วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 08:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 13:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2014, 15:51
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนรักเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุรถชนเมื่อก่อนปีใหม่อายุ29เสียใจมากที่สุดในชีวิตเหมือนขาดเสาหลักของบ้าน
มีลูกชาย3ขวบคนนึง จากกันโดยไม่ลา คิดถึงมากคิดอยากตายทุกวันและฝันถึงเค้าทุกคืนร้องให้ทุกครั้ง
ฝันว่าอยู่กะเค้ามีความสุขจนแทบไม่อยากตื่นจากฝัน จะทำอย่างไงให้จิตใจสงบ
บ้าง ฟุ้งซ่านตลอด2เดือนแล้วยังไม่หยุดที่จะร้องให้เลยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านที่มีความทุกข์โศก ขอให้ลองเทียบกับความทุกข์โศกของ นางปฏาจารา ท่านอาจรู้สึกดีขึ้น นางปฏาจารามีประวัติที่น่าเศร้ามาก ต้องผจญกับความทุกข์โศกหลายระลอกในชั่วเวลาเพียงวันเดียว เริ่มด้วยทุกข์ทางกายต้องทนตากลมฝนตลอดคืน รุ่งเช้าก็ต้องเศร้าโศกเพราะสามีถูกงูกัดตาย ต่อมาก็สูญเสียบุตรทั้งสองไปทีละคน ต่อหน้าต่อตาโดยช่วยเหลืออะไรไม่ได้ นางจึงเศร้าจนแทบจะไม่เป็นผู้คนอยู่แล้ว เหลือความหวังใยสุดท้ายคือ บิดา-มารดาและพี่ชาย ก็ตายจากไปเสียก่อนแล้วในคืนฝนตกหนัก เมื่อความหวังสุดท้ายพังทลายลง หัวใจนางก็สลายลงด้วย กลายเป็นคนบ้าไร้สติ

อ่านต่อจากที่นี่คะ
http://www.dhammajak.net/book/soka/soka05.php


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่น ดิฉันขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ขอให้มีสติเข้าไว้นะคะ เวลาที่คิดอยากตายขึ้นมา
ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ จากที่คิดว่าอยากตาย ให้ตั้งจิตคิดเสียใหม่ว่า ต่อไปนี้เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อลูก และทำความดี ทำกุศล และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สามีนะคะ นี่คือรักกันจริง ทำบุญอุทิศให้เค้าบ่อยๆ

ลูกชายยังเล็กอยู่น่าสงสารมากนะคะ เค้ายังเด็กอยู่เลยค่ะ หากคุณตายไปอีกคน เค้าจะอยู่อย่างไร
ไม่มีใครที่รักลูกให้ความอบอุ่นลูกได้ดีเท่าแม่นะคะ คิดกลับกันนะคะถึงแม้พ่อมีชีวิตอยู่แต่แม่ตาย พ่อก็ยังแทนแม่ไม่ได้เลยค่ะ แม่นี้เป็นที่สุดแล้วของคนเป็นลูกนะคะ ไม่ต้องห่วงเรื่องตายหรอกค่ะ รับรองว่าวันหนึ่งข้างหน้าคุณได้ตายแน่นอนนะคะ เอาไว้ตายตอนนั้นดีกว่านะคะ ตอนนี้เอาเวลามาเลี้ยงลูกชายก่อนดีกว่าค่ะ วันนี้คุณเสียใจแค่สามีตายไปคนเดียว แต่ถ้าคุณตายไปอีกคน ลูกชายของคุณจะเสียใจมากกว่าคุณอีก 2 เท่าเพราะทั้งพ่อทั้งแม่ไม่มีเหลือเลยค่ะ

การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เรามีโอกาสทำกุศลต่อไปได้อีกเรื่อยๆ มีโอกาสทำเพื่อลูก มีโอกาสทำเพื่อสามีด้วยการทำบุญแล้วอุทิศให้ .....ถ้าคุณรีบตายไปวันนี้คุณจะเสียประโยชน์มากมายมหาศาลนักนะคะ

แล้วคนที่ฆ่าตัวตาย อยากรู้มั้ยคะว่า ตายแล้วไปไหน .....ตายแล้วส่งตรงสู่นรกทันทีค่ะ คนที่ฆ่าตัวตายจะต้องไปทรมานในนรกอีกนานนะคะกว่าจะพ้นโทษ ในโลกมนุษย์นี้นั้นเราเสียใจ พลัดพรากจากคนรัก หรือเจ็บป่วยทรมาน เป็นต้นนี้ ขอบอกว่าทรมานน้อยกว่านรกหลายร้อยเท่าพันเท่าหมื่นเท่าค่ะ ในนรกจะทรมานมาก ไฟนรกนั้นร้อนกว่าไฟในเตาที่เราเห็นอยู่นี้มากมายเหลือเกิน ถ้าคุณคิดอยากจะตายคุณลองไปเดินเท้าเปล่าบนแผ่นปูนร้อนๆ กลางแดดตอนเที่ยง สัก 1 ชั่วโมงดูก่อนค่ะ ดูว่าเท้าร้อนขนาดนี้ยังทนไม่ไหว ขอบอกว่าไฟในนรกร้อนกว่านี้หลายร้อยพันหมื่นเท่านะคะ(หรืออาจจะมากกว่านี้) ลองตรองดูนะคะ

คนที่ฆ่าตัวตายนั้น ตำรวจเค้าต้องนำศพของคุณไปชันสูตรก่อนค่ะ แล้วค่อยส่งมาให้ญาติบำเพ็ญกุศลค่ะ ดังนั้นศพของคุณจะต้องมีผู้ชายเห็นทุกซอกทุกมุมนะคะ แล้วก็ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานหมดค่ะ รูปก็อยู่ในแฟ้ม ใครจะเปิดหาข้อมูลอะไร ก็ได้ดูรูปของคุณไปด้วย ถ้าคุณยังสาวยังสวย ใครๆ ก็อดมองไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเค้าต้องดูแล้วปลงว่ายังสาวยังสวยไม่น่าจะตายเลย

มรณํ เม ธุวํ, ชีวิตํ เม อธุวํ (มรณัง เม ธุวัง, ชีวิตัง เม อะธุวัง)
การมีชีวิตอยู่เป็นของไม่แน่นอน ความตายเป็นของแน่นอน

เชิญคลิ๊กเข้าไปอ่านโพสท์สุดท้ายของวันนี้เพื่อแก้ปัญหาของใจคุณค่ะ
2 โพสท์สุดท้ายของวันนี้นะคะ เกี่ยวกับการปล่อยวาง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=46210&start=60

:b27: เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอให้ตั้งจิตซะใหม่ว่าจะอยู่เพื่อลูก อยู่เพื่อทำกุศลเพื่อตนเองและอุทิศให้สามีค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 20:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2014, 15:51
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากนะคะคุณงSOAMUSA ขอบคุณจริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


kanpupa เขียน:
ขอบคุณมากนะคะคุณงSOAMUSA ขอบคุณจริงๆ


ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราน่าสงสารทุกคนค่ะ
ต่างคนก็มีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครสุขได้ตลอดเวลาค่ะ เดี๋ยวก็ทุกข์ เดี๋ยวก็สุข
จริงๆ แล้วมีแต่ทุกข์ค่ะ ที่ว่าสุขนั้นเพราะมันมีทุกข์อยู่น้อยต่างหากค่ะ

:b27: ขอให้คิดบวกไว้นะคะ ไหว้พระสวดมนต์แล้วอุทิศให้สามีไปบ่อยๆ นะคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2014, 10:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดีค่ะ คุณจขกท

"พบกัน เพื่อจาก ไม่จากเป็น ก็จากตาย" วลีนี้อาจทำให้หลายๆคนพบกับความเศร้าโศกเสียใจ
และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเรา แต่ถึงเราจะอยากหรือไม่อยาก มันก็ต้องเป็นของมันอย่างนั้นเองเป็นไปตามเหตุปัจจัยของธรรมชาติ...มันคือความจริงที่เราต้องยอมรับให้ได้...
...เราเองก็ผ่านการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งจากเป็นและจากตาย หลายต่อหลายครั้ง..แน่นอนว่าต้องทุกข์แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับว่าเรายึดตึด รักชอบใครมากกว่ากัน คนไหนรักมาก ก็ทุกข์มาก...
ถ้าไม่รักไม่คาดหวัง ก็ไม่ทุกข์ใช่ไหม?...
...มันทุกข์มากจนบางครั้งรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังอยากจะหายไปจากโลกนี้เอาเสียเลย..แต่พอมีสติสัมปชัญญะนึกคิดพิจารณาให้ดีการที่เรายังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปยังทำประโยชน์ให้กับตัวเองและคนที่รักเราได้อีกมากมายแน่นอนว่าคนที่รักเรายังมีอีกมากเช่น พ่อแม่ ญาตพี่น้อง เพื่อน ฯลฯ แล้วเหตุอันใดเราจะมาตัดรอนชีวิตตนเองเสียเพียงแค่คนๆเดียว..ไม่ได้เป็นลมหายใจของเราสักหน่อย...ไม่อาจเทียบเท่ากับชีวิต ที่พ่อแม่ให้มาด้วยการเลี้ยงดูให้ข้าวน้ำ...ตั้งแต่นั้นมาไม่เคยคิดเรื่องนี้อีกเลย..รู้สึกดีใจมากที่เรามี วันนี้เป็นวันที่ชีวิตดีกว่าอดีตและวันที่ผ่านๆมา...
...มาวันนี้เรากลับคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำประโยชน์ตน..ประโยชน์สังคมโดยการช่วยเหลือเกื้อกูลมีน้ำจิตน้ำใจต่อกันมันทำให้เรามีความสุขมากกว่าการที่เราสะสมวัตุถุสิ่งของให้ตัวเอง
วันนี้เราไม่ได้อยู่เพื่อตัวเองแต่อยู่เพื่อดูแลและช่วยเหลือคนที่เขารักเราและยังต้องการเราอยู่..
..เล่าสู่กันฟังจากประสบการณ์ชีวิต..

..ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ..ชีวิตต้องสู้ค่ะ :b41:

:b41: ทำวันนี้ให้ดีที่สุด...วันพรุ่งนี้และต่อๆไปก็จะเป็นวันที่ดีที่สุดของชีวิต... :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2014, 20:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2014, 15:51
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s007 ขอบคุณมากนะคะ คุณปลีกวิเวก สำหรับกำลังใจคะ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2014, 17:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


kanpupa เขียน:
s007 ขอบคุณมากนะคะ คุณปลีกวิเวก สำหรับกำลังใจคะ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วคะ


:b27: ดีใจด้วยค่ะ ที่จิตใจดีขึ้นกว่าเดิม สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังให้ค่ะ
ขอให้คิดถึงเค้าด้วยรอยยิ้มนะคะว่าได้เคยรักกัน มีความสุขด้วยกันค่ะ


.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2014, 01:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2014, 04:38
โพสต์: 14

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นใดก็ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2014, 03:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2014, 04:38
โพสต์: 14

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเองก็สูญเสียภรรยาไปเมื่อ คืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 57 ด้วยอาการหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน ที่เสียใจมากที่สุดก็คือ ผมไปส่งเธอไปโรงพยาบาลไม่ทันเวลา เหลือระยะทางอีก3กิโลเมตรก็จะถึงโรงพยาบาล แต่เธอก็จากผมไปเสียก่อนในเวลาประมาณตีสองเศษ ในช่วงเวลาขณะนั้นผมเหมือนคนบ้า ขับรถเร็วมาก เพื่อรีบนำเธอไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด มือขวาขับรถ มือซ้ายก็ใส่ในปากภรรยา เพื่อง้างปากให้อ้าออก ปากก็ร้องตะโกนเรียกชื่อเธอไปตลอดทาง พอไปถึงโรงพยาบาลปั้มหัวใจ เธอมีสัญญาณที่ดีกลับมาเพียงครู่เดียว แล้วเธอก็จากผมไป โดยไม่มีวันที่จะกลับคืนมาได้อีกเลย ตอนนั้นผมงงมาก ทำอะไรไม่ถูก สับสนมันเกิดอะไรกับชีวิตเรานี่ เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เธอยังเดินขึ้นรถ นั่งมากับเราดีๆอยู่แท้ๆ วันที่14 กุมภาพันธ์เธอยังทำอาหารกินสังสรร สนุกสนานกับเพื่อนบ้านดีๆอยู่เลย สมองคิดไปต่างๆนาๆ ผมปิดตาให้ภรรยาทั้งน้ำตา อยู่กินกันมา 20ปี ลำบากเหนื่อยมาด้วยกัน พอชีวิตเริ่มสบาย มีบ้าน มีสวน มีรถมีทุกอย่างครบบริบูรณ์ แต่วันนี้ผม ไม่มีเธออีกแล้ว เหลือลูกสาวที่มีคนเดียว ที่คอยเป็นกำลังใจ ให้ผมมีชีวิตสู้ต่อไป
สุดท้ายก็ขอเป็นกำลังใจให้กับ คุณ และทุกๆคนที่มีชะตากรรมคล้ายๆกับผมขอให้สู้ต่อไป
คนที่แย่กว่าเรายังมีอีกเยอะมาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่ทุกคนหนีไม่พ้น ทุกคนรู้ข้อนี้ดี เพราะวันหนึ่ง มันก็จะเกิดกับทุกๆคน และก็จะเป็นเช่นนั้นทุกวัน เพียงแต่มันยังไม่เกิดกับเรา เราจึงไม่สามารถที่จะรับรู้ เข้าใจและรู้สึกได้ เหมือนคำพูดที่พูดว่า ทุกสื่งทุกอย่างสอนกันได้ แต่ประสพการณ์สอนกันไม่ได้ ทุกคนต้องเจอด้วยตนเองจึงจะรู้ จึงจะเข้าใจ แต่วันนี้คุณยังทำใจไม่ได้ ขอให้อ่านกฎแห่งกรรมเยอะๆ ทำกรรมฐานบ่อยๆ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขามากๆ วันเวลาที่ผ่านไปคุณก็จะเข้มแข็งขึ้นครับ คนเรามีทุกข์จึงต้องหันหาทางธรรม เพราะทางธรรม เป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์
ชรัญ บำรุงกิจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


charun เขียน:
ผมเองก็สูญเสียภรรยาไปเมื่อ คืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 57 ด้วยอาการหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน ที่เสียใจมากที่สุดก็คือ ผมไปส่งเธอไปโรงพยาบาลไม่ทันเวลา เหลือระยะทางอีก3กิโลเมตรก็จะถึงโรงพยาบาล แต่เธอก็จากผมไปเสียก่อนในเวลาประมาณตีสองเศษ ในช่วงเวลาขณะนั้นผมเหมือนคนบ้า ขับรถเร็วมาก เพื่อรีบนำเธอไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด มือขวาขับรถ มือซ้ายก็ใส่ในปากภรรยา เพื่อง้างปากให้อ้าออก ปากก็ร้องตะโกนเรียกชื่อเธอไปตลอดทาง พอไปถึงโรงพยาบาลปั้มหัวใจ เธอมีสัญญาณที่ดีกลับมาเพียงครู่เดียว แล้วเธอก็จากผมไป โดยไม่มีวันที่จะกลับคืนมาได้อีกเลย ตอนนั้นผมงงมาก ทำอะไรไม่ถูก สับสนมันเกิดอะไรกับชีวิตเรานี่ เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เธอยังเดินขึ้นรถ นั่งมากับเราดีๆอยู่แท้ๆ วันที่14 กุมภาพันธ์เธอยังทำอาหารกินสังสรร สนุกสนานกับเพื่อนบ้านดีๆอยู่เลย สมองคิดไปต่างๆนาๆ ผมปิดตาให้ภรรยาทั้งน้ำตา อยู่กินกันมา 20ปี ลำบากเหนื่อยมาด้วยกัน พอชีวิตเริ่มสบาย มีบ้าน มีสวน มีรถมีทุกอย่างครบบริบูรณ์ แต่วันนี้ผม ไม่มีเธออีกแล้ว เหลือลูกสาวที่มีคนเดียว ที่คอยเป็นกำลังใจ ให้ผมมีชีวิตสู้ต่อไป
สุดท้ายก็ขอเป็นกำลังใจให้กับ คุณ และทุกๆคนที่มีชะตากรรมคล้ายๆกับผมขอให้สู้ต่อไป
คนที่แย่กว่าเรายังมีอีกเยอะมาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่ทุกคนหนีไม่พ้น ทุกคนรู้ข้อนี้ดี เพราะวันหนึ่ง มันก็จะเกิดกับทุกๆคน และก็จะเป็นเช่นนั้นทุกวัน เพียงแต่มันยังไม่เกิดกับเรา เราจึงไม่สามารถที่จะรับรู้ เข้าใจและรู้สึกได้ เหมือนคำพูดที่พูดว่า ทุกสื่งทุกอย่างสอนกันได้ แต่ประสพการณ์สอนกันไม่ได้ ทุกคนต้องเจอด้วยตนเองจึงจะรู้ จึงจะเข้าใจ แต่วันนี้คุณยังทำใจไม่ได้ ขอให้อ่านกฎแห่งกรรมเยอะๆ ทำกรรมฐานบ่อยๆ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขามากๆ วันเวลาที่ผ่านไปคุณก็จะเข้มแข็งขึ้นครับ คนเรามีทุกข์จึงต้องหันหาทางธรรม เพราะทางธรรม เป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์
ชรัญ บำรุงกิจ


สวัสดีค่ะ

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
:b8: ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ที่ศรัทธาธรรมะพระพุทธเจ้านำมาเป็นแนวทางพ้นทุกข์

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร