วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2012, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b46: สนทนาธรรมกับอาจารย์วศิน อินทสระ :b46:

คัดลอกเนื้อหาบางส่วนจาก นิตยสารศุภมิตร
ปีที่ ๕๒ ฉบับที่ ๕๖๔ เดือน กรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๕๐
หน้า ๖๓-๘๐


:b48: :b48: :b48:

...ตัดใจเสียเถิด...เรื่องมันผ่านพ้นไปหมดแล้ว
ภาวนาไว้เสมอว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน
จะต้องได้รับผลแห่งกรรมเป็นธรรมดา
ขอให้พิจารณาเนืองๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจเป็นธรรมดา
ไม่มีใครหลีกพ้นได้...


:b41: :b41: :b41:

คำถาม : การคบกับคนที่มีสามีหรือภรรยาแล้ว เป็นการคบกันในแบบเพื่อน พี่น้อง ที่ให้ความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ไม่ได้มีเจตนาให้เขาเลิกกันหรือต้องการแย่งมา ด้วยการโทรศัพท์หากันบ้าง เจอกันบ้าง ทานข้าวกันบ้าง หรืออาจจะซื้อของให้กันบ้าง อย่างนี้ผิดหรือเป็นบาปหรือเปล่าคะ

คำตอบ : ไม่ผิดและไม่บาป มนุษย์เราอยู่กันเป็นสังคม ต้องเอื้ออาทรต่อกัน มีน้ำใจไมตรีต่อกัน เป็นความอบอุ่นและผาสุข ในเมื่อไม่ได้ก้าวล่วงศีลธรรมอันดีงาม มิตรภาพเป็นสิ่งที่ดีในหมู่มนุษย์


:b48:

คำถาม : ดิฉันอยากทราบว่า เมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้ว อยู่ด้วยกันประมาณเกือบ ๒๐ ปี แต่สามีมีเมียน้อย (มีมานานกว่า ๑๘ ปี) ดิฉันทำใจได้แล้ว และคิดว่านี่ คือ กรรม โดยในความคิดของดิฉันคิดว่า การที่ใจเราไม่เป็นทุกข์ก็เป็นการหมดกรรม และการที่เรายังอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องเอาใจใส่กัน ไม่ค่อยอยากจะพูดคุยกัน (คิดว่านี่คือการตัดกรรม จะได้ไม่ต้องมาชดใช้กันอีก) และพยายามจะไม่ยุ่งเีกี่ยวกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเล็กและลูกๆ แต่สามีพยายามให้ดิฉันอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ มี ๕ คน (ดิฉัน สามี เมียน้อย ลูกอีก ๒ คน) ดิฉันคิดว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะรู้สึกว่ามีแต่เรื่องเข้ามาหาดิฉัน ทั้งๆ ที่ดิฉันก็อยู่ส่วนของดิฉัน ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ : ที่คิดและทำอยู่ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว ขอให้คิดบ่อยๆ ว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน ผู้ทำดีย่อมได้ดี ผู้ทำชั่วย่อมได้ชั่ว คิดอย่างนี้ได้ก็สบายใจ


:b48:

คำถาม : มีอาชีพเป็นโสเภณี แต่ไม่มีครอบครัว ไม่มีบุตร มีพี่น้องรวมกัน ๑๐ คน พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลญาติจนทุกคนมีอาชีพเลี้ยงตนได้ ขณะนี้ได้ศึกษาธรรม ถวายเงินปัจจัยสร้างอารามวัดและต่อเติมศาลาโรงธรรม ซุ้มกำแพงสร้างช่อฟ้าพระอุโบสถ สร้างพระพุทธรูปถวายเป็นพุทธบูชาให้แด่พ่อแม่ที่ล่วงลับไปและตั้งใจเข้าวัดปฏิบัติกรรมฐาน ทำมานานพอประมาณ

แต่ตนเองอยู่ต่างประเทศ แต่พอได้แนวทางจากครูบาอาจารย์ท่านสอนให้อยู่หนึ่งวันพระ (๗ วัน) ก็เพียงเข้าใจว่า คนเราต้องหมั่นสร้างความดี ไม่มีสิ่งใดแน่นอน ไม่ควรยึดติด ทั้งผิดบาปอย่างไรที่เป็นโสเภณีและตั้งใจทำกุศล

คำตอบ : คนทุกอาชีพทำความดีได้ และความดีก็คงมีผลดีแก่ผู้ทำไม่ว่าเขาจะมีอาชีพอะไร เปรียบเหมือนไม้ที่นำเข้ากองไฟ ไม่ว่าจะเป็นไม้อะไรย่อมให้แสงสว่างเหมือนกัน

ในสมัยพุทธกาล นางสิริมาเป็นโสเภณี ตอนหลังได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ได้สำเร็จมรรคผลเป็นพระโสดาบัน นางอัมพปาลี เป็นโสเภณีได้ถวายสวนมะม่วงแก่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ มีลูกชายคนหนึ่งได้บวชเป็นพระอรหันต์ ต่อมานางอัมพปาลีเองได้บวชเป็นภิกษุณีและได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เรื่องเหล่านี้คงจะเป็นกำลังใจให้คุณทำความดีต่อไป

:b48:

คำถาม : มีแม่เป็นคนกินเหล้ามาก ต้องเป็นคนซื้อเหล้าให้แม่ แต่ตัวเองไม่กิน อยากทราบว่าเป็นบาปหรือไม่คะ

คำตอบ : คิดว่าไม่บาป เพราะไม่มีจิตคิดส่งเสริมให้แม่ดื่ม ใจจริงของคุณ ผมคิดว่า คุณอยากให้แม่เลิกและจะยินดีมากถ้าแม่เลิกเหล้า

ในอรรถกถาธรรมบทเล่าว่า สตรีผู้หนึ่งเป็นโสดาบันเป็นภรรยาของนายพรานเนื้อ เช้าขึ้นมาเมื่อนายพรานจะไปล่าเนื้อ ก็ขอให้นางได้หยิบเครื่องมือในการล่าสัตว์ให้ นางก็หยิบตามหน้าที่ของภรรยา แต่ไม่ได้คิดสักนิดหนึ่งว่า ขอให้เขาเอาเครื่องมือนี้ไปฆ่าสัตว์เถิด นางจะมีบาปหรือไม่มี พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกว่า

"นางไม่มีบาป เพราะไม่มีเจตนาในการฆ่า แล้วเปรียบเทียบว่า เมื่อฝ่ามือไม่มีแผล บุคคลย่อมถือยาพิษไปได้โดยที่ยาพิษไม่กำซาบลงไปในฝ่ามือ บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ทำ"

เรื่องของคุณก็คล้ายๆ เรื่องนี้ ขอให้คุณสบายใจและถ้าเป็นไปได้ควรหาทางให้แม่เิลิกเหล้าก็จะได้บุญมากขึ้น


:b48:

คำถาม : ธรรมะช่วยเราหมดหนี้ได้อย่างไรคะ ดิฉันเคยอ่านหนังสือเข็มทิศชีวิตของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง เธอบอกว่า สุดท้ายแล้ว เธอได้รู้ความจริงว่า เงินไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต ดิฉันอาจจะด้อยปัญญาค่ะ จึงไม่ค่อยเข้าใจความหมายของมัน ก็ในเมื่อปัจจุบันดิฉันเป็นหนี้ค่อนข้างมาก และพยายามจะใช้ให้หมดในเร็ววัน วันๆ นึงดิฉันก็เครียดอยู่แต่กับเีรื่องการหาเงินมาใช้หนี้ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ซึ่งแม้จะใช้เงินอย่างประหยัดที่สุดก็ยังไม่พออยู่ดี ดิฉันจึงอยากทราบว่า ธรรมะสามารถช่วยเราได้อย่างไรคะ ที่จะทำให้เราเห็นว่า ถึงแม้ไม่มีเงิน ชีวิตเราก็สามารถมีความสุขได้ ทั้งๆ ที่ในชีวิตประจำวันเราก็ทำงานหาเงินเลี้ยงชีพน่ะค่ะ

คำตอบ : ตอบมาด้วยความเข้าใจและเห็นใจคุณ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก" คุณถลำเข้าไปอย่างไรจึงเป็นหนี้มากมายจนหาความสุขในชีวิตไม่ได้ ความสุขของคฤหัสถ์นั้น โดยปริยายหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ๔ ประการ คือ

๑.) สุขเกิดจากการมีทรัพย์
๒.) สุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ บริโภค ใช้สอย
๓.) สุขเกิดจากการไม่มีหนี้สิน
๔.) สุขเกิดจากการกระทำที่ไม่มีโทษ คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่สุจริต
จะรวมไปถึงการทำงานที่ไม่มีโทษด้วยก็ได้


ถ้าคุณมีหนี้สินมาก ทรัพย์ก็ไม่เพียงพอ ความสุขข้อที่ ๑ ก็หายไป การใช้จ่ายทรัพย์ก็ใช้ไม่ได้ตามที่ประสงค์เพราะเป็นห่วงหนี้ ความสุขของคฤหัสถ์ซึ่งมีอยู่ ๔ ข้อ สำหรับคุณหายไป ๓ ข้อแล้ว จึงเป็นความหนักใจ

ที่มีผู้พูดว่า เงินไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิตนั้นก็ถูกต้องแต่ต้องหมายถึง คนที่มีเงินพอใช้พอจ่ายและไม่มีหนี้สิน ขอให้คุณอดทน ใช้หนี้ให้หมดแล้วตั้งต้นชีวิตใหม่ ตั้งใจว่าจะไม่เป็นหนี้อีก คราวนี้คุณจะหาความสุขได้จากการมีทรัพย์ จ่ายทรัพย์บริโภค ไม่มีหนี้ และประกอบการงานที่ไม่มีโทษ ถ้ามีหนี้ด้วยความจำเป็น เช่น การสร้างเนื้อสร้างตัวและไม่เกินกำลังในการใช้หนี้ ก็ไม่สู้กระไรนัก เป็นกันอยู่ทั่วไป แต่ถ้าไม่มีหนี้ได้ก็เป็นการดี

สำหรับธรรมะที่จะนำมาใช้เพื่อให้หมดหนี้นั้น ขอนำมาบอกเพียงบางประการ เช่น

๑.) คุณต้องเว้นอบายมุขทุกอย่างให้เด็ดขาด
เพราะอบายมุขเป็นทางรั่วไหลของทรัพย์หรือเป็นปากทางแห่งความเสื่อมทรัพย์
๒.) ต้องหมั่นขยันให้มากขึ้นในการหาทรัพย์
๓.) ต้องรู้จักรักษาทรัพย์ที่หามาได้
๔.) คบแต่เพื่อนที่ดีที่ชักนำไปสู่ความเจริญ
๕.) เลี้ยงชีพตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หาได้ ไม่ฝืดเคืองจนเกินไปและไม่ฟุ่มเฟือยเกินไป


หลัก ๕ ประการนี้เป็นของพระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้สำหรับผู้ที่ต้องการตั้งตัว


:b48:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แก้ไขล่าสุดโดย Hanako เมื่อ 05 พ.ย. 2012, 21:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2012, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถาม : ดิฉันเพิ่งแต่งงานแต่อยู่กินกับสามีมา ๓ ปีแล้ว ตอนนี้ร้อนใจ สามีสนใจแต่งาน ไม่สนใจความรู้สึกดิฉัน ทั้งที่เราอยู่ห่างกัน พยายามคิดให้ได้ว่า ความทุกข์นั้นมันเกิดจากใจเราแต่ก็ขาดสติจนร้อนรนอยู่เรื่อย คิดสารพัดจนเหมือนบ้า ตอนนี้เหมือนแค่คุมสติไม่ให้กระเจิง ทำอย่างไรดิฉันจะรับทุกสิ่งทุกอย่างได้คะ? อยากได้ธรรมะเข้ามาคอยนำทางชีวิต เคยปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์แล้วจิตสงบมาก อยากให้ใจตัวเองเป็นอย่างนั้นอีกครั้ง

คำตอบ : น่าจะกลับไปสวนโมกข์อีกสักครั้ง ลองดูว่าจิตใจจะสงบดีมากเหมือนเดิมหรือเปล่าในเมื่อเหตุปัจจัยมันเปลี่ยนไปแล้ว อยากทราบว่าตอนไปสวนโมกข์ครั้งแรกนั้น ได้แต่งงานแล้วหรือยัง ถ้ายัง...แสดงว่า "เหตุปัจจัย" ไม่เหมือนกัน

การใช้ชีวิตคู่ ยากนักที่จะให้ลงตัว ส่วนมากมีเหตุขัดข้องอยู่เสมอ ไม่เหตุใดก็เหตุหนึ่ง มีสุภาษิตในชาดกอยู่บทหนึ่ง น่าจะพอเป็นเพื่อนใจได้ในคราวไม่สมหวัง สุภาษิตนั้นมีว่า

"บางอย่างดีสำหรับคนหนึ่ง แต่ไม่ดีสำหรับคนหนึ่ง
เพราะฉะนั้น สิ่งทั้งหลาย..จะดีทั้งหมดก็ไม่ใช่ จะไม่ดีทั้งหมดก็ไม่ใช่"


โดยนัยนี้จะเห็นว่า ถ้าเราชอบเราก็ว่าดี ถ้าเราไม่ชอบเราก็ว่า ไม่ดี แม้ในการกระทำอย่างเดียวกัน
เพื่อความสบายใจ คุณควรปรับตัวให้พอใจสิ่งที่มีที่เป็น นึกบ่อยๆว่า "มันได้เท่านี้แหละ" เราหวังสิ่งใดแล้วไม่ได้ดั่งหวัง หวังแล้วผิดหวังๆบ่อยเข้าก็จะเครียด ทางออกที่เหมาะสมคือ ตัดความหวังเสีย เมื่อไม่มีความหวัง ความผิดหวังก็ไม่มี

มีสุภาษิตอีกบทหนึ่งของท่านลินยู่ถัง นักปราชญ์จีนว่า

"ความสงบสุขที่แ้ท้จริงของดวงจิต มาจากการยอมรับสิ่งที่เราคิดว่า มันเลวร้ายที่สุด"
เห็นเขาแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า
True peace of mind comes from accepting the worst.

ขอให้คุณท่องไว้อีกสักประโยคหนึ่งซึ่งเป็นสุภาษิตที่ผมใช้เสมอ คือข้อความว่า

"โลกนี้ไม่ต้องการให้ใครโชคดีเกินไป"

ขยายความว่า ถ้าโชคดีด้านหนึ่งก็มักจะโชคไม่ดีอีกด้านหนึ่งหรือหลายๆด้าน
ธรรมดามันเป็นอย่างนั้น รู้จักธรรมดาแล้วทำให้เราวางใจได้และสบายใจ

:b48:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แก้ไขล่าสุดโดย Hanako เมื่อ 05 พ.ย. 2012, 21:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถาม : ตอนนี้เป็นทุกข์เพราะอดีตสามีเพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ ๑๐๐ วัน และเพิ่งจะเผาไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา สาเหตุแห่งการเลิกกันก็เพราะสามีไปมีลูกกับผู้หญิงอีก ๑ คนที่ต้องการจับเขาเพราะเงิน เราทนไม่ได้เลยเลิกกัน แต่สามีรับไม่ได้ รักลูกแต่ไม่อยากอยู่กับผู้หญิงคนนั้น อยากอยู่กับเราเลยเป็นทุกข์ เลยทานแต่เหล้าจนไม่สบายและเสียชีวิตเพราะเหล้าในที่สุด ที่ผ่านมา ๕ ปีเราก็เป็นทุกข์เพราะยังรักเขาอยู่ แต่พอยิ่งรู้ว่า เขาเสียไปเพราะยังรักเราอยู่ ตอนนี้เลยยิ่งทุกข์ ร้องไห้ทุกวันไม่เป็นอันทำงาน ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร คิดแต่ว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาลงเอยแบบนี้ จะทำอย่างไรดีคะที่จะให้หายเป็นทุกข์ได้เสียที

คำตอบ : เรื่องมันผ่านพ้นไปหมดแล้วตัดใจเสียเถิด ภาวนาไว้เสมอว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน จะต้องได้รับผลแห่งกรรมเป็นธรรมดา เมื่อเขามา เราก็ไม่ได้เชิญให้มา เมื่อเขาจากไปเราก็ไม่ได้เชิญให้ไป เขามาของเขาเองและไปของเขาเอง คนเรามาคนเดียว ชวนกันไปก็ไม่ได้ ขอให้คุณพิจารณาเนืองๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจเป็นธรรมดา ไม่มีใครหลีกพ้นได้เมื่อมีการเจอก็ต้องมีการจาก เราพบกันเพื่อจะพลัดพรากจากกัน ไม่จากเป็นก็จากตาย ขอให้คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่ อนาคตยังเป็นของเรา แม้จะสูญเสียอะไรไปบ้างแต่จงรักษาสุขภาพจิตและกำลังใจไว้ให้ดี เพราะนั้นคือ ต้นทางแห่งความสุขความสำเร็จในภายหน้า ข้างหน้ามีสิ่งดีๆ อีกเยอะ ขอให้เราตั้งตนไว้ชอบ ประกอบแต่กรรมดี ก็จะได้รับสิ่งที่พอใจเป็นสิ่งตอบแทน


:b48:

คำถาม : จิตใจวุ่นวายสาเหตุเพราะต้องทำงานหลายอย่างในแต่ละวัน เหนื่อย การนอนทำสมาธิจะทำให้เกิดความสงบได้หรือไม่ ขอข้อคิดเป็นกำลังใจค่ะ

คำตอบ : การทำสมาธิ ทำได้ในอิริยาบถทั้ง ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน เราไปติดในภาษาที่ ว่า นั่งสมาธิ จึงทำให้คิดไปว่า การทำสมาธิต้องนั่งเท่านั้น ลองนึกถึงการหายใจ เราต้องทำในอิริยาบถทั้ง ๔ การทำสมาธิก็เหมือนกัน


:b48:

คำถาม : พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า การเบียดเบียนตัวเองร้ายกาจกว่าการเบียดเบียนผู้อื่น, พี่สาวมีหนี้สินมาก น้องเป็นโรคร้าย ตัวเราเองผ่อนบ้านให้พ่อแม่อยู่ ตอนแรกก็เริ่มช่วยด้วยจิตเป็นกุศล นานๆ ไปคิดว่า ควรมีขอบเขต ถ้าเราหยุดแล้วเค้าเดือดร้อน ถือว่าบาปหรือไม่? แล้วควรแก้อย่างไร?

คำตอบ : ปัญหาของคุณหนักจัง การเขียดเบียนตนเองกับการเบียดเบียนผู้อื่น อย่างไหนจะบาปมากกว่ากันนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ มากมาย เช่นว่า เขาเป็นใคร? เบียดเบียนมากหรือน้อย? การเบียดเบียนผู้อื่นนั้นภาพค่อนข้างชัดเจนเห็นได้ง่ายแต่การเบียดเบียนตนเอง อยู่ที่การทำตนให้ลำบากโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ

การสงเคราะห์ญาตินั้นอันที่จริงเป็นมงคลสูงสุดข้อหนึ่ง แต่ขอให้คุณทำตามกำลังโดยที่ตัวคุณเองไม่เดือดร้อนเกินไป คุณจะได้อยู่เป็นหลักไปนานๆ ถ้าคุณล้มเสียด้วยก็จะเดือดร้อนไปกันใหญ่ ขอให้นึกดูต้นไม้ ถ้าลำต้นไม่แข็งแรง มีกิ่งมากและกิ่งใหญ่ ทานน้ำหนักไม่ไหว พายุพัดมาจะล้มไปทั้งต้น บางทีแม้ไม่มีพายุแต่ทนรับน้ำหนักอยู่นานจนทนไม่ไหวล้มไปเองก็มี

คำตอบนี้แม้จะไม่สมบูรณ์นักแต่หวังว่า คงเป็นแนวทางให้คุณพิจารณาหาทางออกได้บ้าง ตอบมาด้วยความเห็นใจจริงๆ


:b48:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แก้ไขล่าสุดโดย Hanako เมื่อ 06 พ.ย. 2012, 14:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2012, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถาม : พ.ศ. ๒๕๓๘ ผ่อนดาวน์บ้านครบกำหนดแต่ไม่ได้บ้าน พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นมะเร็ง ตกงานแต่ก็สามารถฟันฝ่ามาได้ พ.ศ. ๒๕๔๙ หนักหนาสาหัสเหลือเกินในความผิดพลาดของตัวเองอย่างร้ายแรงที่สุดในชีวิต เสียใจมากคะที่ให้เงินแฟนยืมไปลงทุนห้าแสนห้าหมื่นบาทตามที่เค้าขอร้องให้ช่วยเหลือก่อนแล้วจะส่งให้ทุกเดือน เห็นเค้าพูดจาดี อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีจึงใจอ่อนยอมให้เค้าไปในที่สุด มารู้ว่าเค้าหลอกลวงเรามาตลอด พอให้ไปแล้ว ๔๕ วันขาดการติดต่อ โทรไปก็ไม่รับสายและสุดท้ายก็ปิดเครื่องหนีค่ะ ย้ายหนีไปเลยค่ะ

ทั้งที่เค้าก็รู้ว่า เงินจำนวนนี้เราหามาทั้งชีวิตและต้องเก็บไว้รักษาตัวยังทำกันได้ลงคอ เจ็บปวดเหลือเกินค่ะ ไม่ทราบว่า เคยทำเวรกรรมอะไรไว้มากมายจึงต้องมาใช้หนี้กรรมขนาดนี้ ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยชี้แนะทางดับทุกข์ให้ด้วยนะคะ

คำตอบ : เข้าใจว่าคุณยังไม่ได้แต่งงานกัน เพียงแต่เป็นแฟนกัน เงินห้าแสนไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยสำหรับคนทั่วไป คุณยังมีโรคร้ายเบียดเบียนด้วย น่าเห็นใจจริงๆ แต่เวรกรรมเป็นของมีจริง เขาสร้างเวรกรรมถึงปานนี้น่าห่วงอนาคต คุณเพียงแต่เสียทรัพย์แต่ไม่เสียคนและทำให้คุณได้ปัญญา หูตาสว่างขึ้น

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การเสียทรัพย์ เสียญาติ เสียยศ เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การเสื่อมจากปัญญาเป็นเรื่องใหญ่ การได้ทรัพย์ ได้ญาติ ได้ยศ เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การได้ปัญญาเป็นเรื่องใหญ่

คิดว่าคุณเสียทรัพย์ไปไม่น้อย แต่คุณก็ได้ปัญญามาไม่น้อยเหมือนกัน ต่อไปใครจะหลอกคุณไม่ได้อีก ผมถือคติว่า "เขาโกงเรา ดีกว่าเราโกงเขา เขาเอาเปรียบเรา ดีกว่าเราเอาเปรียบเขา" เป็นต้น ขอให้คุณจำกัดการสูญเสียไว้เพียงเท่านี้ อย่าได้สูญเสียอะไรอีก แม้แต่เรื่องการเสียใจก็ควรจะกำจัดให้หมดไป ขอให้รักษาสุขภาพจิตไว้ให้ดี

อีกประการหนึ่ง คุณกังวลว่า ไม่รู้ทำเวรกรรมอะไรไว้จึงเป็นเช่นนี้ มันอาจเป็นกรรมที่คนก่อใหม่ให้แก่คุณ โอยที่คุณไม่ได้เคยทำมาก่อนก็ได้ อยากจะขออวยพรให้คุณพ้นทุกข์ พ้นโศก พ้นโรค พ้นภัย มีอนาคตที่สดใสงดงาม แต่ทั้งนี้สิ่งที่ำคัญที่สุด คือ คุณสามารถรักษาจิตให้มีสุขภาพที่ดีอยู่ได้


:b48:

คำถาม : (มีผู้ฝากถาม) ว่า
๑. ถ้ามีพระพุทธรูปในห้องนอนควรจะทำตัวอย่างไร มีระเบียบบัญญัติไว้ไหม ?
๒. เราจะกราบแม่ชีแบบกราบพระได้หรือเปล่า?
ขอขอบพระคุณค่ะ

คำตอบ :
๑. เราก็กราบพระพุทธรูปก่อนนอน จะสวดมนต์ด้วยก็ได้ คุณไม่ต้องกังวลใจอะไร คนส่วนมากมีห้องจำกัด จึงมีพระพุทธรูปอยู่ในห้องนอน จึงเป็นเรื่องธรรมดา บ้านที่มีห้องมากพอเขาจึงจัดห้องพระไว้ต่างหาก
๒. ได้...แม่ชีบางท่านมีคุณธรรมสูง น่ากราบไหว้


:b48:

คำถาม : เรียนปรึกษาอาจารย์ค่ะ ดิฉันเป็นคนใจร้อนค่ะ ยิ่งอายุมาก ยิ่งใจร้อนมากขึ้น หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห จนรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองระงับความโกรธแทบไม่ได้ เรื่องนิดเดียวก็โมโหได้ทั้งวัน บางเรื่องจบไปแล้ว พอคิดได้ก็โมโหอีก เคยพยายามนั่งสมาธิ ก็ไม่สามารถทำใจให้สงบได้ พยายามระงับความโกรธ ทำไม่ได้ หนังสือธรรมะก็อ่านแต่ปฏิบัติตามไม่ได้ ก็เลยรู้สึกแย่ สุขภาพใจไม่ดีเลย อยากให้อาจารย์แนะนำสถานที่หรือวัดที่มีผู้แนะนำที่สามารถทำให้จิตใจสงบ สุขุมมากขึ้นได้ เคยเห็นข่าวหลายคนนั่งสมาธิหรือวิปัสสนาแล้วสามารถเย็นลงได้ ขอบคุณล่วงหน้าคะ

คำตอบ : คิดว่าอยู่ที่สิ่งแวดล้อมด้วย สิ่งแวดล้อมน่าจะทำให้คุณเป็นเช่นนั้น แต่ไม่เป็นไร ขอให้คุณคิดไว้เสมอว่า "ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ" ใจคุณจะเย็นลง พอประสบกับเหตุการณ์อะไรที่จะทำให้คุณโกรธหรือหงุดหงิด คุณก็บริกรรมว่า "ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ" แค่นี้ก็ดีแล้ว อีกคำหนึ่งที่ควรท่องไว้เสมอ คือ "มันไม่เที่ยง มันเป็นเช่นนั้นเอง" ความคิดแบบนี้เป็นแนวทางของการเจริญวิปัสสนาทั้งหมด คุณอยู่ในพงหนามแล้วไม่ถูกหนามตำนั่นแหละดี นับว่าเก่ง โลกนี้มีแต่หนามทั้งนั้น คุณไปที่ไหนก็ต้องเจอแม้แต่ในวัด


:b48:

คำถาม : ดิฉันเป็นทุกข์มากจากการไปดูดวงค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ดิฉันได้ไปดู ดวงไพ่ยิปซีแล้วหมอดูได้ทักว่า ดิฉันกับสามีมีเกณฑ์จะเลิกรากัน เพราะจะมีผู้หญิงเข้ามาในชีิวิตสามีทำให้ต้องเลิกรากันค่ะ และหมอยังบอกอีกว่า สามีกับดิฉันไม่ได้เป็นคู่กันจะต้องเลิกกันแน่นอน เพราะมีมือที่สาม ดิฉันทุกข์ใจมากๆ ค่ะ เพราะตอนนี้ดิฉันกับสามีมีเรื่องระหองระแหงกันอยู่เป็นประจำ คุยกันก็จะขัดกันทุกเรื่อง

และที่สำคัญสามีเก่าของดิฉันก็มีเมียน้อย ดิฉันจึงกลายเป็นคนขี้หึง ขี้ระแวงอยู่ตลอด เพราะดิฉันกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ดิฉันไม่อยากผดหวังกับชีวิตคู่อีก ขอให้อาจารย์ช่วยแนะนำดิฉันด้วยค่ะ ว่าดิฉันควรจะทำอย่างไรดี ดิฉันทุกข์มากค่ะ

คำตอบ : คุณอย่าเชื่อหมอดูให้มาก หมอดูย่อมจะผิดบ้าง ถูกบ้างและเราไม่อาจรู้ล่วงหน้าว่า ส่วนใดผิด ส่วนใดถูก ไม่ดูหมอเลยเสียยิ่งดี หมั่นทำความดี ทำจิตให้มั่นคง เชื่อกากรระทำของตัวเองให้มาก เชื่อหลักกรรมของพระพุทธเจ้าว่า ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ยอมรับกฎแห่งกรรม

ชีวิตมนุษย์เป็นสนามทดลองแรงกรรมว่า ใครทำดีทำชั่วมาอย่างไร ชีวิตธรรมดาย่อมมีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง เพื่อให้เราเรียนรู้สัจธรรมของชีวิต ทำใจให้ยอมรับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น ขอให้คุณมั่นคงในความดี

โบราณท่านว่า "คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้" อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ให้เรายืนอยู่ในทางแห่งความดี ดำเนินไปในทางแห่งความดี คุณจะพบสิ่งที่ดีๆ ข้างหน้า ของเสียบางอย่างคนที่มีฝีมือยังเอามาทำให้ดีได้ ทำไมเล่า..ชะตาชีวิตของคนเราจึงจะทำให้ดีไม่ได้

ถ้าเราทำดี พูดดี และคิดดีอยู่เสมอ หวังว่า คุณจะได้คติชีวิตและดำเนินชีวิตไปในทางที่ดีและมั่นคงยิ่งขึ้น ขออวยพรให้เป็นเช่นนั้น


:b48:

คำถาม : เรียนอาจารย์ ดิฉันเป็นโรคเครียด ใจร้อนค่ะ วิตกกังวล พยายามนั่งสมาธิก็ไม่ได้ผล อยากจะอบรมสมาธิเบื้องต้นแต่มีปัญหาอยู่ที่ว่า เป็นโรคข้อเสื่อม นั่งพับขาไม่ได้ จะทำอย่างไรคะ

คำตอบ : นั่งพับขาไมไ่ด้ก็นั่งเก้าอี้ได้ ให้นั่งเก้าอี้ทำ ได้ผลเหมือนกัน แพทย์เขาบอกว่า ความเครียดมีกันทุกคนแต่อย่าให้มีมาก วิธีไม่ให้เครีดยมากก็คือ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรมากเกินไป ปล่อยวางเสียบ้างและนึกอยู่เสมอว่า สิ่งทีเ่กิดขึ้นกับเรา มันไม่เที่ยง เกดขึ้นแล้วดับไป ความทุกข์ก็ไม่เที่ยง ความสุขก็ไม่เที่ยง ความพอใจหรือไม่พอใจก็ไม่เที่ยง เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วดับไป ทำจตทำใจให้เหมือนตาข่ายที่ไม่ติดลม ลมไม่ติดตาข่าย มันเพียงผ่านไปผ่านมา จิตใจก็จะโปร่งเบาสบาย ขอให้คุณใจเย็นลงด้วยการเจริญเมตตาบ่อยๆ


:b48:


:b41: จบ :b41:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2014, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 22:30
โพสต์: 104

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถาม: หนูมีสามีชอบเล่นการพนัน นำพาซึ่งความเดือนร้อนเรื่องเงินทอง พูดดีก็แล้วพูดแย่ก็แล้ว สํญญาว่าจะเลิกเล่นแต่ก็ไม่เคยทำได้ สงสารลูกๆจึงไม่อยากจะเลิกกันไป พยายามประคับประคองให้ถึงที่สุด แก้ที่เค้าคงลำบา คงต้องมาแก้ที่ตัวเรา แต่ก็มองไม่เห็นทางออกเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรดีค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2019, 09:18 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2019, 10:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron