วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2011, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 10:33
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ไม่นานค่ะ คือตอนนี้กำลังพยายามตัดใจจากคนรักเก่าให้ได้ค่ะ ซึ่งคนนี้คบกันมาเกือบ 7 ปี ก่อนที่เราจะเลิกกัน เราไม่ได้ติดต่อกันเลยในระยะเวลาเกือบ 3 ปี ซึ่งในช่วงที่คบกันมีแต่ความทุกข์มากกว่าสุข แล้วที่เลิกกันเพราะเค้ามีคนใหม่ กว่าจะทำใจได้ก็แทบแย่เหมือนกัน แต่ก็ผ่านมันมาได้ แต่เมื่อเดือนที่แล้วเค้ากลับติดต่อมาอีก บอกว่าขอโทษกับสิ่งที่เค้าทำไป และหากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็บอก เค้ายินดี เราเลยลองใจ ขอให้เค้าช่วย แต่เค้ากลับไม่ช่วยอยากที่บอกไว้ ก็เลยไม่รู้วัตถุประสงค์ของเค้าว่าเค้ากลับมาเพราะอะไร เพราะเราคิดว่าถ้ากลับมาแบบบริสุทธิ์ใจจริงก็ควรจะทำอย่างที่บอก แต่เราจะคุยกันแบบพี่น้องนะค่ะ เพราะเค้ามีครอบครัวใหม่แล้ว แต่ตอนนี้เราเริ่มรู้สึกตัวว่า เรายังตัดใจจากคนนี้ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกเราคิดว่าตัดไปได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่ช่วง 3 ปี มานี้ เรามีความสุขกับชีวิตของเรา แต่พอเค้ากลับมา มันเหมือนย้อนรอยความทรงจำ กลับคืนมาอีก ไม่อยากเป็นทุกข์อย่างในอดีต บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเค้าทำกับเราขนาดนี้แล้ว ชีวิตเค้าทำไมยังอยู่ดีมีสุข ทำไมเค้าไม่ได้รับผลกรรมที่เค้าทำกับเรา บางครั้งเราก็คิด เค้ามีความสุขก็ดีแล้ว ชีวิตเค้าก็ผ่านเรื่องเลวร้าย ๆ มาเยอะแล้ว ก็พยายามคิดว่า ช่างเค้าเถอะชีวิตเค้าจะมีทุกข์หรือสุขก็ไม่เกี่ยวกับเรา บางครั้งเราก็อยากถามเค้ามาก ว่ากลับมาทำไม สู้ไม่กลับมาเลย ยังจะดีเสียกว่า แต่เราคิดว่าเราจะไม่ติดต่อกับเค้าอีกแล้ว ยิ่งรู้ว่าเค้ามีครอบครัวแล้วเราไม่อยากไปยุ่ง ถึงแม้จะบอกว่าคบเป็นพี่เป็นน้องกันก็ตาม อีกอย่างเรากลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ เราไม่อยากกลับไปเสียใจอีก เพราะรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน ตอนนี้ก็พยายามจะไม่คิดให้ใจฟุ้งซ่าน คิดว่าก่อนที่เค้าจะกลับมาเรามีความสุขยังไง เราต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิมให้ได้ แต่แปลกใจเหมือนกันว่าเค้ากลับมาไม่นาน ทำไมทำให้ใจเราวุ่นวายได้ถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านั้นเราใช้เวลาตั้งนานกว่าใจเราจะสงบลง ตอนนี้คงถึงเวลาที่เราจะต้องทำใจให้เราสงบลงเหมือนเดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


มันเป็นเพียงแค่ความคิดที่จรเข้ามาในหัวสมอง ลองดูไปรอบตัวซิไม่เห็นมีเขาอยู่เขาไม่ได้ปรุงแต่งอะไรให้เราสักหน่อยเรานั่นแหละที่ปรุงแต่งเอง มันเป็นรูปภาพที่ปรากฎขึ้นทางใจไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนเอามือจับก็ไม่ได้เป็นเพียงนามธรรม ให้มันคิดอยู่แต่อย่างเดียวก็ไม่ได้มันต้องแปลภาพไปต่างนาๆเพราะมันไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ถูกการปรุงแต่งหลอกลวงเพราะไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจัง เอาปัจจุบันอดีตอนาคตดับหมด เอาปัจจุบันธรรม

เอาใหม่วิธีปฏิบัติคือ ดูกายว่าเรากำลังทำอะไร เช่น เดิน ยืน นั่ง นอน หันซ้าย ขวา ก้ม ขยับขา ขยับนิ้ว หายใจเข้าหรือออก ตั้งฐานของสติขึ้นมาให้อยู่ในฐานแห่งกาย อย่าส่งจิตออกนอกฐานเพราะความคิดปรุงแต่งจะเข้าแทรก จะทำให้เกิดทุกข์มาก ทำด้วยความขยันมุ่งมั่นว่าสักวันเราจะต้องหมดทุกข์ให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2011, 00:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 10:33
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำชี้แนะ จะนำคำแนะนำไปปฎิบัติค่ะ แต่มีข้อสงสัย จะรบกวนถามนิดนึงค่ะ เกี่ยวกับการปรุงแต่งหลอกลวงค่ะ ว่ามันเป็นเรื่องของจิตเราที่คิดปรุงแต่งเองไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ใช่หรือเปล่าค่ะ หมายถึงเราไม่ได้อยู่กับปัจจุบันอย่างนั้นใช่ไหมค่ะ มันเป็นคนละเรื่องกับการปล่อยวางหรือเปล่าค่ะ แล้ววิธีปฎิบัติ คือดูว่ากายเราทำอะไร ถ้าเริ่มจากการนั่งสมาธิได้หรือเปล่าค่ะ เพราะช่วงนี้ก็เริ่มนั่งสมาธิบ้าง แต่ก็ไม่ได้นั่งทุกวันค่ะ ช่วงที่ทำก็สงบบ้าง ฟุ้งซ่านบ้าง แต่บางครั้งไม่อยากคิดอะไรก็เลยนั่งไปพร้อมกับฟังธรรมะค่ะ แต่พอไม่ได้นั่งสมาธิ อย่างเช่นไปทำงานบ้าน ใจก็ฟุ้งอีก ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าสติยังไม่อยู่กับปัจจุบันพอใช่ไหมค่ะ และมีข้อสงสัยเพิ่มเติมค่ะว่า เราควรปล่อยจิตให้คิด แล้วเราตามดู กับ บังคับจิตไม่ให้คิด เราควรทำอย่างไรดีค่ะ ต้องรบกวนถามผู้รู้ให้ทานความรู้แก่คนไม่รู้ด้วยค่ะ อาจจะมีคำถามมากสักหน่อยเพราะยังไม่เข้าถึงธรรม รบกวนขอคำชี้แนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2011, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


เพื่อน เขียน:
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำชี้แนะ จะนำคำแนะนำไปปฎิบัติค่ะ แต่มีข้อสงสัย จะรบกวนถามนิดนึงค่ะ เกี่ยวกับการปรุงแต่งหลอกลวงค่ะ ว่ามันเป็นเรื่องของจิตเราที่คิดปรุงแต่งเองไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ใช่หรือเปล่าค่ะ หมายถึงเราไม่ได้อยู่กับปัจจุบันอย่างนั้นใช่ไหมค่ะ มันเป็นคนละเรื่องกับการปล่อยวางหรือเปล่าค่ะ แล้ววิธีปฎิบัติ คือดูว่ากายเราทำอะไร ถ้าเริ่มจากการนั่งสมาธิได้หรือเปล่าค่ะ เพราะช่วงนี้ก็เริ่มนั่งสมาธิบ้าง แต่ก็ไม่ได้นั่งทุกวันค่ะ ช่วงที่ทำก็สงบบ้าง ฟุ้งซ่านบ้าง แต่บางครั้งไม่อยากคิดอะไรก็เลยนั่งไปพร้อมกับฟังธรรมะค่ะ แต่พอไม่ได้นั่งสมาธิ อย่างเช่นไปทำงานบ้าน ใจก็ฟุ้งอีก ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าสติยังไม่อยู่กับปัจจุบันพอใช่ไหมค่ะ และมีข้อสงสัยเพิ่มเติมค่ะว่า เราควรปล่อยจิตให้คิด แล้วเราตามดู กับ บังคับจิตไม่ให้คิด เราควรทำอย่างไรดีค่ะ ต้องรบกวนถามผู้รู้ให้ทานความรู้แก่คนไม่รู้ด้วยค่ะ อาจจะมีคำถามมากสักหน่อยเพราะยังไม่เข้าถึงธรรม รบกวนขอคำชี้แนะค่ะ

ขออนุโมทนาคุณโยม tonnk

ขอสนทนาด้วยนะครับ ถูกแล้วครับเมื่อจิตหรือสติไม่ได้ตั้งอยู่ในขณะปัจจุบัน ก็จะหลงเข้าไปรู้ในเรื่องที่ผ่านไปแล้วอาศัยสัญญาทั้ง ๖ รูปสัญญา สัทธะ(เสียง)สัญญาฯลฯ ธรรมสัญญา(จำอารมณ์เรื่องราว)ความคิดนึกที่ผ่านไปแล้วนั้นๆ ได้นี่คืออดีตอารมณ์ อีกอย่างหนึ่งคือหลงไปปรุงแต่งไปวิตกตรึกในอนาคต ในสิ่งทีี่่ยังมาไม่ถึง วิตกตรึกเกี่ยวกับตัวเราตัวเขา อะไรทำไมที่ไหนอย่างไรกับใคร ฯลฯ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เรียกว่าจิตเราคิดปรุงแต่งขึ้นอาศัยสังขารปรุงแต่งไปต่างๆ นาๆ ล่วงหน้าไปก่อน

เบื้องต้นการได้สติสัมปชัญญะอยู่กับกายกับใจ คือรู้เห็นกาย รู้เห็นใจที่เขาคือร่างกายที่มีเลือดเนื้อเอ็นกระดูกมีอาหารเก่าอาหารใหม่มีหนังหุ้มอยู่ภายใน กำลังเคลื่อนไหวในอริยบถต่าง ๆ ทำอะไรก็คอยรู้สึกตัวที่ยืน ตัวที่เดิน ตัวที่นั่ง ตัวที่นอน ตัวที่เหม็น ทั้งตัวในนี้และตัวในภายนอกก็เหมือน ๆ กันแปลกที่จะไปยึดไปถือสำคัญผิด ว่างามว่าเที่ยงเพราะความไม่รู้ปกปิดแบบนี้ก็คือรู้กาย

หากตอนสงสัยและรู้ทันความสงสัยเห็นจิตกำัลังคิด ไม่ใช่รู้ลงไปในเรื่องราวที่จิตคิดเช่น สงสัยว่าควรปล่อยจิตคิด หรือบังคับไม่ให้คิดอย่างนี้ หากไม่รู้เนื้อรู้ตัวเห็นใจไม่ชัด(เพราะจิตใจเป็นของละเอียด)ส่วนใหญ่ก็จะหลงคิดเสียมากกว่า หากเห็นใจชัดเจน เห็นใจคิดนึก ใจกำลังตรองตรึกจดจ่อ อย่างไร ก็เห็นในปัจจุบันอย่างนี้ ไม่หลงไม่เผลอ ก็เรียกว่ารู้ใจ

ข้อสำคัญของการปฏิบัติคือเข้าใจก่อนไปแต่ต้นว่า รูปนาม กายใจนี้ มีสภาพแปรปรวนเปลี่ยนแปลงเป็นทุกข์ บังคับบัญชาไม่ได้ การเริ่มต้นที่ฐานกาย มีสติอยู่ที่กายอย่างต่อเนื่อง จนตัดข่มอกุศลวิตก ตรึกนึกคิด ในอารมณ์ภายในภายนอก ในอดีตในอนาคต เกี่ยวข้องกับสัตว์ตัวตนบุคคลเหล่านั้น หากมีก็เผลอก็เพียงสักว่ารู้ว่าเผลอว่ามี แล้วกลับมาตั้งสติอยู่ในฐานกายใหม่ ดูอริยบถต่าง ๆ เห็นกายทำงาน ตั้งอยู่ที่ปัจจุบัน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นให้เกิดสติสมาธิเท่านั้นเมื่อเกิดความชำนาญ เห็นกายจัดเจน จิตที่หลงที่เผลอก็จะปรากฏให้เห็นได้โดยง่าย เมื่อเริ่มเห็นตามความเป็นจริงได้ว่า อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด กระแสความปรุงแต่งต่าง ๆ ล้วนไม่เที่ยงแท้ เป็นทุกข์ทั้งสิ้น บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่อัตตาตัวตน เห็นความเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ของเวทนาบ้าง ของจิตบ้าง ของทั้งกายและจิตบ้าง(ธรรม) ก็จะค่อย ๆ คลายความเห็นผิดและปล่อยวางความยึดถือ ในกาย ในเวทนา ในจิต ในธรรม หรือรูปนามตัวตนบุคคลนี้ลงไปได้ อารมณ์เก่าอารมณ์ใหม่ปรากฏขึ้นก็เพียงเป็นอุปกรณ์ในการเรียนรู้ สภาพธรรมตามความเป็นจริงปราศจากสัตว์ัตัวตนบุคคลเจริญพร

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2011, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ พระอาจารย์ท่านขยายความให้แล้ว หรือไม่ก็ดูมหาสติปัฏฐานสูตร

ทำง่ายๆนั่นแหละแต่ว่าต้องอาศัยการทำบ่อยๆฝึกฝนบ่อยๆ กำหนดกายอย่างเดียวก็ได้ตัดกิเลสตัดสังโยชน์ได้เหมือนกัน

ถ้ามัวแต่นั่งคิดบางครั้งมันก็ไม่ได้คำตอบ ถ้าลงมือปฏิบัติจะได้คำตอบมากกว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 23:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 10:33
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบอนุโมทนาบุญค่ะ ขอน้อมนำไปปฎิบัติตามค่ะ
จากวันนั้น ถึงวันนี้ รู้สึกได้ว่าใจสงบลงขึ้นตามเวลา ใจเริ่มนิ่งขึ้น ไม่พยายามหาคำตอบ หรือเหตุผลใด ๆ จากการกระทำของเขา เพราะมันจะทำให้เราหมกมุ่นอยู่กับความคิดนั้น พยายามไม่คิดถึงเรื่องอดีต ถ้าหลงไปคิด ก็รู้ว่าหลง แล้วกลับมาอยู่กับปัจจุบัน คิดในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ และขออโหสิกรรมทุก ๆ สิ่ง ที่ทำร่วมกันมา ถ้าเรายึดติดมาก เราก็ทุกข์มาก ถ้าเรายึดติดน้อย เราก็ทุกข์น้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังทำได้ไม่ดีเท่าไร แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำ และเชื่อว่าสักวันตะกอนเหล่านี้ มันจะนอนนิ่งเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาสาธุ ที่สุดทุกข์ที่สุดคิด :b46:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2011, 17:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดีค่ะ คุณจขกท

:b41: องค์พระศาสดาตรัสว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" ....
และสิ่งนี้เป็นสัจจธรรมที่ไม่เนื่องด้วยกาลเวลา :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2011, 11:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2011, 11:19
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


มีปัญหาเหมือนเจ้าของกระทู้เลยค่ะ เพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่นาน(วันที่ 3 มิ.ย. ) คบกันมา 6-7 ปีแล้วครั้งนี้เลิกเป็นครั้งที่ 2แล้วค่ะ คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะเขาไม่ง้อเลย ให้เหตุผลว่ารักคนเดิมอยู่ (คนที่เป็นสาเหตุให้เลิกกันครั้งแรก) และบอกเราว่าตอนที่กลับมาคบกับเราใหม่ 2 ปี หลัง ไม่มีความสุขและไม่ได้รักเราเลย แค่สงสารเท่านั้น ล้มทั้งยืนค่ะ ทั้งๆที่เราไม่ได้ไปง้อให้เขากลับมาหาเราซะหน่อย ผู้ชายแบบนี้ก็มีด้วยแฮะ ได้แต่ปลอบใจตัวเองค่ะ ไม่รู้จะทำยังไง เวลาผ่านไปหลายวันแล้ว ทำไมถึงแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งที่ควรจะน่าดีขึ้นเรื่อยๆ ลืมไม่ได้เลย ยังวนเวียนเห็นแต่หน้าเขาลอยไปลอยมา ทำงานก็ไม่มีกระจิตกระใจทำ ทั้งๆที่เตรียมใจไว้แล้วว่าก่อนจะมาคืนดีกับเขาว่า สักวันมันจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้วก็จริงๆค่ะ เราทำดีกับเขามากจนสูญเสียความเป็นตัวเองไปเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ทำลายมันลงแค่คำพูดไม่กี่ประโยค เขาเป็นคนอารมขึ้นๆลงๆ หงุดหงิดง่าย บอกเลิกเราไปเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เรายังทำใจไม่ได้เลยโทรไปหาเขา แล้วเขาก็มีอารมโมโหร้ายมาก ด่าทอเราเสียๆหายๆ น่าแปลกมาก ตอนที่กลับมาคบกันใหม่ 2 ปีหลัง เรากับเขาร่วมกันทำบุญสร้างกุศลด้วยกันเสมอๆ มีความสุขใจมากในการทำบุญ เราเป็นฝ่ายพาไปตลอด ไม่น่าเชื่อเลยว่าบุญกุศลที่เราสร้างมาด้วยกัน มันไม่ได้ซึมซับเข้าไปในจิตใจเขาเลย ซึ่งควรจะลาจากกันด้วยดี ไม่ควรจะทำลายจิตใจกันด้วยคำพูดแบบนี้เลย ทั้งๆที่เราจะไปอยู่แล้ว ...เฮ้อ เวรกรรมอะไรไม่รู้ ถึงเจอแต่ผู้ชายที่ชอบเอาเปรียบเราตลอดเวลา...สภาพจิตใจแย่มากค่ะ สับสนไปหมด..อยากลืมอยากตัดใจแต่ยากจริงๆค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2011, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


http://larndham.org/index.php?/topic/41763-%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B9%88/page__pid__766745__st__0&#entry766745

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 22:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 10:33
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


ปลีกวิเวก เขียน:
tongue สวัสดีค่ะ คุณจขกท

:b41: องค์พระศาสดาตรัสว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" ....
และสิ่งนี้เป็นสัจจธรรมที่ไม่เนื่องด้วยกาลเวลา :b41:



ขอบคุณมากค่ะ ทำให้เข้าใจขึ้นมากเลยค่ะว่าเหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้เราทุกข์เพราะอะไร แม้เวลามันจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ไม่มีผลอะไร ถ้าเรายังยึดติดว่ารักอยู่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 22:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ค. 2011, 10:33
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


lowdown เขียน:
มีปัญหาเหมือนเจ้าของกระทู้เลยค่ะ เพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่นาน(วันที่ 3 มิ.ย. ) คบกันมา 6-7 ปีแล้วครั้งนี้เลิกเป็นครั้งที่ 2แล้วค่ะ คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะเขาไม่ง้อเลย ให้เหตุผลว่ารักคนเดิมอยู่ (คนที่เป็นสาเหตุให้เลิกกันครั้งแรก) และบอกเราว่าตอนที่กลับมาคบกับเราใหม่ 2 ปี หลัง ไม่มีความสุขและไม่ได้รักเราเลย แค่สงสารเท่านั้น ล้มทั้งยืนค่ะ ทั้งๆที่เราไม่ได้ไปง้อให้เขากลับมาหาเราซะหน่อย ผู้ชายแบบนี้ก็มีด้วยแฮะ ได้แต่ปลอบใจตัวเองค่ะ ไม่รู้จะทำยังไง เวลาผ่านไปหลายวันแล้ว ทำไมถึงแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งที่ควรจะน่าดีขึ้นเรื่อยๆ ลืมไม่ได้เลย ยังวนเวียนเห็นแต่หน้าเขาลอยไปลอยมา ทำงานก็ไม่มีกระจิตกระใจทำ ทั้งๆที่เตรียมใจไว้แล้วว่าก่อนจะมาคืนดีกับเขาว่า สักวันมันจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้วก็จริงๆค่ะ เราทำดีกับเขามากจนสูญเสียความเป็นตัวเองไปเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ทำลายมันลงแค่คำพูดไม่กี่ประโยค เขาเป็นคนอารมขึ้นๆลงๆ หงุดหงิดง่าย บอกเลิกเราไปเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เรายังทำใจไม่ได้เลยโทรไปหาเขา แล้วเขาก็มีอารมโมโหร้ายมาก ด่าทอเราเสียๆหายๆ น่าแปลกมาก ตอนที่กลับมาคบกันใหม่ 2 ปีหลัง เรากับเขาร่วมกันทำบุญสร้างกุศลด้วยกันเสมอๆ มีความสุขใจมากในการทำบุญ เราเป็นฝ่ายพาไปตลอด ไม่น่าเชื่อเลยว่าบุญกุศลที่เราสร้างมาด้วยกัน มันไม่ได้ซึมซับเข้าไปในจิตใจเขาเลย ซึ่งควรจะลาจากกันด้วยดี ไม่ควรจะทำลายจิตใจกันด้วยคำพูดแบบนี้เลย ทั้งๆที่เราจะไปอยู่แล้ว ...เฮ้อ เวรกรรมอะไรไม่รู้ ถึงเจอแต่ผู้ชายที่ชอบเอาเปรียบเราตลอดเวลา...สภาพจิตใจแย่มากค่ะ สับสนไปหมด..อยากลืมอยากตัดใจแต่ยากจริงๆค่ะ



เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เราเข้าใจความรู้สึกค่ะ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะค่ะ ไม่ได้มีเราคนเดียวที่เป็นแบบนี้ มีอีกตั้งหลายคนที่เจอสภาพแบบนี้ หรือบางคนอาจเลวร้ายกว่านี้ตั้งเยอะ แต่อยากให้มองว่าเค้าก็ผ่านมาได้ทั้งนั้น เราทำตัวเองให้มีคุณค่าดีกว่าค่ะ ถ้ารักแล้วทุกข์ ก็ไม่ต้องรักดีกว่ามั้ยค่ะ พยายามอย่าโทรหาเค้าเลยค่ะ อย่าหลอกตัวเองอีกเลยค่ะ จบแบบเจ็บ ๆ วันนี้ ดีกว่าต้องเจ็บไม่รู้จักจบ รู้ว่าแรก ๆ มันทำยาก แต่เชื่อว่าทำได้ค่ะ ช่วงนี้ถ้าฟุ้งซ่านอย่าอยู่คนเดียวนะค่ะ พยายามหาอะไรทำ พยายามอยู่กับปัจจุบันค่ะ อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ส่วนอนาคตก็เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่าเอามาคิดให้ปวดหัวเลยค่ะ คิดไปก็เท่านั้น คิดแล้วเราก็ทุกข์เอง แล้วจะคิดให้ทุกข์ทำไมค่ะ แล้วลองสวดมนต์ นั่งสมาธิดูนะค่ะ มันทำให้ดีขึ้นจริง ๆนะค่ะ มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นทันตา แต่รับรองว่าดีกว่าเมื่อวานแน่นอนค่ะ ส่วนตัวเองก็รู้ตัวว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ยังยืนยันว่าดีขึ้นจากวันแรกค่ะ ก็หวังว่าคุณจะดีขึ้นเหมือนกันนะค่ะ หากมีอะไรที่พอช่วยได้บอกนะค่ะ ยินดีค่ะ สู้ ๆ นะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2011, 15:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2011, 11:19
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue ขอบคุณค่ะ คุณเพื่อนที่เป็นกำลังใจให้ ตอนดีจิตใจดีขึ้นมากๆเลยค่ะ ไม่ติดต่อ และพยายามไม่คิดถึงเขา ก็มีแว๊บเข้ามาบ้าง ให้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่โทรไปหาเขาอีก และขอพรจากพระพุทธรูปและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอให้มีสติ ปัญญาเข้มแข็ง ต่อกิเลส แต่ไม่ขอให้เขากลับมาค่ะ คิดว่าเราสองคนคงมีวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้ เมื่อวานไปทำบุญ และให้อาหารปลา มาค่ะ รู้สึกสบายใจขึ้นมากค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากนี้ไปก็จะกลายเป็นแค่อดีต ชีวิตต้องเดินต่อไปใช่ไหมคะ จะรักตัวเองให้มากและรักคนที่เขารักเรามากๆ(ครอบครัว)ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2011, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




Lotus197.jpg
Lotus197.jpg [ 2.67 KiB | เปิดดู 8191 ครั้ง ]
โบราณว่าเห็นทุกข์จะเห็นธรรม
ไม่ต้องช้ำซ้ำรอยเหมือนมีดเฉือน
ไม่ต้องปล่อยสิ่งดีงามลบเลือน
เพราะํํเจ็บเตือนทุกข์กระทบพบธรรม

เจ็บแบบนี้เป็นเจ็บเห็นแก่ตัว
เจ็บเมามัวเรียกเจ็บไม่จดจำ
เจ็บลืมพ่อลืมแม่โอ้เวรกรรม
เจ็บใจดำลืมคุณกตัญญู

เจ็บทิ้งซึ่งภาระและหน้าที่
เจ็บไม่มีสติกำหนดรู้
เจ็บไม่มีปัญญาตรึกตรองดู
เจ็บเป็นครูใช่เจ็บไปจนตาย

อยู่คนเดียวใจแอบไปเจ็บเจ็บ
ให้รีบเก็บตัวเหงาชอบใจหาย
เหมือนเอาเชือกผูกมัดดุจวัวควาย
ใจไม่หายไม่หลงอยู่กับตัว

แล้วจงยิ้มให้โลกอย่ามัวเหงา
โลกยังเศร้าร้ายดีมีอีกทั่ว
ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่าไปกลัว
ดีหรือชั่วพ่อแม่รักเราจริง

กราบขอบพระคุณที่มา :: http://larndham.org/...post__p__692326

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 23:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ย. 2011, 10:20
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


พาใจกลับบ้าน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร