วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 10:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 12:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


12 เมษายน 2556 วันที่ข้าพเจ้าสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง

ข้าพเจ้าได้มีโอกาสดูแลคุณแม่ก่อนท่านจะจากไปเป็นเวลาเพียง 2 ปี โดยรับท่านมาอยู่ด้วยที่บ้าน
ก่อนรับคุณแม่มาอยู่ด้วย ก็คุยกับสามีและลูก อยากปรนนิบัติดูแล อยากให้ความอบอุ่นท่าน
แทนคุณพ่อที่เสียไปนานแล้วตลอดเวลาที่รับคุณแม่มาอยู่ด้วย ก็มิได้เป็นดังใจหวัง
ก็มีทั้งรัก ทั้งห่วงใย ทั้งสงสาร ทั้งโกรธขึ้ง หงุดหงิดให้คุณแม่อยู่บ่อยๆ

คุณแม่เป็นกินหมาก และกินอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลานอนแม่ก็จะอมคำหมากเอาไว้
ด้วยความที่เครื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่บ้านเป็นสีขาวทุกห้อง
เวลาที่ท่านเข้าห้องน้ำ น้ำหมากของคุณแม่ก็หยดบนชักโครกบ้าง บนพื้นบ้าง ชานหมากของเธอก็อุดตันอ่างล้างหน้าอยู่เสมอ
เป็นเหตุทีมีเรื่องหงุดหงิดกับคุณแม่อยู่บ่อยๆ
บางครั้งท่านน้อยใจ ร้องไห้ เราก็แอบเสียใจ...แต่ไม่กล้าขอโทษแม่ .......

ความโชคดีของดิฉัน ก็คือการมีสามี และลูกที่ประเสริฐ สามีไม่เคยบ่น ไม่เคยรังเกลียดคุณแม่ของดิฉันเลย
กลับพูดให้ดิฉันคิดเสมอ" แม่แก่แล้ว แก้ไขไม่ได้หรอก มองไม่เห็นบ้างก็ได้ "
ในขณะที่ลูกชายคนโต อายุ 13 ปี มักจะเตือนดิฉันเสมอ ..."แม่จะบ่นทำไม ยายแก่แล้ว"
แต่ลูกชายคนเล็ก (อายุ 10 ขวบ) ไม่เตือน แต่แรง!!
"แม่ชอบบ่นให้ยาย คอยดูแม่แก่ไปแม่จะเป็นเหมือนคุณยาย"

ส่วนลึกในใจนั้นดิฉันรักและสงสารคุณแม่มาก นับตั้งแต่คุณพ่อจากไป ...แต่ไม่กล้าบอกรักท่าน...
ทั้งที่กลับจากปฏิบัติธรรม หรือนั่งกรรมฐาน ก็จะกลับมากราบแบ่งบุญให้คุณแม่เสมอ
(ตั้งแต่เล็กจนโตดิฉันสนิท กับคุณพ่อมากกว่าคุณแม่ มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาคุณพ่อเสมอ การบอกรักคุณแม่จึงดูเป็นเรื่องยาก สำหรับดิฉัน)

จนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 56 ก่อนแม่จะไปงานศพเพื่อนของคุณแม่ที่บ้านพี่สาว มีความรู้สึกใจหาย
คิดว่าการไปของคุณแม่ครั้งนี้ ท่านจะได้กลับมาหาเราอีกหรือเปล่า
ก็ไม่รู้มีอะไรมาดลใจ ให้กราบขอโทษ และบอกท่านว่า รักแม่นะ... บอกท่านว่าหลังสงกรานต์จะไปรับกลับมาบ้าน

หลังจากคุณแม่ไป ก็คิดถึงแต่ก็ยังไม่ยอมโทรหา รอจนผ่านไปเป็นอาทิตย์ ก็ตัดสินใจโทรหาคุณแม่
เพราะความรู้สึกบอกว่า คิดถึงให้รีบโทร ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ ก็โทรหาคุณแม่เมื่อวันที่ 8 เมษา 56

"แม่เป็นอย่างไรบ้าง ...กินยาตามเวลาหรือเปล่า...ปวดขามั๊ย...แม่..คิดถึงแม่จังเลย ...ก่อนวางสายแม่ก็อวยพรขอให้ลูกโชคดี คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง ทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรือง ...ไม่รู้เลยว่านั่นคือประโยคสั่งเสียสุดท้ายของคุณแม่

วันที่10 เมษา พี่สาวโทรมาบอกว่าคุณแม่อาการไม่ดี...นอนไม่กินข้าวมา 2 วันแล้ว ถ้ามาได้ให้รีบมา
ดิฉันและสามีพร้อมกับลูกชาย 2 คนก็รีบไปที่บ้านพี่สาวในวันที่ทราบข่าวนั่นเอง

น้ำตาหยดสุดท้ายของคุณแม่ ...เมื่อสามีอุ้มท่านขึ้นรถเพื่อส่งไปหาหมอ ...ได้แต่กระซิบข้างหูคุณแม่ว่า
ลูกจะพาไปหาหมอ....ขอให้แม่นึกถึงบุญที่เคยทำ ...นึกถึงชุดขาวที่แม่ใส่ไปถือศีล ...นึกถึงกองกฐิน-ผ้าป่าที่แม่เคยสร้างไว้ ...แม่จำได้มั๊ย ....

ส่งแม่ถึงมือหมอที่ โรงพยาบาลประจำอำเภอ หมอบอกว่าคุณแม่ มีอาการปอดติดเชื้อต้องส่งต่อที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดด้วยรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลประจำอำเภอ เมื่อถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัด
หลังจากรถฉุกเฉิน หมอและพยาบาลประมาณ 7-8 คนก็เข้าไปช่วยเหลือคุณแม่ อยู่นานก่อนจะส่งไปขึ้นตึก

หมอที่ตึกรับคุณแม่ไปประมาณ 2 ชม. ก็เรียกญาติไปบอกว่า คุณยายอาการหนักมาก...หมอจะให้ยาที่ดีที่สุด แต่ไม่รู้คุณยายจะรับได้หรือเปล่า...หากท่านหยุดหายใจจะให้ปั๊มมั๊ย แต่การปั๊มอาจทำให้คุณยายซี่โครงหักได้ ก็สรุปว่าไม่ต้องปั๊ม

คุณแม่ได้สิ้นลม เมื่อเวลา 19.26 น. วันที่ 12 เมษายน 2556 ด้วยสิริอายุรวม 75 ปี แม่จากลูกไปด้วยอาการสงบภายใต้เครื่องช่วยชีวิตของโรงพยาบาล โดยมิได้บอกลาลูกเลย
ลูกเองก็ไม่ได้เห็นแม้เพียงลมหายใจสุดท้ายของแม่
คุณแม่สิ้นลมด้วยอาการปอดติดเชื้อ ติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง ....ได้นำร่างทีไร้วิญญาณ ของแม่กลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่บ้านพี่สาว

หลังจากคุยโทรศัพท์กับคุณแม่เมื่อวันที่ 8 เมษา ก็ตั้งปณิธานกับตัวเองว่า ...หลังจากรับแม่กลับมาบ้านคราวนี้ จะไม่บ่น จะดูแลแม่ด้วยใจ...จะพาแม่ไปเที่ยว ....

แต่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว...แม่ได้ให้โอกาสนั้นกับลูกมานานแล้ว...
.... เมื่อมีโอกาสก็มัวผัดวันประกันพรุ่ง ....เมื่อแม่จากไปแล้ว...จักคร่ำครวญร้องขอโอกาส
เมือแม่อยู่เคียงข้าง..เพียงแค่คิด..เดี๋ยวค่อยบอกรักแม่ก็ได้ ...เมื่อเขายื่นโอกาสให้เรากลับเมินเฉย ...
เมื่อโอกาสมันผ่านเลย ...จะไปร้องขอกับใครได้......
... ฟ้า-ดิน ยึึดโอกาสนั้นคืนกลับไปแล้ว......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 14:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจกับคุณด้วยนะคะ

ขอให้พรที่คุณแม่ให้คุณจงเป็นจริงทุกประการดังที่ท่านปรารถนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 14:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้ เขียน:
ขอแสดงความเสียใจกับคุณด้วยนะคะ

ขอให้พรที่คุณแม่ให้คุณจงเป็นจริงทุกประการดังที่ท่านปรารถนา


ขอบคุณมากค่ะ

ขอบารมี องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตสาวกทุกๆพระองค์
ขอบุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้ว ทุกภพ ทุกชาติ จนถึงปัจจุบันวันนี้
ขอบุญกุศลใดๆที่คุณแม่ได้กระทำเอาไว้ตั้งอดีตชาติ ทุกภพ-ทุกชาติตราบจนวันสิ้นลม

ขอจงรวมลงมารับดวงวิญญาณของคุณแม่สู่สวรรคาลัย.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 15:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2013, 15:12
โพสต์: 152

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ท่านไปสบายแล้วคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีลเพื่อเสริมความดีงามของชีวิตและสังคม (คิหิวินัย - วินัยของคฤหัสถ์) หรือศีลสำหรับประชาชน... นำมาเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก


ทิศ ๖: ปฏิบัติหน้าที่ต่อบุคคลที่สัมพันธ์กับตนให้ถูกต้องตามฐานะ...คือ

-บุตรธิดา บำรุงมารดาบิดาผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหน้า โดย
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจธุระการงานของท่าน
๓. ดำรงวงศ์สกุล
๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน

-มารดาบิดา อนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
๑. ห้ามกันจากความชั่ว
๒. ฝึกอบรมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้การศึกษาศิลปวิทยา
๔. เป็นธุระในการมีคู่ครองที่สมควร
๕. มอบทรัพย์สมบัติให้เมื่อถึงโอกาส

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2013, 16:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ดิฉันก็เสียคุณพ่อไปในวันที่ 12 เมษายน 2556 เวลา 12.00 น.เช่นกันค่ะ คุณแม่ได้เสียไปก่อนหน้านี้เมื่อ4 พ.ย.2545 ค่ะ ตอนนี้จึงรู้สึกโดดเดี่ยวจริง ๆ ค่ะเข้าใจดีถึงความรู้สึกที่หลากหลาย เศร้า เสียใจ ฯลฯ สู้ ๆ ๆ ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2013, 09:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 21:59
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2013, 14:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ร่วมแสดงความเสียใจ

และขอแสดงความเสียใจกับคุณกล้วยไม้สีม่วงด้วย ที่ได้สูญเสีญคุณพ่อในวันเดียวกัน
เช่นเดียวกันค่ะ ดิฉันได้สูญเสียคุณพ่อไปเมื่อ 20 พ.ค 2546


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2013, 14:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศีลเพื่อเสริมความดีงามของชีวิตและสังคม (คิหิวินัย - วินัยของคฤหัสถ์) หรือศีลสำหรับประชาชน... นำมาเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก


ทิศ ๖: ปฏิบัติหน้าที่ต่อบุคคลที่สัมพันธ์กับตนให้ถูกต้องตามฐานะ...คือ

-บุตรธิดา บำรุงมารดาบิดาผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหน้า โดย
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจธุระการงานของท่าน
๓. ดำรงวงศ์สกุล
๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน

-มารดาบิดา อนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
๑. ห้ามกันจากความชั่ว
๒. ฝึกอบรมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้การศึกษาศิลปวิทยา
๔. เป็นธุระในการมีคู่ครองที่สมควร
๕. มอบทรัพย์สมบัติให้เมื่อถึงโอกาส


สาธุค่ะ ...สิ่งเดียวที่ทำได้หลังจากนี้ก็คือทำบุญอุทิศให้ท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2013, 14:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านใดที่คุณพ่อ คุณแม่ยังอยู่ขอให้ปฏิบัติต่อท่านให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกพึงกระทำเถิดค่ะ

วันใดที่ท่านจากไปเราจะไม่เสียใจ ไม่เสียดายที่รอเวลา

เมื่อคราวที่คุณพ่อเสีย....ดิฉันไม่ทุกข์ระทมขนาดนี้
เพราะได้ดูแลท่านทุกอย่าง...คุยกับท่านทุกเรื่อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2013, 16:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 16:34
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ...คุณเข้มแข็งมาก
คุณพ่อของดิฉันเสียเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2535 ตอนที่คุณพ่อเสียดิฉันยังเรียนมัธยมต้นอยู่ที่กรุงเทพ
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าคุณพ่อจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้ท่านเสียตอนอายุ56ปีเต็มพอดี พ่อเกิดวันที่19 เมษายน พ.ศ.2479 ทราบข่าวครั้งแรกเหมือนโลกสลาย หายใจแต่ละครั้งก็ทรมานมีแต่ความเสียใจ
ระยะทางจากกรุงเทพถึงบ้าน 565 กิโลเมตรดิฉันร้องไห้ตลอดทางเลย..ตอนนี้เหลือแม่เพียงคนเดียว
ดิฉันจึงทุ่มเททุกอย่างให้แม่หมด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 49 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร