาม ไม่ทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน ก็เลยไปปรึกษาพระพุทธเจ้า

“ข้าแต่พระองค์เจ้าผู้ประเสริฐ ข้าพระองค์จะทำความเพียรอย่างไร จึงจะเป็นไปพระเจ้าข้า”

“อดนอนผ่อนอาหาร ภิกษุ ไตรมาส ๓ เดือน อย่านอนนะ เดิน ยืน นั่ง เอา ๓ อิริยาบทเท่านั้น ทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อนทั้งวันทั้งคืน มันจึงจะเป็นไป เพราะกามนี่มันแรง”

ภิกษุองค์นั้นก็ตั้งใจทำความเพียรไตรมาส ๓ เดือน ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์พ้นทุกข์ได้ เพราะกิเลสมันเหือดแห้งหมดไป ไม่มีปุ๋ยเป็นเครื่องส่ง เรื่องกินกับนอนนี่เป็นปุ๋ยสำคัญ ส่งเสริมปุ๋ยใหญ่คือกิเลสนั่นแหละ เมื่อกิเลสหมดสิ้นไปก็พ้นทุกข์ไปได้

ทีนี้ถ้าเราต้องอาบัติปาราชิกเข้าแล้ว ก็ขาดจากความเป็นภิกษุ คือจะอยู่ในศาสนาอีกต่อไปไม่ได้ อัปเปหิสึกไปเลย บุญเก่าที่สะสมมาแต่ภพก่อนก็หมด บุญใหม่ก็หมดอีก เหมือนผ้าเหลืองห่อตอเฉยๆ เป็นโมฆะในการบวช อย่าเพิ่งทำนะ ถ้ามันจะตายจริงๆ ทำอย่างไรก็ไม่อยู่ เอาไม่ไหวแล้ว มันฝ่าฝืนอยู่อย่างนั้นก็..

“ขอลาเพศเถอะ ครูบาอาจารย์ ทนไม่ไหวแล้ว ขอสึกออกไปเอาให้มันคักๆ สักหน่อยเถอะว้า”

“เออได้ ไม่เป็นไร แต่ระวังนายพลเอดส์นะเล่า ทุกวันนี้นายพลเอดส์เล่นงานตายนะ อายุสั้น ๔-๕ ปี เสร็จม่องเลยทีเดียว”

“นั่นแหละ จำไว้ ปาราชิก ๔ สิกขาบทที่ ๑ นี้ เป็นอย่างอุกฤษฏ์ ถ้าต้องเข้าแล้ว ขาดจากความเป็นภิกษุเลยทีเดียว ผมเห็นแล้วนะ มหานิกายก็ดี ธรรมยุตก็ดี ต้องปาราชิกแล้วสึกออกไปนั้น แหม...ข้าวของเงินทองมันหนีหมด ร้อนเป็นไฟไหม้หมดไม่เหลือเลย หมู่เพื่อนสักเรือนเดียวก็ไม่มี เป็นทุกข์ยากลำบาก ไม่มีอะไร สะสมหาทรัพย์ก็ไม่เกิดขึ้น ฉิบหาย ไม่เจริญ นั่นแหละ ฉะนั้น อย่าล่วงเกิน”

อวหาร สิกขาบทนี้นะ สัตว์ตัวเมีย อย่าไปจับต้องลูบคลำ หมูหมา กาไก่ นกหนูปูปีก แมวหมา นี่ไปจับต้องลูบคลำแล้ว ปรับอาบัติทุกกฎนะท่าน พระบางวัดเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ตัวผู้ตัวเมียไม่ว่า จับต้องลูบคลำอย่างนั้น ไม่รู้พระวินัย ปรับอาบัติทุกกฎ ศีลเศร้าหมอง เป็นสมณะไม่สมบูรณ์


:b8: :b8: :b8:
หนังสือ พระวินัย ๒๒๗ เทศน์ภาคปฏิบัติ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=55925

:b49: :b50: เรื่องพระสุทิน ?
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=30120

:b49: :b50: การบัญญัติสิกขาบทของพระพุทธเจ้า
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=33958

:b49: :b50: วินัยสงฆ์-อาบัติ-ปาราชิก-สังฆาทิเสส
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=22785

:b49: :b50: ผู้ละเมิด “ปาราชิก” คนแรก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=57871

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2018, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


น้อมกราบองค์หลวงปู่เจ้าค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2018, 19:48 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร