วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 01:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2012, 10:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาวเอยจะบอกให้ เป็นโสดก็มีสุขดีกว่าทุกข์เพราะมีคู่

ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆ ครับ… ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก เพราะช่วงอายุขัยของวัยสาว เริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัยสามสิบ…วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลขแห่งความสะเทือนขวัญ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก…หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย…ถือเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธ ที่ชอบถามว่า " ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด " เฉลย " ปาเข้าไปสามสิบ ยังไม่มีผัว " …ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย

ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนาว่า " อย่าริรักในวัยเรียน " " ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี จบแล้วค่อยมีแฟน " ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือ มีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตา ก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท " รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน " ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษา…เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน

เพื่อนสาวคนหนึ่งหลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง "เลือกสรร - ควานหา" ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟค อย่างวิลลี่ แมคอินทอทหรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึม ถึงจะได้มาตรฐาน…ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์ อย่าได้สเออะหน้ามาให้เห็น… ไม่มีทางได้แอ้มหรอก

จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลาผ่านไป… เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน - เจ้านายก็มีเมียแล้ว…ไม่อยากตกเป็นภรรยาบุญธรรม สองคนดันเป็นเกย์…อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า…คนสุดท้ายเป็นชายแท้ แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่ ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม…นั่งรถมาทำงาน ก็สองชั่วโมงครึ่ง – กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึงบ้านหมดสิ้นกำลัง ขอนอนเอาแรงก่อน ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือสถาบันการศึกษาที่เธอจบมา… แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชายดีๆ ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อ แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิท เป็นที่เรียบร้อย…แหม ! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง…ตื่นพอดี เจอโลกแห่งความจริง

ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ จากเพื่อนๆ เริ่มทยอยมา ตามหลังซองกฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล…พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า "เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ" … "โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ ยังงงๆ เรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย" เอ๊ะ…เกี่ยวอะไรกัน!…ในใจก็คิดว่า " ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบา_ใครรึเปล่า"

เคยตั้งคำถามกันไหม…ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย !)…คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย…

" อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา " …รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา
" รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) " …ผมกลัวมาช่วยผลาญเงินมากกว่า
" อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ "…เกิดได้ลูกแล้ว จะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ
" โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ "…เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุน ฯลฯ ๆๆๆๆๆ

อันว่า " ชีวิตคู่ " อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?

ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกันและกัน ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้ว ครึ่งหนึ่งของชีวิตเราจะหายไป ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ว่างนั้น ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หาย ก็มิได้สูญสลายไปไหน มันก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง

จุดมุ่งหมายของการแต่งงานคือการใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น

เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้ว มีแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ก็ไม่รู้ว่าจะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหน… อยู่คนเดียวมันส์กว่า

ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามี ภรรยาต้องมีส่วน อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน ชีวิตภรรยาถ้าไม่คิดเอาดี ในทางโลกก็เจริญในทางธรรม กำลังใจต้องได้จากสามีเช่นกัน อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์ มาสุมเพิ่ม…ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า เล่นการพนัน โกงบ้านกินเมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น

เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ

หนึ่ง – สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
สอง – คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า

เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน…หาใช่เป้าหมายเพื่อการเสริม เพิ่มความเสียว…เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา

ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด - ถือคติประจำใจว่า
" อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว " :b41:


By: นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2012, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยกับคุณปลีกวิเวกเลยค่ะ จริงทุกอย่าง พูดถูกทุกอย่างเลยค่ะ (เอ..ทำไมคุณปลีกวิเวกไม่เตือนดิฉันก่อนน้า...อิอิ) เขาถึงว่า ชีวิตคู่เนี่ย คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า คนที่ไม่เคยมีไม่เคยแต่ง ก็ไม่รู้หรอกค่ะ ล้วนแล้วอยากลองอยากรู้ สุดท้ายถ้าได้คู่ดีก็โชคดีไป แต่ถ้าได้คู่เลว ชีวิตก็พัง แต่เห็นส่วนใหญ่มักถูก(หวย)กินกันระนาว

แต่ทุกข์ไม่มี สติปัญญาก็ไม่เกิด ปัญหามีไว้ให้เราแก้ไข ไม่ใช่ให้มาตรอมตรมอย่างเดียว ถ้าพูดแบบทางโลกแบบดิฉัน ก็อยากจะบอกว่า คนบางคนใช้...ในทางที่ก่อกรรมทำชั่ว ถ้ารู้ตัวแล้วแก้ไข นั่นคือ คนดี สมควรให้อภัย แต่คนที่ดีแต่แก้ตัว อันนี้เรียกคนจัญไร ก็รอเวรกรรมมันตามสนองละกัน

สาวใดที่ยังเป็นโสด คนนั้นก็จะมีแต่ความเหงา ยังไม่มีความทุกข์ เพราะที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แล้ววิธีคลายเหงานั้นมีหลายวิธีและง่ายกว่า แต่ความทุกข์นั้นคลายยากกว่า กว่า(บางคน)จะดับมันได้อาจใช้เวลานาน

ยึดมั่นถือมั่นในจริยธรรม ศีลธรรมกันดีกว่าค่ะ ช่วยกันจรรโลงสังคมเราให้น่าอยู่ขึ้นอีกนิดนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2012, 08:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มะกอกมะนาว เขียน:
เห็นด้วยกับคุณปลีกวิเวกเลยค่ะ จริงทุกอย่าง พูดถูกทุกอย่างเลยค่ะ (เอ..ทำไมคุณปลีกวิเวกไม่เตือนดิฉันก่อนน้า...อิอิ) เขาถึงว่า ชีวิตคู่เนี่ย คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า คนที่ไม่เคยมีไม่เคยแต่ง ก็ไม่รู้หรอกค่ะ ล้วนแล้วอยากลองอยากรู้ สุดท้ายถ้าได้คู่ดีก็โชคดีไป แต่ถ้าได้คู่เลว ชีวิตก็พัง แต่เห็นส่วนใหญ่มักถูก(หวย)กินกันระนาว

แต่ทุกข์ไม่มี สติปัญญาก็ไม่เกิด ปัญหามีไว้ให้เราแก้ไข ไม่ใช่ให้มาตรอมตรมอย่างเดียว ถ้าพูดแบบทางโลกแบบดิฉัน ก็อยากจะบอกว่า คนบางคนใช้...ในทางที่ก่อกรรมทำชั่ว ถ้ารู้ตัวแล้วแก้ไข นั่นคือ คนดี สมควรให้อภัย แต่คนที่ดีแต่แก้ตัว อันนี้เรียกคนจัญไร ก็รอเวรกรรมมันตามสนองละกัน

สาวใดที่ยังเป็นโสด คนนั้นก็จะมีแต่ความเหงา ยังไม่มีความทุกข์ เพราะที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แล้ววิธีคลายเหงานั้นมีหลายวิธีและง่ายกว่า แต่ความทุกข์นั้นคลายยากกว่า กว่า(บางคน)จะดับมันได้อาจใช้เวลานาน

ยึดมั่นถือมั่นในจริยธรรม ศีลธรรมกันดีกว่าค่ะ ช่วยกันจรรโลงสังคมเราให้น่าอยู่ขึ้นอีกนิดนะคะ


สวัสดีค่ะ คุณมะกอกมะนาว

ปลีกวิเวกไม่ได้พูดเองค่ะ เจ้าของบทความเป็นผู้พูดและเขียนไว้ เมื่ออ่านแล้วเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ สมาชิกที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ปลีกวิเวกจึงนำมาลงให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันน่ะค่ะ.. :b1:

จากที่คุณมะกอกมะนาวแสดงความเห็นไว้บางตอน แสดงให้เห็นว่าเริ่มมองเห็น สัจจธรรม แล้วใช่ไหม
ชีวิตเป็นอย่างนี้เอง การเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันกับสิ่งใดมากย่อมต้องยุ่งยากมากขึ้นหรือเรียกว่า ทุกข์
มากขึ้นนั่นเองและเหตุของทุกข์ก็คือความดำริของเราเอง(ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ฯลฯ)
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าความทุกข์เกิดจากสาเหตุใด รู้แต่ว่าทุกข์ ก็พยายามดิ้นรนหนีทุกข์ แล้วไปหา
คน วัตถุ สิ่งของ มาทดแทนโดยคิดว่าจะทำให้เป็นสุข...มองออกไปนอกตัวตลอดเวลาไม่เคยมองกลับ
เข้ามาค้นหาตัวเองว่าจริง ๆ แล้วตนทุกข์เพราะเหตุใด...มองเห็นแต่ความไม่ดี ความผิด
ความบกพร่องของคนอื่นแล้วคิดเข้าข้างตัวเองตลอดเวลาว่าเรานี่ทำดี คิดดี พูดดีแล้วก็เป็นอันว่าไม่มีข้อเสียเลยนี่แหละคนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้..... :b12:

ที่พูดไปทั้งหมดนี่ ปลีกวิเวก เองแหละ! แต่ก่อนเป็นอย่างนี้เป็นมากๆๆ (อัตตามันโต)
แต่เดี๋ยวนี้ก็ขัดเกลาไปได้บ้างแต่ก็ยังมีอยู่...ก็ต้องพยายามต่อไปเกิดเป็นคนต้องอดทน
ที่พูดมาทั้งหมดนี่ก็อยากจะบอกว่า พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มุ่งเน้นให้เราพัฒนาชีวิตและจิตใจ
แก้ไขตัวของเราเองก่อนที่จะไปแก้ไขหรือพัฒนาใคร ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตนให้ได้ก่อน จึงจะ
ทำตนให้เป็นที่พึ่งของคนอื่นได้อีกด้วย :b41:

ยังไงก็ขอให้คุณมะกอกมะนาวมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ :b53:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร