วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 18:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2011, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2011, 09:16
โพสต์: 158

แนวปฏิบัติ: พุธโท
งานอดิเรก: นั่งสมาธิ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรัชญา
ชื่อเล่น: T^^T
อายุ: 23
ที่อยู่: ลำปาง

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นความรู้สึกที่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด คนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นมากที่สุดคือตัวเราเอง
ชีวิตมันแย่ มองไม่เห็นอนาคต ไม่รู้จะเดินไปทางใหน ไม่รู้จะทำอย่างไงกับชีวิต :b7: :b7: :b7:

.....................................................
ดูก่อu!!!ภิกษุทั้งหลาย!!!คนพาลเขากลัวยากจนจึงไม่รู้จักขวนขวายในการให้ทาน!!!ส่วนบัณฑิตชนเขากลัวยากจนจึงรู้ขวนขวายในการให้ทาน!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2011, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงไม่อยู่คนเดียวก็ทุกข์แบบไม่อยู่คนเดียว
บางทีอาจจะเจ็บปวดกว่าด้วยเวลาพบกับความเปลี่ยนแปลงและพลัดพรากจากคนที่ยึด
ถ้าเราจะไปฝากใจหรือหวังพึ่งพากับคนอื่น ก็อาจจะต้องผิดหวัง
เพราะทุกคนก็ล้วนตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์เหมือนกัน

มีคนบอกว่าพวกเราทุกคนต่างก็เป็นนักเดินทาง(ในสังสารวัฏ)ที่โดดเดี่ยว
ตอนนี้ที่พึ่งที่ประเสริฐสุดคือพระรัตนตรัย
เมื่อเราฝึกฝนพัฒนาจิตใจจนเราพึ่งตัวเองได้ จนมีความอิ่มเต็มในตัวเอง
ก็ไม่ต้องให้คนอื่นหรือสิ่งอื่นมาเติมเต็มอีกต่อไป
สู้ๆนะคะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2011, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


สัจจะธรรมของชีวิต เขียน:
เป็นความรู้สึกที่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด คนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นมากที่สุดคือตัวเราเอง
ชีวิตมันแย่ มองไม่เห็นอนาคต ไม่รู้จะเดินไปทางใหน ไม่รู้จะทำอย่างไงกับชีวิต :b7: :b7: :b7:

อริยมรรค ๘ มรรค แปลว่าทาง เป็นทางที่พาคนเราพ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวงที่ผูกมัดความไม่รู้ ความทุกข์ของใจเราเอาไว้ ย่อมรรคทั้ง ๘ ลงก็เหลือเพียงศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นแสงสว่าง เป็นหนทาง พาคนส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ให้พ้นจากความทุกข์ได้

ธรรมดาโลกนี้ ใจมันชอบเปรียบชอบเทียบ หาความพอดี ที่สุดไม่เจอหรือไม่มี นั่นเพราะว่า สิ่งใดที่เคยให้ความสุขทางกายทางใจ เมื่อได้อยู่็ก็มีแต่ความเพลิดเพลินยินดี ติดใจพอใจ อยากได้อยากมีอยากเป็น นึกถึงแต่ความสุขความพอใจทางกายทางใจนั้นยิ่งๆ ขึ้นเป็นธรรมดา

เช่นกันเมื่อสิ่งที่เคยได้เคยมีเคยเป็น กับหายไปมีแล้วหายไป หมดไปเสียไปทำลายไปจากไป นั่นย่อมทำให้ใจของคนเราหวั่นไหว ทุกข์ร้อนกินนอนไม่ได้เพราะต้องสูญเสียสิ่งที่รักที่ชอบใจพอใจไป พระท่านจึงว่า ความอาลัยอาวร ความยึดถือผูกพันของคนเรานั่นแหละนำทุกข์มาให้

เพราะว่า พระพุทธเจ้าทรงรู้ทรงเห็นแล้วอย่างแจ่มแจ้ง ว่าสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ มีแต่ความเสื่อมสลายความแตกทำลาย มีแต่ความแปรปรวนไม่เที่ยงแท้แน่นอนเป็นที่สุด เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว พระองค์จึงนำความจริงนี้มาพร่ำสอนให้ ปุถุชนผู้ยึดถือหลงเข้าใจว่า สิ่งต่าง ๆ นั่นเที่ยงแท้แก่ตน ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นเป็นสุขสำหรับตน ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นเป็นของตนมีตนเองเป็นเจ้าของ เมื่อเกิดความสำคัญผิด ในสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ว่าเที่ยงแท้ เมื่อสำคัญผิดในสิ่งที่ล้วนเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข เมื่อสำคัญผิดในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ว่าเป็นของ ๆ ตนเข้า

พอสิ่งต่าง ๆ ที่เคยให้ความสุขความพอใจ ถูกความจริงมีความแปรปรวน ถูกความทุกข์ ถูกความไม่ใ่ช่ตัวตนไม่ใช่เจ้าของ มาแสดงความจริงให้ปรารกฏ บุคคลที่เข้าใจยอมรับในความจริงนี้ได้ แม้หวั่นไหวอยู่ก็พอ มีแนวทางจัดการกับอารมณ์ที่ทำลาย หัวใจเจ้าของจิตเจ้าของใจนั้น บิดเบีอนหนทางของความสุขใจความพอใจ ไม่ให้ติดตันเหมือนประหนึ่งว่า หมดสิ้นหนทาง

เพราะความทุกข์ความเสียใจนั้นนั่นเองต่างหาก จะเป็นครูเป็นเพื่อนในเวลาที่ เพื่อนหรือสิ่งที่คนเราต้องการไม่ใช่ความสุข ไม่ใช่ความสนุกสนาน ไม่ใช่ความชอบความพอใจ เพราะหากว่าโลกนี้ คนเราสมหวังสมปรารถนาในทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นไม่ใช่ฐานะไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้เลยในการที่คนเราจะเห็น สัจธรรมของชีวิต นอกจากเริ่มเรียนรู้จักความจริงแท้แน่นอน ในความไม่เที่ยง ในความเป็นทุกข์ ในความไม่ใช่เจ้าของไม่ใช่ตัวตนบังคับไม่ได้ ก็หมั่นพิจารณาถึง ความแก่ในของเราของคนอื่น ความเจ็บในเราในคนอื่น ความตายในเราในคนอื่น ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจในเราในคนอื่น สุดท้ายพิจารณาในกรรมคือการกระทำคือเจตนาของแต่ละบุคคล เราเป็นเจ้าของผลกรรมของเราเอง คนอื่นเป็นเจ้าของผลกรรมของเขาเอง ดีก็ตามชั่วก็ตามเมื่อบุคคลทำกรรมอย่างไรไว้ กรรมนั้นๆ ของเราก็ตามของคนอื่นก็ตามจะติดตามเราด้วยติดตามผู้อื่นด้วย เป็นผลแน่นอนตายตัว

การหมั่นพิจารณาถึงความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก และกรรมเหล่านี้ย่อมทำให้คนเราเริ่มคืนสติ ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ เพราะทุกชีวิตเิกิดมาก็จบลงเหมือน ๆ กัน แ่ต่สุขทุกข์นั้นเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย ตามกรรมที่ตนกระทำ อย่าปล่อยให้ความทุกข์เป็นแต่เพื่อนกิน มาเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นเพื่อนตาย คว้าสติทิ้งความเศร้าหมอง ระลึกถึงคำพระคำสอน กราบไหว้พระสวดมนต์ คว้าสติอยู่ในกายในใจ ไม่ไหลไม่เผลอ ทิ้งความเศร้าหมองทั้งความสุขที่อยากได้ ทิ้งความทุกข์ที่ดิ้นรนเอง แล้วอยู่กับธรรม ที่ปราศจากสัตว์ตัวตนบุคคล กลืนหายไปในแสงสว่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเจริญพร

รูปภาพ



Credit image by:
http://www.numsai.com/%E0%B9%80%E0%B8%A ... B8%B2.html

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 08:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โมทนาสาธุเจ้าค่ะท่านพุทธฏีกา :b8:

แจ่มแจ้งเข้าถึงใจเลยเจ้าค่ะ

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 12:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สิ่งที่คนเราต้องการไม่ใช่ความสุข ไม่ใช่ความสนุกสนาน ไม่ใช่ความชอบความพอใจ เพราะหากว่าโลกนี้ คนเราสมหวังสมปรารถนาในทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นไม่ใช่ฐานะไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้เลยในการที่คนเราจะเห็น สัจธรรมของชีวิต นอกจากเริ่มเรียนรู้จักความจริงแท้แน่นอน ในความไม่เที่ยง ในความเป็นทุกข์ ในความไม่ใช่เจ้าของไม่ใช่ตัวตนบังคับไม่ได้

:b8: อนุโมทนาค่ะท่านพุทธฏีกา

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2011, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สัจจะธรรมของชีวิต เขียน:
เป็นความรู้สึกที่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด คนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นมากที่สุดคือตัวเราเอง
ชีวิตมันแย่ มองไม่เห็นอนาคต ไม่รู้จะเดินไปทางใหน ไม่รู้จะทำอย่างไงกับชีวิต :b7: :b7: :b7:

:b16:
...มีอะไรทุกข์เก็บไว้คนเดียวในใจล่ะคะ...เล่ามาให้เพื่อนช่วยกันแก้ไขสิคะ...
...การได้ระบายความทุกข์ออกมา...จะทำให้ความเครียดในตัวเราลดลงค่ะ...
...แบกทุกอย่างที่เห็นแล้วก็เก็บเอามาคิดๆๆ แล้วก็ทุกข์เดี๋ยวประสาทกิน จะแย่นะ...
...ลองเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ อะไรที่ผ่านไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้ค่ะ ให้แก้ที่ปัจจุบันค่ะ...
:b13: :b13:
:b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2011, 04:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าเพิ่งคิดถึงวันข้างหน้าสิคะ เราก็คิดถึงเฉพาะวันนี้เท่านั้นก่อน
เราอาจไม่มีชีวิตอยู่นานถึงเวลาที่เรากังวลก็ได้นะ

แต่ไม่ใช่ไม่ให้วางแผนชีวิต วางแผนได้แต่ความทุกข์มันเกิดเพราะเรากังวลมากไป
ถ้าใจทุกข์ถือว่าใช้ไม่ไ่ด้นะ :b1:

ทุกวันนี้ใจเราเป็นอย่างไร กิน อยู่อย่างไร คิดแค่นี้วันหนึ่งๆก็มากพอแล้วล่ะค่ะ

วันพรุ่งนี้ของคนทุกคนไม่มีใครรับรองอะไรได้อยู่แล้ว

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2011, 13:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2011, 10:58
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องรักษา ปล่อยให้ความเคยชินเป็นกำแพงมาป้องกันตัวเรา และให้ความรู้สึกตอกย้ำความเจ็บปวด แล้วทุกอย่างจะหาย หายแบบไม่ต้องให้ใครช่วย หายเพราะตัวเราเอง เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับครั้งนี้เราจะไม่เจ็บเหมือนครั้งนี้แล้ว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร