วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 20:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2013, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 15:02
โพสต์: 24


 ข้อมูลส่วนตัว


บางครั้งตามตัวเองไม่ทันค่ะ รู้ตัวอีกทีก็พูดจาไม่ดีออกไปเสียแล้ว แต่กลับรู้สึกผิดในภายหลัง

ที่ทุกข์ใจจริงๆตอนนี้ และมากที่สุด คือเถียงพ่อแม่นี่แหละค่ะ รู้ว่าตัวเองไม่มีเหตุผล จะเอาอย่างนี้ ต้องได้อย่างนี้ เถียงไป พูดเสียงดังไป สุดท้ายมานั่งร้องไห้ รู้สึกผิดที่เถียงพ่อแม่ พูดไม่ดีกับพ่อแม่ อย่างเช่น ตอนนี้แม่ 50 กว่า ไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ปวดเอว ปวดเข่า มีอาการนิ้วล็อค มือไม่ดี แต่ท่านชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนเอง ครั้งหนึ่ง จะไปงานศพ แม่ไปกับน้า ขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับน้าก่อน เราห่วง เราก็พูดเสียงดัง "มือไม่ดีจะขี่ทำไม ให้พ่อไปส่งสิ (หนูยังขับรถยนต์ไม่เป็นค่ะ) ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ดูแลตัวเอง" หนูพูดอยู่ 2-3 รอบ แต่สุดท้ายแล้ว แม่ก็ไม่ยอม และขับรถไปเอง เรามานั่งคิดแล้ว ฟังดูแย่มาก แต่ก็พูดไปแล้ว มานั่งเสียใจร้องไห้ทีหลัง ,,คือเป็นห่วงค่ะ เคยพูดดีแล้วแม่ไม่เชื่อ แม่ไม่ฟัง เลยมีความคิดว่า ต้องเสียงดัง ต้องขึ้นเสียง แต่ก็ยังไม่เห็นผลอะไรดีขึ้นมา

บางครั้งรู้สึกว่า ตัวเองพยายามจะเอาชนะแม่ พอไม่ได้อย่างใจ ก็มานั่งเจ็บใจ เก็บไปคิดว่าทำยังไงแม่ถึงจะยอม. อาการหนูเข้าขั้นโคม่าแล้วค่ะ ไม่รู้คิดแบบนี้ได้ยังไง

หนูเป็นลูกคนเดียว บ้านฐานะปานกลาง ตอนเด็กๆอยากได้อะไร พ่อแม่ก็หามาให้ตลอดจนโต บางทีก็คิดว่า คงได้ทุกอย่างเสียเคยชิน พอไม่ได้ก็มีอาการกระฟัดกระเฟียด กับผู้มีพระคุณแท้ๆ ทั้งๆที่เคยปฏิบัติธรรมหลายครั้ง รู้ว่าทำบาปกับพ่อแม่ ชีวิตมีแต่ตกต่ำ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้เสียทีค่ะ พลาด พลั้งเผลอตลอด บางทีตั้งใจว่าจะไม่พูดเรื่องที่เคยทะเลาะกันอีก สุดท้ายหนูก็เปิดประเด็นเอามาบ่นท่านแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยได้

เจ้าคิดเจ้าแค้น ช่างเก็บ เอาแต่ใจตัวเองว่าแย่แล้ว นี่ยังทำกับผู้มีพระคุณอีก ควรเริ่มปรับปรุงตรงไหน แก้อย่างไรก่อนดีคะ บาปเหลือเกิน แต่ทำไมหยุดไม่ได้เสียที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2013, 05:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จขกท.ใกล้จะเป็นคนดีแล้วครับ อ้าว....จะดีได้ยังไงเถียงพ่อแม่แบบไม่มีเหตุผล ตอบ ก็รู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดีภายหลังนั่นไง ดีกว่าคนที่่พูดทำไปแล้วๆไม่รู้สึก

วิธีแก้กรรมอย่างเราๆท่านๆ ซึ่งสติยังตามปัจจุบันขณะพูดขณะทำไม่ทัน คือจะรู้สึกสำนึกได้ หลังพูดทำสำเร็จไปแล้ว (จิตดวงนั้นมันดับไปแล้ว ดวงใหม่คือรู้สึกผิดชอบชั่วดีเกิด) วิธีแก้ตอนนี้คือ เมื่อรู้สึกสำนึกผิดได้ตอนไหน ก็เข้าไปกราบขอโทษแม่พ่อตอนนั้น สารภาพผิดแล้วสัญญาว่าต่อไปจะไม่พูดไม่ทำอย่างนี้อีก ....สมมติต่อไปลืมตัวพูดอีกทำอีก ก็กราบขอโทษอีก .... ทำอีกกราบแม่พ่อขอโทษอีก ไม่ต้องอายนะครับ แรกๆจะอายๆตะขิดตะขวงใจ ปฏิบัติอย่างนั้นทุกๆครั้ง ต่อไปสติจะค่อยๆพัฒนาขึ้นๆ แล้วตามทันก่อนพูดก่อนทำไ้ด้เร็วขึ้น แรกๆอาจยากสักหน่อย ทดลองปฏิบัติดูครับ



อนึ่ง ตามที่เล่าว่า ถูกแม่พ่อเลี้ยงดูแบบตามใจมาแต่เด็ก อยากได้อะไรเอาอะไรก็หาให้ นั่นจึงเป็นพื้นนิสัยเรา ถูกขัดใจก็โกรธเคือง จึงต้องแก้นานหน่อย ยังไม่สายครับ รู้สึกตัวแล้วปฏิบัติต่อแม่พ่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าสำนึกได้ตอนที่ท่านไปสวรรค์กันหมดแล้ว ตอนนั้นถึงอยากแก้ตัวก็สายไปแล้วครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2013, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

วิธีแก้ตอนนี้คือ เมื่อรู้สึกสำนึกผิดได้ตอนไหน ก็เข้าไปกราบขอโทษแม่พ่อตอนนั้น สารภาพผิดแล้วสัญญาว่าต่อไปจะไม่พูดไม่ทำอย่างนี้อีก ....สมมติต่อไปลืมตัวพูดอีกทำอีก ก็กราบขอโทษอีก .... ทำอีกกราบแม่พ่อขอโทษอีก ไม่ต้องอายนะครับ แรกๆจะอายๆตะขิดตะขวงใจ ปฏิบัติอย่างนั้นทุกๆครั้ง ต่อไปสติจะค่อยๆพัฒนาขึ้นๆ แล้วตามทันก่อนพูดก่อนทำไ้ด้เร็วขึ้น แรกๆอาจยากสักหน่อย ทดลองปฏิบัติดูครับ



:b8: เรื่องการกราบขอขมาพ่อแม่ ทำแล้วดีจริงค่ะ :b45:


เรื่องอาการขี้งอน ขี้โมโห ฮานาโกะจังก็เคยนิสัยแบบนี้ :b1:
วิธีกำราบมันแบบเบื้องต้่นก็คือ ไม่พูดค่ะ
จะอะไรในใจเกิดขึ้นมา กัดปากไว้ค่ะ
ระงับใจตอนแรกๆจะยาก เราระงับของหยาบๆคือ ปาก ไว้ก่อน
พออยากพูดอะไรตามที่อยากพูดตอนนั้น ไม่พูดซะเดี๋ยวนั้น อารมณ์ก็เปลี่ยนแล้ว
อารมณ์มันก็มีลักษณะไม่คงทนเหมือนกันค่ะ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่แป๊บนึง แล้วมันก็เปลี่ยนไป
อารมณ์โกรธต่างๆที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่ตามใจมัน ไม่ใช้กาย วาจา ของเราไปตอบสนองมัน
ไม่ตอบสนองบ่อยๆเข้า มันก็อ่อนกำลังลงค่ะ

เอาใจช่วยค่ะ

แล้วค้นอินเตอร์เนตหาโทษของความโกรธดูสิคะ
ผู้มักโกรธเป็นอยู่อย่างไร ไฟมันสุมในทรวงร้อนไหม?
แล้วร้อนตัวเองไม่พอ ไปเผาผลาญคนที่เรารักด้วยใช่หรือไม่?
คิดว่า ถ้าเราหรือเขาที่เรารัก จากกันไปในช่วงเวลาที่เราโกรธกันจะเสียใจไหม?
คิดดูแล้วก็รู้ว่า คุ้มไหมกับการบันดาลโทสะออกไป
เห็นโทษของไฟ คือ ความโกรธ ให้มากๆ มันจะผ่อนๆลงอะค่ะ


ปล. ผู้มักโกรธ...ไม่สวยด้วยนะเออ

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร