วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 10:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2010, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2010, 22:27
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คบกับเค้ามา ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย ผูกพันธ์กับเค้ามาก เนื่องจากเช่าบ้านอยู่ด้วยกันกับเพื่อนๆ ตื่นมาก็เจอกันทุกวัน กินข้าวด้วยกัน เรียนก็เอกเดียวกัน เราช่วยเหลือกันมาตลอดทุกๆเรื่อง
พอเรียนจบไม่ทันไร เค้าก็จากดิฉันไปด้วยอุบัติเหตุรถชน นี่ก็ผ่านมาเดือนนึงแล้ว ยังทำใจไม่ได้เลยค่ะ พยายามนั่งสมาธิ สวดมนต์ เท่าที่พอทำได้ แต่ใจมันไม่สงบสักที คิดถึงเค้าตลอดเลย
ทำยังไงถึงจะปล่อยวางได้สักทีคะ ดิฉันเหนื่อยใจเหลือเกิน
อยากทำใจได้เร็วๆ เค้าจะได้ไปอย่างสงบ ไม่ต้องเป็นห่วง รบกวนใครมีวิธีดีดี ช่วยแนะนำดิฉันด้วย ขอบคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2010, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ แม้เราจะไม่เคยรู้จักกัน
แต่ดิฉันก็เข้าใจถึงความรู้สึกสูญเสียดี

แม้คนที่รักได้จากไปแล้ว แต่เค้าก็ได้แสดงธรรมให้เราเห็นความจริงอย่างชัดเจน
นั่นคือไม่มีอะไรเที่ยง บังคับไม่ได้ ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน

ตอนนี้ใจมีแผลเยอะ ถ้าจะทำสมาธิให้สงบคงไม่ง่ายค่ะ
ลองวิธีนี้ดูมั้ยคะ เมื่อไหร่ที่คิดถึงเค้า แทนที่จะปล่อยใจให้ไหลไปกับเรื่องราวต่างๆที่คิดขึ้นมา
เช่น ความทรงจำดีๆ ความรู้สึกดีๆที่เคยมีระหว่างกัน ฯลฯ
ระหว่างที่จิตคิดปรุงแต่งไปเรื่อยๆนี้ ความหดหู่ ความเศร้าก็ย่อมเกิดขึ้น

ลองเปลี่ยนมาเป็นคอยรู้สึกตัวว่า
ตอนนี้กำลังคิดถึงเค้าอยู่ ตอนนี้กำลังเศร้าอยู่
แล้วจะเห็นในขณะนึงเลยว่าความหดหู่จะดับไปทันทีที่เรารู้สึกตัว
แต่แป๊บเดียว พอเราไปคิดถึงเค้าอีก ก็เศร้าอีก
หากความหดหู่ยังอยู่ก็ไม่ต้องกังวล คอยรู้สึกตัวไปเรื่อยๆ
มันไม่ดับ อยากให้มันดับ ก็รู้ว่าเรากำลังคิดอยากให้ความเศร้านั้นดับ
อารมณ์ความรู้สึกอะไรที่เกิดกับจิตใจก็คอยสังเกตไป
ความรู้สึกแย่ๆ หดหู่ เสียใจ จะหล่นหายไปเยอะเลยค่ะ

หรือตอนสวดมนต์ สวดไปก็คอยรู้สึกตัวไปก็ได้ค่ะ
เช่นสวดประโยคแรกจดจ่ออยู่กับบทสวด ก็รู้ตัวว่ากำลังจดจ่อกับบทสวด
ประโยคที่สอง ระหว่างสวดใจหนีไปคิดถึงเค้า ก็รู้ว่าใจแอบไปคิดถึงเค้า
ประโยคที่สาม สมมติว่าพยายามดึงใจกลับมาอยู่กับบทสวดมนต์ ก็รู้ตัวว่าพยายามดึงกลับมา
เป็นการซ้อมการรู้สึกตัวในชีวิตประจำวันค่ะ
ไม่ใช่อะไร ที่เราทุกข์เพราะเราคิดนั่นเองค่ะ
และเมื่อเราอยากให้หายทุกข์ มันก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นอีก
แต่ถ้าเรารู้ตัวว่ากำลังคิด(ไม่ใช่เรื่องที่คิด)
ทุกข์จะน้อยลงจริงๆค่ะ

จริงๆเวลาก็อาจช่วยรักษาแผลได้
แต่ถ้าใช้โอกาสนี้มาเจริญสติได้ก็จะเป็นประโยชน์เกื้อกูลกับจิตใจมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ เข้มแข็งเจริญในธรรมนะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 05:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ
แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีใครหนีพ้น...สักวันหนึ่ง
เราก็ต้องตามเขาไปเหมือนกัน

หาอะไรทำจะได้ไม่ว่างที่จะคิด
และอย่าอยู่คนเดียว...หากเหงา
ก็เข้ามาหาเรื่องราวต่างๆอ่าน
มีทุกรูปแบบของ ความพลัดพราก
ทั้งจากเป็นและจากตาย

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bpviewj เขียน:
อยากทำใจได้เร็วๆ เค้าจะได้ไปอย่างสงบ ไม่ต้องเป็นห่วง รบกวนใครมีวิธีดีดี ช่วยแนะนำดิฉันด้วย ขอบคุณมากค่ะ

เขาได้ไปอย่างสงบตามวิถีทางของกรรมแล้ว...สู่ภพภูมิใหม่แล้ว
ส่วนเราสิ..ที่ยังไม่สงบ...ยังมีอารมณ์เวทนา..เศร้าโศก..อาลัยอาวร อุปาทานยึด ว่าเป็นของๆเรา เพื่อนเรา แฟนเรา..ฯลฯ
ต้องหัดปล่อยวาง...ไม่ยึดสิ่งใดมาเป็นตัวเรา ของเรา..แม้แต่จิต ใจ ตัวเรา ที่คิดว่าเป็นเรา ก็ไม่ใช่เรา
หากวันใดวันหนึ่ง ก็ต้องถึงวันสิ้นสลายไป ไม่เร็วก็ช้า...ขอแสดงความเสียใจ..และให้ลืมเรื่องสัญญาเหล่านี้..ให้ได้สู่ความสงบเร็วไวโดยการทำสมาธิอยู่เนืองๆครับ
ขอเจริญในธรรม :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ศรีสมบัติ เมื่อ 05 ส.ค. 2010, 10:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2010, 22:27
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกคำแนะนำ และกำลังใจนะคะ
จะพยายามทำใจให้ได้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้ก้าวผ่านความรู้สึกแย่ๆไปให้ได้นะคะ เอาใจช่วยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 11:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ...
ขอให้คุณเข้มแข็ง และ ผ่านพ้นความรู้สึกนี้ให้ไปได้
เวลาจะช่วยเยียวยา รักษาความทุกข์ของคุณ
หากคุณรู้ว่าความทุกข์ของคุณนั้น จะทำให้เขาไม่มีความสุข
คุณก็ต้องพยายามปล่อยวางให้ได้ มันอาจไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป
เอาใจช่วยค่ะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 12:21
โพสต์: 637

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเราเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า

ต่อไปก็จะได้เจอกัน พระพุทธองค์เคยเสวยชาติ เป็นอะไรมากมาย แต่ละชาติ ก็พบว่า จำนวนมาก
ก็ผูกพันกันไป ตลอดเวลา บ้างก็เป็นสามี ภรรยา บ้างก็เป็น พ่อแม่ลูก บ้างก็เป็นเพื่อน

ขอให้คุณ ทำความดี อุทิศให้เขาเสมอ
อย่างนี้ ยิ่งจะได้เจอกัน ในที่ที่ดี แน่นอนครับ

แล้วปล่อยวางความเศร้า อย่างไรก็เจอกันอยู่ดี
ความเศร้าทำให้กุศลไม่ได้เต็มที่

ทำดี สร้างสิ่งที่ดี เป็นบุญกุศล สำหรับครั้งต่อไป จะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
มีพบก็ต้องมีจาก หลาย ๆ คนในลานนี้ก็พบกับ
การจากทั้งจากเป็น และจากตาย ถึงอย่างไรเรา
ก็คงหนีการพรากจากสิ่งที่รักไม่ได้หรอกค่ะ เพียง
แต่ของคุณมาเร็ว แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าสิ่งใด ๆ
ในโลกนี้ไม่เที่ยง สักวันเราเองก็ต้องคืนสภาวะต่าง ๆ
ให้กับโลกใบนี้เช่นกัน ให้เวลาเป็นตัวช่วยนะค่ะ ประกอบ
กับการสวดมนต์ ไหว้พระที่คุณทำอยู่นั้นดีแล้ว ขอให้
ทำต่อไป การพิจารณาขันธ์ 5 จะช่วยได้มากนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2010, 12:46
โพสต์: 1010

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

ทุกท่านในลานฯ (รวมทั้งผมเองด้วยครับ) ผ่านการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักด้วยกันทั้งนั้นนะครับ :b2:

แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่สอนให้เราเข้มแข็งและแก้ไขทุกข์ด้วยปัญญา พระพุทธเจ้าถึงทรงสอนไว้ว่า กิจที่ควรปฏิบัติในทุกข์นั้นคือ ให้รู้เข้าไปตรงๆ (ทุกข์ให้รู้) ไม่ใช่ให้หนีหรือละ แต่สิ่งที่ควรละคือ เหตุแห่งทุกข์ (สมุทัยให้ละ) โดยวิธีที่จะใช้ละเหตุ ก็คือมรรค (มรรคให้เจริญ) แล้วเมื่อทุกข์หมดเหตุ ทุกข์จะดับให้เห็นเอง แล้วความเบิกบานเนื่องมาจากทุกข์ดับ จะตามมา (นิโรธให้แจ้ง)

ถ้าจะขยายความให้ละเอียดขึ้นสักหน่อย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเป็นทุกข์เนื่องจากการสูญเสียแฟนไป :b2:

1) ให้ใช้สติและสมาธิที่ตั้งมั่น (มรรคให้เจริญ)

2) ดูตรงๆเข้าไปที่สภาวะทุกข์ คือความคร่ำครวญ สะอื้นร่ำไห้ แน่นในหัวอก (ทุกข์ให้รู้)

3) โดยไม่วกเข้าไปดูเหตุที่ทำให้ทุกข์ คือ อย่าไปจดจ่ออยู่กับภาพความทรงจำเก่าๆที่ผุดขึ้นมา (สมุทัยให้ละ)

4) ถ้ามีสติและสมาธิที่ตั้งมั่นจดจ่อต่อเนื่อง ตามดูสภาวะแห่งทุกข์ได้นานพอที่จะไม่แว๊บไปคำนึงถึงเหตุ จะเห็นสภาวะทุกข์ คือความคร่ำครวญ สะอื้นร่ำไห้ แน่นในหัวอก ดับไปได้เองเพราะหมดเหตุตามลักษณะสามัญของเขา จิตจะเป็นกลาง เบิกบาน (นิโรธให้แจ้ง) ควรค่าแก่การใช้งานเพื่อคิดแก้ไขปัญหาที่มาจากภายนอกโดยไม่เจือไปด้วยกิเลสคือความอยากให้เขากลับมา ความหมดหวังท้อแท้เป็นทุกข์ (โลภะ + โทสะ + โมหะ)

หัดแรกๆอาจจะดูยากหน่อยนะครับ เพราะจิตเจ้ากรรมชอบตามไปจมแช่อยู่กับเหตุ คือยังไปจดจ่อครวญคร่ำอยู่กับภาพความทรงจำเก่าๆที่ผุดขึ้นมา มากกว่ามีสมาธิจดจ่อตามรู้แต่ในสภาวะทุกข์ ทำให้ทุกข์ไม่ดับให้เห็นเพราะเหตุไม่ดับ แถมยังจะทับถมทวีเพราะจิตไม่ยอมปล่อยเหตุ

มีความเพียรเจริญสติด้วยวิธีนี้ไปเรื่อยๆ (หลวงพ่อบางองค์ท่านบอกให้ดูเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้านครั้งนะครับ ชาตินี้ดูไม่พอ ให้ตามไปดูต่อในชาติหน้า หรือเราเองในชาตินี้อาจจะดูมาในชาติก่อนๆสะสมแต้มเป็นแสนเป็นล้านครั้งแล้วก็ได้น๊ะ :b16: สะสมแต้มอีกนิดเดียวก็อาจจะหลุดพ้นได้ในชาตินี้ก็ได้ :b12: ) สุดท้าย เมื่อจิตรู้ในตัวสภาวะทุกข์ได้ไว ก็จะเห็นการดับได้ไว ระยะที่จิตจับทุกข์ก็จะสั้นลง ๆ จนกระทั่งจิตไม่เข้าไปจับกับสภาวะนั้นเองเพราะมีปัญญารู้ว่าเป็นของร้อนซะแล้ว

ปล. แต่ถ้าสถานการณ์ภายในใจของเรายังไม่เอื้อให้เจริญสติได้ ก็ต้องออกไปตั้งหลักกันก่อนนะครับ คือหาทางทำใจให้สุขและสงบ เช่น ออกไปเที่ยวเข้าวัดเข้าวา เลิกคิดถึงแต่ภาพเก่าๆให้ได้เสียก่อน จิตถึงจะมีกำลังตั้งมั่นไม่ไหลตามการปรุงแต่งพอที่จะทวนเข้ามาดูสภาวะตรงๆให้เกิดปัญญาที่รู้เท่าทันโลกธรรม (อ่านว่า "โลก - กระทำ" :b16: ) ทั้งหลาย และปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาภายนอกได้ (สุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ + สมาธิเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา)

เจริญในธรรมครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2010, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2010, 22:27
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ ดิฉันจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ว่าดิฉันสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้
แต่ตอนนี้เหงามาก ว้าเหว่มาก หวังว่าพรุ่งนี้จะมีแรงมากกว่านี้

ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2010, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2010, 12:46
โพสต์: 1010

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้มแข็ง เข้มแข็ง

แล้วมันจะผ่านไป (อนิจจัง)

เป็นกำลังใจให้ครับ :b4:

เจริญในธรรมครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2010, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2010, 11:15
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ
กับสิ่งที่เกิดขึ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เป็นวัฎจักรที่วนเวียนไปเรื่อยๆ
ไม่มีใครหนีความตายพ้นไปหรอกค่ะ
ถ้าเมื่อยังมีชีวิตอยู่ แสดงให้เห็นว่า
เรายังสามารถที่จะทำประโยชน์ให้
กับตนเองและผู้อื่นได้อีกมากมาย
ตัดใจกับความโศกเศร้า อาลัยอาวรณ์
อย่าปล่อยจิตใจให้เหงาหงอยจากทุกข์
นั่นอีกเลย หมั่นบำเพ็ญกุศล สวดมนต์
ภาวนาให้เขา เพื่อเขาจะได้ไปเกิดในภพ
ภูมิที่ดีต่อไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2010, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 18:41
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีใครจะช่วยเราได้ นอกจากเราจะช่วยตัวเองค่ะ วิธีทำใจก็ไม่มีค่ะ ต้องอาศัยเวลา และสติ ของตัวเราเอง ตัวดิฉันเอง สามีเสียชีวิตไป 9 เดือนกับอีก 20 วันแล้ว ตอนนี้ก็ทำใจได้แล้วค่ะ แต่ถามว่า ยังคิดถึงไหม รักไหม อาวรณ์ไหม ยังคงเป็นอยู่ค่ะ ก็พยายามศึกษาธรรมะ และปฏิบัติธรรมช่วย ซึ่งเป็นหนทางที่ช่วยเราได้มากค่ะ เพราะเราได้เห็นถึงสัจธรรม ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ยกเว้น ความตาย
ถ้ายังคิดถึงก็คิดถึงไปเถอะค่ะ รักก็ยังคงรักอยู่ แต่สักวัน เวลาจะช่วยคุณคลายความเศร้าไปเอง เอาใจช่วยนะคะ เพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับใคร เขาก็เห็นใจเรา เข้าใจเรา แต่ไม่ลึกซึ้งเท่ากับตัวเราหรอกค่ะ ขอให้พ้นจากความเศร้าใจในเรื่องนี้ไวๆนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2010, 16:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ส.ค. 2010, 16:02
โพสต์: 1

แนวปฏิบัติ: อ่านหนังสือธรรมะ และสวดมนต์ นั่งสมาธิค่ะ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ ฟังเพลง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ของดังตฤณ
ชื่อเล่น: หญิง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ และขออวยพรให้ทำใจให้เข้มแข็งได้ในเร็ววัน และสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณผ่านไปได้คือ "สติ" ค่ะ
ดิฉันก็เคยเป็นแบบคุณค่ะ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ปัจจุบันอยู่ได้โดยไม่ทุกข์ เสียใจ จะมีก็เพียงแต่ความคิดถึง ความรัก ความผูกพันธ์ที่ยังคงมีอยู่
ดิฉันใส่บาตร ทำบุญ อ่านหนังสือธรรมะ แต่ที่เห็นว่าได้ผลมากที่สุดคือ สวดมนต์ค่ะ เพราะจะทำให้จิตใจสงบ และมีสติขึ้นอย่างนึกไม่ถึงเลยทีเดียว ลองทำตามดูนะคะ...
ชีวิตเรา กายของเรา... จริงๆ แล้วไม่ใช่ของเราหรอกค่ะ พอถึงเวลาก็ต้องสลายไปค่ะ
ใช้ชีวิตทุกวินาทีอย่างมีสตินะคะ สู้ๆ ค่ะ :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 73 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร