วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 10:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2012, 11:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2012, 10:07
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว


ด้วยความเคารพ ผู้มีใจบุญทุกท่านค่ะ ...เนื่องจากตอนนี้เรามีปัญหาชีวิต...จะว่าหนักก็ว่าได้ ..จะเล่าให้ฟังคร่าว ๆ เยอะหน่อยนะค่ะ.....เราคบกับแฟนได้ประมาณ 3 ปี อายุใกล้เคียงกัน การศึกษา ป.โท ทั้งคู่ พ่อแม่ฐานปานกลาง ..การงานก็พอมั่นคง และแต่งงานกับได้ประมาณ 1 ปี
แต่ก่อนที่จะแต่งงานกับเรา แฟนเราได้ทำผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนที่คบมาก่อนหน้าเรา 2 ปี ท้อง เราไม่รู้ว่าท้องมารู้เมื่อตอนเด็กคนนี้คลอดได้ประมาณ 5 วัน ซึ่งผู้หญิงคนนี้ พ่อแม่ ญาติพี่น้องของแฟนเราเขาไม่ชอบ ไม่อยากให้คบกัน แต่แฟนเราก็แอบคบกับผู้หญิงคนนี้มาตลอด ซึ่งเวลาเราถามก็บอกว่าเลิกแล้ว ..แต่เราก็รู้สึกได้ว่า ตลอดเวลาที่อยู่กับเรา เขาก็ยังคบกันอยู่ แต่เราก็เชื่อใจว่าไม่เป็นไรหรอก คงเป็นแค่เพื่อนกัน
และเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา เราจับได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ลางานไปคลอดลูก...ผู้หญิงคนนี้พาพ่อกับแม่..ย้ายครอบครัวจาก ต่างจังหวัด มาซื้อบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านแฟน ...... เราก็เลยถามแฟนว่า...เป็นพ่อของเด็กใช่ไหม เขาก็บอกว่าใช่ ( แต่เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ขอแค่ทำหน้าที่พ่อ ) แฟนเราเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ท้องก่อนแต่งงานกับเรา อาทิตย์หนึ่ง .แต่เขาไม่กล้าบอกเรา ..บอกพ่อแม่ เขาบอกว่าถ้ารู้ เราและพ่อกับแม่ใจไม่กว้างพอจะรับได้ก็เลยปิดบัง..
..ถ้าบอกเราตอนนั้นการแต่งงานคงไม่เกิดขึ้น.. เราคงไม่ทุกข์แบบนี้
...เรานะร้องให้อยู่เกือบอาทิตย์ ไม่รู้จะทำอย่างไร ..แม่ของแฟนเราก็เสียใจ ไม่คิดว่าลูกชายตนเอง จะโกหกแม่มาตลอด แถมโกหกเราอีก ..แม่ของแฟนบอกว่าให้เราอดทน ผู้หญิงคนนั้น แม่ไม่รับ ลูกที่เกิดกับผู้หญิงคนนั้น แม่ก็ไม่รับ ...
เราจะเล่าให้เพื่อนฟังก็ไม่ได้ เล่าให้พ่อกับแม่เราฟัง เขาก็ต้องให้เราเลิก ...และไปจากชีวิตผู้ชายคนนี้ ...ญาติพี่น้องฝ่ายแฟนเขาก็รักเราทุกคน ...เขาอยากให้เราอดทน ..แฟนเราจะไปไหนถ้าจะอยู่กับผู้หญิงคนนี้ก็ต้องแอบๆ หลบ ๆ ซ่อน .เอามาเปิดตัว..ออกหน้าออกตาไม่ได้หรอก....เราเลยไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต
แฟนเรา..เท่าที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่สามีได้ดี ดูแลเรา รักเรา เอาใจใส่ เขาบอกว่า ..เมื่อเด็กคนนี้เกิดมาแล้ว เขาก็ต้องรับผิดชอบ ..เขาจะต้องรับผิดชอบผู้หญิงหนึ่งคน และเด็กอีก 1 คน ..โดยมีเราอยู่ด้วย ....
..ขอเล่าเรื่องอดีตให้ฟัง ....
เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พ่อกับแม่แฟนเราถึงไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ ก่อนที่แฟนจะมารู้จักเรา ผู้หญิงคนนี้เคยมาอยู่บ้านแฟน นอนที่บ้าน โดนแม่แฟนไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น เพราะว่ายังไม่ได้แต่งงาน ..เคยมาราวีผู้หญิงที่แฟนเราคบ และพามาเที่ยวที่บ้าน ...มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยมาที่บ้านตอนที่แฟนเริ่มคบกับเรา ..ผู้หญิงคนนี้เคยพูดกับแม่แฟนเราว่า ถ้าหนูไม่ได้คนอื่น ก็ต้องไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้อายุมากกว่าแฟนเรา 5 ปี ...
.....เราถามแฟนว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีไหม ..แฟนบอกว่า เขาเป็นคนดี ...แต่พ่อกับแม่ไม่ชอบ ...ผู้หญิงคนนี้เข้ากับครอบครัวไม่ได้

.....และเราถามแฟนว่า รักเราไหม เขาบอกว่ารัก เราทำให้เขาหัวเราะ เราทำให้เขามีความสุขมากกว่า ผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยคบ ..และเป็นผู้หญิงที่อยากแต่งงานด้วย

ชีวิตในปัจจุบันตอนนี้
เราเจอกับแฟนเฉพาะเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด .เพราะเราทำงาน...ส่วนเขาก็ทำงาน พ่อทำงานเลิกไปหาลูกวันละ 1-2 ชม.และก็กลับบ้านแต่ไม่เคยนอนค้าง ..เพราะว่าแม่แฟนไม่ยอม .ให้ไปได้แต่ห้ามค้าง..เขาก็กลับนอนที่บ้านทุกคืน ....แม่แฟนเราเกียจผู้หญิงคนนี้มาก ...
.ส่วนชีวิตเราตอนนี้ สวดมนต์ทุกคืนหลักจากเกิดเรื่องขึ้น ไปปฏิบัติธรรม ..คิดอโหสิกรรมให้ผู้หญิงคนนั้น ..ไม่เกียจเด็กคนนั้น เพราะว่าเขาเกิดมาโดยไม่รู้อะไร ...

..แต่เราก็ยังทำใจไม่ได้ ..เวลาที่แฟนเราไปหาเด็กคนนั้นเพราะว่าอย่างไรก็ต้องเจอแม่ ...ก็ต้องเจอผู้หญิงคนนั้น หรืออีกนัยหนึ่ง แฟนเราก็มีเมีย 2 คน ..เราได้แต่ภาวนาทำความดี อยู่นิ่ง ๆ .พยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม..รักเขาเหมือนเดิม เหมือนตอนก่อนเกิดเรื่อง....พยายามไม่คิด..แต่ก็อดคิดไม่ได้................
...ถ้าเรามีบุญจริง ขอแค่ให้ผู้หญิงคนนี้ได้พบเจอคนดีดี และออกไปจากชีวิตครอบครัวของเรา ...หรือถ้าเราทำบุญกับแฟนมาแค่นี้ ..ขอให้เราเดินจากไป อย่างไม่เป็นทุกข์ ....
...เราเคยบอกให้แม่ของแฟนให้อโหสิกรรมให้ผู้หญิงคนนี้ ...แต่แม่ของแฟนไม่อโหสิกรรม ผู้หญิงคนนี้ทำให้แม่ต้องทะเลาะกับลูก ..ทำให้ลูกด่าแม่ ... เราก็เลยไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร

...ขอปรึกษาผู้รู้ หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ว่า....
1. ชีวิตเขาเราจะต้องเป็นไปแบบนี้ตลอดชีวิตไหม ...มันเหมือนมีอะไรมาอยู่ในใจตลอดเวลา... เราจะหลุดพ้นไหม
2. หรือถ้ามันจะเป็นแบบนี้ไปตลอด..เราจะทำตัวอย่างไร...เพื่อให้มันไม่ทุกข์ไปมากกว่านี้

...ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2012, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดีค่ะ คุณวิภาพร

ตอบข้อที่ 1. ยากที่จะตอบได้เนื่องจากเราไม่ทราบอนาคตที่จะเป็นไปมันเป็นไปตามเหตุปัจจัย..แต่เราสามารถวางแผนอนาคตได้ด้วยการสร้างเหตุปัจจัยที่ดีงามในทิศทางที่จะเอื้อประโยชน์ต่อตัวเรา....ดังนั้นการที่จะตอบว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น...ก็ไม่ได้เพราะมันก็ไม่แน่เสมอไปอาจจะเป็นหรือไม่เป็น...ในปัจจุบันขณะของเรามีทั้งที่ต้องรับผลจากกรรมเก่า(สร้างเหตุไว้แล้ว) และกระทำกรรมใหม่(ผลจะเกิดในอนาคตหรือเกิดทันทีก็ได้)
ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดในปัจจุบันคือทำเหตุหรือกระทำกรรมไปในทิศทางที่ดี...เหตุหรือกรรมในอดีตที่ผ่านมาแล้วเราไม่อาจจะแก้ไขอะไรได้มากนัก...เมื่อวิบากที่ไม่ดีให้ผลก็ต้องยอมรับสภาพหรือพยายามแก้ไขเท่าที่จะแก้ไขได้ในขณะนั้น....

ตอบข้อที่ 2. มันจะเป็นไปอย่างไรมันอยู่ที่เราสร้างเหตุไว้อย่างไร....เหตุในปัจจุบันอย่างที่บอกเราเลือกได้ เราสร้างได้....
อยู่ที่การตัดสินใจของคุณ....ลองมาทำความรู้จักกับคำว่าทุกข์คล่าวๆนะคะ
องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราท่านแบ่งทุกข์ออกเป็น 2 ลักษณะ
1.ทุกข์ประจำ คือ การเกิด การแก่ การตาย ซึ่งต้องเกิดกับทุกคน
2.ทุกข์จร คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ การประจวบกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รัก
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นสมประสงค์ ความเจ็บป่วย เป็นต้น
บุคคลที่จะล่วงทุกข์ได้ต้องรู้จักทุกข์ในอริยสัจสี่ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
รู้จักทุกข์ รู้เหตุของทุกข์ ข้อปฏิบัติเพื่อละเหตุของทุกข์ ไปสู่ภาวะที่ไร้ทุกข์
หรือจะเอาง่ายๆก็คือ พยายามอย่ายึดติดถือมั่นในสิ่งทั้งปวง คิดเสียว่าสรรพสิ่งเป็นเพียงของใช้ ไม่ใช่ของเรา....
หรือเป็นของเราก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น...มันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยไม่เที่ยงแท้แน่นอน...ไม่เป็นไปตามความ
ต้องการที่เราอยากให้เป็น...ความทุกข์ก็จะบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง...

อนึ่งการมองโลกในแง่ดีจนเกินไปอาจจะนำไปสู่ความประมาท...เมื่อผลที่เกิดตรงกันข้ามกับสิ่งที่ปลงใจเชื่อก็จะทำให้เกิดความทุกข์ใจเสียใจมากจนเกินไป...ดังนั้นไม่ควรประมาทมองเหตุสัมพันธ์กับผลไปตามความเป็นจริงอย่าเอาความคิดที่เป็นอคติของเราเข้าไปเกี่ยวข้อง...จะทำให้มองเห็นความเป็นจริงมากขึ้น...เผื่อใจไว้บ้างสุขหรือทุกข์ไม่มีอะไรแน่นอนมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป...

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2012, 00:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2012, 13:59
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


ชีวิตดิฉันก็เป็นเหมือนคุณ สามีก็ไปมีอีกบ้าน5ปีแหละเขาไม่ยอมเลิกกันถ้าดิฉันไม่ปล่อยไว้แบบน้ีคงจะจบนานและคุณต้องรีบแล้วละถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็คงอีกนานหรือเขาอาจจะมีลูกคนที่2กับสามีคุณอีกก็ได้ผู้หญิงมารยากับผู้ชายขี้สงสารเลิกกันไม่ได้หรอก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร