วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 15:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 113 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2013, 17:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
วัดท่ามะโอ ( wattamaoh )

ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


บางคนทำดีแล้วไม่ได้ดี ไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่บางคนทำชั่วแล้วได้ดิบได้ดี เราเห็นเช่นนี้จึงอาจรู้สึกท้อที่จะทำดี

ผลดีที่เกิดจากกรรมดีนั้น เหมือนกับต้นไม้ที่ใ้ห้ผลต่างกัน บางต้นเป็นไม้ล้มลุก ให้ผลภายในไม่กี่วัน บางคนเป็นไม้ยืนต้น ให้ผลหลังจากปลูกแล้วหลายปีหรือหลายสิบปี โดยทั่วไปกรรมดีไม่ได้ให้ผลทันที แต่รอโอกาสให้สุกงอม จึงให้ผลได้ เหมือนผลไม้ที่ต้องใช้เวลาออกดอก ออกผล และรอเวลาให้สุกงอมนั้นเอง

ที่จริงแ้ล้ว กรรมดีจะให้ผลได้ก็ต้องอาศัยเหตุปัจจัยตามสมควร และรอเวลาให้สุกงอมเสียก่อน มิฉะนั้นแล้วพอเราทำบุญแล้วก็ต้องถูกหวยรวมปั๊บ หรือไปเกิดในสวรรค์ทันที แต่มิได้เป็นเช่นนั้น ดังคัมภีร์อรรถกถากล่าวว่า บุญหรือบาปที่ทำในปัจจุบันทำหน้าที่อุปถัมภ์ให้กรรมเก่าส่งผลได้

ในบางขณะแม้เราจะทำดี แต่กรรมชั่วส่งผลอยู่ เรา้ต้องเป็นทุกข์ไม่สบายใจ ถ้าเราท้อถอยหมดกำลังใจจะทำความดี ก็อาจแพ้ต่อความชั่ว ดังนั้น จงอย่าทำดีเพื่อผลดี เพราะเราอาจต้องรอผลอีกนาน แต่จงทำดีเพื่อความดีอันจะทำให้เรารู้สึกสุขใจ สบายใจ และเคารพภาคภูมิในตัวเองว่าเราเป็นคนดี

:b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51:

วัดท่ามะโอ ( wattamaoh )

ภัยที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต


คนอื่นจะเลื่อมใสเราหรือไม่เลื่อมใส ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่เราต้องรู้สึกเลื่อมใสตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

คนที่ไม่ให้ทาน ไม่ถูกตำหนิ เพราะทรัพย์ของเขาไม่พร้อม หรือคนที่ไม่ปฏิบัติธรรม ก็ไม่ถูกตำหนิ

เพราะใจของเขาไม่พร้อม

แต่คนทำผิดศีล ย่อมถูกตำหนิจากคนอื่น แม้คนอื่นจะไม่รู้ แต่เรารู้อยู่แก่ใจก็จะรู้สึกตำหนิตัวเองที่ไม่มีศีล

ดังนั้น อย่าทำตัวให้เราดูถูกตัวเอง เพราะการตำหนิตัวเองด้วยการทำผิดศีล เ็ป็นภัยที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

เวลาที่เราเจ็บช้ำ้น้ำใจเพราะใครเค้าทำนั้น ขอให้คิดในแง่เหตุและผลในเรื่องของกรรม
จะรู้ว่าจริงๆ แล้วไม่มีใครทำเรา เป็นเพราะวิปากคือผลของกรรมที่เราได้รับในวันนี้นั้น เราทำไว้เองทั้งสิ้น
เมื่อไรที่น้ำตาไหล
เมื่อไรที่เศร้าใจ
เมื่อไรที่คิดถึงแล้วโหยหา
เมื่อไรที่รักเค้าใจจะขาด แต่เค้าก็มีแต่ความใจร้าย มีแต่คำพูดที่เสียดแทงใจ
ฯลฯ

ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ ขอให้คิดย้อนไปว่าเมื่อก่อนในอดีตชาติเราเคยทำร้ายคนอื่นไว้ขนาดนี้เชียวหรือ
วันนี้เราถึงได้รับผลอย่างนี้ ในอดีตชาตินั้นเราเคยทำให้คนอื่นเสียใจไว้เช่นนี้ วันนี้เราก็ได้รับบ้างเช่นกัน

ท่านจะได้ทำใจได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ท่านทำไว้ทั้งสิ้นในอดีตชาติที่ผ่านมา
มันเป็นวิปากที่หลบหนีไม่ได้ถ้าวิปากส่งผลเมื่อไร เมื่อนั้นท่านต้องได้รับค่ะ

ท่านจะได้เข้าใจและทำใจให้คลายเศร้าเสียใจลงได้บ้างค่ะ

:b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51:

วัดท่ามะโอ ( wattamaoh )
20 กันยายน
ทำไมผู้หญิงจึงปฏิบัติธรรมมากกว่าผู้ชาย

ผู้หญิงเป็นเพศที่น้อมไปในกุศลมากกว่าผู้ชาย จะเห็นได้ว่า คนที่ตื่นนอนตอนเช้ามาหุงข้าวใส่บาตรพระ เป็นผู้หญิงถึง ๙๙% ถ้าจะให้ผู้ชายตื่นเช้ามาหุงข้าวใส่บาตรพระล่ะก็ เขาคงบอกว่าขอถวายเงิน ๑ ล้านบาทแล้วนอนให้พอ จะดีกว่า

พอผู้หญิงเป็นสุข ก็มักไม่ประมาท หาเวลาว่างมาปฏิบัติธรรมเพื่อเพิ่มพูนบารมี พอเขาเป็นทุกข์ ก็ยิ่งอยากพ้นทุกข์ด้วยการปฏิบัติธรรม มีชาวคริสต์หรือมุสลิมหลายท่านมาปฏิบัติธรรมที่วัดในขณะมีทุกข์ วิปัสสนาจะช่วยให้เขาเป็นสุขใจด้วยกำลังสมาธิจากการปฏิบัติได้

แต่ผู้ชายพอมีสุข ก็อยากได้สุขมากขึ้น อาตมาเคยพบโยมคนหนึ่งทั้งชอบดื่มสุราทั้งสูบบุหรี่ อาตมาก็ถามว่าทำอย่างหนึ่งเท่านั้นไมไ่ด้หรือ โยมจะได้มีอายุยืน เขาตอบว่า ต้องดื่มสุราและสุราบุหรี่ไปด้วย มันถึงจะอร่อย ถ้าทำอย่างเดียว ไม่อร่อย ตอนนี้เขาถูกเผาไปเรียบร้อยแล้ว

ผู้ชายพอมีทุกข์ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับธุรกิจ ครอบครัว สุขภาพ ฯลฯ ก็พึ่งพาสุราหรือบุหรี่ หรือทั้งสุราและบุหรี่ให้หายเครียด ทำให้ยิ่งเครียดมากขึ้น เพราะหมดเงิน เสียสุขภาพ ในทีุ่สุดก็ฆ่าตัวตายบ้าง ฆ่าคนอื่นบ้าง หรือฆ่าทั้งสองฝ่ายบ้าง

นี่คือสาเหตุที่ในคัมภีร์อรรถกถามักกล่าวว่า เทพบุตรตนหนึ่งมีเทพธิดาเป็นบริวาร ๕๐๐ นาง แต่ผู้ชายไปเกิดที่ไหนกัน มีคนเคยสำรวจเพศสุนัขตัวผู้ พบว่ามีจำนวนมากกว่าเพศเมียมากมาย หรือว่าผู้ชายไปเกิดในท้องหมากัน อ้าว เข้าตัวผู้เขียนแล้วซิ คงต้องมีภาค ๒ เพื่อแก้ข่าว

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2013, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอขอบคุณค่ะ http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNew ... 0000110357

:b27: ชวนคิดชวนทำ : 10 เคล็ดลับ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง

:b45: ในยามที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ท้อแท้ และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แต่เหลียวแลไปทางไหน ก็มีแต่ความว้าเหว่ ดุจดังไร้ญาติขาดมิตร

แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปตามวันเวลาที่หมุนผ่านเลย จนไม่อาจรอกำลังใจจากใครอื่นได้ จึงน่าจะดีกว่า ถ้าหากเรารู้จักสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันและเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

เคล็ดลับสร้างกำลังใจให้ตัวเองต่อไปนี้ เป็นวิธีเล็กๆน้อยๆที่เชื่อว่า หากใครได้ลงมือทำแล้ว ก็จะช่วยให้มีกำลังใจขึ้นจริงๆ

1. หยุดเปรียบเทียบ

ก่อนที่จะเริ่มต้นให้กำลังใจตัวเอง คุณจะต้องหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ เพราะการเปรียบเทียบมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ยิ่งเปรียบเทียบกับคนที่มีหลายสิ่งเหนือกว่า ก็จะยิ่งทำให้แย่หนักขึ้น

ทางที่ถูกนั้นควรหันมาดูตัวเอง ว่ามีดีอะไรบ้าง แล้วทำในสิ่งดีๆ สิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด ซึ่งเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี คุณก็จะมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น

2. หมั่นชมตัวเอง

การมองกระจกและพูดสิ่งที่คุณชื่นชมในตัวเอง หรือเขียนลงในสมุดบันทึก เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะหลายครั้งที่เรามักกล่าวชมเชยผู้อื่นถึงความสำเร็จของเขา แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะชมตัวเองเมื่อประสบความสำเร็จ

ดังนั้น ทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จหรือทำสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จงพูดให้กำลังใจตัวเอง โดยไม่ต้องรอคำชมจากใคร

3. ทำสิ่งพิเศษในแต่ละวัน

การทำเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่นในสวน รับประทานอาหารที่ชอบ ฟังเพลงโปรด อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุขได้อย่างง่ายๆ และเป็นเหมือนการชาร์จแบตเตอรี่ เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเองพร้อมเดินหน้าต่อไปอย่างมีความสุข

4. ยิ้มบ่อยๆ

รู้มั้ยว่า ทุกครั้งที่คนเรายิ้ม จะส่งผลให้โลหิตแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีอุณหภูมิลดลง ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายจากความตึงเครียด และการยิ้มยังทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย เพราะเมื่อคุณรู้สึกสบายกายสบายใจ สมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินหรือสารแห่งความสุข ทำให้อารมณ์แจ่มใส เบิกบาน

ที่สำคัญ การยิ้มยังเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้เราสู้กับทุกสถานการณ์ได้อย่างไม่หวาดหวั่น

5. ให้อภัยตัวเอง

เมื่อทำผิดพลาด อย่าซ้ำเติมตัวเอง แต่ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง และถือเป็นบทเรียนที่ดีในการมุ่งมั่นต่อไปให้ถึงจุดหมาย

จำไว้ว่า แม้แต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ก็ล้วนผ่านความผิดหวังมาแล้วทั้งสิ้น แต่พวกเขาเรียนรู้จากข้อผิดพลาด แล้วนำมาแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต คุณเองก็ทำได้เช่นกัน

6. คิดถึงข้อดีของตัวเอง

ควรจดบันทึกข้อดีที่คุณมีอย่างน้อย 10 อย่าง เช่น เป็นคนจิตใจดี มีความเมตตากรุณา มีความอดทน ยิ้มง่าย ฯลฯ ไว้ใกล้ตัว เพราะยามที่คุณรู้สึกหดหู่ สิ้นหวัง และต้องการกำลังใจอย่างยิ่ง การหวนกลับไปอ่านสิ่งดีๆเหล่านี้บ่อยๆ ก็จะช่วยเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมาได้

7. เข้าร่วมกลุ่ม

การเข้าร่วมกลุ่มคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้เป็นอย่างดี เช่น หากคุณเป็นคนอ้วน และต้องการลดน้ำหนัก ลองสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสคลับ ที่มีครูสอนอย่างถูกวิธี และอยู่ท่ามกลางคนอ้วนที่รักษาสุขภาพเหมือนกัน ก็เป็นบรรยากาศที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

8. เอาชนะความกลัว

บ่อยครั้งที่ความกลัว ทำให้เสียโอกาสดีๆที่เข้ามาในชีวิตอย่างน่าเสียดาย เพราะความกลัวทำให้เราหยุดอยู่กับที่ ไม่กล้าที่จะก้าวเดินต่อไป

แต่ถ้าสามารถควบคุมหรือเอาชนะความกลัวให้หมดจากใจได้ จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น และมีกำลังใจที่พร้อมจะสู้กับทุกสิ่งทุกอย่าง

9. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ

หากมีภารกิจที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน ขอให้เริ่มต้นทำเรื่องง่ายๆ เล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้เวลามากนัก ให้สำเร็จก่อน เช่น ทำความสะอาดห้อง รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ เพราะเมื่อทำเสร็จ คุณจะได้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าทำงานชิ้นใหญ่ต่อไป

10. เชื่อมั่น “ทำดี ได้ดี”

แม้บางครั้ง เราอาจเห็นคนทำชั่วแต่ได้ดี หรือคนทุจริตคอรัปชั่น กลายเป็นคนรวยที่มีคนนับหน้าถือตา จงอย่าท้อใจ แต่ขอให้เชื่อมั่นในเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ต่อไป เพราะการทำดีนั้นเมื่อเริ่มทำเราก็รู้สึกมีความสุข เช่นเดียวกับเมื่อเริ่มทำชั่ว ก็จะเริ่มมีความทุกข์ กลัวคนอื่นจะรู้ ดังนั้น สุข ทุกข์ จึงอยู่ที่ใจเป็นสำคัญ

เพราะฉะนั้น คุณธรรมดีๆที่คุณยึดมั่นในการดำเนินชีวิต เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร ความเมตตากรุณา ฯลฯ ย่อมนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน ดั่งคำของพระพุทธองค์ที่ว่า “เหตุดี ผลย่อมดี”

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 153 กันยายน 2556 โดย ประกายรุ้ง)

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2013, 08:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่กล่าวต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉันค่ะว่า ผู้ชายที่ทิ้งเมียไปจะกลับมาหาเมียเก่านั้นก็ต่อเมื่อ
1. เงินหมด ไม่มีจะกิน
2. ไม่มีที่อยู่
3. ขาดความมั่นคงในชีวิต
4. ป่วยไม่สบายเป็นโรคอะไรสักอย่างหนึ่ง หรือป่วยหนักขาดคนดูแลและต้องการที่พึ่งทางใจอย่างแท้จริง
5. ทนคิดถึงบ้านไม่ไหว บ้านสวยสะอาดสุขสบาย เมียน้อยสกปรกไม่เหมือนเมียเก่าที่ดูแลบ้านดี
6. คิดถึงลูก รักลูกมากๆ อยากอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก
7. มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถใช้หนี้ได้ มาหลอกมาอ้อนให้เมียเก่าใช้หนี้ให้
8. มาหลอกเอาเงินไปเลี้ยงเมียน้อย
9. คิดถึงเมียเก่าเพราะผูกพันธ์กันมานาน แต่ก็หลงเมียน้อยอยู่มากๆ อยากได้ไว้ทั้ง 2 ฝ่าย
10. กลับมาคอยจ้องหาจังหวะขโมย หรือหลอกเอาสมบัติดั้งเดิมของเมียเก่า
11. ติดการพนัน อยากมีเงินเล่นการพนันกลับมาเกาะเมียเก่าดีกว่า
12. อกหักจากเมียน้อยกลับมาหาเมียเก่า เพราะเจอพิษสงเมียน้อยทนไม่ไหว เมียน้อยนอกใจมีผัวใหม่
13. ญาติเมียน้อยวุ่นวายเรื่องเงิน โดนรุมเกาะกินจนทนไม่ไหว
14. สำนึกผิด กลับมาหาเมียเก่าและลูก
15. มีหมดทุกข้อตั้งแต่ข้อ 1-13 (ยกเว้นข้อ 14)
16. มีหลายๆ ข้อ รวมๆ กัน

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2013, 09:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2013, 16:30
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


SOAMUSA เขียน:
ที่กล่าวต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉันค่ะว่า ผู้ชายที่ทิ้งเมียไปจะกลับมาหาเมียเก่านั้นก็ต่อเมื่อ
1. เงินหมด ไม่มีจะกิน
2. ไม่มีที่อยู่
3. ขาดความมั่นคงในชีวิต
4. ป่วยไม่สบายเป็นโรคอะไรสักอย่างหนึ่ง หรือป่วยหนักขาดคนดูแลและต้องการที่พึ่งทางใจอย่างแท้จริง
5. ทนคิดถึงบ้านไม่ไหว บ้านสวยสะอาดสุขสบาย เมียน้อยสกปรกไม่เหมือนเมียเก่าที่ดูแลบ้านดี
6. คิดถึงลูก รักลูกมากๆ อยากอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก
7. มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถใช้หนี้ได้ มาหลอกมาอ้อนให้เมียเก่าใช้หนี้ให้
8. มาหลอกเอาเงินไปเลี้ยงเมียน้อย
9. คิดถึงเมียเก่าเพราะผูกพันธ์กันมานาน แต่ก็หลงเมียน้อยอยู่มากๆ อยากได้ไว้ทั้ง 2 ฝ่าย
10. กลับมาคอยจ้องหาจังหวะขโมย หรือหลอกเอาสมบัติดั้งเดิมของเมียเก่า
11. ติดการพนัน อยากมีเงินเล่นการพนันกลับมาเกาะเมียเก่าดีกว่า
12. อกหักจากเมียน้อยกลับมาหาเมียเก่า เพราะเจอพิษสงเมียน้อยทนไม่ไหว เมียน้อยนอกใจมีผัวใหม่
13. ญาติเมียน้อยวุ่นวายเรื่องเงิน โดนรุมเกาะกินจนทนไม่ไหว
14. สำนึกผิด กลับมาหาเมียเก่าและลูก
15. มีหมดทุกข้อตั้งแต่ข้อ 1-13 (ยกเว้นข้อ 14)
16. มีหลายๆ ข้อ รวมๆ กัน


:b41: :b41: ไปแล้วไปเลยเถอะค่ะ (ที่ชอบๆ) :b48: :b48:

ถ้าคิดถึงกันก็มามองหลังคาบ้านกับริมรั้วได้ :b28: :b28:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2013, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยหอม เขียน:

:b41: :b41: ไปแล้วไปเลยเถอะค่ะ (ที่ชอบๆ) :b48: :b48:

ถ้าคิดถึงกันก็มามองหลังคาบ้านกับริมรั้วได้ :b28: :b28:


:b17: นั่นดิคะ พวกที่กลับมานี้ส่วนใหญ่ภายหลังสร้างปัญหาให้ทั้งนั้น
น้อยคนนักที่จะสำนึกได้จริงทำตัวดี ส่วนใหญ่ที่จะทำตัวดีก็เพราะหมดฤทธิ์ไม่มีที่ไปจึงกลับมาตายรังค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2013, 18:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2013, 16:30
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


SOAMUSA เขียน:
กล้วยหอม เขียน:

:b41: :b41: ไปแล้วไปเลยเถอะค่ะ (ที่ชอบๆ) :b48: :b48:

ถ้าคิดถึงกันก็มามองหลังคาบ้านกับริมรั้วได้ :b28: :b28:


:b17: นั่นดิคะ พวกที่กลับมานี้ส่วนใหญ่ภายหลังสร้างปัญหาให้ทั้งนั้น
น้อยคนนักที่จะสำนึกได้จริงทำตัวดี ส่วนใหญ่ที่จะทำตัวดีก็เพราะหมดฤทธิ์ไม่มีที่ไปจึงกลับมาตายรังค่ะ


คิดไปบางทีก็ขำๆ ดีเหมือนกัน :b39: :b39:

ของเราข้อไหนดีน่า :b18: เข้าข่ายข้อ 9 มากที่สุด

แต่คนนี้ยังไม่ไป และไม่ได้เบียดเบียนเรานอกจากเรื่องนอกใจก็เป็นคนดี รับผิดชอบ คนหนึ่ง (มีแต่เขาต้องดูแลเรา) และคิดว่าตอนนี้กรรมเริ่มออกฤทธิ์ เพราะอีกคนเริ่มแสดงตัวตนออกมา (สรุปว่าที่ชอบที่ไปอาจจะไม่ใช่ที่สุข ) :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2013, 08:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s002

ของเราไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายข้อใดมากที่สุด....สงสัยรวม ๆ ๆกัน ทุกข้อนั่นแหละ...
...แต่ก็ดี ทำให้เราระวังตัวแล้วไงล่ะ ......
วางใจ วางเขาไว้อีกสถานะหนึ่ง พึ่งรู้ว่า...สุขดีจริง ๆ ๆ ไม่เดือดร้อนอะไร.....
หากมาก็ดูแลตามหน้าที่ อยากไป ก็เชิญ..ตามสะดวก ......
เรื่องเงิน เก็บงำ ซ่อนเร้นอย่างดี.......เชอะ..รู้แล้วนินะ....ไม่มีได้แอ๊มหรอก.....

.............ก็แค่จะฝึกอภัยทาน........แต่หาก ไม่ไหว...ก็ค่อยว่ากันอีกที........ :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2013, 13:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 16:06
โพสต์: 59


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกล้วยหอมคะ..ที่ว่าอีกฝ่ายเริ่มแสดงตัวทำอะไรบ้างคะ ขอทราบเพราะของเราเมียน้อยก็แสดงตัวโดยโพสรูปลงเฟซลงทั้งสามคนพ่อแม่ลูกหอมแก้มกัน ทั้งๆที่ในเฟซสามีก็มีเราว่าเป็นภรรยาอยู่...พอเราโวยวายสามีด่ากลับมาว่าทางนั้นไม่ผิดเรา...ไปดูเองทำไม...รู้ว่าดูแล้วทุกข๋ ต้องมาทะเลาะกัน..ทางนั้นมีสิทธิ์ทำเพราะอยู่ประเทศนั้นถิ่นเค้าไม่ใช่ถิ่นเรา...เออ..เราก้อได้แต่ฟังอ้าปากค้างเถียงไม่ทัน ไม่เถียงเพราะนาทีนี้ไม่ชนะค่ะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2013, 18:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2013, 16:30
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รุ่งอรุณ เขียน:
คุณกล้วยหอมคะ..ที่ว่าอีกฝ่ายเริ่มแสดงตัวทำอะไรบ้างคะ ขอทราบเพราะของเราเมียน้อยก็แสดงตัวโดยโพสรูปลงเฟซลงทั้งสามคนพ่อแม่ลูกหอมแก้มกัน ทั้งๆที่ในเฟซสามีก็มีเราว่าเป็นภรรยาอยู่...พอเราโวยวายสามีด่ากลับมาว่าทางนั้นไม่ผิดเรา...ไปดูเองทำไม...รู้ว่าดูแล้วทุกข๋ ต้องมาทะเลาะกัน..ทางนั้นมีสิทธิ์ทำเพราะอยู่ประเทศนั้นถิ่นเค้าไม่ใช่ถิ่นเรา...เออ..เราก้อได้แต่ฟังอ้าปากค้างเถียงไม่ทัน ไม่เถียงเพราะนาทีนี้ไม่ชนะค่ะ...


หวัดดีค่ะ ของกล้วยหอมไม่มีลูกด้วยกันค่ะ

ในความคิดกล้วยหอม ผู้หญิงอีกคนใหม่ๆ เธอจะต้องดีแสนดี และอะไรก็ได้จริงมั้ยค่ะ :b1: :b1: เพราะฉะนั้นช่วงโปรโมชั่นต้องปล่อยให้สุดค่ะ เราปิดหูปิดตา อย่างเดียวไม่รับรู้เลยค่ะ ไม่สนใจ ไม่ดู fb แต่โดยปกติเราจะนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ยุ่ง ไม่ดูโทรศัพท์ ไม่โทรตาม ไม่ระรานอีกฝ่าย อยากทำอะไรก็ทำกันไป :b39:

ผู้หญิงจากที่แรกๆ อะไรก็ได้ นานๆ ไปก็เริ่มไม่ได้เริ่มมีข้อแม้ เราเดาน่ะค่ะ จากเหตุการณ์ เพราะไม่เคยถามคนกลาง มีแต่เขาจะเล่าเองว่า ทะเลาะกันบ่อยเพราะผู้หญิงมาดู fb เรา ประมาณผู้หญิงจะพยายามเข้าถึงตัวเราทุกวิธี แต่คนกลางจะไม่ให้ทำ คือห้ามยุ่่งกับเราเด็ดขาด

จากที่เกิดเหตุการณ์ผู้หญิงกับคนกลางเขาจะตั้งกฏกันแต่กล้วยหอมก็ไม่อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ตั้งกันเองแล้วจะปฏิบัติกันไม่ได้ ก็จะทะเลาะกัน ( ไม่มีอะไรใหม่ตลอดเวลา วันนี้ใหม่ วันต่อไปก็เก่าแล้ว รวมทั้งเรา)

ข้อสำคัญสำหรับกล้วยหอมไม่ใช่เขาไม่ใช่ใคร ตัวเราค่ะรักตัวเองให้มาก ดูแลตัวเอง ต้องแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ในชีวิตยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะจ้า สู้ๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณลองเปิดประตูตู้เสื้อผ้านะคะ แล้วค้นหาเสื้อตัวสวยที่สุดทันสมัยที่สุด รักที่สุดแต่ต้องที่ซื้อไว้นานแล้ว
ซื้อเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยิ่งเสื้อตัวนั้นอายุนานเท่าไหร่ยิ่งดี คิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องเก็บเสื้อผ้า
ตัวโปรด ชุดสวยๆ บางชุดที่ถูกใจ คุณเปิดตู้แล้วหยิบชุดเก่าบางชุด หรือเสื้อเก่าตัวโปรดที่ว่ามานี้
นำมาซักแล้วรีดเพื่อใส่แทนเสื้อที่ซื้อมาใหม่และทันสมัยในปัจจุบันนี้นะคะ ใส่ออกจากบ้านไปแล้วคุณรู้สึก
อย่างไร เมื่อเทียบกับเสื้อตัวโปรดตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาตัวล่าสุดราคาอาจจะแพงไม่เท่าเสื้อตัวเก่านั้น
และก็ซื้อมาจากร้านแผงข้างถนนด้วย แต่มันใหม่ทันสมัยกับแฟชั่นขณะนี้แม้จะถูกกว่าแต่ใส่แล้วรู้สึกดีกว่า

จะมีสักกี่คนที่หยิบเสื้อตัวโปรดตัวเก่ามาใส่ได้ ไม่เถียงว่ามีคนหยิบเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เก็บไว้มาใส่ ไม่เถียงค่ะ
แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่หันมามองเลย เก็บไว้ลึกสุดในตู้ ลืมไปแล้วด้วยว่าเคยมีเสื้อตัวนี้มาก่อน
และก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งนำเสื้อที่เก็บไว้เป็นสิบปีมาใช้ประโยชน์ใหม่ด้วยการดัดแปลงตกแต่งใหม่
หรือไม่ก็ทยอยเอาออกมาให้คนอื่นที่ต้องการ หรือไม่เอามาทำเป็นผ้าขี้ริ้วอย่างไม่เสียดาย

ตอนลูกสาวดิฉันเป็นเด็กเล็กๆ เล่นตุ๊กตาบาร์บี้กันนะคะ ซื้อตัวใหม่มาเมื่อไร ตัวเก่าก็ถูกทิ้งในตะกร้าของเล่น
ขณะนั้นก็มีบาร์บี้ตัวล่าสุดใส่กล่องตั้งโชว์บนโต๊ะเขียนหนังสือ 3 ตัว ส่วนของเก่าอีก 4 ตัวอยู่ในตะกร้าของ
เล่น รวมๆ ไว้กับของเล่นอื่นๆ ค่ะ นานๆ ครั้งจะกลับไปหยิบของเก่ามาเล่นรวมกับของใหม่ค่ะ

สามีทั้งหลายก็ไม่ต่างจากเด็กเห่อตุ๊กตาตัวใหม่ หรือสาวๆ ที่ใส่แต่เสื้อตัวใหม่ๆ ที่ทันสมัยค่ะ
ลองนึกนะคะ ทำใจกลับมาใส่เสื้อเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หรือ เด็กวางตุ๊กตาตัวใหม่ทิ้งในตะกร้าแล้วหยิบตุ๊กตา
ตัวเก่ามาเล่นแทนตุ๊กตาตัวใหม่ได้ เด็กคนนั้นต้องรักและประทับใจในตุ๊กตาตัวเก่าในกรณีใดกรณีหนึ่ง
เป็นพิเศษ เค้าถึงยังเล่นตุ๊กตาตัวเดิมอยู่อย่างนั้น แม้จะมีตัวใหม่เข้ามา เค้าก็ยังคงเล่นของเก่าด้วย

และก็มีบางคนนะคะที่ใส่เสื้อผ้า จนขาดปะแล้วปะอีก ใส่จนเก่าก็ยังไม่ทิ้งค่ะ

:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:

วัดท่ามะโอ ( wattamaoh )
28 ตุลาคม
ความกล้าที่ควรมี

ความกล้าในสิ่งที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่เราควรทำ แต่ถ้ากล้าทำสิ่งที่ไม่ควรทำ จัดเป็นความบ้าบิ่น ไม่ใช่กล้าหาญ

สมัยก่อนตอนพระเจ้าบุเรงนองคัดเลือกทหารออกรบ พระองค์จะให้คนคัดเลือกเอาเข็มตอกเข้าไปในเล็บนิ้วโป้ที่ชูขึ้น ถ้ามีทหารคนไหนเจ็บจนถอยหลัง ต้องถูกคัดออกจากกองทหารทันที แม้กระทั่งพระเจ้าบุเรงนองก็ต้องผ่านการตอกเล็บเช่นนี้เป็นคนแรก ไม่มีข้อยกเว้น เพราะแสดงว่าพระองค์ก็ต้องทนเจ็บได้เช่นเดียวกับทหารทุกคน

ตอนนั้นมีคนสนิทของพระองค์ ทนเจ็บไม่ได้ ต้องถอยหลังไป พระองค์จึงตรัสว่า เจ้าหมดสิทธิ์ออกรบแล้ว แต่เขาชักมีดออกมาจากเอว กล่าววาหม่อมฉันไม่กลัวตาย จะแสดงให้ดู ว่าแล้วก็เอามีดกรีดท้องควักลำไส้ออกมา แล้วล้มตายไป

พระเจ้าบุเรงนองตรัสว่า เจ้านี่บ้าบิ่น ไม่ใช่กล้าหาญ เพราะทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แล้วให้เอาศพออกไปโยนทิ้งข้างนอก

ดังนั้น เราจึงควรกล้าทำสิ่งที่ควรทำ มี ๓ อย่าง คือ

๑. กล้าสุข คือ กล้าที่จะเสพสุขด้วยการใช้จ่ายเมื่อมีทรัพย์เพียงพอ ไม่ใช่ประหยัดจนไม่กินไม่ใช้ พอตายไปทายาทก็เสพสุขไป

๒. กล้าทุกข์ คือ กล้าที่อยู่กับทุกข์เมื่อชีวิตอับจนหนทาง รอคอยโอกาสอันเหมาะสม ไม่ละเมอเพ้อหาความสุขที่เคยได้รับมาก่อน

๓. กล้าตาย คือ เตรียมพร้อมยอมรับความตายอยู่ทุกวัน ทำสิ่งที่เราควรทำทุกวัน เช่น ตอบแทนพ่อแม่ ดูแลคนรัก และสั่งสมบุญกุศลเพื่อเป็นเสบียงทิพย์ติดตามเราในภพต่อไป มิฉะนั้นเมื่อพ่อแม่หรือคนรักไปแล้ว เราอาจเสียใจที่ไม่ได้ดูแลพวกเขา

:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2013, 16:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
:b44: :b44: :b44:

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=11

อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ปิฐวรรคที่ ๑
๑๑. ปติพพตาวิมานที่ ๑


อรรถกถาปฐมปติพพตาวิมาน
ปฐมปติพพตาวิมาน มีคาถาว่า โกญฺจา มยุรา ทิวิยา หํสา เป็นต้น.
ปฐมปติพพตาวิมาน เกิดขึ้นอย่างไร?

พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถี. ในกรุงสาวัตถีนั้น สตรีผู้หนึ่งได้เป็นผู้ปฏิบัติสามี นางคล้อยตามสามี อดทน ถือโอวาทสามีโดยเคารพ แม้โกรธก็ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่พูดคำหยาบ พูดแต่เรื่องจริง มีความเชื่อและเลื่อมใส และให้ทานตามควรแก่ทรัพย์สมบัติ. นางเกิดเป็นโรคบางอย่าง ก็ตายไปบังเกิดในภพดาวดึงส์.

ต่อมา ท่านพระมหาโมคคัลลานะเที่ยวจาริกไป โดยนัยก่อนๆ นั่นแล พบเทวธิดาองค์นั้นซึ่งกำลังเสวยสมบัติอย่างใหญ่ จึงเข้าไปใกล้ๆ. เทวธิดาองค์นั้นมีอัปสรพันหนึ่งแวดล้อม มีอัตภาพประดับด้วยเครื่องอลังการ มีภาระประมาณ ๖๐ เล่มเกวียน ไหว้ด้วยเศียรเกล้า [ค้อมศีรษะ] ใกล้ๆ เท้าพระเถระแล้วยืน ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง.

แม้พระเถระ เมื่อจะถามบุญกรรมที่นางทำไว้ จึงกล่าวว่า
นกกระเรียน นกยูง หงส์และดุเหว่า ล้วนเป็นทิพย์ ส่งเสียงไพเราะ ชุมนุมกันอยู่. วิมานนี้ดาดาษด้วยปุปผชาติ น่ารื่นรมย์ วิจิตรเป็นอันมาก ทั้งเทพบุตรทั้งเทพธิดาก็มาคบหาสมาคมกัน.

ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก ท่านนั่งอยู่ในวิมานนี้ เหล่าเทพผู้มีฤทธิ์ก็สำแดงฤทธิ์ มีรูปเป็นอันมาก และเทพอัปสรเหล่านี้ก็ฟ้อนรำขับร้องและรื่นเริงกันรอบๆ ท่าน.

ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก ท่านก็บรรลุเทวฤทธิ์แล้ว ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไร เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทวดาองค์นั้นดีใจ ถูกท่านพระโมคคัลลานะถามแล้ว ก็พยากรณ์ปัญหาโดยอาการที่ท่านถาม ถึงกรรมที่มีผลดังนี้.

เทวดาองค์นั้นกล่าวตอบว่า
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ดีฉันซื่อตรงต่อ
สามี ไม่นอกใจ ถนอมใจสามีเหมือนมารดาถนอมบุตร
ดีฉันแม้โกรธ ก็ไม่กล่าวคำหยาบ ดีฉันตั้งอยู่ในสัจจะ
ละคำเท็จ ยินดีในทาน ชอบอุทิศตน สงเคราะห์คนอื่น
มีจิตเลื่อมใส [ในพระรัตนตรัย] เมื่อบริจาคข้าวน้ำก็ได้
ถวายเป็นทานอย่างไพบูล โดยเคารพ.
เพราะบุญนั้น วรรณะของดีฉันจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ดีฉัน และโภคะทุกอย่าง
ที่น่ารักจึงเกิดแก่ดีฉัน.
ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดีฉันขอบอก
แก่ท่าน ดีฉันครั้งเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญใด เพราะ
บุญนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองเช่นนี้ และวรรณะ
ของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

:b8: :b8: :b8:

รูปภาพ

บางทีความอดทนยอมในชาตินี้ ก็ส่งผลให้คุ้มจริงๆ ค่ะ ในชาติหน้ามหาศาลนัก หากใครทำได้นะคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2013, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะที่เราจมอยู่ในความทุกข์นั้น เราจะทำอย่างไรจึงจะออกมาจากความทุกข์นั้นได้ ให้คิดในมุมที่กว้างขึ้น
อย่าคิดอยู่ในมุมแคบๆ อยู่แต่เหตุการณ์ที่กำลังเป็นอยู่นั้น วนคิดแต่กับเรื่องที่ทุกข์นั้น มันไม่มีประโยชน์
เพราะในความจริงนั้น เศษเสี้ยวของชีวิตในขณะนี้นั้น มันเป็นเพียงแค่ฉากหนึ่งในละครโรงใหญ่ที่ชื่อว่า
วัฏฏสงสาร อันยาวไกล ในขณะนี้นั้นมันเป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น มันยังมีฉากที่น่ายินดีที่ยังมีให้พบให้
เห็น และยังมีฉากที่โหดร้ายแสนสาหัสที่จะได้เจอโดยยังไม่สามารถหนีได้คือ การเกิดในอบายภูมิ มี นรก
เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เรายังหนีไม่พ้นที่จะเกิดเป็นทุคติบุคคลในอบายภูมิ เป็นช่วงตอนของละคร
โรงใหญ่คือวัฏฏสงสารนี้ที่ยังไม่มีใครหนีพ้น จะหนีพ้นก็พ้นไ้ด้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว หากเรายังจมอยู่กับทุกข์
ทุกวันนี้ก็เท่ากับว่า เราอยู่ในภพภูมิที่เป็นมนุษย์แต่กำลังเบียดเบียนกายใจอยู่ ไม่ต่างจากกำลังอยู่ในนรก
กำลังรับความทุกข์แบบนรกบนดิน แล้วในชาติต่อไปท่านก็มีสิทธิ์ที่จะไปเจอของจริงค่ะ

ดังนั้นรีบถ่ายถอนตนเองจากความทุกข์ ยอมรับว่าขณะนี้เราได้รับวิปากที่เป็นความทุกข์ซึ่งเป็นผลจากกรรม
ที่เราเคยทำไว้ในอดีตชาติ ยอมรับมันแล้วก็ไม่เรียกร้องจะให้มันได้ดั่งใจในวันนี้ ยอมรับแล้วอย่าจมอยู่กับ
ความทุกข์อีกต่อไป ค่อยๆ ออกมาก็ได้หากใจยังไม่ไหว แต่ต้องรีบถอนตัวออกมาจากทุกข์ เพราะมันไม่ได้
ช่วยให้เกิดความสุขในอนาคต ความสุขที่จะเกิดในอนาคตมาจากกุศลเท่านั้น มาจากจิตใจที่มีสติ มีปัญญา
รู้เท่าทันในอารมณ์ของตนเท่านั้น หากยังจมอยู่ในทุกข์กุศลก็เกิดไม่ได้ค่ะ แล้วความสุขจะเข้ามาได้ยากค่ะ

การทำกุศลก็เหมือนการสร้างคลองส่งน้ำ คุณจะบริโภคน้ำสะอาดให้ใจกายเป็นสุขนั้น คุณต้องสร้างคลอง
ให้น้ำส่งมาค่ะ ไม่ใช่ขุดคลองส่งน้ำให้บ่อน้ำเสีย คุณต้องอยู่กับสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ จึงขอให้
ท่านที่อยู่ในความทุกข์ให้คิดในมุมที่กว้างขึ้น อย่าจมอยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของวัฏฏะ
อย่าทำให้เศษเสี้ยวเล็กๆ นี้มีอิทธิพลมีผลต่อวัฏฏะอันยาวนานของเราเลยค่ะ

สามีเป็นเพียงแค่คนอื่น ในที่สุดก็ต้องแยกจากกันตลอดไป แต่ผลของการเกิดขึ้นในใจเรา และผลของการกระทำในวันนี้นั้น ที่จะเกิดขึ้นในวัฏฏะข้างหน้าต่อไปนั้น เป็นของๆ เราแต่เพียงผู้เีดียวค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2013, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดมาในสมัยนี้ ในสมัยที่มนุษย์ขาดหิริ โอตัปปะ อย่างแรงกล้านั้น
ปรับตัวกันด้วยค่ะ อะไรอดทนได้ก็ทนไป ก็อย่าไปคิดว่าทนเพื่อใคร คิดว่าทนเพื่อตนเองล่ะกัน
อดทนเมื่อต้องรับอกุศลวิปากซึ่งคือความทุกข์ขณะนี้ ไม่ให้จิตตนเองนั้นเศร้าหมองไหลไปกับจมอยู่กับความทุกข์
การไม่จมอยู่กับทุกข์ รู้และเข้าใจเรื่องเหตุและผลของกรรม ปรับตัวเองให้ได้
และที่สำคัญคือเร่งสร้างกุศลใหม่ทุกวัน
ใครเค้าอยากจะทำอะไรให้เค้าทำไป เราพยายามแก้ไขตนเองปรับปรุงตนเองให้เคียงคู่ไปกับเค้าให้ได้
แต่ถ้าถึงที่สุดแล้ว ไม่สำเร็จก็ไม่ต้องไปเสียใจ ถือว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว เกมส์โอเว่อร์แล้วก็ต้องจบ
ใจเด็ดไปเลย จบเป็นจบ

มนุษย์มี 2 อย่างเท่านั้นที่เกิดมา
1. รับผล คือผลของเหตุในอดีตที่เคยทำไว้ในอดีตชาติ หรือบางครั้งก็รับผลของเหตุชาตินี้ร่วมด้วยค่ะ
มีทั้งกุศล และอกุศล ที่จะส่งผลมาให้ได้รับทั้งความสุขและความทุกข์
2. สร้างเหตุใหม่ คือ กุศล อกุศล จะสร้างใหม่ให้เป็นกุศลก็ต้องฉลาดที่จะมีชีวิตอยู่แล้วค่ะ

มีอยู่เท่านี้จริงๆ ในการเกิดมาในแต่ละชาติ รับผล แล้วก็สร้างเหตุ

และภายในจิตของเราแต่ละขณะ แต่ละขณะนั้น ก็มีได้แค่ 2 เท่านั้นอีกเหมือนกันคือ
1. ไม่เป็นกุศล ก็เป็นอกุศล
2. ไม่เป็นอกุศล ก็เป็นกุศล

:b27: เพราะฉะนั้น รักตนเองดีกว่าทำใจให้สดชื่นเป็นกุุศล หากุศลทำทุกวัน
เรามาทำชาติหน้าให้ไปเกิดบนสวรรค์ สุขกว่าอยู่แถวนี้เป็นไหนๆ ค่ะ
จะมางมงายอะไรกับมนุษย์ผู้ชายขรี้เหม็นหน้าหนอน ไปหาเทวดาชาติหน้าดีกว่านะคะ หล่อๆ ทั้งนั้น

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2013, 20:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b50: ขอเชิญอ่านค่ะ..... เล่นเฟรสบุ๊คอย่างไรไม่ให้รักร้าว ตอน 1
http://womenshealththailand.com/love/%E ... 1/336.html


:b50: .....เล่นเฟรสบุ๊คอย่างไรไม่ให้รักร้าว ตอน 2
http://womenshealththailand.com/love/%E ... 2/337.html


:b8: ขอบคุณค่ะ WOMEN'S HEALTH THAILAND

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 113 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร