วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 18:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2012, 07:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่วันนี้คะ ใช่ว่าเห็นเพื่อนเก่งแล้ว พี่อ่อนแองั้นหรือที่ไม่กล้าเดินออกมาจากตรงนี้ ?? นู๋ว่าไม่ใช่ค่ะ เขา(เพื่อน)คือเขา เราคือเรา อย่าเอาชีวิตคนอื่นมากำหนดชีวิตเราเลยนะคะ เพราะสถานะทางกายภาพและทางเศรษฐกิจย่อมแตกต่างกันไป วิถีชีวิตของพี่ก็ย่อมไม่เหมือนของเพื่อนค่ะ คงมีรายละเอียดอีกเยอะแยะมากมายที่พี่ไม่รู้ มันคงมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ยอมก้าวเดินออกมาจากชีวิตครอบครัว เพียงเพื่อขออยู่ตามลำพัง (และเอาลูกมาด้วย)

เอาจุดแข็งของเค้ามาปรับใช้กับเราดีกว่ามั้ยคะ เค้าเป็นผู้หญิงที่ทำงานหาเงินเก่ง มีความเข้มแข็งทางจิตใจ สามารถเลี้ยงลูกอยู่ได้คนเดียวโดยไม่ต้องง้อใคร แต่ต้องชื่นชมพ่อของลูกด้วย ที่ยังมีจิตใต้สำนึกแห่งความเป็นพ่อของลูกเต็มเปี่ยม ยังรับผิดชอบลูกเมียอยู่ ไม่ทอดทิ้ง นับเป็นความโชคดีของเพื่อนพี่เช่นกัน

ชื่นชมความเข้มแข็งเค้าดีกว่าค่ะ ผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วแทบทุกคน ถ้าเลือกได้คงไม่อยากเจอสภาพครอบครัวแตกแยก บ้านแตกกันหรอก จริงมั้ยคะ

สิ่งที่พี่ทำเพื่อพยายามประคับประคองชีวิตคู่นั้นก็นับว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเถิดค่ะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2012, 20:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2011, 12:30
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อนของคุณวันนี้เก่งจังเลยค่ะ สามารภยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างสวยงาม ขอชื่นชมค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2012, 14:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มะกอกมะนาว เขียน:
เอาจุดแข็งของเค้ามาปรับใช้กับเราดีกว่ามั้ยคะ เค้าเป็นผู้หญิงที่ทำงานหาเงินเก่ง มีความเข้มแข็งทางจิตใจ สามารถเลี้ยงลูกอยู่ได้คนเดียวโดยไม่ต้องง้อใคร แต่ต้องชื่นชมพ่อของลูกด้วย ที่ยังมีจิตใต้สำนึกแห่งความเป็นพ่อของลูกเต็มเปี่ยม ยังรับผิดชอบลูกเมียอยู่ ไม่ทอดทิ้ง นับเป็นความโชคดีของเพื่อนพี่เช่นกัน

ชื่นชมความเข้มแข็งเค้าดีกว่าค่ะ ผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วแทบทุกคน ถ้าเลือกได้คงไม่อยากเจอสภาพครอบครัวแตกแยก บ้านแตกกันหรอก จริงมั้ยคะ

สิ่งที่พี่ทำเพื่อพยายามประคับประคองชีวิตคู่นั้นก็นับว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเถิดค่ะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว


ดิฉันยอมรับว่าเพื่อนเก่งและชื่นชมเธอเหมือนกับคุณNannapasและคุณมะกอกมะนาว
เพื่อนดิฉันเดินออกมาขณะทียังไม่เห็นปัญหา แต่เพื่อนกลับชื่นชมครอบครัวดิฉัน
ว่าเธอทำอย่างดิฉันไม่ได้ แต่ดิฉันก็ยังไม่มีโอกาสถามว่าอะไรที่เธอทำไม่ได้
เพราะเราต่างมีวิถีชีวิตตามที่เราเลือกเอง และต่างยอมรับสภาพความเป็นไปทุกอย่าง

แม้ดิฉันยังมีความสุขกับการอยู่เป็นครอบครัวเป็นบางครั้ง
แต่ก็เลือกที่จะยืนหยัดอยู่ตรงนี้ จะไม่ยอมสูญเสียในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำผิด
ทุกวันนี้ดิฉันได้หันกลับมามองตัวเองหลายครั้ง
และยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราเองก็มีส่วนบกพร่องในการดูแลครอบครัว
แม้คำตำหนิจะมาจากฝ่ายแม่เขา เราก็ต้องนำกลับมาทบทวนตัวเอง
ยกเว้นเรื่องที่แม่เขาทำเกินเหตุ ที่ดิฉันไม่ต้องไปใส่ใจ

การประคองความรักที่เกือบพลัดพราก
ต้องกลับมาปรับปรุงและแก้ไขที่ตัวเราเองเป็นอันดับแรก
การใช้ชีวิตคู่ ปัญหามันมีมาให้แก้ทุกวัน
แกัไขปัญหาเฉพาะคู่ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่เราพอควบคุมได้
แต่ปัญหาอันที่จะมาจากบุคคลอื่นที่เราคาดไม่ถึง
ดิฉันจึงต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ
คู่สมรสที่พลาดพลั้ง ส่วนใหญ่เป็นเพราะมาจากความ "ไว้ใจ"
จากการวางใจและเชื่อใจของผู้เป็นภรรยาทั้งนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2012, 09:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมาชิกเพื่อนลานธรรมเงียบหายไปเป็นส่วนใหญ่
สงสัยทำใจได้บ้างกันแล้ว ไม่ก็โทรศัพท์หรือเมล์ส่วนตัวจนไม่กลับมากัน


ช่วงอาทิตย์นี้ดิฉันสังเกตเห็นสามีมีสีหน้าเหมือนคนคิดอะไรอยู่
จะถามเขาก็ใช่ที่ กลัวไปจี้จุดที่ต่างคนต่างรู้หรือไม่ก็เราจะไปเผยตัวเองซะมากกว่า
เลยหางานให้เขาทำ บ่นว่าหญ้าข้างบ้านยาว ช่วยไปถางให้ที
อ้างว่างานนี้ต้องใช้แรงผู้ชาย

กรรมที่ใครทำกับครอบครัวดิฉันนั้น
ดิฉันได้พยายามทำใจอโหสิกรรมให้ทุกวันแล้ว


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:22, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2012, 13:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันหยุดที่ผ่านมา ครอบครัวดิฉันก็ได้พากันกลับบ้าน
เราไปนอนค้างบ้านคุณพ่อคุณแม่ดิฉัน
ดูท่านต่างอ่อนสังขารลงไปมาก
แม่ดิฉันยงคงเข้านอนเร็วตามวิสัยปกติของท่าน

เดินนึกๆไปจะขึ้นมานอนชั้นสอง โดยสามีดูทีวีเป็นเพื่อนลูกอยู่ข้างล่าง
รู้ตัวว่าตัวเองต้องนอนไม่หลับเพราะคิดมากแน่ๆ
พลันหูก็แว่วเสียงเทปมาจากห้องนอนคุณแม่
ดิฉันแอบเปิดโผล่หน้าเข้าไปดูท่านเงียบๆ
เห็นรางๆว่าท่านนอนหลับนอนหันหน้าเข้าหาเทปที่เปิดเป็นเสียงสวดมนต์

สติและสำนึกบางอย่างก็เกิดขึ้น
ว่าเออ ดูซิ แม่เราต้องเจอความเจ้าชู้ของคุณพ่อมาตลอดชีวิตการแต่งงาน
ท่านยังอยู่ได้อย่างสงบ แต่เป็นไปในแบบฉบับของท่าน
ตอนดิฉันยังเล็กเห็นคุณแม่นั่งเย็บผ้ายามดึกรอคุณพ่อกลับบ้าน
ตอนแรกดิฉันยังไม่เข้าใจมากนัก หลายคืนเข้าดิฉันเริ่มเข้าใจ
เพราะผู้หญิงอีกคนของคุณพ่อเริ่มแสดงตัวและก้าวก่ายเข้ามามากขึ้น
ดิฉันจึงถามท่านในคืนวันหนึ่งแบบเด็กๆว่า "ทำไมแม่ใจเย็นจังค่ะ"
ท่านตอบเรียบๆว่า "เพราะแม่กินน้ำแข็ง"
เป็นคำตอบชนิดที่ดิฉันหัวเราะไม่ออกเลย
แต่เมื่อคุณแม่ดิฉันได้ยินเสียงรถคุณพ่อเข้าบ้าน
ท่านจึงปิดไฟและขึ้นไปนอนอย่างเงียบๆ โดยที่พ่อไม่เคยรู้เลยว่า
มีผู้หญิงคนหนึ่งได้นั่งรอท่านแทบทุกคืน ไม่เคยมีแม้แต่คำต่อว่าต่อขานใดๆ
ไม่เคยมีปากเสียง ก้มหน้าก้มตารับใช้ครอบครัวเหมือนคนหมดทางไป


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:23, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2012, 14:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันซึมซับความขมขื่นแบบเงียบๆของแม่มาตลอดชีวิต
และยอมรับว่าฝังลึกชนิดเคยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่แต่งงาน
พอมาเจอสามีคนปัจจุบัน เขาจึงไม่เข้าใจในตอนแรก
ว่าทำไมดิฉันจึงปฏิเสธการสู่ขอจากเขา
จนตัวเขาเองต้องไปร้องขอกับแม่ดิฉัน รับปากว่าจะรักดิฉันและไม่ให้ดิฉันลำบาก
(เรื่องนี้ดิฉันมารู้ไม่กี่ปีจากปากแม่ดิฉันนี่เอง)

ดิฉันเห็นว่าเขามั่นคงที่จะยังแต่งงานกับดิฉันในตอนนั้น
ทั้งที่ดิฉันรู้ตัวดีว่าไม่อาจเป็นภรรยาในลักษณะแม่บ้านแม่เรือนที่เพรียบพร้อมได้
ดิฉันกลัวจะทำให้เขาเจ็บ หรือกลัวตัวเองต้องเจ็บปวดเอง
ดิฉันจึงขอคำมั่นสัญญากับเขา ถึงเรื่องความซื่อสัตย์และไม่นอกใจ
เพราะดิฉันทนเรื่องพวกนี้ไม่ได้ สีหน้าเขาตอนนั้น
เป็นสีหน้าจริงจังเสมือนเป็นคำมั่นที่ทำให้ดิฉันได้ตอบตกลงให้มีการสู่ขอเกิดขึ้น

นี่แหละจึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งทุกข์ทั้งมวล
ที่เราเฝ้ายึดมั่นคำสัญญาของเขา
สัญญาตอนนั้นน่ะมันเป็น "ความจริง" ในขณะนั้น
แต่เวลาผ่าน กาลก็เปลี่ยน
ดูสังขารเรายังเปลี่ยน แล้วสิ่งที่เป็นจริงในขณะนั้นจะไม่เปลี่ยนไปเชียวหรือ
ดิฉันทุกข์เพราะไปยึดมั่นคำสัญญาในขณะนั้นนั่นเอง
มันเท่ากับกอดความฝันที่ไม่มีอยู่จริง.......

ดิฉันปิดประตูห้องนอนคุณแม่อย่างเงียบๆ
กระนั้นเสียงสวดมนต์จากเทปก็ยังคงดังแว่วตามมาเตือนสติไม่ขาดสาย
แต่ก็ทำให้ดิฉันผ่อนคลายและหลับลงไปได้บ้าง


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2012, 14:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




สัญญา.jpg
สัญญา.jpg [ 87.33 KiB | เปิดดู 6211 ครั้ง ]
การยึดสัญญาวันก่อน คือภาพหลอนในวันนี้
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2012, 10:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 13:21
โพสต์: 73


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณวันนี้ แหม่มไม่ได้เข้ามานานเลย งานยุ่งมากเลยคะ ทำงาน 5 วัน พอ 5โมงปุ๊บก็ต้องรีบไปรับลูก ๆ จากโรงเรียนกลับบ้านก็ต้องรีบทำงานบ้านเพื่อที่จะพาลูก ๆ เข้านอนได้เร็วจะได้นอนไม่ดึกสมองจะได้สดในเมื่อพวกเค้าตื่นตอนเช้าซึ่งแหม่มจะต้องตื่นตอนตอนตี 5 ครึ่งคะเพื่อเตรียมเสื้อผ้า อาหารไว้ให้ลูก ๆ ไปโรงเรียน แล้วปลุกลูก ๆ ตื่นตอน 6 โมงเช้าส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็ต้องทำงานบ้านคะ แล้วยังต้องพาลูกไปเรียนพิเศษ ไปว่ายน้ำเล่น หรือไปซื้อของอีก เป็นอย่างนี้ทุก ๆ วันคะ ถามว่าเหนื่อยมั๊ยก็เหนื่อยคะ เพราะงานที่บริษัทก็หนัก ดูแลลูก 2 คน ก็หนักเหมือนกันต้องใจเย็นไม่โกรธ ไม่ตีลูกโดยไม่จำเป็นต้องสั่งสอนเลี้ยงดู ต้องให้คำปรึกษาเรื่องเรียน หลาย ๆ อย่างเลยคะ แต่ ณ ตอนนี้แหม่มก็ต้องสู้แล้วหละคะ ในเมื่อแหม่มเป็นผู้ตัดสินใจที่ดำเนินชีวิตแบบนี้เอง ก็ต้องอดทนเพื่อลูกคะ แหม่มอยากให้คุณวันนี้มีความสุขกับสิ่งที่คุณวันนี้เป็นผู้เลือกนะคะ อีกไม่นานความสุขที่แท้จริงกำลังจะมาคะ คือการเห็นลูกมีอนาคตที่สดใสเหมือนเพื่อคุณวันนี้ไงคะ สู้ ๆ นะคะยังมีสิ่งที่งดงามรออยู่คะ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2012, 12:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดีใจนะคะที่ได้ข่าวคุณแหม่มอีกครั้ง

ได้ข่าวว่าคุณแหม่มจะไปขึ้นศาลเร็วๆนี้
ดิฉันขออนุญาตส่งใจไปยืนข้างคุณแหม่มในศาลด้วยคนนะคะ


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2012, 08:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้คุณวันนี้ และคุณแหม่ม เพื่อนทุกๆ คนในลานนะเจ้าค่ะ
ให้ถือซะว่าเป็นเรื่องของกรรม เราต้องพิจราณานะว่าอดีตกรรมของตนเป็นอย่างไร ให้ดูผลที่กำลังเกิดขึ้นแก่ชีวิตในปัจจุบัน ดูจากสถานะความเป็นอยู่ในปัจจุบัน การรู้เท่าทันชีวิต คือการเป็นผู้ดู เป็นผู้สังเกตุการณ์ มิใช่คนลงไปเล่น เหมือนยืนดูเขาเล่นละคร เหมือนยืนอยู่บนสะพานดูกระแสนน้ำที่ไหลไปๆ ไม่ต้องเข้าไปเป็นผู้เล่นละครเอง ไม่ต้องลงไปว่ายวนอยู่ในน้ำเอง ปล่อยให้ความสุขและทุกข์ไหลลอบผ่านมาแล้วผ่านไป จิตใจก็สบายค่ะ สู้ๆๆนะค๊า :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 14:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 13:21
โพสต์: 73


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากคะคุณวันนี้ คุณอุ๋ยด้วยนะคะรวมถึงพี่วรรณด้วยคะ ที่ทุกคนให้กำลังใจกันนะคะ แหม่มอยากจะบอกว่าแหม่มดีใจมากคะที่มีแต่คนให้กำลังใจทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ๆ พี่ ๆ ที่ทำงาน ทั้งครอบครัว คนรู้จักแม้กระทั่งมารดา-บิดาของเพื่อนลูก ๆ ทุกคนต่างก็โทรหา และให้กำลังใจกันคะ ทำให้แหม่มรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ และเราไม่มีเค้า (สามี) เราก็มีคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจเราอีกมากมายไม่จำเป็นต้องร้องขอจากคนคนนั้นเลยคะ และที่สำคัญมีลูกชายที่รักแม่มาก โทรหาแม่ตลอดคอยถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และลูกสาวที่เจอหน้าก็ถามทันทีว่าแม่เป็นไงบ้าง จบยัง 555+ ตามประสาเด็กคะ โดยที่เค้าทั้งสองคนไม่มีสีหน้าที่จะเสียใจที่แม่กับพ่อจะแยกกันเลย แถมเป็นกำลังใจให้กับแม่อีกแนะ ปลื้มใจที่สุดเลยคะ สู้ ๆ กันต่อไปนะคะแหม่มเชื่อว่าทุกคนจะมีทางออกของตนเองดีที่สุดคะ โชคดี และมีความสุขกันนะคะ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2013, 20:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะเวียนกลับมาครบรอบใช้กรรมอีกครั้งแล้วล่ะค่ะ

ทั้งเธอและแม่พยายามจะให้สามีดิฉันกลับไป
โดยไม่พูดถึงดิฉันกับลูกว่าจะอยู่อย่างไร
ดีที่สามีดิฉันนิ่งและไม่พูดอะไรต่อหน้าพวกเขา
แต่กลับมาบ่นว่าเสียดายบ้านหลังที่ย้ายมา
เพราะลงแรงตกแต่งไปมาก

ดิฉันดีใจที่สามารถทำให้เขารู้สึกว่าบ้านเป็นบ้าน
เขาและลูกอยู่อย่างมีความสุขเท่าที่ควรจะเป็นตามอัตภาพ

เป็นปกติวิสัยของแม่ลูกคู่นี้ ถ้ามาโคจรพบกันกันทีไร
ต้องเป็นอันสร้างความหายนะให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
หรือผู้ใกล้ชิดทั้งสิ้น


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:26, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันเวลาผ่านไปเร็วจริงๆนะคะ น้องสาวพี่วันนี้กลับไปไม่ทันไร นี่มาใหม่อีกแล้ว พร้อมกับสร้างปัญหาให้เหมือนเดิม แต่เชื่อว่าคงไม่สามารถทำอะไรพี่ได้มากไปกว่านี้แล้ว มุขเดิม มารยาเดิมๆ มันคงใช้ได้แค่ไม่กี่หนหรอกค่ะ สามีพี่เองถึงจะตามมารยาหลายร้อยเล่มเกวียนของผู้หญิง(เจ้าเล่ห์)ไม่ทัน แต่เขาก็คงเบื่อหน่ายไม่น้อยกับการจุ้นวุ่นวายที่ไม่เข้าเรื่องของหล่อน

อยู่อย่างรู้เขา รู้เรา ก็เท่ากับชนะในมุ้งแล้ว ใช่มั้ยคะ

:b16: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณมะกอกมะนาวเขียนได้เหมือนจริงราวกับมาเห็นเองมาก
สามีดิฉันตามไม่ทันน้องกับแม่เขาจริงๆ แต่ดิฉันก็ไม่เข้าไป
แทรกแซงในระหว่างพี่น้องเขา คิดว่าเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ
เรายังมีสติตั้งรับได้มากกว่า

ผู้หญิงที่เป็นชู้ก็พยายามส่งเมล์หาสามีดิฉัน
ในลักษณะที่ดิฉันเคยโต้ตอบหล่อนตอนที่หล่อนเคยลามปามดิฉัน
ซึ่งตอนนั้นเป็นภาวะที่ดิฉันอยู่ในอารมณ์ร้อนสุดๆ
แต่หล่อนก็ฉลาดที่เลือกเฉพาะส่วนที่ดิฉันโต้ตอบหล่อน
แต่ไม่ยอมส่งสิ่งที่หล่อนล่วงเกินดิฉันก่อน ดิฉันรู้ที่สามีเงียบ
เพราะก่อนที่ดิฉันจะเคยส่งให้หล่อน ดิฉันก็ส่งให้สามีดิฉันด้วย
ว่าดิฉันต่อว่าอะไรเธอไปบ้าง

ดิฉันก็ได้ปรึกษากับเพื่อน เพื่อนๆต่างก็รู้สึกเป็นห่วง
และแชร์ความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์เป็นเพียงคำที่เตือน
สติและคำแนะนำด้วยความเป็นห่วง


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:27, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



เมื่อสามีกลับจากทำงาน เขาเข้ามาหาดิฉัน
พูดกับดิฉันเหมือนขอร้องว่าอย่าต่อว่าเขาได้ไม๊
เรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา เขาขอโทษทุกอย่าง

ดิฉันบอกเขาว่า ตั้งแต่แต่งงานกันมา
สิ่งที่เขาและครอบครัวเขาทำกับดิฉันอย่างบอบช้ำ
ดิฉันพึ่งจะได้ยินคำขอโทษจากเขา

ดิฉันยอมรับและให้อภัยเขาเหมือนที่เคยทำ
โดยที่เขาไม่เคยต้องขอโทษด้วยซ้ำ

แต่ญาติเขาล่วงเกินดิฉันมาหลายครั้ง
ก็ยังไม่เคยสำนึกผิดอะไรเลย และทีสำคัญ
ดิฉันยังไม่ได้ต่อว่าใครเลยซักคำ

ดิฉันเดาออกว่าสามีต้องการตัดบท เพราะถ้าตามสาวลึกลงไป
ก็คงไม่พ้นต้องมีผู้ใหญ่เขาเข้ามาเกี่ยวข้อง ดิฉันเข้าใจ
จึงบอกเขาว่า ญาติๆกับชู้นั่นคงไม่หยุดราวีดิฉันแน่
ดิฉันบอกเขาว่าจะไม่โต้ตอบกับพวกเธอ
แต่จะให้เขารู้ว่า ดิฉันทำอะไรได้บ้าง


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:30, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร