วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 09:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=28



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2013, 14:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2013, 14:43
โพสต์: 68

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อริยมรรคมีองค์ ๘ ประกอบด้วย

องค์มรรคที่ ๑ สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ
องค์มรรคที่ ๒ สัมมาสังกัปโป ความดำริชอบ
องค์มรรคที่ ๓ สัมมาวาจา การพูดจาชอบ
องค์มรรคที่ ๔ สัมมากัมมันโต การทำงานชอบ
องต์มรรคที่ ๕ สัมมาอาชีโว การเลี้ยงชีพชอบ
องค์มรรคที ๖ สัมมาวายาโม ความพากเพียรชอบ
องค์มรรคที่ ๗ สัมมาสติ ความระลึกชอบ
องค์มรรคที่ ๘ สัมมาสมาธิ ความตั้งใจชอบ


องค์มรรคที่ ๑ กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาทิฏฐิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเห็นชอบ เป็นอย่างไรเล่า
ยัง โข ภิกขะเว ทุกเข ญาณัง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์
ทุกขะสะมุทะเย ญาณัง เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
ทุกขะนิโรเธ ญาณัง เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์
ทุกขะนิโรธะคามินียา ปะฏิปะทายะญานัง
เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับทุกข์
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาทิฏฐิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความเห็นชอบ


องค์มรรคที่ ๒ กะดะโม จะ ภิกขะเว ส้มมาสังกัปโป
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความดำริชอบ เป็นอย่างไรเล่า
เนกขัมมะสังกัปโป ความดำริในการออกจากกาม
อะพยาปาทะสังกัปโป ความดำริในการไม่มุ่งร้าย
อะวิหิงสาสังกัปโป ความดำริในการไม่เบียดเบียน
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สังกัปโป
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความดำริชอบ


องค์มรรคที่ ๓ กะตะมา จะ ภิกขะเว ส้มมาวาจา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การพูดจาชอบ เป็นอย่างไรเล่า
มุสาวาทา เวระมะณี เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง
ปิสุณายะ วาจายะ เวระมะณี เจตนาเว้นจากการพูดส่อเสียด
ผะรุสายะ วาจายะ เวระมะณี เจตนาเว้นจากการพูดหยาบ
สัมผัปปะลาปา เวระมะณี เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาวาจา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า การพูดจาชอบ


องค์มรรคที่ ๔ กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมากัมมันโต
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การทำงานชอบ เป็นอย่างไรเล่า
ปาณาติปาตา เวระมะณี เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า
อะทินนาทานา เวระมะณี เจตนาเป็นเครื่องเว้นจาก
การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว
กาเมสุ มิจฉาจารา เวะมะณี
เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมากัมมันโต
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า การทำการงานชอบ


องค์มรรคที่ ๕ กะตะโมจะ ภิกขะเว สัมมาอาชีโว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การเลี้ยงชีพชอบ เป็นอย่างไรเล่า
อิธะภิกขะเว อะริยะสาวะโก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาวกของพระอริยเจ้าในธรรมวินัยนี้
มิจฉาอาชีวังปะหายะ ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย
สัมมาอาชีเวนะ ชีวิกังกัปเปติ ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเวสัมมาอาชีโว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า การเลี้ยงชีพชอบ


องค์มรรคที่ ๖ กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาวายาโม
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความพากเพียรชอบ เป็นอย่างไรเล่า
อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
อะนุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง อะนุปปา
ทายะฉันทัง ชะเนติ วายะมะติวิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้เพื่อจะยังอกุสลธรรมอันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น
อุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง ปะหานายะ
ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรมอันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
อะนุปปันนานังกุสะลานัง ธัมมานัง อุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ
วายะมะติวิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคันหาติปะทะหะติ
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้นย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
อุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง ฐิติยา อะสัมโม สายะ
ภิยโยภาวายะ เวปุลลายะ ภาวะนายะ ปาริปูริยา ฉันทัง ชะเนติ
วายะมะติ วิริยังอาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ
ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้นย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น
ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาวายาโม
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความพากเพียรชอบ


องค์มรรคที่ ๗ กะตะมา จะ ภิกขะเว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความระลึกชอบ เป็นอย่างไรเล่า
อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ ย่อมเป็นผู้พิจาราณาเห็นกายในกายเป็นประจำ
อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชาโทมะนัสสัง
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจ และความไม่พอใจในโลกออกเสียได้
จิตเต จิตตานุปัสสี วิหะระติ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ
อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญะ มีสติ
ถอนความพอใจและไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้
ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห้นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา วิเนยยะ โลเก อะภิชาโทมะนัสสัง
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ
ถอนความพอใจและความไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสะติ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เราเรียกว่า ความระลึกชอบ

องค์มรรคที่ ๘ กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสะมาธิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความตั้งใจมั่นชอบ เป็นอย่างไรเล่า
อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้
วิวิจเจวะ กาเมหิ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย
วิวิจจะ อะกุสะเลหิ ธัมเมหิ สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย
สะวิตักกัง สะวิจารัง วิเวกะชัง ปิติสุขัง ปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ
เข้าถึงปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตกวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดจากวิเวกแล้วแลอยู่
วิตักกะวิจารานัง วูปะสะมา เพราะความที่วิตกวิจารทั้งสองระงับลง
อัชฌัตตัง สัมปะสาทะนัง เจตะโส เอโกทิภาวัง อะวิตักกัง อะวิจารัง
สะมาธิชัง ปิติสุขัง ทุติยัง ฌานัง อุปะสัมปัชชัง วิหะระติ
เข้าถึงทุติฌาณ เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอก
ผุดมีขึ้น ไม่มีวิคก ไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุข อันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่
ปีติยา จะ วิราคา อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปิติ
อุเปกขะโก จะ วิหะระติ สะโต จะ สัมปะชาโน
ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปชัญญะ
สุขัญจะ กาเยนะ ปะฏิสังเวเทติ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย
ยันตัง อะริยา อาจิขันติ อุเปกขะโก สะติมา สุขะวิหารี ติ
ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ย่อมกล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า
"เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปรกติสุข" ดังนี้
ตะติยัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ เข้าถึงตติยฌานแล้วแลอยู่
สุขัสสะ จะปะหานะ เพราะเราละสุขเสียได้
ทุกขัสสะ จะ ปะหานะ และเพราะละทุกข์เสียได้
ปุพเพวะ โสมะนัสสะโทมะนัสสานัง อัตถังคะมา
เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสอง ในกาลก่อน
อะทุกขะมะสุขัง อุเปกขาสะติปาริสุทธิง
จะตุตถัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ
เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์
เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่ อะยัง
วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาสะมาธิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความตั้งใจมั่นชอบ



ที่มา : หนังสือสวดมนต์ฉบับพิเศษ
สำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม จ.เพชรบุรี


:b8: :b8: :b8: กัลยา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 19:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนานะครับ :b8: :b8: :b8:
บทสวดนี้ดีมากเลย เป็นหนทางนำไปสู่การดับทุกข์ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2013, 09:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2013, 14:43
โพสต์: 68

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศิษย์หลวงปู่ทา เขียน:
ขออนุโมทนานะครับ :b8: :b8: :b8:
บทสวดนี้ดีมากเลย เป็นหนทางนำไปสู่การดับทุกข์ครับ


สาธุ สาธุ สาธุ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร