วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 15:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=28



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 14:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b46: มงคลสูตร :b46:

ที่มาและความสำคัญของพระคาถาโดยสังเขป

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี
ครั้งนั้นแล เทวดาตนหนึ่ง เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้วมีรัศมีอันงดงามยิ่ง
ทำพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

๐ เทวดาและมนุษย์เป็นอันมากผู้หวังความสวัสดี
ได้พากันคิดมงคลทั้งหลาย ขอพระองค์ได้โปรดตรัสอุดมมงคล ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถาตอบว่า การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑
การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ฯลฯ

(เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๗๘๒๕-๗๘๕๗. หน้าที่ ๓๔๒-๓๔๔)

เป็นต้นเหล่านี้ รวมทั้งสิ้น ๓๘ ประการ ดังรายละเอียดต่อไป


ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดาร
ถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า
ประมาณ ๑๒ ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า
อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า วัตถุสิ่งของ
เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล
เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน
เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา
ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส
ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว
ซึ่งมีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี
แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก ๑๒ ปี
ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ใกล้เมืองสาวัตถี
ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชา
ให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไร คือ มงคลของชีวิต
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร
ซึ่งมีทั้งหมด ๑๐ หมวด นับเป็นรายการได้ ๓๘ ประการ


"มงคลสูตร" เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่ง เพราะมีเนื้อหา
แสดงถึงการปฏิเสธมงคลภายนอกที่นับถือเหตุการณ์
หรือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นมงคลหรือมีมงคล

โดยอธิบายว่าในทัศนะพระพุทธศาสนานั้น
มงคลของมนุษย์และเทวดาย่อมเกิดจากการกระทำ
อันได้แก่ มงคลภายใน คือต้องกระทำความดี
และความดีนั้นจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ามงคลเอง
โดยไม่ต้องไปอ้อนวอนกราบไหว้ขอมงคลจากนอกตัว

เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาในพระสูตรแล้ว ก็ได้แสดงให้เห็นว่า
พระพุทธศาสนาปฏิเสธมงคลภายนอกโดยสิ้นเชิง


:b46: :b46:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b45: บทขัดมังคะละสุตตัง :b45:

เย สันตา สันตะจิตตา ติสะระณะสะระณา เอตถะ โลกันตะเร วา
ภุมมาภุมมา จะ เทวา คุระคะณะคะหะณัพยาวะฏา สัพพะกาลัง
เอเต อายันตุ เทวา วะระกะนะกะมะเย เมรุราเช วะสันโต สันโต
สันโต สะเหตุง มุนิวะระวะจะนัง โสตุมัคคัง สะมัคคัง ฯ

สัพเพสุ จักกะวาเฬสุ
ยัง อัมเหหิ กะตัง ปุญญัง
สัพเพ ตัง อะนุโมทิตวา
ปะมาทะระหิตา โหนตุ
สาสะนัสสะ จะ โลกัสสะ
สาสะนัมปิ จะ โลกัญจะ
สัทธิง โหนตุ สุขี สัพเพ
อะนีฆา สุมะนา โหนตุ
.....ยัญจะ ทวาทะสะ วัสสานิ.....
จิรัสสัง จินตะยันตาปิ
จักกะวาฬะสะหัสเสสุ
กาลัง โกลาหะลัง ชาตัง
ยัง โลกะนาโถ เทเสสิ
ยัง สุตวา สัพพะทุกเขหิ
เอวะมาทิคุณูเปตัง

ยักขา เทวา จะ พรัหมุโน
สัพพะสัมปัตติสาธะกัง
สะมัคคา สาสะเน ระตา
อารักขาสุ วิเสสะโต
วุฑฒี ภะวะตุ สัพพะทา
เทวา รักขันตุ สัพพะทา
ปะริวาเรหิ อัตตะโน
สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ
จินตะยิงสุ สะเทวะกา
เนวะ ชานิงสุ มังคะลัง
ทะสะสุ เยนะ ตัตตะกัง
นาวะ พรัหมะนิเวสะนา
สัพพะปาปะวินาสะนัง
มุจจันตาสังขิยา นะรา
มังคะลันตัมภะณามะ เห ฯ


:b45: มังคะละสุตตัง :b45:

..........เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ
เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา
อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง
โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง
อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา
ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ

พะหู เทวา มะนุสสา จะ
อากังขะมานา โสตถานัง
......อะเสวนา จะ พาลานัง ......
ปูชา จะ ปูชะนียานัง
ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ
อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ
พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ
สุภาสิตา จะ ยา วาจา
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง
อะนากุลา จะ กัมมันตา
ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ
อะนะวัชชานิ กัมมานิ
อาระตี วิระตี ปาปา
อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ
คาระโว จะ นิวาโต จะ
กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง
ขันตี จะ โสวะจัสสะตา
กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา
ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ
นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ
ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ
อะโสกัง วิระชัง เขมัง
เอตาทิสานิ กัตวานะ
สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ

มังคะลานิ อะจินตะยุง
พรูหิ มังคะละมุตตะมัง ฯ
ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
ปุพเพ จ กะตะปุญญะตา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
วินะโย จะ สุสิกขิโต
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
ญาตะกานัญจะ สังคะโห
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
มัชชะปานา จะ สัญญะโม
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
สัพพัตถะมะปะราชิตา
ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติฯ



:b41: คำแปลของมงคล ๓๘ ประการ :b41:

คาถาที่ ๑. มี ๓ มงคล คือ

อะเสวะนา จะ พาลานัง
ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
ปูชา จะปูชะนียานัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การไม่คบคนพาลทั้งหลาย
การคบแต่ผู้รู้ (บัณฑิต) ทั้งหลาย
การบูชาบุคคลที่ควรบูชา
๓ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๒. มี ๓ มงคล คือ

ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ
ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา
อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การอยู่ในถิ่นที่มีสิ่งแวดล้อมดี
ความเป็นผู้ทำความดีเตรียมพร้อมไว้แต่ต้น
การตั้งตนไว้โดยชอบธรรม
๓ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๓. มี ๔ มงคล คือ

พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ
วินะโย จะ สุสิกขิโต
สุภาสิตา จะ ยา วาจา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

ความเป็นผู้เรียนรู้มาก ชำนาญในวิชาชีพ
ความเป็นผู้มีระเบียบวินัยที่ดี
การพูดแต่วาจาที่ดี
๔ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๔. มี ๔ มงคล คือ

มาตาปิตุอุปัฎฐานัง
ปุตตะ ทารัสสะ สังคะโห
อะนากุลา จะ กัมมันตา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การสงเคราะห์บิดาและมารดา
การสงเคราะห์ลูก การสงเคราะห์ภรรยา
ความเป็นผู้ทำงานไม่คั่งค้าง
๔ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๕. มี ๔ มงคล คือ

ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ
ญาตะกานัญจะ สังคะโห
อะนะวัชชานิ กัมมานิ
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การให้(ทาน) การประพฤติธรรม
การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย
การทำงานที่ไม่มีโทษ ทุจริต
๔ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๖. มี ๓ มงคล คือ

อาระตี วีระตี ปาปา
มัชชะปานา จะ สัญญะโม
อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การงดเว้นจากความชั่ว
การละเว้นจากสิ่งเสพติดมึนเมา
ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
๓ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๗. มี ๕ มงคล คือ

คาระโว จะ นิวาโต จะ
สันตุฏฐี จะ กตัญญุตา
กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การมีสัมมาคาระวะ การอ่อนน้อมถ่อมตน
มีความสันโดษ มีความกตัญญู
การฟังธรรมตามกาลเวลา
๕ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต


คาถาที่ ๘. มี ๔ มงคล คือ

ขันตี จะ โสวะจัสสะตา
สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

มีความอดทน เป็นผู้ว่าง่ายอ่อนโยน
การได้พบเห็นสมณะ คือ ผู้สงบระงับ
การสนทนาธรรมตามเวลาอันสมควร
๔ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๙. มี ๔ มงคล คือ

ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ
อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง
นิพพานะ สัจฉิกิริยา จะ
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

ความเพียรเผากิเลส
การประพฤติพรหมจรรย์ การเห็นอริยสัจ ๔
การรู้แจ้งเห็นจริงพระนิพพาน
๔ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๑๐. มี ๔ มงคล คือ

ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง
ยัสสะ นะ กัมปะติ
อะโสกัง วิระชัง เขมัง
เอตัมมังคะละมุตตะมัง

จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้ง ๘
จิตไม่เศร้าโศก จิตไม่มีกิเลสธุลี
จิตเกษมสุข (จิตเป็นอิสระหลุดพ้นจากกิเลส เครื่องเศร้าหมอง)
๔ ข้อนี้นำความเจริญรุ่งเรืองอันสูงส่งมาสู่ชีวิต

คาถาที่ ๑๑. ทรงแสดงอานิสงส์ของมงคลทั้ง ๓๘ ว่า

เอตาทิสานิ กัตวานะ
สัพพัตถะมะปะราชิตา
สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ
ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ

เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทำตามมลคลเหล่านี้แล้ว
ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง
ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง
ข้อนั้นเป็นมงคล (คือสิ่งอันนำความเจริญรุ่งเรือง)
อันสูงสุดของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0

:b46: :b46:


:b51: บทสวดมงคลสูตร (รูปแบบสำหรับพิมพ์)
http://www.dhammajak.net/suadmon1/140.html

:b53: รวมบทสวดมนต์

http://www.dhammajak.net/suadmon/index.php
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=20792

ที่มาของข้อมูล
http://th.wikipedia.org/wiki
https://www.gotoknow.org/posts/320945
http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html


:b47: หนังสือ...มงคลชีวิต ๓๘ ประการ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=22916

:b47: บทสวด...มงคลสูตร (มงคล ๓๘ ประการ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=20835

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร