วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 02:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2012, 13:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 15:39
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


นมัสการ ท่านพุทธฏีกา

ตอนนี้เราได้เห็นผลกรรมที่สามีได้รับ เพราะตอนนี้เขาไม่เหลือครอบครัวแล้ว ลูกสาวเราตอนนี้ตัดใจได้แล้วเธอก้าวผ่านความทุกข์และความเสียใจที่ถูกพ่อกระทำได้แล้ว ตอนนี้สามีเหมือนเป็นส่วนเกินของครอบครัวเรา การงานของสามีก็มีอุปสรรคเจอแต่ปัญหา เราและลูกได้แต่มองดูเขาอยู่ห่าง ๆ โดยไม่เข้าไปยุ่งกับเขา ปล่อยให้เขาอยู่ของเขาลำพัง มองดูผลกรรมที่เขาจะได้รับ ซึ่งเขาเริ่มรู้สึกแล้วว่าครอบครัวไม่ต้องการเขาจึงพยายามกลับมาดูแลครอบครัว แต่มันสายไปแล้ว เพราะความรู้สึกของเราทั้ง 3 ไม่ต้องการเขาแล้ว ตอนนี้ชีวิตเขาตกต่ำและเสื่อมลงไปมาก

แต่มีสิ่งใหม่ที่เรากลัวคือ กลัวเขาจะตัดสินทำอะไรผิด ๆ โดยขาดสติ เพราะเขาเคยถามเราว่าถ้าเขาเลือกไปทางที่ไม่ดีเราจะว่ายังไง เราก็เลยบอกไปว่าการศึกษาก็สูง ตำแหน่งงานก็สูง ประสบการณ์ก็เยอะ ถ้าสมองคิดได้แค่นั้นก็แล้วแต่ ซึ่งแม่ของเขาบอกเราว่า เขาเคยพูดกับแม่ว่าเขาเหนื่อย เขาไม่อยากอยู่แล้ว ขอให้แม่เขาดูแลตัวเองให้ดี เราจึงกลัวมากว่าเขาจะทำร้ายตนเอง เพราะตอนนี้เขาเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร เงียบจนน่ากลัว ไม่ทราบว่าเราจะทำอย่างไรดี ปล่อยวาง หรือควรช่วยเหลือ และควรช่วยอย่างไร เพราะเราไม่อยากมีเวรกรรมกับเขาอีก และไม่อยากให้ลูกต้องมีบาปติดตัวด้วย ดังนั้นขอคำแนะนำด้วยเถอะค่ะ ว่าควรทำอย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2012, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนเราส่วนใหญ่รักตัวเองกันทั้งนั้นครับ พฤติกรรมที่ผ่านมาก็บอก
ก็แสดงให้เห็นๆ กันอยู่ว่า เห็นแก่ตัวเองมากมายหรือน้อยขนาดไหน
ซึ่งนั้นทำให้คนเรา หลงตัวเอง ลืมตัว ทำอะไรไปด้วยความพอใจ
ไม่สนใจใคร ไม่แคร์ใคร มีทางเลือก หลงผิดขนาดอ้าง ในสิ่งที่
ไม่ได้รู้จริงเห็นจริงแล้ว ปรุงแต่งนำมาบอกกล่าวกับคนอื่นๆ

หลอกคนอื่นด้วย ความปรารถนาต้องการตามแต่ใจตนเอง
คนที่มีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง ยามผิดหวัง เมื่อไม่ได้ในสิ่ง
ที่ตนปรารถนาตนต้องการเหมือนแต่ก่อน คนนี้จะเป็นคน
ไม่ยอมรับความจริง เพราะเคยได้เคยมีมาตลอด

คนเราเป็นได้ทั้งคนรู้จักและคนแปลกหน้าในคนๆ เดียวกัน
ในคนที่เราเคยรู้จักซึ่งวันนี้กลายเป็นคนแปลกหน้า เรารู้ดีว่า
เขาเคยมีพฤติกรรมอย่างไรๆ ที่ผ่านมา

นั้นจะทำให้เราพิจารณาได้ว่า เขาจะทำร้ายทำลายตัวเอง
ถึงขนาดนั้นได้หรือไม่ ซึ่งหากถ้าเขากระทำ เพราะหลงผิด
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ
ของเขาอย่างรุนแรงจริง ตอนนี้ก็เป็นเวลา ที่เราจะต้องเป็น
เหมือนนักตกปลาผู้ฉลาด ผ่อนสั้นผ่อนยาวให้เป็น!

ที่ผ่านมาเวลาที่ปลามันมีกำลัง เขาใช้อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด
กับเราอย่างมาก ใช้อยู่ฝ่ายเดียว คนตกปลาที่ฉลาดก็ต้องผ่อน
สายเอ็นให้คลายออกไปอย่างช้าๆ ปล่อยวางอย่างถูกต้อง
ปล่อยและวางจิตวางใจ ในเวลาที่ไม่สามารถบังคับทุกสิ่ง
ทุกอย่างให้เป็นไปตามใจเราต้องการ เหมือนกำลังของเอ็น
ของเบ็ดตกปลาเรายาวเท่านี้ อ่อนหรือแข็งเท่านี้ เราจึงต้องผ่อน
ต้องปล่อย ไปตามสภาพคันเบ็ดสายเอ็น

พอปลามันดึงเหยื่อไป ดิ้นไป ตามกำลังของมัน เราก็ต้องรู้จัก
ผ่อนรู้จักวางใจของเรา ไปตามกำลังของอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด
และเหตุผลต่างๆ ที่ไร้เหตุไร้ผลของเขา เราก็ต้องผ่อนมัน วางมัน!

เมื่อมันชะล่าใจ นักตกปลาที่ฉลาด ก็จะคอยดึงคันเบ็ดสายเอ็น
อย่างค่อยๆ ช้าๆ ไม่ทันให้มันได้ไปไกลเกิน หรือถ้าหากเราจะ
พิชิตมัน ก็ไม่ทำให้เส้นเอ็น "ขาด" วัดกำลังกัน ผ่อนสั้นผ่อนยาว
ไปจนกว่า ปลามันเริ่มเหนื่อย อาการที่

คนเราไม่ได้ในสิ่งที่หวังที่ปรารถนา รู้ตัวว่าผิด คิดกลับตัวกลับใจ
ก็เหมือนเป็นช่วงเวลาที่เราจะค่อยๆ อดทนรอคอยอย่างมีสติ
ในคนอื่น รายอื่นๆ ที่เราเห็น พอปลามันติดเบ็ดแล้วกำลังว่ายหนี
คบคนอื่น หลอกลวงเรา ทำเหมือนเราเป็นคนไม่ฉลาด ทำเหมือน
ตัวเองเป็นคนไม่โง่อยู่ตลอดเวลา ก็เหมือนปลามันมีกำลังมาก
พร้อมด้วยแรงของคลื่นใต้น้ำที่พาปลามันหนีเราไป

คนที่ไม่มีประสบการณ์ก็เหมือน คนตกปลาที่ไม่ฉลาด ก็จะอดทน
ต่อพฤติกรรม ต่อการกระทำของ ปลาใจร้ายตัวนี้ไม่ได้

ที่สุดจึงได้พยายาม ยิ่งดึงยิ่งยกคันเบ็ด ยิ่งสาวสายเอ็นด้วยแรงด้วย
ความโกรธความหึงความหวงมากเท่าไหร่ สุดท้าย สายเอ็นนั้น
ก็ขาดทำให้ ปลามันหนีไปพร้อมกับเหยื่อ (ความรัก)ที่เราเคยมี
ให้กับเขา เมื่อมันกินอิ่มแล้ว มันก็ถ่ายออก ไม่เหลืออะไรอีกเลย!

ตอนนี้เรามีสติ เรามีปัญญา เป็นคนกุมชะตาลิขิตชีวิตของเราเอง
พฤติกรรมของเขา เราเองเท่านั้นดูออกมองออก ว่าเขาจะฉลาดมาก
หรือฉลาดน้อย ในสิ่งที่เขาพูดเขากระทำ ฟังหูไว้หูเสมอ ถ้าที่ผ่านมา
เราตกอยู่ใต้ อารมณ์และเหตุผลของเขา ถ้าปลามันอยู่้น้ำลึกเราดู
มันเห็นมันยาก ่ดูอาการมันไม่ออก ต้องรอต้องใจเย็นให้มันพ้น
เขตน้ำลึก สิ้นลายสิ้นกำลัง เขตน้ำลึกก็เหมือนกับ เขายังซ่อนคำพูด
การกระทำหลายๆ อย่างเหมือนกับที่เคยพูดเคยกระทำในเวลาที่
ผ่านๆ มา ก็ผ่อนสั้นผ่อนยาวต่อไป จนกว่า เขาจะออกมาจากสภาพ
เขตน้ำลึก เหมือนๆ ที่เรากำลังดูออก มองออกอยู่!

แล้วก็ใจเย็นๆ ค่อยๆ สาวสายเอ็นยกคันเบ็ดอย่ารุนแรง ลูกๆ ของเรา
ก็เป็นที่รักของเขาอยู่เหมือนกัน อย่าตึงเกินไป ในคราวที่ควรหย่อน
ควรผ่อน ลูกเราเองจะได้มีความสุข ไม่คิดแทนลูกในลักษณะว่า เขายังรัก
ยังตัดใจได้หรือไม่ได้ ส่วนใหญ่ เป็นไปตามความคิดอารมณ์เหตุผล
ของเราเอง อย่าด่วนสรุปเอาเองในเรื่องจิตใจของเรา ของลูกเรา
เราเองก็ต้องหัดมอง หัดผ่อนสั้นผ่อนยาว จิตใจเรา ของเราเหมือนๆ
กับที่คอยดูแลหัวใจเขา จิตใจเขาเหมือนๆ กัน

ให้อภัยในสิ่งที่เขาผิด ไม่ติดค้างคาอะไรในใจอีก นั่นแหละที่สิ้นกรรม
ผลของกรรม กรรมดีความรู้สึกดีๆ ไม่อยากรับ ถ้าทำไว้แล้ว มันก็ต้อง
ได้รับเมื่อถึงเวลา กรรมชั่วความรู้สึก คำพูด ความคิด การกระทำที่
กระทำต่อกันเอาไว้ไม่ดี ทำแล้วมันก็ต้องได้รับเมื่อถึงเวลาเหมือนๆ
กันไม่มีทางหลีกเลี่ยง อยากพ้นเวรพ้นกรรมแบบหยาบหรือละเอียด
ถ้าให้ทาน ให้อภัยเป็นทาน นี่ก็พ้นเวรพ้นกรรม ที่ถือพยาบาทถือโกรธได้

ให้ได้ ไม่ติดค้างคาใจ ใจก็เบาใจก็เป็นสุข ให้ไม่ได้ ถึงตัวห่างไกล
เวลาผ่านไป แต่ใจมันยังเกลียด บาปนี้ก็ไม่มีทางหมดไปจากใจเลย!!!

วิบากก็ยังตาม เพราะยังละความยึดถือผิดเห็นผิดไม่ได้ ไม่มีปัญญารู้เห็น
ตามความเป็นจริง ให้อภัยเป็นทาน พ้นโกรธพ้นเกลียด รักษาศีล พ้นความ
ไม่สำรวยกายวาจา พ้นเพ่งโทษ พ้นติเตียน ให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
กับเขาทั้งสองคน ศีลทำให้พ้นความเบียดเบียนกันด้วยกายวาจา
ภาวนา เจริญสติ อบรมสมาธิปัญญา ทำให้พ้นความไม่ฉลาดความ
ไม่รู้ พ้นวิบากที่เป็นทุกข์ คลายวิบากทั้งที่เป็นความสุขด้วย และพ้น
วิบากพ้นความยึดถือในกายในใจในสิ่งต่างๆ ว่าเป็นเราของๆ เรา
ทั้งหมดนี้ มีอยู่ในการ ให้ทาน รักษาศีล ภาวนาเจริญพร^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2013, 17:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 15:39
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบนมัสการท่านพุทธฏีกา

หลังจากที่หายไปนานเพราะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำตามคำแนะนำของท่าน แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจหย่าขาดจากสามี เพราะมีเรื่องราวมากมายที่เขาทำกับเราและลูก
1. เขาตั้งใจจะทิ้งเรากับลูก โดยไปซื้อที่ทางให้ฝ่ายหญิง โดยเขาตั้งใจจะไปกินอยู่กับผู้หญิงที่บ้านต่างจังหวัด ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงสามียังติดคุกอยู่ และได้ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวฝ่ายหญิง โดย พ่อ แม่ ฝ่ายหญิงรับทราบ บอกกับเราว่า ให้ลูก ๆ ช่วยประหยัด เงินเขาไม่พอใช้ ให้เราช่วยออกค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเราออกมากกว่าเขาเดือนนึงเกือบหมื่นบาท และบอกว่าเขาต้องชักเนื้อ จ่ายเกินเงินเดือนเขาทุกเดือน แต่ตัวเขาเองกลับเก็บทรัพย์สินเอาไว้ในรถตลอดรอเวลาที่จะทิ้งเรากับลูกไป ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยคิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้ได้ ยังเชื่อในความดีที่เห็นมา 20 ปี วันหนึ่งมาสังเกตว่าสมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารส่วนตัวเขาหายไปหมด จึงถามเขาว่าอยู่ไหน เขาบอกไม่เห็น พอไปค้นในรถเขา ของนั้นก็อยู่ในรถ เราเลยหยิบพันออกมาโดยไม่บอกเขา ตอนหลังเขาว่าเราไปขโมยของเขา ซึ่งเราตั้งใจจะเก็บไว้ให้ เพราะเห็นว่าขาดสติ เกรงว่าจะหมดตัวเพราะความหลง

2. เขาได้รับมรดกจากที่พ่อเสียชีวิต โดยแบ่งคนละครึ่งกับน้อง เงินสดหลายล้าน ทาวเฮ้าท์ ที่ดิน คอนโดให้เช่า เขาบอกว่าเขาให้น้องหมด สมบัติของเขาไม่ให้เราไปยุ่ง (เวลาสมบัติของพ่อแม่เราให้หลังแต่งงาน เราไม่เคยแบ่งของเขา ของเรา แต่พอของเขาบอกว่าเป็นสมบัติเขาเรายุ่งไม่ได้) ลูกชายบอกว่าทำไมไม่เอาเงินมา เป็นค่าเล่าเรียนให้ลูกชายกับลูกสาว เพราะยังต้องใช้เงินเรียนหนังสือ เขาบอกว่าให้ใช้สมบัติเราเลี้ยง เราเลยบอกเขาว่าน้องสาวคุณอายุเกือบ 50 มีลูกชายคนเดียวอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 (ถูกรีไทร์) อีก 2 ปีก็จบ แต่ลูกคุณ 2 คน เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 คุณให้ลูกสอบเข้าภาค Inter ค่าเทอมปีละเป็นแสน ส่วนลูกสาวให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ มีชื่อเสียง ค่าเทอมปีละหลายหมื่น อยู่แค่ ม.2 หนี้บ้านก็ตั้งหลายล้าน ทำไมไม่เอาเงินมาใช้หนี้ และเป็นค่าเล่าเรียนลูกบ้าง เขาก็ไม่สนใจ

3. ก่อนหย่า 1 เดือน เขาพาน้องสาว หลาน และแม่มาพักที่บ้าน โดยให้น้องสาวไปนอนในห้องลูกชายเรา ตอนเช้าลูกชายเราเข้าไปหยิบเงินในห้อง เพราะเก็บเงินไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเขา น้องสาวเขาเห็นลูกชายถือเงินออกมาจากห้องนอน เขาคิดว่าลูกชายเราไปขโมยเงินเขา จึงไปบอกแม่สามี แม่สามีมาบอกให้แฟนรู้ แฟนเรามาว่าลูกชายว่าทำไมไม่มีเงินแล้วไม่มาขอ (เพราะตอนนั้นไม่ค่อยให้เงินลูกเอาเงินไปให้ผู้หญิงกับครอบครัวเขาใช้ แต่เราเป็นคนให้เงินลูกใช้) ไม่ถามลูกสักคำว่าเรื่องเป็นอย่างไร โชคดีที่ตอนนั้นลูกชายบอกเราไว้ว่าเข้าไปเอาเงินในห้องนอน เห็นอาเขามองแปลก ๆ และพูดแปลก ๆ แต่ไม่ได้สนใจอะไร เราก็เลยคิดว่าไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นเรื่องว่าลูกเราขโมยเงิน เราจึงบอกว่าทำไมเลี้ยงลูกตั้งแต่ลูกตั้งแต่เล็ก เพราะเขากับลูกชายสนิทกัน ไม่รู้หรือว่าลูกนิสัยอย่างไร ทำไมไม่ให้น้องสาวคุณเช็คว่าเงินหายหรือไม่ เขาจึงให้น้องกลับไปเช็คเงิน ปรากฏว่าเงินไม่หาย เข้าใจผิด แทนที่จะขอโทษลูกเรา กลับทำเฉย ๆ ไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนตัวเขาเองก็ไม่พูดอะไรกับลูกสักคำ ทำให้ลูกคิดว่าพ่อเชื่อคนอื่นมากกว่าเขา ตลอดเวลาบ้านเราไม่เคยมีสตางค์หาย เราเบิกเงินสดมาที ละหลายหมื่น ไม่ได้ใส่ตู้เซฟ แต่บอกลูกทั้งสองคนว่าเก็บเงินไว้ที่ไหน ถ้าไม่มีเงินให้มาหยิบแต่ต้องบอกว่าเอาไปเท่าไร เอาไปทำอะไร แต่ลูกไม่เคยมาหยิบเงินเองเลย เครดิตการ์ดก็ทำให้เพราะเวลาไปไหนเงินไม่พอ จะได้ใช้เครดิตการ์ดจ่าย ลูกเราก็ไม่เคยเอาไปใช้รูดทำอะไร ยกเว้นแต่เราต้องสั่งว่าให้รูดการ์ดจ่ายค่านั่นค่านี่

หลังจากไตร่ตรองหลาย ๆ อย่าง เริ่มเห็นว่า ผู้ชายคนนี้ไม่มีความเมตตาต่อเราและลูกแล้ว เราจึงบอกเขาว่าคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วละ เนื่องจากเขาไม่มีความรัก ความเมตตา และเขื่อมั่นในครอบครัวตัวเอง คงอยู่กันยาก เพราะ ทำอะไรก็ผิดไปหมด พูดอะไรก็จะไปอยู่ที่อื่นอย่างเดียว การงานเขาตกต่ำก็หาว่าเป็นเพราะเรา ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนฝากงานให้ เขาต้องการกำลังใจ ต้องไปหาที่อื่น เพราะเบื่อที่เราที่เอาแต่เสียใจเรื่องเขามีผู้หญิงอื่น เราก็เลยบอกเราก็ต้องการกำลังใจ แต่เราจะไม่ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมและทำร้ายครอบครัว และตัวเอง ถ้าอยากไปอยู่ที่ไหนก็ไปแล้วกัน แต่กลับมาไม่ได้แล้วนะ และขอเงินค่าเล่าเรียนลูก ขอเป็นก้อนครั้งเดียวเพราะขี้เกียจตาม ขนาดอยู่ด้วยกันยังไม่อยากให้ เขาบอกไม่ให้ เขาจะโอนเงินมาให้ลูกเป็นเทอม ๆ เราคิดว่าคงยากแล้วเพราะหน้ามืดขนาดนี้ ขนาดอยู่ด้วยกันยังไม่ค่อยให้ ก็เลยขอ บ้านที่อยู่อาศัยตอนนี้ เพราะเป็นชื่อ 2 คน ยังช่วยกันผ่อนอยู่ บอกว่าขอบ้านได้มั๊ย ไม่ต้องยกให้เราขอให้ ยกให้ลูก เพราะลูกจะได้ไม่ลำบาก เราคงไม่มีปัญญาหาใหม่เพราะไหนจะต้องเลี้ยงลูก หนี้ที่เหลือเราจะจ่ายเอง เขาก็ไม่ให้ เราเลยตัดสินใจเด็ดขาด นัดวันหย่า บอกว่าของที่พ่อ แม่ เราให้มาทั้งหมดเราขอคืน ส่วนของที่พ่อเราให้เขา เพราะพ่อเรารักเขามากเพราะก่อนนั้นเขาเป็นคนดี เราขอกลับมาให้ลูกทั้งหมด พอไปหย่ากลับมา เขาบอกว่าเรางก เราเอาเปรียบเขา เพราะของเขามีแค่เงินสดในธนาคาร รถยนต์ และบ้านที่ต้องผ่อนชำระอยู่ ยิ่งตอนนี้การงานเขาตกต่ำเงินเดือนน้อยกว่าเราหลายหมื่น ไหนจะต้องเลี้ยงครอบครัวผู้หญิงอีก เขายิ่งโกรธเรา บอกว่าเขารู้แล้วว่าเราเป็นคนยังไง เราบอกว่า ตลอดเวลาที่แต่งงานกัน 20 ปี คุณไม่เคยให้เงินเราใช้ เราเลี้ยงตัวเองตลอด ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ช่วยกันออก การที่เรามีของเยอะกว่าคุณเราเอาเปรียบตรงไหน เพราะพ่อแม่เราให้ทรัพย์สินเรามาเราก็เก็บไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เรามีลูกต้องดูแล คุณเป็นผู้ชายไม่รู้หรือว่าหน้าที่สามี หน้าที่พ่อ มีอะไรบ้าง เข้าปฏิบัติมาตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่รู้หรือว่ามงคล 38 ประการ หน้าที่สามีมีอะไร หน้าที่พ่อมีอะไร บางครอบครัวผู้ชายเขาทำงานคนเดียว ให้เมียเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่ต้องทำงาน เงินเดือน และการศึกษาต่ำกว่าคุณอีก เขาไม่เคยเห็น พูดเลยว่าเมียเอาเปรียบ เขากลับภูมิใจที่เข้าเลี้ยงครอบครัว และถ้าคุณไม่นอกใจเรา เราจะแยกเอาสมบัติของเราออกมาทำไม เพราะคุณไม่ซื่อสัตย์กับเรา แล้วยังมาโทษเราอีก

ก่อนหย่า 3 วัน เขาไปขอเลิกกับผู้หญิง เพราะสามีผู้หญิงใกล้ออกจากคุก เขาคงกลัว ๆ อยู่ อีกอย่างเขาไม่คิดว่าเราจะหย่าจริง ๆ เพราะเราบอกจะหย่า และให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ผู้หญิงซึ่งตอนนั้นมีผู้ชายใหม่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่บอกเขาว่ามีคนอื่น หลังจากหย่าแล้วเขาไปบอกผู้หญิง ผู้หญิงก็บอกเขาว่ามีคนใหม่แล้ว รุ่นเดียวกัน (อายุอ่อนกว่าสามี 25 ปี) เขาก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร แต่บอกผู้หญิงว่าผู้ชายเป็นคนไม่ดี มีลูกมีเมียแล้ว เพราะเขาเคยรู้จัก เราคิดว่าทำไมไม่คิดมองตัวเองบ้าง สุดท้ายกลับมาหาเรา มาขอโทษและรับสารภาพว่าตั้งใจทิ้งเรากับลูกจริง ๆ แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะอยู่กับผู้หญิงที่ต่างจังหวัดได้มั๊ยเพราะต้องไปอยู่แถวอีสาน (บ้านผู้หญิง) ไปทำไร่ ซึ่งเขาเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่เคยทำไร่ ทำนา อายุเขาก็เยอะแล้ว บ้านสามีผู้หญิงที่ติดคุกก็อยู่ใกล้ ๆ และเขาเป็นญาติกันด้วย เขาจึงยังรีรออยู่จนกระทั่งเราขอหย่า และยังเล่าอีกว่าพ่อ แม่ ฝ่ายหญิง ดีกับเขามาก และเขาดูแลพ่อ แม่ ญาติ ๆ ฝ่ายหญิง อย่างดี ตอนพ่อฝ่ายหญิงป่วยเขาโทรสอบถามให้กำลังใจตลอด พี่น้อง พ่อแม่ ฝ่ายหญิงดีมากรักเขาเหมือนลูก เราเลยบอกว่าคุณเลี้ยงและจ่ายเงินให้เขาขนาดนั้น เขาไม่บอกว่ารักคุณ คุณเป็นคนดี แต่บอกว่าเขาเกลียดคุณ คุณเป็นคนชั่ว ไม่มีศีลธรรมเขาก็โง่แล้ว (เพราะผู้หญิงทำงานเป็นคนงานรายวัน ได้วันละ 300.- บาท) ถ้าคนเพวกนั้นเป็นคนดีเขาไม่ให้ลูกที่ยังมีสามีอยู่และมีลูกแล้ว มาเป็นเมียน้อยคนอื่นหรอก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกเมียเขาเป็นทุกข์ขนาดไหน ตัวคุณเองก็ใฝ่ต่ำเรียนสูงซะเปล่า การงานก็ดี เป็นถึงผู้บริหาร กลับไปคบพวกคนไม่มีศีลธรรม เป็นชู้กับลูกน้องที่เป็นคนงานทั้ง ๆ ที่สามีเขาติดคุก ลูกเขาก็ยังเล็กอยู่ ตัวเขาแก้แทนว่าครอบครัวผู้หญิง และพ่อแม่ น่าสงสาร เราไม่เป็นอย่างเขาเราไม่รู้หรอก เราก็เลยบอกว่าตอนพ่อคุณป่วยไม่เห็นไปดูแลเลย ตอนติดผู้หญิงเงินค่ารักษาก็ไม่คิดจะออกให้ (เกี่ยงกับน้องสาวออกเงินค่ารักษาพยาบาล ) เราต้องเป็นคนไปดูแทน แม่คุณก็น่าสงสาร ทุกข์ที่ลูกชายทำตัวไม่ดี ทำไมไม่คิดไปดูเขาบ้าง เขาบอกว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงบอกว่าเขาเป็นคนดี ไม่กินเหล้าไม่เล่นการพนัน เราก็เลยว่าเขาไปค่อนข้างเยอะ บอกว่าคุณเคยบอกเราว่าคุณกับผู้หญิงนับถือกันเป็นพ่อกับลูก คุณมีศีลธรรมรู้ผิดชอบชั่วดี และบอกแม่คุณว่าคุณสวดมนต์ ฟังธรรมทุกคืน ไม่ทำอะไรชั่ว ๆ แบบนั้น แล้วที่คุณสารภาพว่ามีอะไรกับผู้หญิงซึ่งนับถือเป็นพ่อลูกกัน คุณรู้มั๊ยมีแต่สัตว์เดรัจฉานเท่านั้นที่ทำเบบนี้ อีกอย่างคนดีอย่างคุณที่พ่อ แม่ เขารัก มีศีลเหลือข้อเดียว เหลือเฉพาะไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน แสดงว่าครอบครัวนี้เหมาะสมกับคุณมาก ดีแล้วที่จะไปอยู่กับพวกเขา เพราะเราไม่ดี อยู่กับคุณไม่ได้ บารมีไม่ถึงคุณ

หลังจากนั้นเขาก็มาบอกว่าจะกลับไปปฏิบัติ เพื่อครอบครัวและตัวเขาจะได้ดีขึ้น เขาจะปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้น ให้ถึงนิพพาน เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก จะตายในกรรมฐานอย่างเดียว (เพราะกลัวสามีเขามาทำร้าย ) และต้องการแก้กรรม เราบอกว่า เราเตือนตลอดว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง เพราะคนที่ผิดศีลข้อ 3 ไม่มีใครเจริญมีแต่ตกต่ำลง ครอบครัวต้องแตกแยก คนพวกนั้นไม่เคยปฏิบัติเหมือนคุณด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่านรก หรือ สวรรค์เป็นอย่างไร เหมือนที่คุณบอกว่าตอนคุณบวชและฝึกปฏิบัติเคยไปมาแล้ว แต่ทำไมคุณที่ปฏิบัติบอกว่า รู้ว่า นรกหนาว หรือ ร้อน ขนาดไหน จึงทำได้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำผิดศีลธรรมตั้งหลายข้อ ทำร้ายครอบครัวตนเองและคนอื่น และ ทำร้ายเด็ก ๆ กี่คน ใจคุณทำด้วยอะไร

หลังจากนั้นเขาก็ไปเข้าปฏิบัติบ่อย ๆ พอหลัง ๆ ก็มีเรื่องกันอีก หาว่าเราขโมยของเขา (สมุดบัญชีธนาคารที่เราเก็บไว้ ) เราบอกว่าเราเก็บไว้ให้ ตั้งแต่ก่อนไปหย่า ชื่อบัญชีคุณ ใครจะเอาเงินคุณออกมาได้ เขาไม่สนใจบอกว่าเราเป็นขโมย ต่อไปไม่ไว้ใจกันแล้ว ต่อไปเขาจะอยู่คนเดียว และไม่ยุ่งกับใคร (รวมทั้งลูกด้วย) และจะไม่กลับมาหาเรา หมายถึงหมดความเป็นสามีภรรยากันแล้ว ตอนนี้เขายังอยู่ที่บ้าน แต่อยู่แบบไม่สนใจใคร บ้านช่องก็ไม่สนใจช่วยเราทำ ทำแต่ของตัวเอง (เห็นแก่ตัวกว่าเดิม ) กินข้าวก็หากินคนเดียว นั่งกินคนเดียวไม่เคยสนใจลูก ไม่ช่วยเราดูแลลูก และช่วยออกค่าใช้จ่ายเรื่องลูก พอบอกว่าค่าใช้จ่ายของลูกเยอะ ไหนต้องค่าเรียนพิเศษ ค่ากินอยู่แต่ละวัน ค่าเดินทาง เดือนเกือบหมื่น (ค่ากินในบ้าน ค่าใช้จ่ายในบ้านเราออกคนเดียว) ขอค่าเทอมลูกก็บ่น เดินหนีบอกไม่ต้องการฟัง ทำตัวเหมือนคนมาอาศัยนอน และบอกว่าเขาหมดหน้าที่พ่อแล้ว เขาดูแลลูกและเรามา 20 ปีแล้ว เขาทำพอแล้ว จะไปปฏิบัติ เราก็เลยบอกว่าคุณปฏิบัติเราไม่ว่า จะไปเมื่อไรเราก็ให้ไป ถ้าคุณจะไปทางธรรม ก็จะส่งเสริมให้ถึงทางธรรม จะไปทางโลกก็จะส่งเสริมให้ขอให้บอกกันตรง ๆ แต่ ณ ตอนนี้ที่คุณยังอยู่ที่บ้าน และไม่ได้ไปปฏิบัติ คุณทิ้งหน้าที่และความเป็นพ่อของลูกไปไม่ได้ ยกเว้นแต่คุณจะไปจากที่นี่ แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณทิ้งลูกไป จะกลับมาอีกไม่ได้แล้ว

ตอนนี้ ลูก ๆ เห็นการกระทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่เห็นแก่ตัวของพ่อทุกวัน เริ่มมีการต่อต้าน และหมดความรัก ความนับถือ รวมทั้งความเชื่อใจ อยากให้เขาไปอยู่ที่อื่น เราสอนว่าให้คิดในสิ่งที่พ่อเขาทำให้ตลอดมา เป็นคนต้องมีความกตัญญู ให้เวลาและ ให้โอกาสเขา เพราะตอนนี้เขากลับไปปฏิบัติ ดูสิว่าเขาจะดีขึ้นมั๊ย คิดว่าเป็นเวรกรรมที่เราต้องมาใช้ ลูก ๆ บอกว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะพ่อเขาแย่กว่าเดิมมาก บอกให้เราหยุดช่วยเหลือและทำอะไรให้เขาได้แล้ว ไม่มีประโยชน์ ยิ่งเตือน เขายิ่งทำตัวแย่ลง ลูก ๆ เริ่มห่างไม่พูด ไม่สนใจ เขาก็คงรู้สึก เหมือนไม่มีคนต้องการเขา ซึ่งจริง ๆ แล้วเราบอกให้เขาปรับความเข้าใจกับลูก เขาบอกว่าเขาไม่คุย เพราะเขาเป็นพ่อ ที่ลูกเป็นแบบนี้เพราะลูกไม่รักเขา ลูก ๆ ก็ไม่ต้องการคุยด้วย และบอกกับเราว่าถ้าเขาพูดอะไรไปที่ทำให้พ่อเสียใจ ก็จะเป็นบาปกับตัวเขาทั้งสองคน แค่นี้เขาก็มีกรรมมากแล้ว เจ็บและเสียใจพอแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความฝันของเขาพังหมด เพราะพ่อเขาไม่เหมือนเดิมจากขาวเป็นดำ และพ่อเขายังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิด โทษแต่แม่กับลูก ไม่แม้แต่กระทั่งบอกขอโทษ หรือยอมรับผิด ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของลูก ทั้ง ๆที่บอกว่ารักลูก ห่วงลูก

การที่ลูกไม่สนใจเขา เขาเลยจะพาน้อง แม่ หลาน มาอยู่ด้วย ซึ่งน้องสาวเขากับลูกชายเราก็มีปัญหากันมาตลอด เพราะหลานเขาไม่มีพ่อ น้องสาวเขาอยากให้เขาไปช่วยดูแล เพราะหลานเขาถูกไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ติดผู้หญิง เที่ยวเตร่ และกินเหล้าเมายาทุกวัน ไม่ค่อยกลับบ้าน เขาบอกว่าเขามีน้องสาวคนเดียวเขาต้องดูแล เพราะน้องเขาอยู่กับใครไม่ได้ (น้องเขาเลิกกับสามี เพราะ นิสัยเห็นแก่ตัว ชอบใส่ร้ายคนอื่น เอาความดีเข้าตัว และมีปัญหากับลูกชายเราหลายครั้ง คอยว่าลูกเราเขาฟังบ่อย ๆ ซึ่งเขากับแม่เขาเชื่อน้องเขามาตลอด) แต่เราเองมีพี่น้องเยอะ ให้พี่น้องเราดูแล เราก็เลยบอกว่า ตอนนี้เรากับลูกก็เหมือนที่น้องคุณเป็น คือครอบครัวแตกแยก เพราะสามีไม่มีความเมตตาต่อครอบครัว ลูกเราไม่มีพ่อ ถ้าถามลูกเราอยากได้พ่อ หรือ อยากได้ลุงมาเป็นพ่อ ลูกเราก็คงอยากได้พ่อมากกว่าลุง ส่วนพี่น้องเราเขาดูแลเราอยู่ห่าง ๆ เพราะเขามีหน้าที่ที่จะดูแลครอบครัวของเขา และเราก็ไม่ต้องการให้พี่น้องเราทิ้งครอบครัวเพื่อมาดูแลเรากับลูก เพราะในเมื่อเราเป็นคนเลือกสามีเอง ไม่ได้มีใครบังคับให้แต่งงานกับคุณ เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราเลือกและปัญหาที่เกิดขึ้น พี่น้องเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ให้พี่น้องเรามารับผิดชอบ ส่วนน้องคุณอายุเกือบ 50 แล้ว หลานคุณก็ผู้ชายอยู่มหาวิทยาลัย ปี 2 ลูกสาวคุณเองอายุแค่ 14 เรียน ม.2 ลูกชายก็อายุน้อยกว่าหลานชาย แต่ไม่เป็นไรถ้าห่วงน้องกับหลานมากกว่าลูก สมบัติก็ให้น้องไปหมด ก็ให้ไปอยู่กับเขา เพราะ บ้านเขาก็มีตั้งหลายหลัง อย่าเอามาอยู่ที่นี่ เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับลูกอีก ถ้าลูกชายอยู่ไม่ได้จะทำยังไง เพราะเขาบอกว่าถ้ามาอยู่เขาจะหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะเขาไม่ชอบอาเขา เนื่องจากใส่ร้ายเขามาหลายครั้งแล้ว ส่วนตัวคุณไม่มีความเชื่อหรือมีเมตตากับคนในครอบครัวของคุณ ถ้าเกิดเรื่องคุณก็จะไม่เชื่อเราเพราะคุณเชื่อแต่คนอื่น ฟังแต่คนอื่น และคุณบอกว่าเรากับลูกเข้ากับญาติคุณไม่ได้ ถ้าคุณยังตัดสินใจและเลือกที่จะไปดูน้องกับหลาน และทิ้งลูกไป ผลที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้าระหว่างคุณกับลูกสองคน มาจากเหตุที่คุณกระทำในวันนี้อย่ามาโทษเราว่าสั่งสอนลูกไม่ดี เพราะลูก ๆ โตแล้ว เขามีสมอง คิดเป็น กับสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกเราว่าถ้าพ่อทิ้งเขาไปวันหน้าอย่าบอกว่าเขาไม่ดี ไม่ดูแล และเป็นลูกอกตัญญู เพราะตอนมีผู้หญิงอื่นก็คิดทิ้งเขากับแม่ พอเลิกกับผู้หญิงก็จะทิ้งเขาไปอยู่กับญาติ ถ้าวันหน้าเจ็บไข้ได้ป่วย หรือ เป็นอะไรไปก็ให้อา กับ หลานดูแล ถ้าตายไปก็ให้หลานบวชให้แล้วกัน

เราไม่แน่ใจว่าการที่เขาตั้งใจทิ้งลูก เพราะแม่เขาเคยบอกว่าลูกไม่เหมือนเขา ตอนเกิดเรื่องชู้สาวกับผู้หญิงลูกเคยขอร้องหลายครั้ง ให้เขาสงสาร ให้เลือกระหว่างลูกกับผู้หญิงเขาก็ไม่ฟังลูก จนลูกไม่พูดด้วย ส่วนแม่เขาก็บอกว่าลูกไม่รักพ่อ เขาก็ฟังแม่เขามองว่าลูกไม่รักเขา แต่เขาไม่เคยมองว่าเขาทำอะไรกับลูกไว้ ตอนที่เราขอเงินค่าเลี้ยงดูลูกก่อนหย่า เขาบอกว่าเรากลัวอะไร หรือว่าไม่ใช่ลูกเขาเราถึงกลัวเขาไม่ส่งเสีย ตอนนั้นเราไม่คิดโกรธแค้นเขาอีกแล้ว เพราะคิดว่าเขาทำบาปกรรมอะไรไว้ คิดอะไร ทำอะไรไป เขาต้องได้รับผลกรรมแน่นอน และได้อโหสิกรรมและให้อภัยทานเขากับครอบครัวเขาที่ทำกับเราและลูกไปหมดแล้ว เราไม่คิดว่าการที่เราเลือกครอบครัวที่บอกว่า ฟังธรรมะทุกวัน เข้าปฏิบัติวิปัสสนา และไปเรียนพระอภิธรรมทุกวันหยุด จะทำร้ายเราและลูกได้ขนาดนี้

อยากขอให้ท่านพุทธฏีกาช่วยแนะนำด้วยค่ะ เราอยากตัดเวรกรรมกับผู้ชายคนนี้และญาติ ๆ ของเขาให้ขาด และไม่อยากให้ลูกทำอะไรที่เป็นการอกตัญญูกับพ่อเขา หรือทำสิ่งอกุศลหรือการล่วงเกินใด ๆ พ่อเขา มากไปกว่านี้ และไม่ต้องการให้ลูกสร้างเวรกรรม หรือ ล่วงเกิน และคิดไม่ดีกับพ่อ จนกระทั่งกลายเป็นการอกตัญญู ต่อผู้ให้กำเนิด เพราะ ตราบใดที่พ่อเขายังไม่ยอมไปไหน และยังทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นการเอาชนะเรากับลูก ก็จะเป็นการสร้างเวรกรรมไม่รู้จักหมดจักสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2013, 00:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


mom เขียน:
กราบนมัสการท่านพุทธฏีกา

หลังจากที่หายไปนานเพราะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำตามคำแนะนำของท่าน แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจหย่าขาดจากสามี เพราะมีเรื่องราวมากมายที่เขาทำกับเราและลูก

เจริญพร ความเพียรความพยายามในทางโลก สตรีภรรยามีหน้าที่รักษาดูแลครอบครัว
มีหน้าที่ตักเตือนสามีในคราวหลงผิดกระทำผิด มีหน้าที่ต้องอบรมเลี้ยงดูลูกๆ
เราสร้างบารมี ทั้งอดทน ทั้งพยายามจนถึงที่สุด ไม่มีใครตำหนิเราได้หรอกครับ
เขาเองต่างหาก ที่ไม่คว้าโอกาสอันนั้นไว้ ไม่ยอมรับในหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของเรา.


mom เขียน:
1. เขาตั้งใจจะทิ้งเรากับลูก โดยไปซื้อที่ทางให้ฝ่ายหญิง โดยเขาตั้งใจจะไปกินอยู่กับผู้หญิงที่บ้านต่างจังหวัด ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงสามียังติดคุกอยู่ และได้ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวฝ่ายหญิง โดย พ่อ แม่ ฝ่ายหญิงรับทราบ บอกกับเราว่า ให้ลูก ๆ ช่วยประหยัด เงินเขาไม่พอใช้ ให้เราช่วยออกค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเราออกมากกว่าเขาเดือนนึงเกือบหมื่นบาท และบอกว่าเขาต้องชักเนื้อ จ่ายเกินเงินเดือนเขาทุกเดือน แต่ตัวเขาเองกลับเก็บทรัพย์สินเอาไว้ในรถตลอดรอเวลาที่จะทิ้งเรากับลูกไป ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยคิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้ได้ ยังเชื่อในความดีที่เห็นมา 20 ปี วันหนึ่งมาสังเกตว่าสมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารส่วนตัวเขาหายไปหมด จึงถามเขาว่าอยู่ไหน เขาบอกไม่เห็น พอไปค้นในรถเขา ของนั้นก็อยู่ในรถ เราเลยหยิบพันออกมาโดยไม่บอกเขา ตอนหลังเขาว่าเราไปขโมยของเขา ซึ่งเราตั้งใจจะเก็บไว้ให้ เพราะเห็นว่าขาดสติ เกรงว่าจะหมดตัวเพราะความหลง

โมทนาด้วยครับ. ใดๆ ในโลกล้วนไม่เที่ยงแท้แน่นอนครับ เห็นผิดเป็นชอบ
เหมือนถูก ผีสิง กิเลสร้ายมันสิงใจ มันก็ตามทำร้ายทำลาย ชีวิตบุคคลคนนั้น
วางใจเป็นกลางๆ อีกครั้ง ถ้ามันสิงคนแก่ คนแก่ก็ต้องถึงคราววอดวาย
ถ้ามันสิงคนหนุ่มสาว ก็ต้องถึงคราวเืดือดร้อน ถ้ามันสิงเด็กๆ อ่อนๆ ก็ต้อง
พบกับความเป็นไปในทางเสื่อมแต่ต้นๆ ชีวิต ยิ่งบุคคลคนนั้น เป็นหัวเรือ
เป็นพ่อคนแม่คน ขึ้นชื่อว่า ครอบครัว คู่ครองคนรัก เหมือนผ้าผืนเดียวกัน
ด้านหนึ่งมีรอยไหม้ ฉีกขาด อีกด้านหนึ่งก็ต้อง เศร้าหมองไปด้วย
เพราะ
ได้ชื่อว่า ครอบครัว วิบากกรรมที่ เราไม่ได้ก่อ มาจากความมักมากในกาม
ของอีกคนหนึ่่ง ภัยของศีลข้อ ๓ หรือผีร้ายที่สิงใจ พ่อคนแม่คน มีแต่จะทำ
ให้ตัวผู้ถูกสิงตกต่ำ และคนรอบข้างเดือดร้อนตกตามกันไป เป็นธรรมดา.

mom เขียน:
2. เขาได้รับมรดกจากที่พ่อเสียชีวิต โดยแบ่งคนละครึ่งกับน้อง เงินสดหลายล้าน ทาวเฮ้าท์ ที่ดิน คอนโดให้เช่า เขาบอกว่าเขาให้น้องหมด สมบัติของเขาไม่ให้เราไปยุ่ง (เวลาสมบัติของพ่อแม่เราให้หลังแต่งงาน เราไม่เคยแบ่งของเขา ของเรา แต่พอของเขาบอกว่าเป็นสมบัติเขาเรายุ่งไม่ได้) ลูกชายบอกว่าทำไมไม่เอาเงินมา เป็นค่าเล่าเรียนให้ลูกชายกับลูกสาว เพราะยังต้องใช้เงินเรียนหนังสือ เขาบอกว่าให้ใช้สมบัติเราเลี้ยง เราเลยบอกเขาว่าน้องสาวคุณอายุเกือบ 50 มีลูกชายคนเดียวอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 (ถูกรีไทร์) อีก 2 ปีก็จบ แต่ลูกคุณ 2 คน เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 คุณให้ลูกสอบเข้าภาค Inter ค่าเทอมปีละเป็นแสน ส่วนลูกสาวให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ มีชื่อเสียง ค่าเทอมปีละหลายหมื่น อยู่แค่ ม.2 หนี้บ้านก็ตั้งหลายล้าน ทำไมไม่เอาเงินมาใช้หนี้ และเป็นค่าเล่าเรียนลูกบ้าง เขาก็ไม่สนใจ

ให้คุณโยม จงร่าเริง ให้คุณโยมจงบันเทิงใจ สมบัติที่เหนือกว่าสมบัติ
มรดกที่เหนือกว่ามรดกทั้งหลาย คือความบันเทิงใจในความปรกติของชีวิต(ศีล)
คือความมั่นคงในจิตใจอย่างถ่องแท้(สมาธิ) คือความปลอดโปร่งโลงใจ
มีแสงสว่างในดวงตา รู้ดีรู้ชั่ว ชนะตนและเข้าใจผู้อื่น(ปัญญา)
พุทธฏีกา
เห็นว่าคุณโยม และลูกๆ ได้มรดกธรรม สมบัติธรรม อันได้แก่มนุษย์สมบัติ
ยิ่งกว่า มีเงินสดหลายล้าน มีท้าวเฮ้าท์มีที่ดิน คอดโด แต่ไม่ได้มีมนุษย์สมบัติ
เป็นได้แค่ อมนุษย์ มีร้อยพันหมื่นแสน หรือล้านๆ ก็ยังไม่ได้สมบัติของความเป็นคน

ใครกันแน่ที่ต้องอิจฉาใคร ยิ่งเขาไม่สนใจเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งขาดคุณสมบัติพื้นฐาน
ขาดความมงคลในชีวิต สวรรค์ก็ปิดสำหรับเขาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย!



mom เขียน:
3. ก่อนหย่า 1 เดือน เขาพาน้องสาว หลาน และแม่มาพักที่บ้าน โดยให้น้องสาวไปนอนในห้องลูกชายเรา ตอนเช้าลูกชายเราเข้าไปหยิบเงินในห้อง เพราะเก็บเงินไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเขา น้องสาวเขาเห็นลูกชายถือเงินออกมาจากห้องนอน เขาคิดว่าลูกชายเราไปขโมยเงินเขา จึงไปบอกแม่สามี แม่สามีมาบอกให้แฟนรู้ แฟนเรามาว่าลูกชายว่าทำไมไม่มีเงินแล้วไม่มาขอ (เพราะตอนนั้นไม่ค่อยให้เงินลูกเอาเงินไปให้ผู้หญิงกับครอบครัวเขาใช้ แต่เราเป็นคนให้เงินลูกใช้) ไม่ถามลูกสักคำว่าเรื่องเป็นอย่างไร โชคดีที่ตอนนั้นลูกชายบอกเราไว้ว่าเข้าไปเอาเงินในห้องนอน เห็นอาเขามองแปลก ๆ และพูดแปลก ๆ แต่ไม่ได้สนใจอะไร เราก็เลยคิดว่าไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นเรื่องว่าลูกเราขโมยเงิน เราจึงบอกว่าทำไมเลี้ยงลูกตั้งแต่ลูกตั้งแต่เล็ก เพราะเขากับลูกชายสนิทกัน ไม่รู้หรือว่าลูกนิสัยอย่างไร ทำไมไม่ให้น้องสาวคุณเช็คว่าเงินหายหรือไม่ เขาจึงให้น้องกลับไปเช็คเงิน ปรากฏว่าเงินไม่หาย เข้าใจผิด แทนที่จะขอโทษลูกเรา กลับทำเฉย ๆ ไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนตัวเขาเองก็ไม่พูดอะไรกับลูกสักคำ ทำให้ลูกคิดว่าพ่อเชื่อคนอื่นมากกว่าเขา ตลอดเวลาบ้านเราไม่เคยมีสตางค์หาย เราเบิกเงินสดมาที ละหลายหมื่น ไม่ได้ใส่ตู้เซฟ แต่บอกลูกทั้งสองคนว่าเก็บเงินไว้ที่ไหน ถ้าไม่มีเงินให้มาหยิบแต่ต้องบอกว่าเอาไปเท่าไร เอาไปทำอะไร แต่ลูกไม่เคยมาหยิบเงินเองเลย เครดิตการ์ดก็ทำให้เพราะเวลาไปไหนเงินไม่พอ จะได้ใช้เครดิตการ์ดจ่าย ลูกเราก็ไม่เคยเอาไปใช้รูดทำอะไร ยกเว้นแต่เราต้องสั่งว่าให้รูดการ์ดจ่ายค่านั่นค่านี่

คนพาลย่อมมีจิตใจพาล คำพูดพาล การกระทำที่พาล ฝากบอกไปถึงลูกชายคุณโยม
ว่ามีพระชมเชย ยกย่อง นับถือน้ำใจและความอดทนของคุณโยมแม่ แล้วก็ตัวเขา
ให้เขานึกถึง ขโมยที่ขโมยของคนรวย ไปช่วยคนจน การที่คนอื่นใส่ร้ายเราแล้ว
เมื่อความจริงปรากฏ ก็ไม่ยอมรับผิด ไม่ขอโทษ พวกผู้ร้ายเหล่านั่นเขากำลังขโมย
ศักดิ์ศรีจอมปลอมของตนเอง ยิ่งเขาคืนช้า พวกนี้เขาจะรักหน้าบ้าเกียรติ ถือตน
สำคัญตนว่าดีกว่าคนอื่นๆ และนั่นก็จะนำพวกเขาไปสู่ หนทางยากแค้น ยากไร้
มีแต่เงินแต่ทองนอกกาย ที่ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ยามต้องไปยืนอยู่หน้าเมืองผี
ความดีไม่ปรากฏ มั่งมีร่ำรวยเพราะสมบัติเก่า ไม่เคยดูแลพ่อแม่ นรกขุมสุดท้าย
ยินดีต้อนรับ ต้องเห็นใจ พ่อและอา ที่โตมากับเงินกับทอง เส้นสาย ซื้อฐานะ
ถูกเลี้ยงดูเอาตามแต่ใจ บอกคุณลูก ให้ดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง ยิ่งพบความลำบาก
ยิ่งพบอุปสรรคปัญหา สิ่งเหล่านี้จะหลอมให้เขาเป็นคนกล้า เป็นยอดคน.

ถ้ายิ่งโกรธยิ่งเสียใจ เพราะคนตาบอด ความไม่มีคุณธรรมของเขา เปรียบเหมือน
คนตาบอด ให้คุณลูกชาย คิดเสียว่า คนตาบอดมาบอกว่าเรา ทำผิดอย่างนี้ๆ
ก็มีแต่คนตาบอดด้วยกันเท่านั้น ถึงจะเชื่อกัน ให้อภัยพวกเขาเสีย เพราะถึงอย่างไร
สิ่งที่สิงใจพวกเขา ก็ติดตามเป็นเงาตามตัวเขาไปนั่นเอง


คงไม่โกรธคนตาบอด บอกเราว่า ถูกผิด คงไม่เชื่อคนตาบอดนะครับนะ
ความโกรธความไม่พอใจที่เกิดจากเหตุการณ์ถูกกล่าวหา ว่าเป็นโจรเป็นขโมย
ล้วนเกิดจาก ความเข้าใจผิด เห็นผิดของคนพาล พูดแบบกลางๆ ไม่ได้เฉพาะ
เจาะจงว่าต้องเป็นพ่อเป็นอา เป็นใครก็ได้ ที่หลงผิดเห็นผิด เป็นคนตาบอด
มากมายอยู่ในโลกนี้ อย่าได้โกรธหรือเสียใจ ต่อความไม่เข้าใจของพวกเขาเลย.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2013, 01:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


mom เขียน:
หลังจากไตร่ตรองหลาย ๆ อย่าง เริ่มเห็นว่า ผู้ชายคนนี้ไม่มีความเมตตาต่อเราและลูกแล้ว เราจึงบอกเขาว่าคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วละ เนื่องจากเขาไม่มีความรัก ความเมตตา และเขื่อมั่นในครอบครัวตัวเอง คงอยู่กันยาก เพราะ ทำอะไรก็ผิดไปหมด พูดอะไรก็จะไปอยู่ที่อื่นอย่างเดียว การงานเขาตกต่ำก็หาว่าเป็นเพราะเรา ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนฝากงานให้ เขาต้องการกำลังใจ ต้องไปหาที่อื่น เพราะเบื่อที่เราที่เอาแต่เสียใจเรื่องเขามีผู้หญิงอื่น เราก็เลยบอกเราก็ต้องการกำลังใจ แต่เราจะไม่ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมและทำร้ายครอบครัว และตัวเอง ถ้าอยากไปอยู่ที่ไหนก็ไปแล้วกัน แต่กลับมาไม่ได้แล้วนะ และขอเงินค่าเล่าเรียนลูก ขอเป็นก้อนครั้งเดียวเพราะขี้เกียจตาม ขนาดอยู่ด้วยกันยังไม่อยากให้ เขาบอกไม่ให้ เขาจะโอนเงินมาให้ลูกเป็นเทอม ๆ เราคิดว่าคงยากแล้วเพราะหน้ามืดขนาดนี้ ขนาดอยู่ด้วยกันยังไม่ค่อยให้

อยู่โดยลำบาก แต่ได้ถึงความเป็นมนุษย์เ็ป็นคนในเมืองคน ดีกว่า
อยู่อย่างสุขสบายเห็นแก่ตน ถึงอยู่เมืองคนแต่ก็เป็นได้เพียงอมนุษย์!



mom เขียน:
ก็เลยขอ บ้านที่อยู่อาศัยตอนนี้ เพราะเป็นชื่อ 2 คน ยังช่วยกันผ่อนอยู่ บอกว่าขอบ้านได้มั๊ย ไม่ต้องยกให้เราขอให้ ยกให้ลูก เพราะลูกจะได้ไม่ลำบาก เราคงไม่มีปัญญาหาใหม่เพราะไหนจะต้องเลี้ยงลูก หนี้ที่เหลือเราจะจ่ายเอง เขาก็ไม่ให้ เราเลยตัดสินใจเด็ดขาด นัดวันหย่า บอกว่าของที่พ่อ แม่ เราให้มาทั้งหมดเราขอคืน ส่วนของที่พ่อเราให้เขา เพราะพ่อเรารักเขามากเพราะก่อนนั้นเขาเป็นคนดี เราขอกลับมาให้ลูกทั้งหมด พอไปหย่ากลับมา เขาบอกว่าเรางก เราเอาเปรียบเขา เพราะของเขามีแค่เงินสดในธนาคาร รถยนต์ และบ้านที่ต้องผ่อนชำระอยู่ ยิ่งตอนนี้การงานเขาตกต่ำเงินเดือนน้อยกว่าเราหลายหมื่น ไหนจะต้องเลี้ยงครอบครัวผู้หญิงอีก เขายิ่งโกรธเรา บอกว่าเขารู้แล้วว่าเราเป็นคนยังไง เราบอกว่า ตลอดเวลาที่แต่งงานกัน 20 ปี คุณไม่เคยให้เงินเราใช้ เราเลี้ยงตัวเองตลอด ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ช่วยกันออก การที่เรามีของเยอะกว่าคุณเราเอาเปรียบตรงไหน เพราะพ่อแม่เราให้ทรัพย์สินเรามาเราก็เก็บไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เรามีลูกต้องดูแล คุณเป็นผู้ชายไม่รู้หรือว่าหน้าที่สามี หน้าที่พ่อ มีอะไรบ้าง เข้าปฏิบัติมาตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่รู้หรือว่ามงคล 38 ประการ หน้าที่สามีมีอะไร หน้าที่พ่อมีอะไร บางครอบครัวผู้ชายเขาทำงานคนเดียว ให้เมียเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่ต้องทำงาน เงินเดือน และการศึกษาต่ำกว่าคุณอีก เขาไม่เคยเห็น พูดเลยว่าเมียเอาเปรียบ เขากลับภูมิใจที่เข้าเลี้ยงครอบครัว และถ้าคุณไม่นอกใจเรา เราจะแยกเอาสมบัติของเราออกมาทำไม เพราะคุณไม่ซื่อสัตย์กับเรา แล้วยังมาโทษเราอีก

การที่คนพาล คนตาบอด จะพูดอะไรดีๆ จะทำอะไรดีๆ เป็นสิ่งที่ทำได้ยากครับ
ก็เหมือนกรณีคุณลูกชาย คนตาบอดชี้นก เราก็รู้ว่านั่นไม่ใช่นก ชี้ไม้ เราก็รู้ว่า
นั่นไม่ใช่ไม้ คงต้องละไว้ ที่จะโกรธจะโมโหคนตาบอด
เพราะไม่ว่าพูดอะไร
ไม่ว่าทำอะไร ก็เหมือนไร้ทิศไ้ร้ หนทางเจริญ มีแต่เสื่อมแต่ต่ำด้านเดียวอนิจจัง


mom เขียน:
ก่อนหย่า 3 วัน เขาไปขอเลิกกับผู้หญิง เพราะสามีผู้หญิงใกล้ออกจากคุก เขาคงกลัว ๆ อยู่ อีกอย่างเขาไม่คิดว่าเราจะหย่าจริง ๆ เพราะเราบอกจะหย่า และให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ผู้หญิงซึ่งตอนนั้นมีผู้ชายใหม่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่บอกเขาว่ามีคนอื่น หลังจากหย่าแล้วเขาไปบอกผู้หญิง ผู้หญิงก็บอกเขาว่ามีคนใหม่แล้ว รุ่นเดียวกัน (อายุอ่อนกว่าสามี 25 ปี) เขาก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร แต่บอกผู้หญิงว่าผู้ชายเป็นคนไม่ดี มีลูกมีเมียแล้ว เพราะเขาเคยรู้จัก เราคิดว่าทำไมไม่คิดมองตัวเองบ้าง สุดท้ายกลับมาหาเรา มาขอโทษและรับสารภาพว่าตั้งใจทิ้งเรากับลูกจริง ๆ แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะอยู่กับผู้หญิงที่ต่างจังหวัดได้มั๊ยเพราะต้องไปอยู่แถวอีสาน (บ้านผู้หญิง) ไปทำไร่ ซึ่งเขาเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่เคยทำไร่ ทำนา อายุเขาก็เยอะแล้ว บ้านสามีผู้หญิงที่ติดคุกก็อยู่ใกล้ ๆ และเขาเป็นญาติกันด้วย เขาจึงยังรีรออยู่จนกระทั่งเราขอหย่า และยังเล่าอีกว่าพ่อ แม่ ฝ่ายหญิง ดีกับเขามาก และเขาดูแลพ่อ แม่ ญาติ ๆ ฝ่ายหญิง อย่างดี ตอนพ่อฝ่ายหญิงป่วยเขาโทรสอบถามให้กำลังใจตลอด พี่น้อง พ่อแม่ ฝ่ายหญิงดีมากรักเขาเหมือนลูก เราเลยบอกว่าคุณเลี้ยงและจ่ายเงินให้เขาขนาดนั้น เขาไม่บอกว่ารักคุณ คุณเป็นคนดี แต่บอกว่าเขาเกลียดคุณ คุณเป็นคนชั่ว ไม่มีศีลธรรมเขาก็โง่แล้ว (เพราะผู้หญิงทำงานเป็นคนงานรายวัน ได้วันละ 300.- บาท) ถ้าคนเพวกนั้นเป็นคนดีเขาไม่ให้ลูกที่ยังมีสามีอยู่และมีลูกแล้ว มาเป็นเมียน้อยคนอื่นหรอก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกเมียเขาเป็นทุกข์ขนาดไหน ตัวคุณเองก็ใฝ่ต่ำเรียนสูงซะเปล่า การงานก็ดี เป็นถึงผู้บริหาร กลับไปคบพวกคนไม่มีศีลธรรม เป็นชู้กับลูกน้องที่เป็นคนงานทั้ง ๆ ที่สามีเขาติดคุก ลูกเขาก็ยังเล็กอยู่

ธรรมดานะครับ เขายิ่งมีความรู้มาก มีฐานะทางสังคมดี ใครๆ ก็จะคิดว่าดี
ก็ต้องโดน รูปสมบัติภายนอกหลอกลวงเอาได้เป็นธรรมดา อยากพูดกลางๆ
เป็นใครก็ตาม ไม่อยากเจาะจงบุคคลลงไป ใจดำผิดต่อครอบครัวคนรักลูกๆ
ก็ถือว่า ขาดความดีแล้ว คุณธรรมของคนดีกับคนเลว ต่างกันไกล เหมือนฟ้า
กับดิน ความหลงผิด พลักดันชีวิตของคนหลงผิดให้หมุนไป เป็นอนัตตา
เป็นไปตามแต่เหตุ(ดีหรือชั่ว)ตามปัจจัย(ผลดีผลชั่ว) ไม่เว้นทุกตัวตนบุคคล.

mom เขียน:
ตัวเขาแก้แทนว่าครอบครัวผู้หญิง และพ่อแม่ น่าสงสาร เราไม่เป็นอย่างเขาเราไม่รู้หรอก เราก็เลยบอกว่าตอนพ่อคุณป่วยไม่เห็นไปดูแลเลย ตอนติดผู้หญิงเงินค่ารักษาก็ไม่คิดจะออกให้ (เกี่ยงกับน้องสาวออกเงินค่ารักษาพยาบาล ) เราต้องเป็นคนไปดูแทน แม่คุณก็น่าสงสาร ทุกข์ที่ลูกชายทำตัวไม่ดี ทำไมไม่คิดไปดูเขาบ้าง เขาบอกว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงบอกว่าเขาเป็นคนดี ไม่กินเหล้าไม่เล่นการพนัน เราก็เลยว่าเขาไปค่อนข้างเยอะ บอกว่าคุณเคยบอกเราว่าคุณกับผู้หญิงนับถือกันเป็นพ่อกับลูก คุณมีศีลธรรมรู้ผิดชอบชั่วดี และบอกแม่คุณว่าคุณสวดมนต์ ฟังธรรมทุกคืน ไม่ทำอะไรชั่ว ๆ แบบนั้น แล้วที่คุณสารภาพว่ามีอะไรกับผู้หญิงซึ่งนับถือเป็นพ่อลูกกัน คุณรู้มั๊ยมีแต่สัตว์เดรัจฉานเท่านั้นที่ทำเบบนี้ อีกอย่างคนดีอย่างคุณที่พ่อ แม่ เขารัก มีศีลเหลือข้อเดียว เหลือเฉพาะไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน แสดงว่าครอบครัวนี้เหมาะสมกับคุณมาก ดีแล้วที่จะไปอยู่กับพวกเขา เพราะเราไม่ดี อยู่กับคุณไม่ได้ บารมีไม่ถึงคุณ

ต้องหารคำพูด ความคิด การกระทำของคนตาบอดนะครับ เราไม่ควร
ไปเชื่อหรือรับฟัง ว่านกเป็นนก ไม้เป็นไม้ สถานการณ์ที่คนหลงผิด
จะพูดความจริง เป็นไปได้ค่อนข้างน้อย แล้ววิธีการแก้ไขปัญหาของ
คนหลงผิด ก็คือ.....



mom เขียน:
หลังจากนั้นเขาก็มาบอกว่าจะกลับไปปฏิบัติ เพื่อครอบครัวและตัวเขาจะได้ดีขึ้น เขาจะปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้น ให้ถึงนิพพาน เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก จะตายในกรรมฐานอย่างเดียว (เพราะกลัวสามีเขามาทำร้าย ) และต้องการแก้กรรม เราบอกว่า เราเตือนตลอดว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง เพราะคนที่ผิดศีลข้อ 3 ไม่มีใครเจริญมีแต่ตกต่ำลง ครอบครัวต้องแตกแยก คนพวกนั้นไม่เคยปฏิบัติเหมือนคุณด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่านรก หรือ สวรรค์เป็นอย่างไร เหมือนที่คุณบอกว่าตอนคุณบวชและฝึกปฏิบัติเคยไปมาแล้ว แต่ทำไมคุณที่ปฏิบัติบอกว่า รู้ว่า นรกหนาว หรือ ร้อน ขนาดไหน จึงทำได้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำผิดศีลธรรมตั้งหลายข้อ ทำร้ายครอบครัวตนเองและคนอื่น และ ทำร้ายเด็ก ๆ กี่คน ใจคุณทำด้วยอะไร

คนที่สละตัวไม่กลัวตาย ไม่หวงหรอกครับ ไม่ตระหนี่ ขี้เหนียว
คนที่สละแล้ว เขาสละของนอกกายครับ สละลูกเมียแบบมีทิศทาง
มีความเห็นถูก เขาบริหารใจเขา ใจเราดี ไปแบบไม่มีห่วงหน้าพะวงหลัง
ฝากลูกไว้กับแม่ ฝากแม่ไว้กับลูก ไม่ใช่คนหลงผิด แก้ปัญหาผิด ทิฏฐิผิด
การปฏิบัติ มันต้องอย่างคุณโยม mom เอาสติปัญญามาแก้ไข แก้ใจเรา
ฝึกใจเรา ดัดใจเรา ชนะใจเราในชีวิตประจำวัน
อย่างที่พุทธฏีกาบอกครับ
คนตาบอด ก็คือคนตาบอด เหมือนเต่าตาบอดร้อยปี จะได้โผล่ขึ้นจากน้ำ
มาลอดห่วงที่มีคนผูกไว้ โอกาสอย่างนั้นร้อยปีมีครั้งยังว่ายาก โอกาสที่คน
ตาบอด มีมิจฉาทิฏฐิอย่างนั้น จะเข้าถึงธรรม ต่ำๆ ก็มนุษย์ธรรม ศีล ๕
ก็ยังเข้าถึงไม่ได้ ก็แปลว่า โอกาสเที่ยงแท้ที่จะไปสู่อบาย กำเนิดเป็นเปรต
ตระหนี่หวง ทาวเฮ้าท์คอนโด เกาะอาศัยพวกพ้อง เบียดเบียนคนดีมีศีล
หรือกำเนิดเป็นอสูรกาย โกหกถือตัวเย่อหยิ่ง ทำผิดพูดผิดแม้แต่กับเด็กๆ
ก็ไม่ขอโทษ ลำเอียงตาบอด ยิ่งกว่ากำเนิดในสัตว์ที่เกิดในเถ้าไคล
ในกำเนิดทั้ง ๔ ผู้หลงผิดอย่างนี้หรือครับ? จะเห็นแจ้งในโลกทั้ง ๓
จะเห็นสวรรค์และนรกจริง คงพอสรุปได้แล้วในต้นๆ กระทู้ว่า สิ่งที่เขาพูด
เขาแสดง มันก็จริงตามสมมติ จริงตามของๆ เขา แต่ไม่ได้จริงของๆ คนอื่น
เป็นของพื้นๆ หาอ่าน หาฟังที่ไหนก็ได้ แต่นรกลึกซึ้ง อบายลึกซึ้งที่เขา
กำลังเผชิญอยู่ ตราบใดที่เขายัง ไม่สำนึกผิด ขอขมาต่อพระรัตนตรัย


อวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตน ลบหลู่ อภิญญาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ว่าคนที่เสพธรรม ของอมนุษย์ จะได้สัมผัสแตะต้อง อภิญญา มีปัญญารู้โลก
อย่างแจ่มแจ้ง ข้อนี้คงเป็นไปไม่ได้ ทั้งหมด จอมปลอม เป็นอภิญญาเก๊ๆ
นรกสวรรค์ันั้น คุณโยม mom ต่างหาก จะได้รู้ได้เห็น ในสิ่งที่พุทธฏีกาแสดง
เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2013, 01:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


mom เขียน:
หลังจากนั้นเขาก็ไปเข้าปฏิบัติบ่อย ๆ พอหลัง ๆ ก็มีเรื่องกันอีก หาว่าเราขโมยของเขา (สมุดบัญชีธนาคารที่เราเก็บไว้ ) เราบอกว่าเราเก็บไว้ให้ ตั้งแต่ก่อนไปหย่า ชื่อบัญชีคุณ ใครจะเอาเงินคุณออกมาได้ เขาไม่สนใจบอกว่าเราเป็นขโมย ต่อไปไม่ไว้ใจกันแล้ว ต่อไปเขาจะอยู่คนเดียว และไม่ยุ่งกับใคร (รวมทั้งลูกด้วย) และจะไม่กลับมาหาเรา หมายถึงหมดความเป็นสามีภรรยากันแล้ว ตอนนี้เขายังอยู่ที่บ้าน แต่อยู่แบบไม่สนใจใคร บ้านช่องก็ไม่สนใจช่วยเราทำ ทำแต่ของตัวเอง (เห็นแก่ตัวกว่าเดิม ) กินข้าวก็หากินคนเดียว นั่งกินคนเดียวไม่เคยสนใจลูก ไม่ช่วยเราดูแลลูก และช่วยออกค่าใช้จ่ายเรื่องลูก พอบอกว่าค่าใช้จ่ายของลูกเยอะ ไหนต้องค่าเรียนพิเศษ ค่ากินอยู่แต่ละวัน ค่าเดินทาง เดือนเกือบหมื่น (ค่ากินในบ้าน ค่าใช้จ่ายในบ้านเราออกคนเดียว) ขอค่าเทอมลูกก็บ่น เดินหนีบอกไม่ต้องการฟัง ทำตัวเหมือนคนมาอาศัยนอน และบอกว่าเขาหมดหน้าที่พ่อแล้ว เขาดูแลลูกและเรามา 20 ปีแล้ว เขาทำพอแล้ว จะไปปฏิบัติ เราก็เลยบอกว่าคุณปฏิบัติเราไม่ว่า จะไปเมื่อไรเราก็ให้ไป ถ้าคุณจะไปทางธรรม ก็จะส่งเสริมให้ถึงทางธรรม จะไปทางโลกก็จะส่งเสริมให้ขอให้บอกกันตรง ๆ แต่ ณ ตอนนี้ที่คุณยังอยู่ที่บ้าน และไม่ได้ไปปฏิบัติ คุณทิ้งหน้าที่และความเป็นพ่อของลูกไปไม่ได้ ยกเว้นแต่คุณจะไปจากที่นี่ แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณทิ้งลูกไป จะกลับมาอีกไม่ได้แล้ว

ปฏิบัติหน้าที่ตามสมมติธรรมดายังไม่ได้ คงเป็นได้แค่อนาคามีแกล้งๆ ปลอมๆ
กระมั้งครับ คุณโยมก็ยังใจดี ให้โอกาสเขาได้สละความเห็นแก่ตัว แต่ไม่วาย
อายุของเปรตนี้ มันอายุยืนหนักหนา ในอบายกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติก็เป็นต้อง
๕๐๐ ปีทิพย์ขึ้นไป นี่แหละต่ำกว่าศีล ๕ คนหลงผิดก็คือคนตาบอดอยู่วัน
ยังค่ำ ไม่พอ คนหลงผิด ที่ไม่ประพฤติัตัวครองตน ให้เหมาะสมตามฐานะ
พระองค์ตรัสว่า เหมือนคนง่อยเปลี้ย ทั้งตาบอด ทั้งหูหนวก ทั้งเป็นใบ้
เมื่อเรายังใจดีมีเมตตา ให้อาศัยอยู่ในบ้านเรา ก็ต้องบอกลูกสอนลูก
เมตตามากๆ ให้มากเหมือนแม่ อย่าท้อแท้ในการ เป็นคนดีนะลูก

ยังเด็กยังอายุน้อย กำลังสติปัญญาความคิดความอ่านก็น้อย ธรรมดาก็ต้อง
เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ลูกชาย อันนี้เป็นบทเรียน
ที่หาไม่ได้ในโรงเรียน ในที่ไหนๆ จงยอมรับความจริง เรียนรู้ และให้อภัย

บอกน้อง เหมือนเมาคลีลูกหมาป่า มีลิงแม่ลิง มีหมาป่าเป็นคนเลี้ยงดูเมาคลี
ก็ให้นึกเสียว่า ถ้าไม่มีพ่อที่เป็นคนตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ ง่อยเปลี้ย คนนี้เสียแล้ว
เราก็ไม่มีโอกาส ฝึกฝน ความเป็นคนกล้า ความเป็นยอดคน เหมือนเกมส์ออนไลน์
เกมส์ป้อนโปรแกรมให้เรา้ต้องเก็บแ้้ต้ม สะสมอาวุธ ชีวิตจริง เราก็ต้องรู้จักเก็บ
รู้จักเลือกเอาประโยชน์ จากสิ่งที่ไม่ชอบไม่พอใจในชีวิต มาเป็นคุณประโยชน์
กับตัวเราเองให้ได้ ความโกรธนั่นแหละ ไม่มีมันแล้ว เราก็ไม่อาจรู้จักคำว่าเมตตา
ความคับแค้นใจ ไม่มีมันแล้ว เราก็ไม่อาจรู้จักความสุขของการให้อภัย

เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ไม่มีพ่อผู้ให้กำเนิด ไม่มีแม่แล้ว วันนี้เราคงไม่มี ยิ่งใหญ่ครับ
การได้เกิดเป็นคน ในเมืองคนเป็นสิ่งยิ่งใหญ่แล้ว พ่อแม่ให้ทุนมาแล้ว เรา้ต้องเก็บเลเวล

ด้วยการพยายามคิดดี ทำดี พูดดี ทุกเรื่องทุกปัญหาในชีวิต นับจากนี้ ถ้าเรา
คิดเป็น ก็ไม่มีอะไรทำให้เราทุกข์ได้
ถ้าเราคิดไม่เป็น ก็จงดูตัวอย่าง หอคอย
แห่งความล้มเหลวที่คุณพ่อได้มอบไว้ให้เรา จงดูเป็นอุทาหรณ์ จงสอนใจตัวเอง!


mom เขียน:
ตอนนี้ ลูก ๆ เห็นการกระทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่เห็นแก่ตัวของพ่อทุกวัน เริ่มมีการต่อต้าน และหมดความรัก ความนับถือ รวมทั้งความเชื่อใจ อยากให้เขาไปอยู่ที่อื่น เราสอนว่าให้คิดในสิ่งที่พ่อเขาทำให้ตลอดมา เป็นคนต้องมีความกตัญญู ให้เวลาและ ให้โอกาสเขา เพราะตอนนี้เขากลับไปปฏิบัติ ดูสิว่าเขาจะดีขึ้นมั๊ย คิดว่าเป็นเวรกรรมที่เราต้องมาใช้ ลูก ๆ บอกว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะพ่อเขาแย่กว่าเดิมมาก บอกให้เราหยุดช่วยเหลือและทำอะไรให้เขาได้แล้ว ไม่มีประโยชน์ ยิ่งเตือน เขายิ่งทำตัวแย่ลง ลูก ๆ เริ่มห่างไม่พูด ไม่สนใจ เขาก็คงรู้สึก เหมือนไม่มีคนต้องการเขา ซึ่งจริง ๆ แล้วเราบอกให้เขาปรับความเข้าใจกับลูก เขาบอกว่าเขาไม่คุย เพราะเขาเป็นพ่อ ที่ลูกเป็นแบบนี้เพราะลูกไม่รักเขา ลูก ๆ ก็ไม่ต้องการคุยด้วย และบอกกับเราว่าถ้าเขาพูดอะไรไปที่ทำให้พ่อเสียใจ ก็จะเป็นบาปกับตัวเขาทั้งสองคน แค่นี้เขาก็มีกรรมมากแล้ว เจ็บและเสียใจพอแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความฝันของเขาพังหมด เพราะพ่อเขาไม่เหมือนเดิมจากขาวเป็นดำ และพ่อเขายังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิด โทษแต่แม่กับลูก ไม่แม้แต่กระทั่งบอกขอโทษ หรือยอมรับผิด ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของลูก ทั้ง ๆที่บอกว่ารักลูก ห่วงลูก

จงอาจหาญร่าเริง บันเทิงใจเทิดครับ.
ให้น้องได้รับรู้ข้อความที่ฝากไปถึงตัวน้อง ไม่เพียงแต่พุทธฏีกา
ยังมี ยอดคุณแม่อีกหลายๆ คน สู้และ่เป็นกำลังใจเขาและคุณโยม
mom อยู่ตรงนี้
จงอาจหาญครับ.

mom เขียน:
การที่ลูกไม่สนใจเขา เขาเลยจะพาน้อง แม่ หลาน มาอยู่ด้วย ซึ่งน้องสาวเขากับลูกชายเราก็มีปัญหากันมาตลอด เพราะหลานเขาไม่มีพ่อ น้องสาวเขาอยากให้เขาไปช่วยดูแล เพราะหลานเขาถูกไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ติดผู้หญิง เที่ยวเตร่ และกินเหล้าเมายาทุกวัน ไม่ค่อยกลับบ้าน เขาบอกว่าเขามีน้องสาวคนเดียวเขาต้องดูแล เพราะน้องเขาอยู่กับใครไม่ได้ (น้องเขาเลิกกับสามี เพราะ นิสัยเห็นแก่ตัว ชอบใส่ร้ายคนอื่น เอาความดีเข้าตัว และมีปัญหากับลูกชายเราหลายครั้ง คอยว่าลูกเราเขาฟังบ่อย ๆ ซึ่งเขากับแม่เขาเชื่อน้องเขามาตลอด) แต่เราเองมีพี่น้องเยอะ ให้พี่น้องเราดูแล เราก็เลยบอกว่า ตอนนี้เรากับลูกก็เหมือนที่น้องคุณเป็น คือครอบครัวแตกแยก เพราะสามีไม่มีความเมตตาต่อครอบครัว ลูกเราไม่มีพ่อ ถ้าถามลูกเราอยากได้พ่อ หรือ อยากได้ลุงมาเป็นพ่อ ลูกเราก็คงอยากได้พ่อมากกว่าลุง ส่วนพี่น้องเราเขาดูแลเราอยู่ห่าง ๆ เพราะเขามีหน้าที่ที่จะดูแลครอบครัวของเขา และเราก็ไม่ต้องการให้พี่น้องเราทิ้งครอบครัวเพื่อมาดูแลเรากับลูก เพราะในเมื่อเราเป็นคนเลือกสามีเอง ไม่ได้มีใครบังคับให้แต่งงานกับคุณ เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราเลือกและปัญหาที่เกิดขึ้น พี่น้องเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ให้พี่น้องเรามารับผิดชอบ

ถูกต้องแล้วครับ อนุโมทนา.


mom เขียน:
ส่วนน้องคุณอายุเกือบ 50 แล้ว หลานคุณก็ผู้ชายอยู่มหาวิทยาลัย ปี 2 ลูกสาวคุณเองอายุแค่ 14 เรียน ม.2 ลูกชายก็อายุน้อยกว่าหลานชาย แต่ไม่เป็นไรถ้าห่วงน้องกับหลานมากกว่าลูก สมบัติก็ให้น้องไปหมด ก็ให้ไปอยู่กับเขา เพราะ บ้านเขาก็มีตั้งหลายหลัง อย่าเอามาอยู่ที่นี่ เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับลูกอีก ถ้าลูกชายอยู่ไม่ได้จะทำยังไง เพราะเขาบอกว่าถ้ามาอยู่เขาจะหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะเขาไม่ชอบอาเขา เนื่องจากใส่ร้ายเขามาหลายครั้งแล้ว ส่วนตัวคุณไม่มีความเชื่อหรือมีเมตตากับคนในครอบครัวของคุณ ถ้าเกิดเรื่องคุณก็จะไม่เชื่อเราเพราะคุณเชื่อแต่คนอื่น ฟังแต่คนอื่น และคุณบอกว่าเรากับลูกเข้ากับญาติคุณไม่ได้ ถ้าคุณยังตัดสินใจและเลือกที่จะไปดูน้องกับหลาน และทิ้งลูกไป ผลที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้าระหว่างคุณกับลูกสองคน มาจากเหตุที่คุณกระทำในวันนี้อย่ามาโทษเราว่าสั่งสอนลูกไม่ดี เพราะลูก ๆ โตแล้ว เขามีสมอง คิดเป็น กับสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกเราว่าถ้าพ่อทิ้งเขาไปวันหน้าอย่าบอกว่าเขาไม่ดี ไม่ดูแล และเป็นลูกอกตัญญู เพราะตอนมีผู้หญิงอื่นก็คิดทิ้งเขากับแม่ พอเลิกกับผู้หญิงก็จะทิ้งเขาไปอยู่กับญาติ ถ้าวันหน้าเจ็บไข้ได้ป่วย หรือ เป็นอะไรไปก็ให้อา กับ หลานดูแล ถ้าตายไปก็ให้หลานบวชให้แล้วกัน

กรณีลูกชายต้องทนไม่ได้ในเรื่องญาติ ถ้าได้รับข้อความฝากไปถึงแล้ว ให้เป็น
กำลังใจให้คุณโยมแม่ ตอนนี้พวกเขา ตั้งใจจะเอาทั้งหมด! โดยไม่ชอบธรรม
ถ้าได้มีการแบ่งทรัพย์สินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พุทธฏีกาก็จะอุ่นใจครับ ถ้ายัง
ก็ขอให้รีบจัดการให้เรียบร้อย และอาจต้องหาความรู้ด้านกฏหมาย มาบังคับ
จัดการกับ ฝูงคนพาลตาบอด มีบทสวดมนต์ เรียกว่า "ภาณยักษ์"

ที่แท้จริงเรียกว่า อาฏานาฏิยสูตร ในพระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค พระสูตรนี้เกี่ยวกับ การที่ พวกยักษ์ที่ไม่มีสัมมาทิฏฐิ
ถือตัวดื้อรั้น ชอบเบียดเบียนทำร้ายทำลาย พระภิกษุ ผู้มีศีล ท้าวเวสสุวรรณ
ได้กราบทูลขอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงพระสูตรนี้ มนต์บทนี้ให้แก่
พระภิกษุสงฆ์ เพื่อที่จะ ทำการระงับ ขับไล่ ความเสนียดจัญไร อุปัทวะต่างๆ

บทสรุปอยู่ที่ [ให้ยอมยกโทษพวกอมนุษย์] และให้แจ้งต่อผู้มีอำนาจเหนือกว่า
หรืออาศัยอำนาจกฏหมายบอกประกาศ เปิดโปงคนผิด ให้สังคมทั้งหมด
คว่ำบาตร ให้ยอมลดราวาศอก ไม่ต่อกร ต่อแยกับเราได้ต่อไปอีก ^^


อ้างคำพูด:
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้ใดผู้หนึ่ง
จักเรียนการรักษาอันชื่อว่าอาฏานาฏิยะนี้ให้แม่นยำ
ให้บริบูรณ์แล้ว ถ้าอมนุษย์เป็น
ยักษ์ก็ตาม ยักษิณีก็ตาม บุตรยักษ์ก็ตาม ธิดายักษ์ก็ตาม ยักษ์มหาอำมาตย์ก็ตาม
ยักษ์บริษัทก็ตาม ยักษ์ผู้รับใช้ก็ตาม เป็นคนธรรพ์ก็ตาม นางคนธรรพ์ก็ตาม บุตร
คนธรรพ์ก็ตาม ธิดาคนธรรพ์ก็ตาม คนธรรพ์มหาอำมาตย์ก็ตาม คนธรรพ์บริษัทก็ตาม
คนธรรพ์ผู้รับใช้ก็ตาม เป็นกุมภัณฑ์ก็ตาม นางกุมภัณฑ์ก็ตาม บุตรกุมภัณฑ์ก็ตาม
ธิดากุมภัณฑ์ก็ตาม กุมภัณฑ์มหาอำมาตย์ก็ตาม กุมภัณฑ์บริษัทก็ตาม กุมภัณฑ์
ผู้รับใช้ก็ตาม เป็นนาคก็ตาม นางนาคก็ตาม บุตรนาคก็ตาม ธิดานาคก็ตาม นาค
มหาอำมาตย์ก็ตาม นาคบริษัทก็ตาม นาคผู้รับใช้ก็ตาม ซึ่งมีจิตประทุษร้าย
พึงเดินตาม ยืนใกล้ นั่งใกล้ นอนใกล้ ภิกษุก็ดี ภิกษุณีก็ดี อุบาสกก็ดี อุบาสิกาก็ดี
ซึ่งกำลังเดิน ยืน นั่ง นอนอยู่ ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ อมนุษย์นี้ไม่พึงได้สักการะ
หรือเคารพ ในบ้าน หรือในนิคม ไม่พึงได้เหย้าเรือนหรือที่อยู่ ในราชธานีซึ่งมี
นามว่าอาฬกมันทา ไม่พึงได้เข้าสู่ที่ประชุมของพวกยักษ์ อนึ่ง พวกอมนุษย์ทั้งหลาย
จะไม่พึงทำอาวาหะวิวาหะกับมัน พึงบริภาษมัน ด้วยคำบริภาษอย่างเหยียดหยามเต็มที่
พึงคว่ำบาตรเปล่าบนศีรษะมัน หรือพึงทุบศีรษะของมันให้แตกออก ๗ เสี่ยง
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ มีอยู่บ้าง ที่พวกอมนุษย์ที่ดุร้าย หยาบช้า กล้าแข็ง มัน
ย่อมไม่เชื่อถือถ้อยคำของท้าวมหาราช ไม่เชื่อถือถ้อยคำของราชบุรุษผู้ใหญ่แห่ง
ท้าวมหาราช ไม่เชื่อถือถ้อยคำของราชบุรุษที่เป็นชั้นรองๆ แห่งท้าวมหาราช
พวกมันนั้นเรียกได้ว่าเป็นข้าศึกของท้าวมหาราช เปรียบเหมือนพวกโจรในแว่น
แคว้นของพระเจ้ามคธ พวกมันหาได้เชื่อถือถ้อยคำของพระเจ้ามคธไม่ หาเชื่อถือ
ถ้อยคำของราชบุรุษผู้ใหญ่แห่งพระเจ้ามคธไม่ หาเชื่อถือถ้อยคำของพวกราชบุรุษ
ที่เป็นชั้นรองๆ ของพระเจ้ามคธไม่ มหาโจรเหล่านั้นๆ เรียกได้ว่าเป็นข้าศึกของ
พระเจ้ามคธฉะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ อมนุษย์ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นยักษ์ก็ตาม
ยักษิณีก็ตาม บุตรยักษ์ก็ตาม ธิดายักษ์ก็ตาม ยักษ์มหาอำมาตย์ก็ตาม ยักษ์บริษัท
ก็ตาม ยักษ์ผู้รับใช้ก็ตาม เป็นคนธรรพ์ก็ตาม นางคนธรรพ์ก็ตาม บุตรคนธรรพ์
ก็ตาม ธิดาคนธรรพ์ก็ตาม คนธรรพ์มหาอำมาตย์ก็ตาม คนธรรพ์บริษัทก็ตาม
คนธรรพ์ผู้รับใช้ก็ตาม เป็นกุมภัณฑ์ก็ตาม นางกุมภัณฑ์ก็ตาม บุตรกุมภัณฑ์ก็ตาม
ธิดากุมภัณฑ์ก็ตาม กุมภัณฑ์มหาอำมาตย์ก็ตาม กุมภัณฑ์บริษัทก็ตาม กุมภัณฑ์
ผู้รับใช้ก็ตาม เป็นนาคก็ตาม นางนาคก็ตาม บุตรนาคก็ตาม ธิดานาคก็ตาม
นาคมหาอำมาตย์ก็ตาม นาคบริษัทก็ตาม นาคผู้รับใช้ก็ตาม มีจิตประทุษร้าย
พึงเดินตาม ยืนใกล้ นั่งใกล้ นอนใกล้ ภิกษุก็ดี ภิกษุณีก็ดี อุบาสกก็ดี
อุบาสิกาก็ดี ซึ่งกำลังเดิน ยืน นั่ง นอนอยู่
อันภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรือ
อุบาสิกานั้นพึงยกโทษ พึงคร่ำครวญ พึงร้องแก่ยักษ์ มหายักษ์ เสนาบดี มหา
เสนาบดีว่า ยักษ์ตนนี้ย่อมจับ ยักษ์ตนนี้ย่อมสิง ยักษ์ตนนี้ย่อมเบียดเบียน ยักษ์
ตนนี้ย่อมบีบคั้น ยักษ์ตนนี้ย่อมทำให้ลำบาก ยักษ์ตนนี้ย่อมทำให้ยาก ยักษ์ตนนี้
ย่อมไม่ปล่อย ดังนี้ ฯ

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2013, 01:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


mom เขียน:
เราไม่แน่ใจว่าการที่เขาตั้งใจทิ้งลูก เพราะแม่เขาเคยบอกว่าลูกไม่เหมือนเขา ตอนเกิดเรื่องชู้สาวกับผู้หญิงลูกเคยขอร้องหลายครั้ง ให้เขาสงสาร ให้เลือกระหว่างลูกกับผู้หญิงเขาก็ไม่ฟังลูก จนลูกไม่พูดด้วย ส่วนแม่เขาก็บอกว่าลูกไม่รักพ่อ เขาก็ฟังแม่เขามองว่าลูกไม่รักเขา แต่เขาไม่เคยมองว่าเขาทำอะไรกับลูกไว้ ตอนที่เราขอเงินค่าเลี้ยงดูลูกก่อนหย่า เขาบอกว่าเรากลัวอะไร หรือว่าไม่ใช่ลูกเขาเราถึงกลัวเขาไม่ส่งเสีย ตอนนั้นเราไม่คิดโกรธแค้นเขาอีกแล้ว เพราะคิดว่าเขาทำบาปกรรมอะไรไว้ คิดอะไร ทำอะไรไป เขาต้องได้รับผลกรรมแน่นอน และได้อโหสิกรรมและให้อภัยทานเขากับครอบครัวเขาที่ทำกับเราและลูกไปหมดแล้ว เราไม่คิดว่าการที่เราเลือกครอบครัวที่บอกว่า ฟังธรรมะทุกวัน เข้าปฏิบัติวิปัสสนา และไปเรียนพระอภิธรรมทุกวันหยุด จะทำร้ายเราและลูกได้ขนาดนี้

อโหสิได้ ใจเราก็เบาครับ ฟังเป็นปัญญาขั้นจำขั้นฟัง เข้าปฏิบัติวิปัสสนา ถ้าของ
แท้ของจริง มันต้องดับทุกข์ดับกิเลสตัวเองได้ ไม่ควรเหมาหมดว่า คนฟังธรรม
ปฏิบัติธรรม เรียนศึกษาพระปริยัติธรรม จะ้ต้องเป็นคนไร้สัมมาทิฏฐิเสมอไปครับ
เรียนเพราะอยาก ปฏิบัติเพราะอยาก มันได้แต่อยากนั่นแหละครับ ไม่ได้ละอยาก!

ใจคนยากแท้หยั่งถึง อะไรๆ ก็ไม่แน่นอนไม่เที่ยงแท้เอาเสียเลย ปล่อยวางครับ.


mom เขียน:
อยากขอให้ท่านพุทธฏีกาช่วยแนะนำด้วยค่ะ เราอยากตัดเวรกรรมกับผู้ชายคนนี้และญาติ ๆ ของเขาให้ขาด และไม่อยากให้ลูกทำอะไรที่เป็นการอกตัญญูกับพ่อเขา หรือทำสิ่งอกุศลหรือการล่วงเกินใด ๆ พ่อเขา มากไปกว่านี้ และไม่ต้องการให้ลูกสร้างเวรกรรม หรือ ล่วงเกิน และคิดไม่ดีกับพ่อ จนกระทั่งกลายเป็นการอกตัญญู ต่อผู้ให้กำเนิด เพราะ ตราบใดที่พ่อเขายังไม่ยอมไปไหน และยังทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นการเอาชนะเรากับลูก ก็จะเป็นการสร้างเวรกรรมไม่รู้จักหมดจักสิ้น

ข้างต้นทั้งหมด ก็คงครอบคลุม หยิบยก ให้กำลังใจ แง่คิด แนะนำตักเตือน
ฝาำกไปถึงคุณลูกชายแล้วนะครับ นำสมบัตินี้ไป นำมรดกนี้ไป จงอาจหาญ
ร่าเริง เป็นคนกล้า เป็นยอดคนนะครับ


ส่วนเรื่องตัดเวรตัดกรรม ทรงตรัสสอนเรื่อง ชายผีหญิงเทวดา ชายเทวดาหญิงผี
ชายผีหญิงผี ชายเทวดาหญิงเทวดา ผีนี้หมายถึงคนนี่แหละแต่น้ำใจไม่ใช่คนคือ
ไม่มีกุศลกรรมบท ๑๐ อันนี้เป็นผีหมดไม่ว่าชายหรือหญิง ถ้ามีกุศลกรรมบท ๑๐
เป็นธรรมของมนุษย์เทวดา มีน้ำใจเป็นเทวดา ก็เป็นทั้งชายทั้งหญิงก็ได้

กุศลกรรมบท ๑๐ ๑.ไม่ฆ่าสัตว์เบียดเบียนชีวิตสัตว์ ๒.ไม่ลักทรัพย์ ๓.ไม่ผิดในกาม
๔.ไม่โกหก ๕.ไม่หยาบคาย ๖.ไม่ส่อเสียด ๗.ไม่เพ้อเจ้อ ๘.ไม่เพ่งเล็งอยากได้
๙.ไม่พยาบาทผูกโกรธ ๑๐.ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ๑๐.ข้อนี้เรียกว่าน้ำใจ เทวดา


ถ้าไม่มี ๑๐ ข้อนี้ มีน้อย ไม่มีเลย ก็เป็นผีหมด ไม่ว่าหญิงหรือชาย การอยู่ร่วมกัน
ในครอบครัว ถ้าชายหรือหญิงไม่มีหิริโอตัปปะไม่เกรงกลัวบาป เห็นผิดเป็น
มิจฉาทิฏฐิบุคคล ก็ย่อมสร้างอกุศลกรรม ทำอกุศลกรรมบท ๑๐ นี้แน่นอน
หากการครองคู่ชีวิตกัน ไม่ลงตัว หรือเคยลงตัวแล้วกลับไม่ลงตัว ผีก็ควรอยู่ส่วนผี
คนหรือเทวดาก็ควรอยู่ ส่วนคนส่วนเทวดา
เป็นหลักง่ายๆ ในการแบ่งชั้นแบ่งภูมิ

เพราะิมิฉะนั้น ผีเมื่อมันได้อาศัยเทวดา มันก็จะคล้ายเปรตคล้ายปลิงดูดเกาะ
เอานั้นเอานี้ไปจาก เทวดาๆ ก็จะต้องเหนื่อยเบื่อหน่าย เดือดร้อนรำคาญใจ
ถ้าเกิดผีมันไปอยู่กับผี ผีอยู่ส่วนผี มันก็จะพลัดกันทำลายทำความเดือดร้อน
ให้แก่กันและกัน ไม่นานมันก็จะฆ่ากันและกัน กินกันและกัน อย่างน่าเวทนา

หากเทวดาอยู่ครองกับเทวดา ก็จะีมีแต่ความสงบสุขร่มเย็น เพราะมีสมบัติ
ของมนุษย์เพียงพอ ไม่ต่ำกว่าศีล ๕ มีความตั้งมั่นของจิตใจเป็นสมบัติ(สมาธิ)
มีดวงตาเห็นธรรมเห็นแสงสว่าง รู้ดีรู้ชั่ว ชนะตนและเข้าใจคนอื่น(ปัญญา)
ย่อมจะประสบกับความสุขความเจริญ รุ่งเรืองอยู่ในพุทธศาสนาตราบจน
เข้าสู่กระแสพระนิพพาน
เป็นที่สิ้นตัณหาอุปาทาน สิ้นภพสิ้นชาติ

ชีวิตก็คงดำเนินไป สังขารร่างกายก็ยังดำเนินไป แต่มหากาพย์หัวใจของเรา
ได้มาถึงกาลอาวสาน ทิ้งร่องรอย ทั้งหมดทั้งสิ้นไว้เพียงในอดีต พอสะกิดใจ
ก็สลัดเยื่อใยไม่ยืดเยื้อ ลงจากจิตใจ ความรู้สีกนึกคิดได้ทันที ปกป้อง
ประครองสติสำรวมอินทรีย์ ยกกายนี้ ชีวิตจิตใจนี้ ให้ไว้แด่พระรัตนตรัย
มีพุทโธ นามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เลิศโลก ผู้เป็นดังแสงอาทิตย์
กำกับอยู่ในหัวใจ ทุกพุทให้ระลึกถึงพระสัพพัญญุตาญาณ ทุกโธระลึกถึง
พระมหากรุณาธิคุณแก่หมู่สัตว์ เพิ่มกำลังแก่สติ อธิษฐานจิตประครองจิต
บัลลังก์เดียวตลอดชีวิต คือ ตั้งใจภาวนาตลอดชีวิต ยกจิตให้เมตตาต่อ
ผู้ตาบอดหลงผิด ให้อภัยเหล่าบริวารผู้ตาบอด

พุทให้เย็น โธให้สบาย พุทโธๆ ตัดความรู้สึกนึกคิด ตัวเราของเราลงได้
ก็ด้วยกำลังของสติสมาธิ ที่ระลึกนึกถึง แต่พุทแ่ต่โธ พุทยอม โธเย็น
สายพานความคิด เป็นทั้งกับดักชีวิต และทางออกจากทุกข์ ดังนั้นถ้า
ใครก็ตาม อยากตัดเวรตัดกรรม บริกรรมท่องพุทโธ หรือดูลมหายใจเข้าออก
หรือดูอวัยวะ ๓๒ น้ำเลือดน้ำหนองในร่างกาย ความเกิดที่เป็นทุกข์
ความแก่ ความเจ็บ และความตาย หลงโลกมายามากมาย สุดท้าย
ไม่ได้อะไร กำไว้ก็กรรมหนัก วางได้เร็วไซร้ก็ทิ้งกรรมปล่อยกรรม

ให้มีสติ อธิษฐานจิตให้มั่นคง จะดำรงจิต มุ่งตรงสู่พระนิพพาน
จะให้อภัยเป็นทาน ดูแลลูกๆ ให้เป็นคนดี จะรักษาศีลยิ่งชีวิต
จะมีสติปัญญา จะรู้แจ้งเห็นจริง จะรู้ทุกข์และดับทุกข์แก่ตัวเอง

จะดับกิเลสตัณหา ดับความยึดถือเห็นผิด ในเราของเราทั้งหลาย
เช้าสายบ่ายเย็น มีแต่พุท มีแต่โธ เมื่อจิตรวมเป็นหนึ่ง กรรมเล็กๆ
น้อยๆ ในอดีตที่ผ่านมา ก็เหมือนรอยไหม้รอยดำบนผืนผ้าชิ้นเดียวกัน
เมื่อเราไม่รีบนำผ้าผืนนั้นออกจากไฟจากความร้อน แทนที่มันจะหมกไหม้
ด้านเดียว มันก็จะลุกลามมาถึงผ้าเนื้อดีที่ควรรักษาเอาไว้ได้ สติปัญญา
ความเด็ดเดี๋ยวก็เหมือนกรรไกร ตัดแบ่งผ้าที่ไหม้เสียออกไปได้ก็มี

บางคนก็ปะเย็บปะชุนผ้า เพราะเสียดาย เข็มเล็กๆ ด้ายน้อยๆ ที่เคย
อยู่เคยใช้อาศัยบนผ้า ความจริงได้ลืมไปว่า เข็มและด้ายนั่นแหละ
มีบริบทมีเจตนามีทิศทางเป็นของตัวมันเอง ยิ่งชีวิตมีำำำภาพ มีรอยไหม้
น้อย มีรอยดำน้อย เขาก็จะเดินเข็มไปได้ตามปรกติไม่มีอคติอะไรในชีวิต
มากมายอะไรนัก แต่ยิ่งดำยิ่งไหม้ทั้งปะทั้งชุน คนเป็นแม่บ้านแม่เรือน
ต้องตระหนักถึง ฐานะ โอกาส จังหวะเวลา ความได้เปรียบเสียเปรียบ
เมื่อตัดแล้ว หรือปะแล้ว เข็มด้ายเล็กๆ จะเป็นอย่างไรต่อไป ตัวแม่บ้าน
แม่เรือนจะนำผ้าไปใช้ประโยชน์อย่างไรต่อไป เป็นเรื่องเฉพาะตน!


หรือจะนำมาย้อมเป็นผ้ากาสาวพัสตร์ ให้เป็นอริยทรัพย์อริยธรรมฝังไว้
ในพุทธศาสนา เอาประดับไว้ในโลก สถิตไว้ในดวงใจของเรา ว่าพระธรรม
ที่เป็นที่พึ่งอ้ันแท้จริง มีตนของตนเองสินะ เป็นที่พึ่งแห่งตน เพื่อพิชิตเพื่อชนะ
ความทุกข์ยากในใจตน เพื่อเบื่อหน่ายในสังสาร เพื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์


ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิปกป้องคุ้มครองเหมือน
พระปริตร "อาฏานาฏิยะ" ขับไล่อุปัทวะทั้งหลาย ด้วยผลบุญที่พุทธฏีกา
พึงมีพึงเป็น ขออานิสงส์ผลบุญนั้นช่วยปกปักรักษาคุณโยม mom และ
ลูกจงมีความสุขความเจริญ ยึดกุมหัวใจเทวดา หัวใจคน ผู้ให้อภัยเอาไว้
แล้วมีสติเป็นเมืองเป็นอนาเขตบริเวณ ป้องกันเหล่าอมนุษย์ อย่าเข้ามา
สิงใจของคุณโยมและลูกๆ ให้ต้องชิงชัง พยาบาทผูกโกรธ เปิดช่อง
ให้อมนุษย์เข้ามายึดครอง จงมีชัยชนะ เหนือตนเอง เอาใจช่วยนะครับ.


เจริญพร
พุทธฏีกา.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร