วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2011, 18:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 13:45
โพสต์: 9


 ข้อมูลส่วนตัว


นภัสสรน่ะค่ะ ตอนที่มีปัญหาได้เข้ามาที่เว็บนี้ ได้คำแนะนำจากเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ทำให้สามารถทำใจและใช้ชีวิตอยู่ได้ ตอนที่เริ่มมีปํญหากับแฟนเค๊ามีผู้หญิงคนอื่นและตัดสินใจเด็ดขาดว่าต้องเลิกรากัน ตัวเองเคยคิดว่าจะอยู่ยังไง ใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้มั้ย เราต้องตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วคิดถึงเค๊า พอเราคิดถึงเค๊าเราต้องหายใจไม่ออกเหมือนคนใกล้ตาย เราต้องใช้เวลาหลายปีแน่เพื่อจะลืมเค๊าได้ สารพัดที่คิดไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ผลสุดท้ายแล้วไม่ใช่ค่ะ ดิฉันตื่นขึ้นมา เอ๊ะ ทำไมเรายังหายใจ ทำไมถึงกินได้นอนหลับ ทำไมถึงใช้ชีวิตเหมือนเดิมอยู่ได้ไม่ลงไปนอนดิ้นตายเพื่อให้เค๊ากลับมา ทำไม และทำไม มันเป็นคำถามที่ดิฉันต้องการคำตอบค่ะ ทำไมดิฉันเสียใจน้อยจังเลยแค่ระยะเวลา 2-3 เดือนทำใจได้แล้ว ถ้าถามว่า ณ. ตอนนี้คิดถึงเค๊ามั้ย คิดถึงค่ะ มันเหมือนมีความรุ้สึกว่าเค๊าแว่บ ๆ เข้ามา เหมือนสายลม แต่เป็นสายลมที่ไม่แผดเผา พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเฉย ๆ กับความรู้สึก ไม่เหมือนกับความรู้สึกเดิมที่คิดถึงเค๊าที่ไร ก็เสียใจทุกครั้งพร้อมคำถามอีกมากมายว่าทำไมเค๊าทำกับเราอย่างนี้ ไม่เข้าใจตัวเองค่ะ หรือที่ผ่านมาเราอยู่กันมานานเลยรักเค๊าน้อยลง เป็นแค่ความผูกพันเหมือนเพื่อน ไม่มีความหวือหวา หรือว่าดิฉันค้นพบความสุขที่แท้จริงของชีวิตแล้วว่าตัวเองต้องการอะไร เพราะดิฉันกับเค๊าไม่มีลูกด้วยกัน หลังจากที่กลับมาใช้ชีวิตคนเดียว มีความรู้สึกว่ามีความสุขมาก ไม่ต้องมาทนกินในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบไม่ต้องมานั่งทนดู tv ในช่องที่ตัวเองไม่อยากจะดู ไม่ต้องมานั่งทนดูบอลจนดึก ๆ ดื่น ๆ เพื่อใครบางคนในขณะที่ตัวเองง่วงอยากจะหลับ ไม่ต้องมานั่งปรนนิบัติพัดวีใครในขณะที่ตัวเองเหนื่อยสายตัวแทบขาดกับงานนอกบ้าน ไม่ต้องมาทนนั่งดูรายการชกมวยในขณะที่เราอยาดูซีรีส์เกาหลี ไม่ต้องมาทนนั่งฟังเสียงนกร้องในขณะที่เราอยากเข้าห้องสมุดเพื่อจะอ่านหนังสือ เหมือนย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่เราไม่ได้ชีวิตแบบนี้ พอกลับมาใช้ชีวิตแบบนี้มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่เราโหยหามานาน ทำเพื่อคนอื่นมาตั้งเยอะ ทำไมถึงละเลยกับชีวิตและครอบครัวของตัวเองเพื่อผู้ชายคนเดียว นี่แสดงว่าดิฉันรักเค๊าน้อยลงหรือว่ายังไงค่ะ ตอนนี้ดิฉันกลับมาเป็นผู้ดูค่ะ ไม่ได้เป็นผู้ร่วมเล่นเกมกับชีวิตเค๊า ไม่แบก ไม่หนัก หรือว่ามันจะจริงที่เค๊าบอกว่า ความสุขอยู่ที่ตัวเรา ไม่ทราบว่ามีใครเป็นเหมือนดิฉันมั้ยค่ะ ฝากถามผู้รู้หน่อยค่ะว่าตลอดมาดิฉันกับเค๊ามันเป็นรักแท้หรื่อไม่ กราบขอบพระคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2011, 20:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริงแล้ว...

ความมีอิสระ...เป็นความสุขอย่างยิ่ง

แต่เพราะ...หลงผิดคิดว่า...หากมีใครหรืออะไร...มาดูแลเรา...แล้ว..เราจะมีความสุข

ความหลงผิดชนิดนี้...มีกันทุกคน

พวกเราจึงเสียเวลาส่วนมาก...มาสาละวน...หาคนมาอยู่ด้วยกันนี้งั้ย...

พอกลับมามีอิสระ..อีกครั้ง...มันถึงสุข..แบบแปลก ๆ ..แบบที่ไม่ได้เคยนึกคิดมาก่อน

แต่เชื่อเหอะ..

เดียวใจ..มันก็เรียกหาคู่อีก...

เพราะความหลงยังไม่ได้ถูกกำจัด..ความต้องการของใจก็เลยยังไม่เที่ยงแท้แน่นอน..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2011, 21:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


กามนี้
เหมือนยาเสพติด
เหมือนยาพิษที่มีรสหวาน
เหมือนไฟที่มีสีสันสวยงาม
เหมือนวาบหวามแต่ที่จริงคือทุกข์ทน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้คุณลงมือปฏิบัติธรรมเลยนะ จะได้ไม่ต้องหวนกลับมาแล้วหลงไปตามมายาลวงโลกนั่นอีก ใช้แบบสติปัฏฐาน 4 ตามแนวหลวงพ่อจรัญก็ได้ เพื่อความสุขที่ประณีตและยิ่งใหญ่

ผมดีใจที่คุณมาเจอเวปนี้และคิดหาทางออกได้ถูกต้องเพราะเจอกัลยาณมิตรที่ดีมีปัญญา แต่น่าสงสารผู้ที่ยังหาทางออกไม่ถูกถ้าคุณมีเพื่อนที่อกหักหรือมีทุกข์ในเรื่องใดก็แนะนำให้มาตั้งกระทู้ในเวปนี้เพื่อช่วยกันหาทางออกได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 22:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กำลังโหยหาความรู้สึกที่คุณเป็นอยู่เลยคะ อยากบอกดังๆว่า ความอิสระอยู่ไหน ฉันอยากพบเจอจัง...ย้อนกลับไปเมือวันที่เราดิ้นรนที่จะให้เขากลับมา ช่างยากเย็น แต่ ณ วันนี้ มีเขาอยู่ข้างๆกาย ความรู้สึกกลับถดถอยลงไปเรื่อยๆ มันเหนื่อยจัง... แอบบ่น ประมาณว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า (ซะงั้น)

อยากบอกคุณนภัสสรว่า ดีใจด้วยจริงๆที่คุณหลุดพ้นความทุกข์ และมีชีวิตอยู่ได้ และอยู่อย่างมีความสุขเสียด้วยซี (แอบอิจฉา) นะเนี่ย คริ คริ...ดีใจด้วยค๊า....เก็บเกีียวความสุขให้มากที่สุดนะคะ :b35: :b35:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นภัสสร เขียน:
ทำไมถึงละเลยกับชีวิตและครอบครัวของตัวเองเพื่อผู้ชายคนเดียว นี่แสดงว่าดิฉันรักเค๊าน้อยลงหรือว่ายังไงค่ะ ตอนนี้ดิฉันกลับมาเป็นผู้ดูค่ะ ไม่ได้เป็นผู้ร่วมเล่นเกมกับชีวิตเค๊า ไม่แบก ไม่หนัก หรือว่ามันจะจริงที่เค๊าบอกว่า ความสุขอยู่ที่ตัวเรา ไม่ทราบว่ามีใครเป็นเหมือนดิฉันมั้ยค่ะ ฝากถามผู้รู้หน่อยค่ะว่าตลอดมาดิฉันกับเค๊ามันเป็นรักแท้หรื่อไม่ กราบขอบพระคุณค่ะ

tongue สวัสดีค่ะ คุณนภัสสร
ไม่ทราบว่าคุณปฏิบัติธรรมหรือเปล่า ถ้าปฏิบัติธรรมอยู่ก็แสดงว่าคุณเริ่มมองเห็นสัจจะธรรม
และจิตเริ่มปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นเพราะจิตรู้ว่าสิ่งที่ไปยึดมันเป็น "ทุกข์"
แต่ถ้าไม่ได้ปฏิบัติธรรมก็แสดงว่าความรักที่คุณมีให้กับแฟนของคุณได้มีการพัฒนาไปตามวุฒิภาวะ
ซึ่งผันตัวจากรักแบบรักใคร่ปรารถนาซึ่งเป็นความรักในเชิงชู้สาว ไปเป็นรักแบบเมตตาอารีซึ่ง
เป็นความรักแบบเพื่อนความรักชนิดนี้อยู่บนพื้นฐานของความเมตตา ซึ่งความรักแบบหลังนี้
จะทุกข์น้อยกว่าแบบแรก แต่ถ้าจะไม่ทุกข์เลยต้องพัฒนาไปถึงขั้นรักมีแต่ให้ ความรักมีแต่ให้นี้
เป็นความรักซึ่งเกิดขึ้นจากการมองเห็นความไร้แก่นสารหรือความไม่มีตัวตนของตนเอง
จึงไม่มีตัวตนไว้สำหรับเห็นแก่ตัว เมื่อไม่เห็นแก่ตัว จึงเห็นแก่โลก หัวใจไร้พรมแดน
สามารถรักคนได้ทั้งโลกนั่นเอง.....
นิยามของคำว่า”รักแท้” นั้นก็มีความหมายที่แตกต่างกันไปตามทิฐิของแต่ละคน
ซึ่งตัวเราเองก็ไม่เคยมีนิยามของคำว่ารักแท้ มีแต่นิยามของคำว่า “ทุกสิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง”
เพราะความไม่เที่ยง ความบีบคั้น ทำให้มันไม่สามารถที่จะคงสภาพอย่างนั้นได้
มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา...ไม่ใช่ตัวตนที่จะเข้าไปยึดไปถือได้เลย
นี่คือสัจจะธรรมที่เราเห็นอยู่ตลอดเวลา.......

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม :b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สะสม หน่วยกิจ การเจริญสติ ไปเรื่อยๆ บ่อยๆ เนืองๆ
ดูอยู่ รู้อยู่ อย่างปล่อยวาง
ดูที่ กาย ใจ เรานี่แหละ ไม่ไปดูที่อื่น
มีสติ สัมปะชัญญะ รู้ละ วาง สละวางอยู่ ให้รู้อยู่ ดูอยู่ พิจารณาอยู่
ที่กายของตนเอง เรียกว่าให้จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่หลุดออกไหข้างนอก
ขาดสติ จิตก็จะหลุดออกไป คิดโน่น เรื่องนั้น เรื่องนี้
ลืมใจ ลืมตัว มันก็ฟุ้งซ่าน หงุดหงิด เร่าร้อน
แต่ถ้ามีสติ ระลึกรู้ ดูแล รักษา จิตไว้อยู่
จิตก็จะรู้อยู่ในตนเอง รู้อยู่ในกาย ในใจนี้
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 16:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 13:45
โพสต์: 9


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ ดิฉันไม่ได้ไปปฎิบัติธรรมที่ไหน แต่สามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบง่าย ๆ ได้ เพราะดิฉันเจอเว็บนี้ค่ะ เรื่องบางเรื่องเราบอกใครไม่ได้ แต่เราบอกคนที่เข้าใจโลก และเข้าใจชีวิตได้ เหมือนเพื่อน ๆ และ พี่ๆ ในเว็บนี้ค่ะ ทุกคำแนะนำมีค่าสำหรับดิฉันมาก คำแนะนำที่เป็นนามธรรม ดิฉันนำไปปฎิบัติให้เป็นรูปธรรม ยอมหักดิบเลิกรากับเค๊าบอกตัวเองให้มองเค๊าเป็นแค่ "คนเคยรัก"
ตอนนี้ดิฉันมีความสุขมาก หลังกลับมาใช้ชัวิตแบบที่เรารักและกับคนที่รักเราสุดหัวใจ พวกเค๊าไม่ทิ้งเราไปไหนแน่ คือพ่อกับแม่ค่ะ ช่วงนี้เหมือนกลับไปเป็นเด็กอายุไม่ถึง 20 ก่อนออกจากบ้านก็มีคนทำโน่นทำนี่ให้ทาน ในขณะที่เมื่อก่อนต้องทำอะไรมากมายให้กับคนอื่น เฮ้อออออ ตอนนี้มีเวลามากพอที่ทำอะไรให้กับตัวเอง หลังจากเลิกงานก็ไปช๊อปปิ้ง เข้าร้านเสริมสวย พาพ่อแม่ออกไปทานข้าวนอกบ้าน เข้าห้องสมุดอ่านหนังสือ และถ้ามีเวลามากพอก็ชวนพวกเค๊าไปปฎิบัติธรรม มันเป็นความสุข สุขแบบง่าย ๆ ไม่เร่าร้อน เหมือนที่ผ่านมา ถ้าต่อไปในอนาคตชีวิตของดิฉันต้องดำเนินต่อไปตามกรรมที่ถูกกำหนดมา มีครอบครัว ดำเนินชีวิตเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฎ ดิฉันก็จะใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท มีสติ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าทุกอย่างมีตั้งขึ้น และดับลง ที่สำคัญดิฉันทียาดี ธรรมมะ
ก็เหมือนกับยา ถ้านำมาใช้ให้ถูกกับโรค
ขอบคุณเว็บดี ๆ แบบนี้ กราบขอบคุณท่านพุทธฎีกา ท่านเจโต และทุก ๆ คนที่มิได้กล่าวถึง ทำให้ดิฉันมีดวงตาเห็นธรรม ใช้ชีวิตเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน และที่สำคัญที่สุด ทำให้ดิฉันค้นพบตัวเองว่า ความสุขสามารถหาได้จากที่ไหน และตัวเราเองต้องการอะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 19:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b35: :b35: :b35:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 20:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2010, 08:25
โพสต์: 326


 ข้อมูลส่วนตัว




A7WNOCAN1WGW2CARMVKDKCAHKMZL2CANI22BFCA5FW889CA1ZYX9PCARF312ECAWZWHBCCA6D3WN7CAYB9ZJWCA7SBS06CAX6G5AHCAQJMSAPCA4HCH5TCAOXVHBJCAM7I6AECA6TXT31CAJ5RDO7CAUG6NGZ.jpg
A7WNOCAN1WGW2CARMVKDKCAHKMZL2CANI22BFCA5FW889CA1ZYX9PCARF312ECAWZWHBCCA6D3WN7CAYB9ZJWCA7SBS06CAX6G5AHCAQJMSAPCA4HCH5TCAOXVHBJCAM7I6AECA6TXT31CAJ5RDO7CAUG6NGZ.jpg [ 7.45 KiB | เปิดดู 7750 ครั้ง ]
tongue ยินดีด้วยนะคะ ที่คุณมีความสุขค่ะ :b17: :b17: :b17: :b12: :b12: :b12: tongue

.....................................................
สุดปลายฟ้า... เชื่อมั่นและสัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้รู้แจ้ง เห็นจริง ยึดถือพระองค์เป็นสรณะ อย่างไม่มีสิ่งใดเหนือกว่า
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2011, 00:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 23:17
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กล่าวถึงความรัก
คนส่วนมากคิดว่าแฟนคือคนของเรา เราเป็นเจ้าของชีวิตเขา
อย่างที่เขาว่า รักมากเจ็บมาก แต่ลืมคิดไปว่า เขาแค่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราเท่านั้นเอง ไม่ใช่ชีวิตของเรา ขาดเขาแล้วเราอยู่ไม่ได้ เพราะเมือก่อนผมก็เคยคิดแบบนั้น จนมาพบธรรมะ พบสัจธรรม พบความสว่าง พบคำสอนแห่งพุทธะ ทำให้ผมมีความสุข ผมคิดอยู่ทุกวันนี้ว่า ความรัก ความผูกพัน ห่วงใย ทำให้ชาติภพ ไม่มีวันสิ้นสุด
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกะทู้นะครับ หันมาศึกษาธรรมะ แล้วชีวิตจะพบแต่ความสุขนิรันดิ์ ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2011, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 23:17
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นภัสสร เขียน:
ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ ดิฉันไม่ได้ไปปฎิบัติธรรมที่ไหน แต่สามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบง่าย ๆ ได้ เพราะดิฉันเจอเว็บนี้ค่ะ เรื่องบางเรื่องเราบอกใครไม่ได้ แต่เราบอกคนที่เข้าใจโลก และเข้าใจชีวิตได้ เหมือนเพื่อน ๆ และ พี่ๆ ในเว็บนี้ค่ะ ทุกคำแนะนำมีค่าสำหรับดิฉันมาก คำแนะนำที่เป็นนามธรรม ดิฉันนำไปปฎิบัติให้เป็นรูปธรรม ยอมหักดิบเลิกรากับเค๊าบอกตัวเองให้มองเค๊าเป็นแค่ "คนเคยรัก"
ตอนนี้ดิฉันมีความสุขมาก หลังกลับมาใช้ชัวิตแบบที่เรารักและกับคนที่รักเราสุดหัวใจ พวกเค๊าไม่ทิ้งเราไปไหนแน่ คือพ่อกับแม่ค่ะ ช่วงนี้เหมือนกลับไปเป็นเด็กอายุไม่ถึง 20 ก่อนออกจากบ้านก็มีคนทำโน่นทำนี่ให้ทาน ในขณะที่เมื่อก่อนต้องทำอะไรมากมายให้กับคนอื่น เฮ้อออออ ตอนนี้มีเวลามากพอที่ทำอะไรให้กับตัวเอง หลังจากเลิกงานก็ไปช๊อปปิ้ง เข้าร้านเสริมสวย พาพ่อแม่ออกไปทานข้าวนอกบ้าน เข้าห้องสมุดอ่านหนังสือ และถ้ามีเวลามากพอก็ชวนพวกเค๊าไปปฎิบัติธรรม มันเป็นความสุข สุขแบบง่าย ๆ ไม่เร่าร้อน เหมือนที่ผ่านมา ถ้าต่อไปในอนาคตชีวิตของดิฉันต้องดำเนินต่อไปตามกรรมที่ถูกกำหนดมา มีครอบครัว ดำเนินชีวิตเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฎ ดิฉันก็จะใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท มีสติ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าทุกอย่างมีตั้งขึ้น และดับลง ที่สำคัญดิฉันทียาดี ธรรมมะ
ก็เหมือนกับยา ถ้านำมาใช้ให้ถูกกับโรค
ขอบคุณเว็บดี ๆ แบบนี้ กราบขอบคุณท่านพุทธฎีกา ท่านเจโต และทุก ๆ คนที่มิได้กล่าวถึง ทำให้ดิฉันมีดวงตาเห็นธรรม ใช้ชีวิตเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน และที่สำคัญที่สุด ทำให้ดิฉันค้นพบตัวเองว่า ความสุขสามารถหาได้จากที่ไหน และตัวเราเองต้องการอะไร


ยินดีด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2011, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 128

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณนภัสสร
ยินดีกับคุณด้วยนะค่ะ
ที่สามารถตัดใจได้
ทำให้หลุดพ้นจากบ่วงทุกข์
อันแสนสาหัสค่ะ
ได้อ่านข้อความของคุณแล้ว
ทำให้มีความสุขไปด้วยเลยค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆ นะค่ะ

:b19: :b19: :b19: :b19: :b19: :b19: :b19: :b19: :b19:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2011, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
นภัสสร เขียน
พอเราคิดถึงเค๊าเราต้องหายใจไม่ออกเหมือนคนใกล้ตาย เราต้องใช้เวลาหลายปีแน่เพื่อจะลืมเค๊าได้ สารพัดที่คิดไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ผลสุดท้ายแล้วไม่ใช่ค่ะ ดิฉันตื่นขึ้นมา เอ๊ะ ทำไมเรายังหายใจ ทำไมถึงกินได้นอนหลับ ทำไมถึงใช้ชีวิตเหมือนเดิมอยู่ได้ไม่ลงไปนอนดิ้นตายเพื่อให้เค๊ากลับมา ทำไม และทำไม มันเป็นคำถามที่ดิฉันต้องการคำตอบค่ะ

คุณมีคำถามคล้ายผมเลยคือ ผมนั่งสมาธิจนปวดขามากแล้วมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เอ เราก็ไม่ได้เลือดตกยางออกเวลานั่งสมาธิ ทำไมเราถึงกลัวจะเกิดอันตรายขึ้น ทำไมเราทนไม่ไหวเลิกนั่งสมาธิ พอเลิกนั่งก็กลับสู่สภาพเดิมคือความทุกข์ของรูปจางลงเพราะการเปลี่ยนท่านั่ง คำตอบที่ผมอยากค้นหาเช่นกันครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
อ้างคำพูด:
นภัสสร เขียน
พอเราคิดถึงเค๊าเราต้องหายใจไม่ออกเหมือนคนใกล้ตาย เราต้องใช้เวลาหลายปีแน่เพื่อจะลืมเค๊าได้ สารพัดที่คิดไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ผลสุดท้ายแล้วไม่ใช่ค่ะ ดิฉันตื่นขึ้นมา เอ๊ะ ทำไมเรายังหายใจ ทำไมถึงกินได้นอนหลับ ทำไมถึงใช้ชีวิตเหมือนเดิมอยู่ได้ไม่ลงไปนอนดิ้นตายเพื่อให้เค๊ากลับมา ทำไม และทำไม มันเป็นคำถามที่ดิฉันต้องการคำตอบค่ะ

คุณมีคำถามคล้ายผมเลยคือ ผมนั่งสมาธิจนปวดขามากแล้วมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เอ เราก็ไม่ได้เลือดตกยางออกเวลานั่งสมาธิ ทำไมเราถึงกลัวจะเกิดอันตรายขึ้น ทำไมเราทนไม่ไหวเลิกนั่งสมาธิ พอเลิกนั่งก็กลับสู่สภาพเดิมคือความทุกข์ของรูปจางลงเพราะการเปลี่ยนท่านั่ง คำตอบที่ผมอยากค้นหาเช่นกันครับ

:b1:
...ชีวิตตัวเราคือผู้ลิขิตค่ะ ไม่ใช่มีใครมาปรุงแต่งสุข-ทุกข์ให้ มีแต่ใจเราที่คิดไปตามความอยากเอง...
...คนที่ถูกรัก...เขาก็คิดปรุงไปตามความรู้สึกอยากของเขาเองเช่นกันค่ะ...แต่ละคนคิดแทนกันไม่ได้...
...เวลาที่เรารักใครมากๆ เราจะแคร์ถึงแม้คนๆนั้นทำไม่ถูกใจเรา...เราก็จะอดทนเพื่อให้เขามีความสุข...
...เมื่อเราเก็บความรู้ที่เขาไม่แคร์มาคิดสะสมมากๆ...ก็กลายเป็นเราทุกข์แต่ไม่เห็นเพราะรักเขามากไง...
...การใช้ชีวิตคนเดียวเป็นชีวิตที่ไม่ถูกคนอื่นบังคับ...ถึงแม้เราทำอะไรได้เองแต่ก็ไม่สมหวังทั้งหมดค่ะ...
...ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่หลายคนก็ต้องมีสังคม ที่ทำได้คือทำชีวิตทุกวันของเราให้ทุกข์ลดลงค่ะ...
:b27:
...ขออนุญาตเสนอแนะคุณstudent เกี่ยวกับการผ่านทุกขเวทนาอาการปวดเวลานั่งสมาธิค่ะ...
...ทุกอย่างมีเกิด-ดับ...ส่วนใหญ่คนที่นั่งสมาธิมักจะไม่ขันติ พอรู้สึกปวดและชาก็จะขยับเปลี่ยนท่า...
...อันนี้เพราะกลัวตาย คิดไปว่าร่างกายมันจะเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต เลยไม่ได้รู้ว่าถ้าอดทนจะผ่านได้...
...เพราะข้าพเจ้าเคยผ่านจุดนี้แล้ว...จะปวดจะชาอย่างไรก็ให้นิ่งไม่ขยับค่ะ ให้ตั้งสติตามดูไปเรื่อยๆ...
...ไม่ต้องคิดว่านานแค่ไหน...เมื่อเวลาผ่านไปอาการชาหายก็จะวนกลับมาที่ปกติโดยที่ไม่ได้ขยับค่ะ...
...พอถอนจากสมาธิลุกขึ้นเดินได้ปกติทันทีก็คือจะทราบได้ที่พระพุทธเจ้าสอนว่ามีเกิดก็มีดับอย่างนี้...
:b12:
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 44 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร