วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 08:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 16:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 15:05
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันอยู่กินกับสามี 7 มาปีกว่า และมีลูกด้วยกัน 1 คน (ตอนนี้อายุ 3 ขวบ) ก.ย.54 สามีบอกเลิก จากนั้น 1 เดือนสามีมีแฟนใหม่ ตั้งแต่สามีบอกเลิกมาถึงตอนนี้ประมาณ 7-8 เดือนที่ดิฉันยังอยู่บ้านเดียวกับสามี (เราแยกห้องกันนอน) ส่วนสามีจะออกไปนอนข้างนอนกับแฟนใหม่ในบางคืน ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ดิฉันสับสนมาก ทั้งเสียใจ น้อยใจ และโกรธแค้นผสมกันไป แต่เหตุที่ต้องทนก็เพื่อลูก ปัจจุบันสามีกับแฟนใหม่ยังคบหากันอยู่ สามีดิฉันอยู่ในภาวะว่างงาน (เพราะลาออกจากงานเก่า แต่ยังไม่ได้งานใหม่) ส่วนดิฉันทำงานบริษัท และเป็นคนรับผิดชอบคชจ.ของลูกทั้งหมด (ตั้งแต่ลูกเกิด) ดิฉันรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาตัวเองเหลือเกินที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่สามารถพาลูกย้ายออกมาได้ เพราะติดปัญหาเรื่องคชจ. และต้องฝืนทนเห็นหน้ากัน ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าไม่มีใจให้เราแล้ว เงินที่หามาได้ก็หมดไปกับค่างวดรถและคชจ.ลูก เดือนๆแทบไม่เหลือแถมติดลบ ในขณะที่สามีที่เดินสวนกันในบ้าน ไม่เคยมองหรือถามซักนิดว่า เป็นอย่างไรบ้าง ลูกป่วยก็ไม่เคยถาม

ดิฉันคงโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเอง แต่ดิฉันไม่รู้ว่าจะพาตัวเองฝ่าวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร แน่นอนว่าถ้าดิฉันมีทางไป คงจะรีบพาลูกออกไปโดยเร็วที่สุด แต่โชคชะตาก็ไม่เข้าข้างเสียเลย ส่วนสามีก็ไม่คิดที่จะหยิบยื่นหรือช่วยเหลือ มีแต่ซ้ำให้ดิฉันช้ำใจ และพยายามผลักไสให้ดิฉันย้ายออกไป โดยบอกให้ดิฉันทิ้งลูกไว้ ดิฉันคงทำไม่ได้ ทั้งๆในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าสามีดิฉันจะเจ้าชู้แค่ไหน ดิฉันก็ให้อภัยเสมอ ด้วยเห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน หรือแม้กระทั่งที่ผ่านมา เค้าลงไม้ลงมือ ดิฉันก็ยังให้อภัย

เพราะอะไรทำให้คนที่เคยรักกัน จึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เหตุเพราะเค้ามีคนใหม่ด้วยหรือเปล่า ดิฉันถามตัวเองเสมอ แล้วเพราะอะไรที่เราต้องทน ดิฉันก็ตอบได้แค่ว่าเพื่อลูกและเรายังไม่แข็งแรงพอที่จะออกไปได้

ทุกวันนี้ดิฉันเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างอดทน พยายามใจเย็นเป็นกลาง เลิกงานก็รีบกลับบ้านเลี้ยงลูก เลิกหาเหตุผลแต่เลิกเสียใจไม่ได้ เพราะต้องเห็นหน้ากันทุกวัน แต่ไม่เคยคุยกันหรือแม้แต่มองกัน มันเป็นความทรมานอีกแบบ ที่ดิฉันต้องพบ แล้วเมื่อไหร่ดิฉันจะผ่านพ้นช่วงนี้ไปซักที หรือมันเป็นสิ่งที่เรียกว่าเวรกรรมใช่หรือไม่ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 22:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2011, 12:30
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สักวันเดือนเชื่อว่าคุณต้องผ่าเหตุกาณ์นี้ไปได้ค่ะ เข้าใจความรูสึกค่ะว่าทรมานเอาใจช่วยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2012, 07:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณไม่ได้เล่าถึงที่มาที่ไปว่าเพราะเหตุใดสามีจึงกระทำกับคุณถึงขนาดนี้ เลยวิจารณ์ไม่ถูกค่ะ แต่เท่าที่เล่ามาก็เป็นเรื่องของปัจจุบันแล้ว ถ้าคุณคิดว่าหมดหนทางที่จะกลับมาอยู่เป็นครอบครัวได้เหมือนเดิมแล้ว ก็ต้องทำใจของคุณให้ได้แล้วค่ะ อย่ายื้อ อย่าฝืน ถึงแม้คุณจะต้องทนเห็นหน้ากันทุกวัน แต่เพราะใจคุณที่ยังรักเขาอยู่ คุณจึงเจ็บไม่จบสักที ถ้าเขาเห็นแก่คุณและลูกจริงๆ เขาคงคิดได้แล้วค่ะ ถามตัวเองก่อนค่ะว่า ตัดสินใจขั้นสุดท้ายแล้วหรือยัง ถ้าคุณต้องการอยากออกมากับลูกจริงๆ ต้องเริ่มมองหาทางอื่นแล้วค่ะ ลองมองไปรอบๆตัวสิคะว่า มีญาติที่ไหนที่ยังพอจะพึ่งพิงอีกบ้างไหม ลองปรึกษากับพ่อแม่พี่น้องดูค่ะ เผื่อจะมีทางออกให้คุณได้บ้าง

ชึวิตต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ ขอให้มีจิตใจที่เข้มแข็งและทำให้คุณลุกขึ้นสู้กับชีวิตได้ต่อไปนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2012, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2011, 17:35
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรามีทางเลือกคะ เลือกที่อยู่จมกับความทุกข์ หรือจะเลือกกเดินออกไปหาความสุขคะ แม้บางครั้งเราอาจจะต้องเจอกับความลำบากกาย ลำบากใจในช่วงแรก แต่อีกไม่นานเราจะได้รับความสุขที่เราไม่คาดคิดด้วยตัวเราเองคะ ไม่ใช่เพราะใครคนอื่นที่เขาเห็นแก่ตัว ไม่มีใครรักเราได้เท่ากับเรารักตัวเองหรอกคะ ลองฟังความคิดเห็นหลายๆคนนะคะ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะคะ

.....................................................
ข้าพเจ้าไม่ใช่คนดีมากมาย เป็นแค่คนที่อยากทำความดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2012, 21:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 15:05
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ มีค่าอย่างยิ่งกับการตัดสินใจของดิฉัน

ดิฉันอาจจะเล่าเรื่องได้ไม่ละเอียดมากนัก แต่สำหรับสาเหตุที่สามีบอกเลิกคือ เข้ากันไม่ได้และเบื่อ นี่คือคำพูดจากปากของเค้า รวมทั้งทัศนคติการใช้ชีวิตที่ต่างกัน เค้าชอบสังคม รักสนุก เจ้่าชู้ ประมาณเพลย์บอยค่ะ ส่วนดิฉันเน้นทำงาน เลี้ยงลูก ชอบอยู่กับครอบครัวเป็นหลัก ความต่างมันเกิดตรงนี้ด้วย เค้าชอบอยู่กับเพื่อน ตั้งวงกินเหล้า ดูบอล ส่วนดิฉันถ้ามีเวลามักพาลูกไปทำบุญ ไปเที่ยวธรรมชาติ แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอกค่ะ เพราะมีเวลาน้อย

ทุกวันนี้ดิฉันยังสับสนเรื่องลูกว่า เราควรปล่อยเค้าไว้กับพ่อ หรือจะพาเค้าไปกับเราดี เพราะทางพ่อเค้าจะมีปู่ย่าคอยช่วยดู แต่ถ้าอยู่กับเราก็จะอยู่กันแค่ลำพัง ทั้งดิฉันเองก็ต้องทำงานด้วย พอคิดไปถึงแฟนใหม่เค้าก็กลัวว่าหากเค้าอยู่ด้วยกัน แล้วลูกเราจะเป็นไง สับสนอยู่อย่างนี้ตลอด ส่วนงานใหม่ก็พยายามหาอยู่เรื่อยๆแต่ยังไม่ได้ ใจคิดจะไปแล้วค่ะ แต่โอกาสและโชคยังไม่อำนวย

แต่ไม่รู้จริงๆ่ว่า การที่เราตัดสินใจแบบนี้ ลูกเราจะได้รับผลเสียหรือดีมากกว่ากัน ดิฉันไม่แน่ใจว่าสังคมและคนรอบข้าง จะิคิดว่าดิฉันเห็นแก่ตัวรึเปล่า ที่ไม่ยอมอยู่เพื่อลูก อันนี้คือเหตุที่ทำให้คิดหนัก เพราะแน่นอนว่าถ้าคิดออกไป คงจะไม่หวนกลับมาอีก ขอให้จบแบบจากกันชั่วชีวิตเลยค่ะ เพราะสิ่งที่เค้าทำกับเรามันหนักเกิน ทั้งในเรื่อของความรู้สึกและความรับผิดชอบ อีกอย่างดิฉันคิดว่าเมื่อเค้าหมดใจแล้ว เค้าก็คงจะอยู่อย่างทรมานเหมือนกัน ที่ต้องทนเห็นเรา แทนที่จะเห็นหน้าคนที่เค้ารัก ความรู้สึกคงไม่ต่างกับเรา แต่อยู่ในคนละมุึมเท่านั้น

ฉะนั้นถ้าคนเค้าคู่กัน เราก็คงต้องปล่อยและให้เค้าได้ใช้ชีวิตในรูปแบบของเค้า ทั้งสามีและแฟนใหม่จะได้มองเห็นตัวตนกันมากขึ้น และถึงวันหนึ่งแฟนใหม่จะเข้าถึงสามีในแบบที่เราเจอ คือหาเลี้ยงตัวเอง ดูแลลูก ห้ามหึง ห้ามหวง ห้ามแสดงอาการต่างๆ ปล่อยให้สามีเที่ยวได้ตามใจที่เค้าชอบ กินเที่ยวกับเพื่อนตามชอบใจ แต่หากสามีเค้ารักแฟนใหม่ด้วยใจจริง เค้าก็คงยอมเปลี่ยนตัวเอง เพื่อกลับมาสร้างครอบครัวใหม่ค่ะ ดิฉันคิดแบบนี้

สุดท้ายดิฉันยังมีกำลังใจดีๆที่ได้จากเพื่อน และคนรอบข้าง ที่บอกให้ดิฉันสู้และอดทน เพื่อฝ่ามันไปให้ได้ แต่ทางออกที่ชั้นจะเจอยังไม่รู้ว่าจะถึงตอนไหน หวังว่าคงจะไม่เหนื่อยซะก่อน

ขอบคุณนะคะ สำหรับทุกกำลังใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2012, 10:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: (ขอบพระคุณปรมาจารย์ทุกกระทู้ที่ได้ให้ข้อความดีๆ มาสร้างสรรแก่เพื่อนสมาชิก)
ธรรมชาติ.jpg
ธรรมชาติ.jpg [ 59.32 KiB | เปิดดู 3841 ครั้ง ]
เป็นอย่างไรบ้างคะ คุณ napat_orun วันนี้กับการผ่าวิกฤตของชีวิตคู่

ดิฉันอ่านกระทู้ของคุณแล้ว รู้สึกว่าคุณเองก็เก่งนะคะที่สามารถดูแลลูกได้ดีขนาดนี้


อ้างคำพูด:
ดิฉันยังอยู่บ้านเดียวกับสามี (เราแยกห้องกันนอน) ส่วนสามีจะออกไปนอนข้างนอนกับแฟนใหม่ในบางคืน ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ดิฉันสับสนมาก ทั้งเสียใจ น้อยใจ และโกรธแค้นผสมกันไป แต่เหตุที่ต้องทนก็เพื่อลูก ปัจจุบันสามีกับแฟนใหม่ยังคบหากันอยู่


ดีนะคะ ที่เขายังไม่เอาผู้หญิงใหม่เข้าบ้าน อย่าพึ่งเสียใจหรือน้อยใจให้มากกว่านี้
เพราะคุณยังมีสิทธิ์ที่จะเดินอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่าผู้หญิงคนนั้น
ถึงจะทนเพื่ออะไรก็ตามที่ทำให้คุณยังทุกข์อยู่ แต่เชื่อเถอะค่ะ ผู้หญิงคนนั้นเขาก็ทุกข์
ไม่น้อยกว่าคุณ ซ้ำยังแย่กว่าตรงที่มีบาปติดตัวอยู่ด้วย


อ้างคำพูด:
สามีดิฉันอยู่ในภาวะว่างงาน (เพราะลาออกจากงานเก่า แต่ยังไม่ได้งานใหม่) ส่วนดิฉันทำงานบริษัท และเป็นคนรับผิดชอบคชจ.ของลูกทั้งหมด (ตั้งแต่ลูกเกิด) ดิฉันรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาตัวเองเหลือเกิน


ดิฉันยังไม่เห็นว่าคุณ napat_orun จะต้องน้อยใจในโชคชะตาตัวเองแต่อย่างใดเลย
เพราะคุณสามารถส่งเสียเลี้ยงดูลูกได้ตั้งแต่เขาเกิดจนวันนี้ โดยที่สามีไม่ได้ช่วยด้วยซ้ำ
คุณ napat_orun ได้ทำหน้าที่ของคนเป็นแม่ได้ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงเราๆด้วย
และดิฉันไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องย้ายออกจากบ้าน เพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายที่ดูแลลูก
เพราะคุณเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่งที่จ่ายทั้งให้ลูก ค่าผ่อนรถ
แต่ก็เป็นอุทธาหรณ์ของคนเป็นภรรยาท่านอื่นๆด้วยนะคะ
เมื่อแต่งใหม่ๆขณะที่เรายังมี POWER ต่อรอง
ต้องให้ฝ่ายชายเป็นผู้ช่วยผิดชอบช่วยตั้งแต่ต้น หรือให้รับทั้งหมดเลยดีที่สุด
น้อมรับความกรุณาจากสามีตั้งแต่แรกดีกว่าแสดงออกว่าฉันทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้
หรือใช้เงินคนละกระเป๋า และให้ดีที่สุดคือให้เขาช่วยเลี้ยงลูก
อย่าไปคิดว่า การเลี้ยงลูกหรือดูแลเด็กเป็นหน้าที่ของผู้หญิงล้วนๆ

ผู้ชายที่ชงนมให้ลูกและเช็ดอุจจาระให้ลูกตั้งแต่เกิดจะมีความผูกพันกับลูกโดยไม่รู้ตัว
จะทำให้เขาเกิดสัญชาตญาณแห่งการเป็นพ่อขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ

ในเมื่อกรณีคุณ napat_orun ผ่านมาแล้ว การจะไปเรียกร้องทีหลังก็เป็นเรื่องยาก
แต่อย่าลืมว่าเด็กอายุ 3 ขวบกำลังน่ารักน่าชัง ลองให้เขาใกล้ชิดพ่อเขาให้มากขึ้นสิคะ
คุณ napat_orun อยู่กับสามีมานานพอควร ก็ย่อมรู้ทางหนีทีไล่ในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเขาอยู่แล้ว
คนที่ตอบกระทู้คุณ napat_orun ไม่สามารถรู้ดีไปกว่าคุณหรอก
ดิฉันขอเอาใจช่วยด้วยใจจริงนะคะ ดิฉันไม่เห็นด้วยที่คุณจะย้ายออกหรือทิ้งลูกไว้
ที่สำคัญ อย่าให้ผู้ชายมีโอกาสลงไม้ลงมือกับเราได้อีก หลีกเลี่ยงได้ก็หลีก
เพราะอย่าไปหวังว่า การอภัยหรือความดีของเราจะทำให้ผู้ชายจะเลิกทำร้ายคู่ชีวิต
ปกป้องตัวเองไม่ได้ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้เกิดเหตุการณ์นี้นะคะ
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร