วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 21:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ต.ค. 2013, 23:51
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับแต่ได้ติดตาม Web นี้มานานแล้วโดยอ่านมาทุกกระทู้แล้วไม่ตรงกับเรื่องที่ไม่สบายใจเลย ขอให้ท่านผู้รู้ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยครับว่าเรื่องนี้ผิดศีลธรรมหรือไม่
ปัจจุบันผมแต่งงานและมีลูกแล้ว 2 คน แต่แฟนผมคนนี้เธอเคยมีลูกมาก่อนที่จะมารู้จักกับผม และเธอก็ได้บอกกับผมก่อนแล้วที่เราจะคบกัน เป็นความผิดพลาดในวัยเรียน ซึ่งผมก็ไม่แคร์หรือรังเกียจในตัวเธอเลยและไม่เคยคิดถึงอดีตของเธอด้วยซ้ำ จนมีอยู่วันหนึ่งเราได้มีโอกาสคุยถึงอดีตของกันและกัน และเมื่อรู้แล้วกลับทำให้ผมไม่สบายใจ เรื่องมีอยู่ว่า...
แฟนผมคนนี้เธอเป็นคนต่างจังหวัดและได้มีโอกาสมาศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ เธอมาตามลำพังคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษา ต่อมาก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งเป็นรุ่นพี่ต่างสถาบัน คบหากันในฐานะกิ๊กเพราะฝ่ายชายมีแฟนอยู่แล้ว สุดท้ายก็พลาดและตั้งท้อง หลังจากนั้นก็ต้องลาออกจากมหาลัย แล้วก็ต้องย้ายข้าวของไปอยู่บ้านฝ่ายชายเพราะกลับบ้านไม่ได้และไม่มีทางเลือก (พี่ชายเธอดุมากถ้ารู้เรื่องนี้แต่พ่อแม่ของเธอรู้เรื่องทุกอย่าง) พ่อแม่ของแฟนผมก็บอกไปทางฝ่ายชายหลายครั้งว่าให้มาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีซึ่งก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด และตลอดเวลาที่อยู่บ้านฝ่ายชายก็ไม่มีความสุขเลยเพราะแม่ผู้ชายไม่ชอบที่เธอเป็นเด็กบ้านนอก ถูกกดดันและดูถูกต่างๆ นาๆ เธอก็ทนอยู่จนคลอดเด็กออกมา หลังจากที่คลอดเด็กออกมาแล้วแทนที่ฝ่ายชายต้องเลิกงานและกลับบ้านเพื่อมาช่วยเลี้ยงลูก กลับเริ่มตีตัวออกห่างจะกลับบ้านอาทิตย์ละวันเท่านั้นปล่อยให้เธอเลี้ยงลูกเพียงลำพัง จนเธอก็จับได้ว่าที่ไม่กลับบ้านเพราะไปอยู่กับผู้หญิงอีกคนซึ่งก็คือแฟนตัวจริงของเขานั่นเอง สุดท้ายเธอรับเรื่องราวต่างๆ ไม่ไหวก็ได้ปรึกษามาทางพ่อแม่ของเธอและแนะนำว่าให้กลับบ้าน โดยใช้เหตุผลว่ากลับมาเรียนต่อให้จบ หลังจากที่กลับมาอยู่ที่บ้านแล้วเธอก็เคยหาโอกาสได้ไปพบฝ่ายชายและลูกอยู่อีก 2-3 ครั้ง จนกระทั่งได้มาเจอกับผม หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยกลับไปอีกเลยโดยที่ยังไม่ทันได้บอกลาฝ่ายชายและลูกของเธอเลย ส่วนผมกับเธอเราก็คบกันจนเรียนจบและก็ได้ไปสู่ขอเธอและแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณีและอยู่ด้วยกันมาจนถึงปัจจุบัน แบบนี้เรียกว่าผมได้ทำผิดศีลธรรมหรือไม่ เรียกว่าไปแย่งของคนอื่นมาหรือเปล่า และเรียกว่าเป็นการพรากลูกพรากแม่หรือไม่ ถ้าใช่ผมจะต้องแก้ไขอย่างไร ไม่สบายใจเลยช่วยแนะนำด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2013, 05:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเป็น ผช.ที่ดีมากคนหนึ่ง ไม่ผิดหรอกครับ

ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าหญิงหรือชาย ปัจจุบันถ้าได้ตกลงปลงใจว่าจะอยู่เป็นคู่ผัวเมียกันแล้วเนี่ย ไม่ควรชวนคุยเรื่องอดีตเฉพาะเืรื่องการมีแฟนมาก่อนไหม เคยไ้ด้เคยเสียกับใครมาก่อนหรือเปล่า ไม่ควรคุย เพราะทุกคนมีอดีตกันทั้งนั้นไม่ว่าหญิงว่าชาย รู้แล้วทำให้ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ใจเปล่าๆ
ปัจจุบันเรารักกันไปด้วยกันได้สบายใจกว่ากันเยอะ :b1:


ฟังเพลงนี้

http://www.youtube.com/watch?v=l62_p9bTp6g

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2013, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


SittWat เขียน:
สวัสดีทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับแต่ได้ติดตาม Web นี้มานานแล้วโดยอ่านมาทุกกระทู้แล้วไม่ตรงกับเรื่องที่ไม่สบายใจเลย ขอให้ท่านผู้รู้ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยครับว่าเรื่องนี้ผิดศีลธรรมหรือไม่
ปัจจุบันผมแต่งงานและมีลูกแล้ว 2 คน แต่แฟนผมคนนี้เธอเคยมีลูกมาก่อนที่จะมารู้จักกับผม และเธอก็ได้บอกกับผมก่อนแล้วที่เราจะคบกัน เป็นความผิดพลาดในวัยเรียน ซึ่งผมก็ไม่แคร์หรือรังเกียจในตัวเธอเลยและไม่เคยคิดถึงอดีตของเธอด้วยซ้ำ จนมีอยู่วันหนึ่งเราได้มีโอกาสคุยถึงอดีตของกันและกัน และเมื่อรู้แล้วกลับทำให้ผมไม่สบายใจ เรื่องมีอยู่ว่า...
แฟนผมคนนี้เธอเป็นคนต่างจังหวัดและได้มีโอกาสมาศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ เธอมาตามลำพังคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษา ต่อมาก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งเป็นรุ่นพี่ต่างสถาบัน คบหากันในฐานะกิ๊กเพราะฝ่ายชายมีแฟนอยู่แล้ว สุดท้ายก็พลาดและตั้งท้อง หลังจากนั้นก็ต้องลาออกจากมหาลัย แล้วก็ต้องย้ายข้าวของไปอยู่บ้านฝ่ายชายเพราะกลับบ้านไม่ได้และไม่มีทางเลือก (พี่ชายเธอดุมากถ้ารู้เรื่องนี้แต่พ่อแม่ของเธอรู้เรื่องทุกอย่าง) พ่อแม่ของแฟนผมก็บอกไปทางฝ่ายชายหลายครั้งว่าให้มาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีซึ่งก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด และตลอดเวลาที่อยู่บ้านฝ่ายชายก็ไม่มีความสุขเลยเพราะแม่ผู้ชายไม่ชอบที่เธอเป็นเด็กบ้านนอก ถูกกดดันและดูถูกต่างๆ นาๆ เธอก็ทนอยู่จนคลอดเด็กออกมา หลังจากที่คลอดเด็กออกมาแล้วแทนที่ฝ่ายชายต้องเลิกงานและกลับบ้านเพื่อมาช่วยเลี้ยงลูก กลับเริ่มตีตัวออกห่างจะกลับบ้านอาทิตย์ละวันเท่านั้นปล่อยให้เธอเลี้ยงลูกเพียงลำพัง จนเธอก็จับได้ว่าที่ไม่กลับบ้านเพราะไปอยู่กับผู้หญิงอีกคนซึ่งก็คือแฟนตัวจริงของเขานั่นเอง สุดท้ายเธอรับเรื่องราวต่างๆ ไม่ไหวก็ได้ปรึกษามาทางพ่อแม่ของเธอและแนะนำว่าให้กลับบ้าน โดยใช้เหตุผลว่ากลับมาเรียนต่อให้จบ หลังจากที่กลับมาอยู่ที่บ้านแล้วเธอก็เคยหาโอกาสได้ไปพบฝ่ายชายและลูกอยู่อีก 2-3 ครั้ง จนกระทั่งได้มาเจอกับผม หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยกลับไปอีกเลยโดยที่ยังไม่ทันได้บอกลาฝ่ายชายและลูกของเธอเลย ส่วนผมกับเธอเราก็คบกันจนเรียนจบและก็ได้ไปสู่ขอเธอและแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณีและอยู่ด้วยกันมาจนถึงปัจจุบัน แบบนี้เรียกว่าผมได้ทำผิดศีลธรรมหรือไม่ เรียกว่าไปแย่งของคนอื่นมาหรือเปล่า และเรียกว่าเป็นการพรากลูกพรากแม่หรือไม่ ถ้าใช่ผมจะต้องแก้ไขอย่างไร ไม่สบายใจเลยช่วยแนะนำด้วยครับ


ผู้ชายเค้าไม่เคยตามหา หรือง้องอนให้กลับไปอยู่ด้วย ออกอาการไม่ต้อนรับด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้ว ไม่เคยตามง้อไม่เคยติดต่อให้กลับไป ก็แสดงว่าขาดจากกันแล้วค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2013, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 13:18
โพสต์: 70

อายุ: 0
ที่อยู่: ลาดพร้าว

 ข้อมูลส่วนตัว


เราอ่านที่คุณเล่าแล้วไม่คิดว่าคุณผิดศีลธรรมอะไรเลยนะคะแต่กลับกันเราว่าคุณเป็นผู้ชายที่ดีมากคนหนึ่ง (เราสัมผัสได้จากข้อความที่คุณได้เขียนระบายความรู้สึกออกมา)

อดีตก็คืออดีตค่ะ ณ ตอนนี้ภรรยาคุณและผู้ชายคนนั้นได้ขาดกันแล้วเราว่าเธอน่าสงสารและน่าเห็นใจมากที่ต้องพลัดพรากจากเลือดในอกของตัวเอง เราเข้าใจทีเดียวเพราะพี่สาวก็พบกับเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ (สามีเสียชีวิตและถูกฝ่ายครอบครัวสามีแย่งลูกไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก ถึงจะส่งเสียกันมาเป็นสิบปีแต่เด็กไม่สนิทกับแม่ ไม่ยอมมาอยู่กับแม่เรารู้นะว่าพี่สาวเจ็บปวดมากแต่ทำอะไรไม่ได้นั่นก็คงเป็นบุพกรรมที่ทำร่วมกันมากระมัง)

ณ ตอนนี้เราอยากให้คุณเติมเต็มให้เธอ คอยให้กำลังใจกันและกันยามเมื่อเธอเศร้า เรื่องในอดีตไม่ต้องเอ่ยถึงมันอีกแล้วค่ะทำปัจจุบันให้เต็มที่และดีที่สุดจะดีกว่าเนอะ :b4:

.....................................................
ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา

หากเราเปรียบเจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นเจ้าหนี้
เราคือ ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์โดนทวงได้ทุกเวลา
การทำบุญ ถวายสังฆฑาน ปล่อยชีวิตสัตว์ หรือการทำทาน เป็นเพียงการใช้ดอกเบี้ย
การทำสมาธิแล้วสื่อจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมนั้น เป็นการใช้เงินต้นที่เราได้ติดเขานั่นเอง


ลองดูสิว่าถ้ากลับกันตัวคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากให้ลูกหนี้ใช้หนี้คุณแบบไหนกันล่ะ ^^


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร