วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 04:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2011, 12:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 12:23
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงนี้เป็นช่วงที่ปัญหาต่างๆ เข้ามาในชีวิตมากมาย
ที่หนักคือ เรื่องสามี ปรกติ เค้าก้อเป็นคนไม่ดีอยู่แล้ว
คร่าวๆ ตั้งแต่เริ่มต้น ที่แต่งงานกับเค้าเพราะเราท้อง
อาจเพราะเป้นเวรกรรมแต่ชาติปางก่อนที่ต้องมาชดใช้กัน
เราจบปริญาตรี สามีจบ ม.3 บางครั้งความคิดมักไม่เหมือนกัน
เรามีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโต 2 ขวบ ครึ่ง คนเล็ก 8 เดือน
น่ารักน่าชังมาก....แต่พ่อก้อไม่เคยสนใจ
สามีก่อนมาแต่งงานกับฉัน มีลูกกับภรรยาเก่า 2 คน
ไม่เคยสนใจลูกเช่นเดียวกัน
อายุ 7 ปี กับ 9 ปี ภรรยาคบชู้หลายคน มีเรื่องตบตีกันเลย
เลิกรากันไป แต่ก้อยังไม่เลิกจองเวร โทรมาสร้างความร้าวฉาน
แอบคุยกับสามีอยู่เรื่อยๆ...อยากกลับมา บางทีก็ไปแอบมีอะไรกัน
พุดถึงในครอบครัว...ดิฉันต้องรับผิดชอบภาระทั้งหมด
สามีไม่เอาการเอางาน ทำอะไรไม่เคยสำเร็จและไม่เคยตั้งใจ
เรื่องที่เกิดขึ้นคือ ทางบ้านเขาทำไร่ เลยชักชวนให้สามีไปช่วยทำ
แต่ดิฉันไม่อยากให้เขาไปหรอก เพราะเค้าเจ้าชู้ แค่นี้ก้อมองเห็นปัญหาครอบครัวมาแต่ไกลแล้ว
เค้าไม่เคยดุแลดิฉัน ด่าทอหยาบคาย กินเหล้าเที่ยวเตร่ ทำตัวเหมือนเพล์บอย เหมือนไม่มีภาระ
ไม่เคยวางแผนอนาคตให้ลูก...เรื่องเพิ่งเกิดขึ้น เพระเราห่างกัน เขามีผู้หยิงเข้ามาเรื่อยๆ
ทำให้เค้าไปแอบคบกัยเด็กอายุ 14 แต่เป็นสาวแล้วนะ เค้าหยามดิฉันมาก เอาผู้หญิงมานอนบ้าน
ทั้งที่แม่เขานอนอยู่ที่บ้าน พอเรื่องแดง พ่อแม่ผู้หญิงเอาเรื่อง เลยมาที่บ้านให้ไปคุยสู่ขอ
เค้าก้อเร้าหรือให้เเม่เขาไปเจรจา ทำนองว่าให้ผัดผ่อน เดี๋ยวเขาจะหาเรื่องเลิกเอง (คิดเห็นแก่ได้)
แต่ดิฉันว่าเป้นข้ออ้างมากกว่า ต่างคนต่างลุ่มหลงกัน แต่รู้ไหม มันทำร้ายจิตใจฉันแค่ไหน
แม่เขาไม่ยอมไป เพราะว่าดิฉันก้อยังขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาอยู่ และยังอยู่กับพี่สาวเขาที่ กทม ไม่ได้เลิกรากัน จริง ดิฉันก้อกลับต่างจังหวัดทันที พาแม่เขาและพี่สาวเขา ลูก ไปคุยกับทางผู้หญิง เค้าโกรธมาก เหมือนไปขัดขวางความรักของเค้า และทำให้เขาเสียหน้า เพราะเขาไปบอกทางผู้หญิงว่าเลิกกับภรรยาแล้ว เขาเลยหนี เพราะกลัวโดนตำรวจจับ แต่เขาก้อติดต่อกับเด็กคนนั้นตลอด เด้กคนนั้นกำลังลุ่มหลงสามีดิฉัน ทางบ้านเตือนก้อไม่เชื่อฟังจนระอา และตอนนี้ได้หนีไปกับสามีของดิฉันแล้ว สิ่งที่ดิฉันเจ็บที่สุดคือ สามีบอกว่าลูกคนโตไม่ใช่ลุกเขา คิดได้ยังไง ทั้งๆที่น่าตาถอดแบบกันมา เขาพูดเพราะประชดดิฉันให้ดิฉันเจ็บ แต่รู้ไหม ถ้าลูกรู้จะเจ็บปวดแค่ไหน.....ตอนนี้ดิฉันทั้งรัก เจ็บ แค้น กับสิ่งที่เขาทำ
เห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าลุกเมีย และพ่อแม่พี่น้อง ดิฉันอยากผ่านความรู้สึกเจ็บปวดให้โดยเร็ว แต่ใจนึงก้ออยากให้ติดคุกไปเลย จะได้ไม่ต้องไปชดใช้เวรกรรมที่ไหนกับใครอีก ไม่รู้ชีวิตจะเป็นยังไง เครียด แต่สงสารลูก และจะผ่านพ้นให้ได้ เพื่อคนที่เรารัก พ่อ แม่ ลูก ที่ไม่เคยทำให้เราเสียใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2011, 01:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ดูคุณโยมก็คิดถูกต้องแล้วนะครับ คือพึ่งตัวเอง รักครอบครัวรักพ่อแม่พี่น้อง รักลูก
รักคนที่รักเรา และที่สำัคัญที่สุดรักตัวเองบ้างก็ดี

อ้างคำพูด:
พ. ดูกรนางสุชาดา ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว
นางสุชาดาหญิงสะใภ้ในเรือนทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัส
พระพุทธพจน์นี้ว่า

ภริยาผู้มีจิตประทุษร้าย ไม่อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล
ยินดีในชายอื่น ดูหมิ่นสามี เป็นผู้อันเขาซื้อมาด้วยทรัพย์
พยายามจะฆ่าผัว ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า วธกาภริยา
ภริยาเสมอด้วยเพชฌฆาต สามีของหญิงประกอบด้วย
ศิลปกรรม พาณิชยกรรม และกสิกรรม ได้ทรัพย์ใดมา ภริยา
ปรารถนาจะยักยอกทรัพย์ แม้มีอยู่น้อยนั้นเสีย ภริยาของ
บุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า โจรภริยา ภริยาเสมอด้วยโจร ภริยา
ที่ไม่สนใจการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย ปากกล้า
ร้ายกาจ กล่าวคำหยาบ ข่มขี่ผัวผู้ขยันขันแข็ง ภริยาของ
บุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า อัยยาภริยา ภริยาเสมอด้วยนาย
ภริยาใดอนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูลทุกเมื่อ ตามรักษา
สามีเหมือนมารดารักษาบุตร รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ไว้
ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า มาตาภริยา ภริยาเสมอด้วย
มารดา
ภริยาที่เป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว มีความเคารพใน
สามีของตน เป็นคนละอายบาป เป็นไปตามอำนาจสามี ภริยา
ของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า ภคินีภริยา ภริยาเสมอด้วยพี่สาว
น้องสาว
ภริยาใดในโลกนี้เห็นสามีแล้วชื่นชมยินดี เหมือน
เพื่อนผู้จากไปนานแล้วกลับมา เป็นหญิงมีตระกูล มีศีล
มีวัตรปฏิบัติสามี ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า สขีภริยา
ภริยาเสมอด้วยเพื่อน ภริยาใดสามีเฆี่ยนตี ขู่ตะคอก
ก็ไม่โกรธ ไม่คิดพิโรธโกรธตอบสามี อดทนได้ เป็นไป
ตามอำนาจสามี ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า ทาสีภริยา
ภริยาเสมอด้วยทาสี ภริยาที่เรียกว่าวธกาภริยา ๑ โจรี
ภริยา ๑ อัยยาภริยา ๑ ภริยาทั้ง ๓ จำพวกนั้น ล้วนแต่เป็น
คนทุศีลหยาบช้า ไม่เอื้อเฟื้อ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรก

ส่วนภริยาที่เรียกว่า มาตาภริยา ๑ ภคินีภริยา ๑ สขีภริยา ๑
ทาสีภริยา ๑ ภริยาทั้ง ๔ จำพวกนั้น เพราะตั้งอยู่ในศีล
ถนอมรักไว้ยั่งยืน เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติ


พิจารณาดูนะครับ เราเป็นภรรยาแบบไหน และสามีเราเป็นสามีแบบไหน พระองค์ตรัสว่า ภริยาหรือสามีที่เสมอด้วยเพชฌฆาต ภริยาหรือสามีที่เสมอด้วยโจร ภริยาสามีที่เสมอด้วยนาย ท่านว่า ๓ จำพวกนี้ล้วนแต่เป็นคนทุศีลหยาบช้า ไม่เอื้อเฟื้อ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรก

ส่วนสามีหรือภริยาที่เหลือ อีก ๔ จำพวก เพราะๆ ตั้งอยู่ในศีล ถนอมรักไว้ยั่งยืน
เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติ ได้แก่ ภริยาเสมอด้วยมารดา ภริยาเสมอด้วย
พี่สาวน้องสาว ภริยาเสมอด้วยเพื่อน ภริยาเสมอด้วยทาสี (ทาส)

อนุโมทนาที่เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องจมอยู่กับกรรมในอดีต
ก็ได้นะครับ ชีวิตต้องเดินต่อไป วันนี้ไม่ได้เดินคนเดียวแล้ว มีสายใยมีเลือดเนื้อน้อยๆ
ต้องดูแล ต้องเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ ให้ความรักความอบอุ่นอย่างเต็มที่ พระท่านว่า
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่เว้นเด็กเล็กเด็กแดง และความจริง ความพลัดพรากจากกัน
ไม่ว่าด้วยปริยายไหน

ก็ต้องเกิดขึ้นในทุกชีวิตเป็นธรรมดา การคิดแทนลูกห่วงความรู้สึกลูก แม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ก็อย่าให้ อารมณ์ความรุ้สึกเชิงลบนี้ มาทำให้ หมดกำลังจิตกำลังใจ ที่จะต่อสู้นะครับ
คำพูดใดที่มันไม่จริง ฟังแล้วเจ็บ คำเหล่านั้นมันล่องลอยหายไปนานแล้ว ไม่อยากจมอยู่
กับกรรมเก่า ก็อย่าได้ไปจดจำย้ำคิดแต่คำพูดเหล่านั้นมาเป็นประมาณ เหมือนมีใครสลัก
ถ้อยคำที่ร้ายแรงนั้น ลงไปไว้ในอกในใจ

ลองมองผ่านตัวเองในสายตาพ่อและแม่ ถ้าลูกเราแบกหรือกำ เก็บคำพูดการกระทำความรู้
สึกนึกคิดที่ลบๆ ร้ายๆ เป็นปมของครั้งหนึ่งในชีวิต เราจะไม่อยากแก้ให้ลูกเรา ตัดวิบากกรรม
ตรงนั้น เอาถ้อยคำความรู้สึกนึกคิดออกไปจากที่ว่างในใจของลูกหรือ?

นั่นแหละครับ เราก็ต้องช่วยตัวเอง ปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ ไม่โกรธไม่แค้น นั่นเพราะ
เรานั่นเอง ไม่ว่าเจตนาหรือไม่ได้เจตนา อาจเป็นไปได้ว่าเคย หลอกลวงเจ้าชู้หลายใจ
ทิ้งเขาให้ดูแลลูกเมีย โกหกเห็นแก่ัตัว เอาแต่ได้ ไม่มีความรับผิดชอบ ผิดศีลผิดธรรมนอง
คลองธรรมมาก่อน ทำกับเขาไว้ ในอดีตอะไรที่ว่าเจ็บๆ ช่างทำกับเราได้ นั่นแหละ
เราเองนี้แหละ เคยก่อกรรมเอาไว้ ชาตินี้ปัจจุบันนี้ ก็มาชดใช้เวรกรรมร่วมกัน แล้วถ้านี้
จะเป็นการปลดหนี้ปลดสิน เป็นการล้างไพ่ล้างมือ ไม่ยอมผิดศีล เชื่อในวิบากกรรมว่ามีจริง
เชื่อในโลกนี้โลกหน้า

ประพฤติตนในฐานะของลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นแม่ที่ดีของลูก เหลือแต่พิจารณาจะยอมเป็น
ยอมทนเป็นภรรยาต่อไป หรือไม่ก็เป็นเพียงแค่คนเคยเป็นภรรยา เพราะอย่างไรผู้ชายคนนี้
เราก็เคยทำกรรมกับเขาไว้ และเขาก็ได้ให้ของขวัญที่ล้ำค่า ที่ดีที่สุด สำหรับเรา

การให้อภัยเป็น ธรรมทานที่ยิ่งใหญ่นะครับ มหาทานอีกอย่างหนึ่งคือ การสละสามีภรรยา
แล้วก็น้อมนำพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ให้ศีล ให้ความปกติมาดำรงมาครองชีวิต เป็นเข็มทิศ
ชี้ทางดำเนินต่อไป กลับมาเรื่องดูแลลูกๆ เรื่องหน้าที่การงานที่ต้องจัดการ ให้ดี คบหา
กัลยาณมิตร ที่ดี ระวังหัวใจที่จะเิปิดรับใครสักคน อย่าให้เปิดไว้เพราะอารมณ์ ควรเปิดเอา
ไว้ด้วยเหตุด้วยผล แล้วทุกอย่างก็จะดี

สุดท้ายนี้เชื่อแน่ว่า สุภาพสตรีในนี้พร้อมเป็นเพื่อนเป็นกำลังใจให้คุณโยมแน่นอน
คงมีผู้หญิงเก่งหัวใจแกร่ง พร้อมประคับประครองบอกทาง ในการดำรงชีวิตที่เป็นแบบอย่าง
แม้ชีวิตมันจะไม่ใช่สีขาว จะดูราวว่าหม่นหมอง บางคราวฝนตกฟ้าร้อง แสงสีทองจะสาดส่อง
ให้ฟ้าใสอีกครา นี้แหละโลก นี้แหละชีวิต สุขบ้างทุกข์บ้างเป็นธรรมดา รู้จักวางรู้จักปลง
ไม่ยึดติดอยู่กับอดีต ไม่หยีละกับอนาคต หมดจดสะอาด กาย วาจา ใจในปัจจุบัน
เป็นคุณโยมคนใหม่ อย่าปล่อยให้อดีตมันหลอกหลอน อย่ามีข้อจำกัดในการต้องเป็นทุกข์

คนอื่นผ่านไปได้เราก็ต้องผ่านไปได้ มาตัวเปล่ากันทุกคนในโลกนี้ มีแต่บุญและบาปติดตัว
อย่าห่วงความหลัง อย่าฝังกับอดีต อย่าหยุดคิดทำดี อย่าหยุดให้กำลังใจตัวเอง ขอให้คุณโยม
โชคดีกับ วันนี้ ปัจจุบั้นนี้ วันนี้มันดีแล้ว พรุ่งนี้มันก็จะเป็นอย่างเช่นในวันนี้ ยิ้มครับเจริญพร

รูปภาพ


(ทุกข์)



Credit image by:
http://widget.sanook.com

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2011, 14:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้นะคะ เหนื่อยนักก็พักซักนิดนะคะ แล้วค่อยเดินต่อค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 14:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 42


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ ๆ เพื่อวันข้างหน้า เข้มแข็งเข้าไว้ค่ะ :b41: :b41: :b41: :b41:
เวลาจะเป็นตัวช่วยเองค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2011, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 16:09
โพสต์: 38

แนวปฏิบัติ: สวดมนต์
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้นะคะ ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอค่ะ :b11:

.....................................................
รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2011, 23:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ย. 2011, 10:20
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


พาใจกลับบ้าน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร