ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=31952
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  nuchy [ 23 พ.ค. 2010, 13:44 ]
หัวข้อกระทู้:  อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

cool สวัสดีคร๊าสมาชิกลานธรรมทุกท่าน

ช่วงนี้รู้สึกแปลก ๆ ค่ะ ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมานี้ อ่านธรรม สวดมนต์ และดูรายการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับพวกธรรมแม้กระทั่งรายการโทรทัศน์ที่เชิญคนตายแล้วฟื้นอะไรประมาณนี้ ...
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองคือ อยู่ดี ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมา ซึ่งปรกติแล้วน้ำตาจะไหลก็ต่อเมื่อยินดี เสียใจเป็นที่สุด
แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ งง กับตัวเองมาก ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกก็ไม่เอะใจ มาช่วงหลังเป็นบ่อยมาก
คืนไหนที่ไม่ได้สวดมนต์จะนอนไม่ได้เลยค่ะ แต่ก่อนไม่เป็นนะ ตอนใช้ชีวิตเสเพลหน่ะไม่เป็น
แต่ตอนนี้ถึงจะง่วงแค่ไหนก็ต้องสวดมนต์ก่อนนอน รวมถึงการนึกว่าวันรุ่งขึ้นจะตื่นแต่เช้าไปใส่บาตร
แต่ถ้าออกจากบ้านสายไม่ทันได้ทำบุญ จะเหมือนมีคนมารอเราอย่างไรอย่างนั้น ....

เมื่อคืนก่อนนอนก็ได้ฟังเรื่องราวธรรมของ พระเรวัตตะกับลีลาวดี น้ำตาก็ไหลออกมาซะงั้น ...ทั้งที่ไมได้ทุกข์ใจอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะวางมันลงประมาณ 70 % แล้ว
เราเป็นอะไรไปนี่ มันเกิดอะไรขึ้น ใครเคยเป็นแบบนี้บ้างมั้ยคะ ...

มีอีกอย่างหนึ่งนะคะ แต่ก่อนหลับตาลงนอนไม่เคยเห็นพระเลย คือนึกภาพไม่ออก .. เพราะอย่างที่บอกชีวิตไม่เคยแตะธรรมเลย แต่ทุกวัน ทุกคืนหลับตาลง เห็นพระตลอด ... เป็นอะไรที่บรรยายไม่ถูกจริง ๆ ....

ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะคะ ... ขอให้ทุกท่านเจริญทั้งในทางโลกและทางธรรม

เจ้าของ:  น้ำค้าง [ 23 พ.ค. 2010, 15:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

น้ำว่าเป็นเรื่องที่ดีของน้องนุชนะคะ ยังไงดีละ คือธรรมะเข้าถึงจิตใจได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่สำคัยเกิดปิติที่ได้ทำความดี ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ การตักบาตร การฟังธรรมะ พอใจเราพร้อมที่จะรับธรรมะเข้าสู่จิตใจ ก็จะปิตินะคะ :b1:

เจ้าของ:  ศรีสมบัติ [ 23 พ.ค. 2010, 15:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

อันน้ำตาจะไหลออกมาก็ต่อเมื่อ สภาวะจิตใจเกิด มีเวทนา ทุกขเวทนา หรือ สุขเวทนา คือ อุปาทานขันธ์ ปรุงแต่ง ซึ่งธาตุน้ำ นี้อยู่ในกายเรา จะขับออกมาจากทวารต่างๆ ออกมาทางตาเรียก น้ำตา ออกมาทางจมูกเรียก น้ำมูก เป็นต้น
กรณีของคุณ..ความเห็นของกระผม..น่าจะมาจากความ ปีติ(สุข) อย่างละเอียดมากกว่า เพราะเมื่อในชีวิตประจำวันนั้นเพ่ง จดจ่ออยู่แต่เรื่องธรรม(นั้นเป็นสิ่งวิเศษสุดอยู่แล้ว) ความปีติสุขย่อมเกิดขึ้นในใจตลอด ใจมันฟู มันพอง ที่ได้เห็นบุญ พบพระธรรม พบความเย็น สงบสุขโดยที่ไม่เคยพบจากที่ใดมาก่อน
ก็เลยบางครั้งน้ำตาแอบไหลออกมาโดยที่เราไม่รู้สึกตัวหรือกำหนดไม่ทัน บางครั้งแม้ยามหลับตาก็อาจจะนิมิตเห็นผ้าเหลือง..สีเหลืองๆ บ้าง คล้ายๆ กับ พระพุทธรูปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เป็นนิมิตมงคล..เป็นผลจากสัญญาที่เราได้ยิน ได้เห็นธรรมอยู่ประจำเนืองๆ....แม้แต่ความรู้สึกว่ามีใครมารอ..ยามจะตักบาตร..เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เสมอ กับผู้ปฏิบัติธรรม..
เราเดินทางมาถูกต้องแล้ว..เดินต่อไป เจริญสมาธิภาวนา ปฏิบัติกรรมฐาน สะสมหน่วยกิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออินทรีย์คุณแก่กล้า เรื่องเหล่านี้ จะหายไปเอง..คุณจะกำหนดรู้ได้เอง..ด้วยตัวคุณเองโดยไม่ต้องมีปัญหาใดๆ อีก..เพราะธรรมเหล่านี้ล้วนสร้างแต่ปัญญา มีผลคือความพ้นแห่งทุกข์เป็นจุดหมาย
ผิดถูกใดๆตอบไม่ตรงใจขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ :b8:
ขอเจริญในธรรม :b8:

เจ้าของ:  -dd- [ 23 พ.ค. 2010, 19:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

สนับสนุนความเห็นของท่านศรีสมบัติครับ .. :b4: :b4: :b4: :b8:

หนูนุชมาถูกทางแล้ว ยินดีด้วยครับ :b35: :b35: :b35: :b4: .. อาการเหล่านี้อีกหน่อยก็จะหายไป ไม่ควรวิตกกังวลหรือยึดถือว่าเป็นสาระสำคัญอะไรครับ .. :b46: :b47: :b48:

เจ้าของ:  tidkumlaa [ 23 พ.ค. 2010, 21:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

ศรีสมบัติ เขียน:
อันน้ำตาจะไหลออกมาก็ต่อเมื่อ สภาวะจิตใจเกิด มีเวทนา ทุกขเวทนา หรือ สุขเวทนา คือ อุปาทานขันธ์ ปรุงแต่ง ซึ่งธาตุน้ำ นี้อยู่ในกายเรา จะขับออกมาจากทวารต่างๆ ออกมาทางตาเรียก น้ำตา ออกมาทางจมูกเรียก น้ำมูก เป็นต้น
กรณีของคุณ..ความเห็นของกระผม..น่าจะมาจากความ ปีติ(สุข) อย่างละเอียดมากกว่า เพราะเมื่อในชีวิตประจำวันนั้นเพ่ง จดจ่ออยู่แต่เรื่องธรรม(นั้นเป็นสิ่งวิเศษสุดอยู่แล้ว) ความปีติสุขย่อมเกิดขึ้นในใจตลอด ใจมันฟู มันพอง ที่ได้เห็นบุญ พบพระธรรม พบความเย็น สงบสุขโดยที่ไม่เคยพบจากที่ใดมาก่อน
ก็เลยบางครั้งน้ำตาแอบไหลออกมาโดยที่เราไม่รู้สึกตัวหรือกำหนดไม่ทัน บางครั้งแม้ยามหลับตาก็อาจจะนิมิตเห็นผ้าเหลือง..สีเหลืองๆ บ้าง คล้ายๆ กับ พระพุทธรูปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เป็นนิมิตมงคล..เป็นผลจากสัญญาที่เราได้ยิน ได้เห็นธรรมอยู่ประจำเนืองๆ....แม้แต่ความรู้สึกว่ามีใครมารอ..ยามจะตักบาตร..เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เสมอ กับผู้ปฏิบัติธรรม..
เราเดินทางมาถูกต้องแล้ว..เดินต่อไป เจริญสมาธิภาวนา ปฏิบัติกรรมฐาน สะสมหน่วยกิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออินทรีย์คุณแก่กล้า เรื่องเหล่านี้ จะหายไปเอง..คุณจะกำหนดรู้ได้เอง..ด้วยตัวคุณเองโดยไม่ต้องมีปัญหาใดๆ อีก..เพราะธรรมเหล่านี้ล้วนสร้างแต่ปัญญา มีผลคือความพ้นแห่งทุกข์เป็นจุดหมาย
ผิดถูกใดๆตอบไม่ตรงใจขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ :b8:
ขอเจริญในธรรม :b8:


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

เพราะแต่ก่อนใช้ชีวิตเสเพล พอมาพบธรรม ปฏิบัติธรรมมากๆ ใจมันก็เกิดปีติ

เจ้าของ:  nuchy [ 23 พ.ค. 2010, 22:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

cool tongue ขอบคุณนะคร๊า

นุชจะเพียรทำความดี เดินทางที่ถูกที่ควรไปจนวินาทีของลมหายใจสุดท้ายเลยค่ะ ... ตอนนี้ยังทำได้ไม่มาก แต่จะพยายามทำทุก ๆ วัน ...


เวรกรรม ตามทันกันในชาตินี้
คิดดูให้ดี ใครจะก่อกรรมทำเข็ญ
ก่อกรรมเช้า ได้รับลงทันฑ์ตอนเย็น
อยากให้โลกได้เห็น ความลิขิตแห่งกรรม
สามคำ จำไว้กรรมลิขิต
ให้ชีวิตมีขึ้นสูง และตกต่ำ
ใครทำกรรมดี กรรมนั้นช่วยหนุนนำ
ใครเคยก่อกรรม ทำเวรไว้ กรรมลิขิต...



ขอพระคุ้มครอง" คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ เช่นเคยค่ะ

เจ้าของ:  หลับอยุ่ [ 23 พ.ค. 2010, 22:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

ปีติ ในสมัยก่อน หากมีความแรงมากๆ ถึงกับเหาะได้เลยทีเดียว

เจ้าของ:  Rosarin [ 24 พ.ค. 2010, 11:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

tongue
:b1:
...คุณnuchy...เกิดอาการที่เรียกว่าว่าจิตคือผู้รู้...
...เพราะเราฝึกจิตตนเองพอจิตรู้จึงพอใจยินดีในการทำ...
...ผลที่ตามมาคือเกิดปิติยินดีด้วยอาการน้ำตาไหลค่ะ...
...จิตที่ยินดีแล้วแผ่อุทิศบุญกุศลจึงให้ผลละเอียดต่อจิตผู้รู้...
...ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยค่ะ...คุณnuchy...
:b8:
:b44: :b44:
:b39: :b39: :b39: :b39: :b39:

เจ้าของ:  krathin [ 25 พ.ค. 2010, 13:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ

หลับอยุ่ เขียน:
ปีติ ในสมัยก่อน หากมีความแรงมากๆ ถึงกับเหาะได้เลยทีเดียว


โอ๊ววว...จริงหร๊อค๊า ไม่เคยได้ยินอ่ะ :b10:
ตัวดิฉันเอง ตอนนั่งเจริญภาวนา แค่รู้สึกว่าตัวมันเบาๆ ลอยๆ เฉยๆอ่ะคะ ตอนแรกก็ตกใจว่าเป็นอะไร พอถามพระอาจารย์ มันคืออาการปีติ ก็เข้าใจด้วยประการชะนี้แล :b9:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/