วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2010, 16:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2010, 16:12
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากรัก..คือ..ทุกข์
แล้วสุข..คือ..อะไร
หากรัก..คือ.เสียใจ
แล้วทำไม..ใจ..ต้องการ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2010, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 13:58
โพสต์: 14

แนวปฏิบัติ: ยุบหนอ พองหนอ
งานอดิเรก: ทำอาหาร
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมคิดว่า ความรักมันเป็นสิ่งที่มีแต่ให้นะคับ แต่ที่เราต้องทุกข์ใจเพราะ เราตั้งความหวังในตัวคนรักเรามากกว่า

.....................................................
ถ้าชนะด้วยอาวุธ จะสิ้นสุดด้วยความแค้น ใช้ธรรมะชนะแทน ความขุ่นแค้นจะหายไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2010, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หากรัก..คือ..ทุกข์
แล้วสุข..คือ..อะไร


คำพูดนี้ไม่ถูกต้องนะครับ
... :b1:

ความรัก, ความสุข และความทุกข์ เป็นสภาวะธรรมที่ต่างกันครับ ไม่ใช่สิ่งดียวกัน ตรงนี้ขอให้เข้าใจไว้ก่อน..

ความรักนั้น องค์ธรรม ได้แก่ โลภะมูลจิต ..
เมื่อเป็นโลภะมูลจิตแล้ว.... ก็ย่อมมีอารมณ์อันเป็นที่รักเป็นเหตุให้เกิด ..เช่นพบคนที่สวยหล่อหรือนิสัยดีหรือคุยกันถูกคอฯลฯ ฯลฯ

ส่วนสุขหรือทุกข์นั้นเป็น"เวทนา" ที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับอารมณ์ที่ดีหรือไม่ดี..ดังนั้น เมื่อรักสมหวังจึงทำให้สุข แต่พอผิดหวังก็ทุกข์ การพูดว่าความรักคือความสุขจึงเป็นนิยามที่ไม่ถูกต้องเพราะไม่แน่นอน..

อ้างคำพูด:
หากรัก..คือ.เสียใจ
แล้วทำไม..ใจ..ต้องการ


เพราะเยื่อใยหรือยางเหนียวแห่งตัณหาที่ตนเองสร้างขึ้น.. นี่ก็คือกิเลสคือโลภะนั่นเอง..
เรื่องนี้ก็มิได้เกิดแก่ทุกคน บางคนมีปัญญาสามารถตัดเยื่อใยนี้ได้ ก็ไม่ทุกข์หรือเสียใจต่อเนื่องหรอกครับ.

การจะพ้นความเสียใจ..ทั้งไม่ดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งที่ไม่อาจคว้ามาได้..ไม่ได้เกิดจากคนอื่นๆทำให้ืื ตนเองนั้นต้องเตือนตน ต้องหาปัจจัยแห่งปัญญาให้เกิดขึ้นเพื่อสอนตนให้รู้วิธีถอนเยื่อใยแห่งตัณหาที่ตนนั้นสร้างขึ้นเอง จึงจะพ้นทุกข์ครับ..

:b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 19 ก.ย. 2010, 17:19, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 60 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร