วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 05:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2011, 22:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 16:33
โพสต์: 8


 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งแต่อ่านมา ไม่มีใครทุกข์เท่าเราเลย รู้สึกว่า ตัวเราน่าสงสารกว่าคะ ลองฟังเรื่องเราดีไหม๊ จะได้รู้ว่ามีคนทุกข์กว่าคุณอีก แต่เราต้องอยู่ให้ได้เพื่อลูกสาวเรา ทั้ง ๆ ที่เราเจ็บมาก คือเราอยู่กับสามีมา ๒๕ ปี เราสนับสนุนจนจบป.ตรี วิศว เราออกค่าใช้จ่ายในบ้านมา ๑๘ ปี สามีเพิ่งให้เรามา ๗ ปี ทุกอย่างเราสนับสนุนการค้าเขา จนมาวันนี้เขาไปมีลูกใหม่ ภรรยาใหม่ ซื้อบ้านให้ผู้หญิง เราไว้ใจในความดีข้อนี้มาตลอดทั้งที่เขาไม่เคยดีกับเราเลย จนวันนี้เราร้องไห้มา ๙ เดือน เสียดายเวลา เสียแรงใจที่เก็บเขามาเลี้ยงดูด้วยแรงใจ ความผูกพันทำให้เราไม่สามารถตัดใจได้ เราเพิ่งหย่ากัน ได้ ๑ เดือน เราเข้าโรงพยาบาลมาหลายครั้งแล้ว ปีนี้ เราผอมลงเกือบ ๒๐ กก. เราทุกข์ใจที่สุด ใครจะเจ็บเท่าเรา แต่ลูกสาวเราบอกให้เราตัดใจ ชายคนนี้ไม่มีความดีพอให้แม่ต้องเสียน้ำตาให้เขา (ลูกสาวเราเป็นคนพูดถึงพ่อของตัวเอง) เพราะแก่ไม่เคยเห็นอดีตสามีทำอะไรเพื่อเราเลย วันนี้เราต้องร้องไห้อีกนานแค่ไหน ใครช่วยบอกที จริงๆมันอยู่ที่ใจของเราต่างหาก ที่ทำใจไม่ได้เลยต้องทุกข์ น่าสงสารหญิงชราคนนี้ไหม๊ ที่ถูกเขี่ยทิ้งเมื่อเขาถึงฝั่ง มาเขี่ยตอนเราอายุ เกือบ ๕๒ เราจะตั้งตัวทันไหม๊ ดีที่เราเป็นคนประหยัด พอใจในสิ่งที่ตนมี สงสารแต่ลูกสาว กำลังเรียน ม.ธรรมศาสตร์ ปี ๑ ดูซิ ความผูกพันกับเราไม่มีเลย เอาเราไปบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่า อยู่กับเราเพราะสงสารที่เราเป็นโรคจิน ผู้หญิงคนนี้ ก็สุดทน จับผู้ชายคนนี้จนอยู่ ผู้ชายคนนี้แก่กว่าผู้หญิง ๑๖ ปี ผู้หญิง กล่าวหาว่าฉันไม่ดี ต้องพิจารณาว่าทำไมสามีจึงมีเมียน้อย แปลกที่ไม่รู้สำนุึกผิดแล้วยังว่าเราอีก ชายก็ว่า ไม่มีใครทำร้ายเรา ช่างพูดได้ เห็นไหม๊คะ ว่าจินน่าสงสารกว่าอีกมากมาย ขณะพิมพ์นี้ ก็ยังร้องไห้เลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 03:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 22:16
โพสต์: 23

แนวปฏิบัติ: ทุกแบบที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน
งานอดิเรก: ศึกษาธรรมะ
สิ่งที่ชื่นชอบ: มีหลายเล่ม
อายุ: 22
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


มาให้กำลังใจค่ะ โลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเราหรอกค่ะ ขนาดร่างกายที่เราอาศัยอยู่ยังไม่ใช่ของเราเลย แล้วคนอีกคนหนึ่งจะมาเป็นของของเราได้อย่างไร

ความพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ถึงวันนี้เขาไม่ได้เลือกที่จะเดินจากคุณไป วันหน้าทั้งเขาและคุณก็ต้องตายจากกันไปอยู่ดี สิ่งสำคัญมีอยู่เพียงว่าวันนี้คุณยังมีลมหายใจอยู่ คุณเลือกที่จะมีสติกับปัจจุบัน หรือว่าคุณเลือกที่จะเอาใจไปผูกไว้กับอดีตจนไม่สามารถทำปัจจุบันให้ดีอย่างที่คุณควรจะทำได้ เพราะจากที่คุณเล่ามาก็รู้สึกได้ว่าคุณเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่งเลยทีเดียว :b27:

อย่ายอมให้คนที่ทำร้ายคุณ ทำให้คุณสูญเสียศรัทธาในตัวเองสิคะ :b39:

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีเหตุและปัจจัยค่ะ คือกรรมและผลของกรรม ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็แปลว่าคุณกับเขาเคยทำบุญมาด้วยกันเพียงเท่านี้ (หรือในอีกแง่หนึ่งคือทำกรรมมาด้วยกันเพียงเท่านี้) พอหมดสิ้นผลบุญและกรรมอันสมควรแก่กาล จึงต้องพลัดพรากจากกันไป สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนอื่นคุณต้องให้อภัยตัวเองก่อน อย่าโทษตัวเอง พอคุณให้อภัยตัวเองได้ คุณจะให้อภัยเขาได้

อยากแนะนำให้คุณลองนั่งสมาธิ ทำบุญ แผ่เมตตาให้เขามีความสุข อาจจะฟังดูยากที่จะแผ่เมตตาให้คนที่ทำร้ายเรา แต่ถ้าคุณทำได้ คนแรกที่จะมีความสุขคือตัวคุณเอง :b1:

ขออนุญาตยกถ้อยคำในหนังสือที่เพิ่งอ่านเจอมาให้เป็นกำลังใจนะคะ คุณอาจจะเคยอ่านแล้วก็ได้ เรื่อง "เข็มทิศชีวิต ๓ ตอน กฎแห่งความสุข" ของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง


...

"ใช่! ชีวิตเรามันก็เป็นอย่างนี้ เราพูด คุย บอกลาคนที่เรารัก โดยไม่ได้หยุดคิดว่าวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้คุย ได้เห็นเขาอีก

ตอนที่อยู่กับเขา เราอาจกำลังพูดโทรศัพท์ คิดเรื่องงาน เล่นอินเทอร์เนต หรือปล่อยใจล่องลอยไป ไม่ได้ยินทั้งสิ่งที่เขาพูด ไม่รับรู้ความคิด ความเหน็ดเหนื่อย ความกังวล ทั้งที่เขาพูดและไม่พูดออกมา

เราใช้ชีวิตราวกับว่า ทุกอย่างจะคงอยู่ดีดีอย่างนี้ตลอดไป

แต่ชีวิตจะส่งของขวัญมาหยุด มาเตือนเราเสมอ

ก่อนที่จะเป็นลมล้มพับไป ภาพสุดท้ายที่ฉันได้เห็น คือ เด็กผู้ชายตัวเล็กนิดเดียว ซึ่งได้ยินเหมือนกันว่า เขาได้สูญเสียพ่อไป เด็กเล็กๆ คนนั้นยืดตัวขึ้นสูงที่สุด แล้วกอดแม่ไว้ ลูบที่แก้มแม่ เช็ดน้ำตาให้แม่เบาๆ เหมือนเวลาที่เราปลอบโยนเด็กเล็กๆ ที่เรารัก

วินาทีนั้น ฉันรู้เลยว่าเราต้องอยู่ให้ได้อย่างดีที่สุดเพื่อคนตัวเล็กๆ คนนี้ที่รักเรา เป็นห่วงเรา คิดถึงความรู้สึกของเราก่อนตัวเขาเอง

ฉันพบว่า เรามีความทุกข์เพราะเราหมกมุ่นกับตัวเอง เหมือนคนที่วิ่งเอาหัวชนกำแพงซ้ำแล้วซ้ำอีก คิดแต่ว่า ทำไม ทำไม สิ่งเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นกับฉัน เราลืมไปว่า ในเวลาที่เราทุกข์ คนที่รักเราทุกข์มากกว่าเป็นไหนๆ ยิ่งเราทุกข์หนักทุกข์นาน คนที่เรารักและรักเราก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเราไม่รู้กี่เท่า

ฉันพบว่า ความพลัดพรากสูญเสีย มาเพื่อช่วยให้เราละเอียด ประณีตกับชีวิต มีชีวิตอยู่ที่นี่ ขณะนี้ หยุดหมกมุ่นกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว อนาคตที่ยังมาไม่ถึง หยุดถามว่าทำไม ทำไม ปฏิเสธสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า

เพราะจนกว่าเราสามารถอยู่ที่นี่ เพื่อตัวเราเองได้ เราจึงสามารถอยู่ที่นี่ ตรงนี้ เพื่อเขา รัก ดูแลเขา ได้อย่างสมบูรณ์

กลับมาอยู่ที่นี่ ตรงนี้ เพื่อตัวเราเอง เพื่อคนที่เรารัก และรักเรา


...


เมื่อไรที่เลิกหมกมุ่นกับตัวเองและมองทุกสิ่งเป็นธรรมดา เมื่อนั้นเราจะพบความสุข เป็นกำลังใจให้นะคะ :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไม่มีใครทุกข์มาก หรือทุกข์น้อย มีก็แต่ทุกคนมีทุกข์เหมือนกัน
เวลาที่เสียไป ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีประโยชน์สำหรับตัวเอง
ให้มากที่สุดดีกว่า....ไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม ใช้ความทุกข์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้
ให้เป็นประโยชน์

มองรอบๆตัวดูซิ...มีใครบ้าง? ที่มีแต่ความสุข ไม่พลัดพราก ไม่สูญเสีย ทั้งเป็นและตาย
เพียงแต่พอถึงเวลาของเรา เราก็รับกันไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นตัวเรา ทั้งๆที่เป็นเรื่อง
ที่เป็นไปได้ เป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา ผู้ชายในประเทศไทยมีกี่สิบล้านคน ทำไมเราเลือกคนนี้
ทำไมเราต้องมาใช้ชีวิตกับคนคนนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย

ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องจากกันแล้ว ไม่ว่าจะจากกันในลักษณะไหน? มันก็คือการพลัดพราก
การจากกันอยู่ดี สิ่งที่เราให้เขามาตลอดยี่สิบกว่าปี ถ้าคิดว่าเป็นบุญคุณ เราก็จะเศร้า เสียใจ
และคับแค้นใจ เพราะเรา"หวังผล"จากการให้ที่ผ่านมา แต่ถ้าคิดว่า เราทำตามหน้าที่ของภรรยา
ที่ดี หน้าที่แม่บ้านที่ดีตลอดมา เขาจะเห็นคุณค่าหรือไม่เห็น ก็เรื่องของเขา แต่เราภูมิใจที่เรา
มิได้เป็นฝ่ายทำลายครอบครัว เราเป็นฝ่ายสร้าง ไม่ใช่ทำลาย คิดอย่างนี้แล้ว จะทำให้เรา
รู้สึกภาคภูมิใจกว่าไหม?

อย่ามัวแต่ซ้ำเติมหัวใจของตัวเองอยู่เลย ลุกขึ้นแล้วยีนหยัดให้ได้ แม้ไม่มีใครเคียงข้าง
อบรมเลี้ยงดูลูกสาว เป็นกำลังใจให้เขา ให้เขาไปสู่จุดมุ่งหมายที่ดีในชีวิตด้วยตัวของเราเอง
ให้ได้ หากจะพูดถึงพ่อเขาให้ลูกฟัง ก็พูดแต่สิ่งดีๆที่เขาเคยมี เพื่อลูกจะได้ไม่มีเวร มีกรรม
กับพ่อของเขา หรือถ้าเขาไม่มีความดีที่จะให้คิดถึง สู้ไม่ต้องพูดให้ลูกฟังเลยยังจะดีเสียกว่า

ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่?....เราก็สามารถตั้งตัวได้ด้วยตัวของเราเอง ถ้าไม่คิดพึ่งพาคนอื่น

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ....มีผุ้หญิงอีกเยอะแยะมากมายที่อยู่ฝ่ายเรา คุณไม่ได้โชคร้ายคนเดียว

สู้สู้ค่ะ :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2011, 16:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 13:02
โพสต์: 129

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณยังมีลูกที่รักคุณอยู่ พยายามมองแต่คนที่รักคุณ และแก้ปัญหาที่ตัวคุณใจคุณก่อน โดยการปล่อยวางอดีตที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นรักตัวเองด้วยการปฏิบัติธรรม ทาน ศีล สมาธิ เวลาจะช่วยให้จิตใจของคุณดีขึ้นได้ค่ะ :b8:

.....................................................
ชีวิตที่เหลือ ขออยู่เพื่อธรรมะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2011, 19:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 16:33
โพสต์: 8


 ข้อมูลส่วนตัว


Tooptien เขียน:
คุณยังมีลูกที่รักคุณอยู่ พยายามมองแต่คนที่รักคุณ และแก้ปัญหาที่ตัวคุณใจคุณก่อน โดยการปล่อยวางอดีตที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นรักตัวเองด้วยการปฏิบัติธรรม ทาน ศีล สมาธิ เวลาจะช่วยให้จิตใจของคุณดีขึ้นได้ค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2011, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2010, 14:52
โพสต์: 15

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากมาให้กำลังใจมาก ๆ ค่ะ เพราะเคยอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน อยู่กินกับสามีมาเกือบ 20 ปี ตอนนี้อายุ 45 แล้วค่ะ สามีไปหลงเด็กคราวลูกอายุประมาณ 20 (สามี 50) เมื่อปี 53 ตอนแรกช็อคกับเหตุการณ์มาก น้ำหนักหายไป 6 kg. ภายใน สามเดือน แรก ๆ ทำใจไม่ได้ แต่ตอนหลัง ฮีดสู้ค่ะ เพราะมีภาระทั้งบริษัท ลูก2 สองและลูกน้องอีก 20 กว่า ตั้งหลักโดยอาศัย ธรรมะเป็นที่พึ่งก่อนอันดับแรก
และมีบอร์ดนี้แหละ ที่เป็นกำลังใจ โดยเฉพาะ คุณทักทาย น้องอ้อ และท่านอื่น ๆ อีกมากมาย
สามีหลงอยู่ 1ปี7เดือน ก็ขอกลับบ้าน ประมาณซมซานค่ะ เพราะไม่มีจะกิน สารพัดจะพรรณาว่าไปด้วยกันไม่ได้ เฮ้อ ได้แต่สมเพชเค้าค่ะ แต่ก็ยังปราณีให้กลับ เพราะลูกก็ขอร้องบอกสงสารพ่อ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ คุณยังมีลูกสาวที่เก่งมาก อยุ่ทั้งคน อย่าได้แคร์คนที่ไม่เห็นคุณค่าเราค่ะ
เก็บเอาแรงใจเราไปทุ่มให้กับลูกดีกว่าค่ะ สู้ สู้ นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2011, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


มันหนักใจ ที่อะไรๆก็ของเราหมดนี้ละ สามีเราภรรยาเราลูกเราสมบัติเรา หากเรามองไปในสมัยเด็กของเล่นชนิดหนึ่งเรา ก็อยู่ได้แล้ว ที่จริงเราน่าจะดีใจมากกว่า ที่ได้ส่งเสริมให้คนๆหนึ่งตั้งตัวได้และมีความสุข คิดว่าเขาทิ้งเรามันทุกข์จนตาย สละไปเถอะ ทุกอย่างไม่จากกันหามิได้เลย onion

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2011, 19:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 01:54
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านไปให้ได้นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2011, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 16:09
โพสต์: 38

แนวปฏิบัติ: สวดมนต์
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ละคนมีทุกข์แตกต่างกันไปไม่ต้องท้อค่ะไม่ใช่คุณที่มีทุกข์คนเดียว wink

.....................................................
รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2011, 09:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณพรพรรณ ดิฉันขอส่งอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ ปัญหานี้มีอยู่แทบทุกครอบครัวจริง ๆ คนสมัยนี้มันจะอะไรกันนักหนา ดิฉันก็ร้องไห้มาเท่า ๆ กับคุณเลยค่ะ 9 เดือน แต่ข้อดีคือได้หุ่นเพรียวลงตั้ง 10กิโลแน่ะ

ขอบอกว่าคุณเข้มแข็งมาก ดิฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าวันที่ต้องเซ็นใบหย่าสภาพเราจะเป็นยังไง ไหวมั๊ย ดิฉันกับสามีไม่เคยคุยกันเรื่องหย่าเลย และไม่ได้คิดด้วย เคยท้าเขาเหย็ง ๆ เหมือนกัน ดีว่าเขาไม่เอาด้วยและไม่ยอม จริง ๆ ก็ท้าไปเพราะความโกรธหละค่ะ แต่สำหรับคุณพรพรรณ คุณกล้าหาญและเผชิญกับมันได้แล้ว มันผ่านไปแล้วค่ะ และคุณยังอยู่ได้ ดิฉันชื่นชมในความเข้มแข็งของคุณ คุณเป็นอิสระแล้ว ก้าวเดินต่อไปเลยค่ะ ชีวิตกลับคืนมาแล้ว ชีวิตที่เป็นของเราจริง ๆ คุณจะเป็นแม่ที่เป็นสุดยอดฮีโร่ของลูกคุณเลยล่ะ ดิฉันเอาใจช่วยนะคะ :b39:

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2011, 14:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

smiley smiley smiley

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2011, 17:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ rolleyes tongue


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron