วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 10:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญหาของหนูเองอาจจะดูน้อยกว่าของท่านอื่นๆที่เข้ามานะคะ แต่ขออนญาตรบกวนขอคำชี้แนะให้หายจากวังวนซะทีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าแต่งงานกับแฟนมาประมาณ 1 ปีค่ะคบกันมา2 ปีถึงแต่ง ก่อนหน้าที่เค้าจะแต่งงานกะเรา แฟนเคยจดทะเบียนสมรสกับแฟนคนเก่าแต่สุดท้ายก็หย่ากันแต่ไม่ใช่เพราะว่าเข้ากันไม่ได้แต่ว่าเพราะ
แฟนคนเก่าเค้าตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศค่ะ จริงๆหนูรู้เรื่องทุกอย่างของแฟนเก่าเเพราะเค้าเล่าให้ฟัง เค้าไม่ได้ปิดบังกลัวมาเรามารู้ทีหลังแล้วเราเสียใจ แต่การที่เรารู้อะไรมากไป ตอนนี้รู้สึกว่ามันก็ไม่ดี ที่ผ่านมาเค้าจะติดต่อกับแฟนเก่าบ้างตอนที่เรายังไม่แต่งงานกัน แต่หลังจากแต่งงานกันเเค้าก็ไม่ได้ติดต่อแต่จะมีเข้าไปดู HI5 บ้างซึ่งทำให้เราไม่สบายใจเพราะเรารู้ว่าจริงๆเค้าไม่ได้เลิกกันเพราะเกลียดกันแต่อาจจะเลิกกันเพราะห่างกัน พูดตรงๆๆว่าเรากลัวว่าเค้าจะติดต่อกันแล้วมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันไม่ว่าจะทางใดก็ตาม แต่แฟนเเค้าก็บอกว่าเรื่องราวระหว่างเค้ากับแฟนเก่านั้นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้แล้วเพราะต่างคนต่างอยู่(ลืมเล่าให้ฟังว่าตอนที่แฟนจะแต่งงานกะหนูแฟนเก่าเค้าโทรมาจากต่างประเทศมาด่าแฟน) และอีกอย่างแฟนก็บอกว่าเค้าเลือกทางเดินใหม่แล้วคือเลือกเรา เค้าบอกให้เราอย่าไปยึดติดอดีตับเค้ามากค่ะ ให้อยู่กับปัจจุบัน ซึ่งจริงๆๆแล้วเค้าก็พูดถูก หนูก็พยายามทำอย่างนั้นจนจะเชื่อใจได้ว่าเค้าไม่ได้ติดต่อกัน กระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเค้าติดต่อกันทาง facebook(พาลเอาเกลียดโลกไซเบอร์ไปเลยอ่ะค่ะ) แฟนเก่าเข้ามาทักก่อนประมาณว่าสบายดีหรอ แฟนตอบกลับไปว่า สบายดี แฟนเก่าเค้าเลยตอบกลับมาว่า ตอบยังกะคนไม่เคยรู้จักกัน แฟนหนูเค้ารับแอดแฟนเก่าเป็นเพื่อน ซึ่งหนู้รู้สึกว่ามันทำร้ายหนูมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าเค้าไม่ควรทำแบบนี้ถ้าเค้านึกถึงจิตใจหนูเพราะเค้าจะรู้ดีมากกว่าหนูจะคิดมากเรื่องนี้ จริงๆที่หนูรู้เพราะว่าเข้าไปดูในเมลเค้า หนูก็ถามแฟนตรงๆๆว่าเคยสัญญาว่าจะไม่ติดต่อ แต่ทำไมยังติดต่อ แฟนก็บอกว่าเค้าติดต่อมาก่อน ถ้ามองอย่างไม่เห็นแก่ตัวก็ควรจะตอบบกลับไปบ้างแตาเค้าก็ตอบกลับแบบที่รู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร แฟนบอกว่าอยากให้เรามองอย่างคนใจกว้างบ้าง และเค้าก็บอกว่าถ้าเราไม่สบายใจเค้าก็ลบแฟนเก่าออกจากความเป็นเพื่อนไป ที่เป็นปัญหาก็คือว่า หนูไม่รู้ว่าทำไมหนูถึงได้หวาดระแวงตลอด กลัวว่าเค้าจะติดต่อกัน รักกันเพราะเรารู้ว่าเค้าไม่ได้เกลียดกัน(แต่ไม่แน่ใจว่าแฟนก่าเค้าเกลียดไปรึยัง) แฟนเป็นคนดีมากคนหนึ่ง เคยถามเค้าว่ายังรักแฟนเก่าอยู่หรอ แฟนก็ตอบว่าไม่ เค้ารักเรา แต่ก็อาจจะมีบ้างที่นึกถึงเพราะคนเคยผูกพันกัน(เล่นตอบตรงซะเราเจ็บ)ลืมบอกไปค่ะว่าเค้าเกิดวัน เดือนเดียวกัน เวลาวันเกิดแฟนทีไรไม่ค่อยมีความสุขค่ะ เพราะรู้ว่าเค้าาต้องนึกถึงอีกคนหนึ่งแน่นอน หนูไม่รู้ว่าหนูจะทำความรู้สึกกับตัวเองได้อย่างไร จะปล่อยวางเรื่องของความหวาดระแวงนี้ได้อย่างไร แฟนเป็นคนดีมากคนหนึ่งค่ะรถึงได้ตัดสินใจแต่งงานด้วย แต่ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะไม่สามารถวางเรื่องราวในอดีตของแฟนตัวเองได้ ทั้งที่ตัวแฟนเองเค้าให้ความมั่นใจกับเราได้มาก ไม่่เคยเจ้าชู้เลยแต่ติดเรื่องเดียว หรือว่าเป็นเรื่องเดียวที่มันไม่สามารถตอบสนองต่อใจแคบๆๆของเราได้ เราเลยเป็นทุกข์มาก วางไม่ลงซะที จริงๆๆอยากมีชีวิตคู่ที่ดีค่ะ ไม่อยากให้เรื่องราวในอดีตมากรีดปัจจุบันจนทำให้เรารู้สึกไม่ดี แทนที่ปัจจุบันจะดีที่สุด แต่บางทีถ้ามีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเค้าก็จะเบื่อเหมือนกับว่าเราเอาอีกแล้ว ไร้เหตุผลอีกแล้วช่วยชี้แนะทีเถอะค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ...
คุณควรภูมิใจที่มีสามีดีๆ ใจกว้างเปิดเผย แบบนี้
บางครั้งสิ่งที่ยังไม่เกิดเรากลับนำมาคิดปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ
อันเป็นธรรมดาของผู้หญิงที่จะคิดหึงหวงสามีอันเป็นที่รัก
ปกป้อง ป้องกัน ถ่านไฟเก่าที่จะประทุ...
เกลียดการสื่อสาร หรือถนนที่นำทางมาให้เขามาพบกัน
ถึงแม้เขาอยู่ห่างไกลถึงเพียงนั้นแต่ก็ดูใกล้กันนิดเดียว
จงระวังความหวาดระแวงนี้ อาจเป็นเชื้อไฟได้
จงอย่ากระทำสิ่งใดให้เขาคิดและไม่สบายใจเลย
เขาเป็นอดีตคู่ครองก็ให้เขาได้คุยถามสาระทุกข์ สุกดิบบ้าง
เพราะเขาเลือกเราแล้ว และทำถูกต้องต่อเราแล้ว
ไม่มีเหตุผลใดๆที่ จะไม่ไว้ใจ เพราะเขาไม่ได้ปกปิดสิ่งใด
ควรมั่นใจในตัวเรา ที่จะประพฤติปฏิบัติเป็นภรรยาที่ดีต่อเขา
มั่นใจในความดีของเรา ปล่อยวางให้เขาเป็นอิสระบ้าง
อย่าฝืน อย่าขืน อย่าบังคับ แม้แต่ใจเราเอง
เขาไม่ไปไหนหรอก..เราควรเข้ามาหาธรรม เพราะความทุกข์ได้มาเยือนใจเรา
ทุกข์เพราะอยากจะมี..เมื่อมีแล้วก็ไม่อยากเสีย ก็เป็นทุกข์
หาหนังสือธรรมะมาอ่าน หรือ ฟังธรรมะบรรยาย เพื่อให้จิตใจ สงบ เย็นลง
หรือสวดมนต์ ภาวนา ปฏิบัติธรรม อยู่เนืองๆ จะมีอานิสงส์ ขึ้นไปอีก
ขอเจริญในธรรม :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:41
โพสต์: 154

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำให้เค้ารู้ว่าคุณไว้ใจเค้านะคะ
นั่นแหละจะเป็นสิ่งที่ทำให้เค้าเกรงใจคุณคะ
ทำใจให้สบายๆ แล้วเชื่อใจสามีคุณเถอะคะ :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณคุณศรีสมบัติ และคุณ siyapat นะคะสำหรับคำแนะนำ ...คุณศรีสมบัติพูดเหมือนตาเห็นเลยค่ะ ตอนนี้รู้สึกยังงั้นจริง เกลียดการสื่อสารในโลกยุคปัจจุบันไปเลย พิจารณาอีกทีสิ่งที่ตัวเองทำใจแคบอยู่มาก ขอบคุณสำหรับการเตือนสติของการทำหน้าที่ของความเป็นภรรยาอย่างดีที่สุดนะคะ....จะเชื่อมั่นในความดีของตัวเองและหมั่นทำความดีต่อไปค่ะ และคงเป็นโอกาสสอันดีที่เราได้เห็นทุกข์ในครั้งนี้ มาพัฒนาจิตใจของตนเองที่ดูเหมือนว่าจะดิ่งดับลงไปทุกที

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


DENT:

อ้างคำพูด:
หนูไม่รู้ว่าทำไมหนูถึงได้หวาดระแวงตลอด กลัวว่าเค้าจะติดต่อกัน รักกันเพราะเรารู้ว่าเค้าไม่ได้เกลียดกัน(แต่ไม่แน่ใจว่าแฟนก่าเค้าเกลียดไป รึยัง) แฟนเป็นคนดีมากคนหนึ่ง เคยถามเค้าว่ายังรักแฟนเก่าอยู่หรอ แฟนก็ตอบว่าไม่ เค้ารักเรา แต่ก็อาจจะมีบ้างที่นึกถึงเพราะคนเคยผูกพันกัน(เล่นตอบตรงซะเราเจ็บ)ลืมบอก ไปค่ะว่าเค้าเกิดวัน เดือนเดียวกัน เวลาวันเกิดแฟนทีไรไม่ค่อยมีความสุขค่ะ เพราะรู้ว่าเค้าาต้องนึกถึงอีกคนหนึ่งแน่นอน หนูไม่รู้ว่าหนูจะทำความรู้สึกกับตัวเองได้อย่างไร จะปล่อยวางเรื่องของความหวาดระแวงนี้ได้อย่างไร แฟนเป็นคนดีมากคนหนึ่งค่ะรถึงได้ตัดสินใจแต่งงานด้วย แต่ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะไม่สามารถวางเรื่องราวในอดีตของแฟนตัวเองได้ ทั้งที่ตัวแฟนเองเค้าให้ความมั่นใจกับเราได้มาก ไม่่เคยเจ้าชู้เลยแต่ติดเรื่องเดียว หรือว่าเป็นเรื่องเดียวที่มันไม่สามารถตอบสนองต่อใจแคบๆๆของเราได้ เราเลยเป็นทุกข์มาก วางไม่ลงซะที จริงๆๆอยากมีชีวิตคู่ที่ดีค่ะ ไม่อยากให้เรื่องราวในอดีตมากรีดปัจจุบันจนทำให้เรารู้สึกไม่ดี แทนที่ปัจจุบันจะดีที่สุด แต่บางทีถ้ามีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเค้าก็จะเบื่อเหมือนกับว่าเราเอาอีกแล้ว ไร้เหตุผลอีกแล้วช่วยชี้แนะทีเถอะค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ


เพราะความยึดถือว่าเขาคือ"ของเรา" จึงเกิดอาการหวงแหน ไม่อยากเสียไป อาการนี้แหละที่นอกจากจะทำร้ายตนเองคือการเผาลนให้ใจไม่มีความสงบสุขเลยแม้กระทั้งหลับยังตามมาหลอนแล้ว ยังจะเป็นเหตุหลักที่จะผลักไสเขาให้ห่างออกไป เพราะการแสดงออกต่างๆของเราที่จะตามมา อันเป็นไปเพื่อความ"กดดัน"อีกฝ่ายหนึ่งด้วยหมายใจว่าจะควบคุมเขาไว้ในอาณัติของตนอย่างแน่นหนา... พึงเห็นว่าหากเขาจะไปแล้ว ต่อให้ล่ามโซ่ เอากรงมาขังหรือล้อมกำแพง จับไปไว้ในคุกกลางเกาะ เขาก็ย่อมหาทางที่จะหลบหนีไปจนได้...การถูกขังทางกายยังไม่กระไรนัก แต่ถ้าถูกขังทางใจนี่สิย่ิอมอึดอัดขัดเคืองต้องดิ้นรนแหวกแนวออกไปอย่างไม่รั้งรอทีเดียว ..คำกล่าวไทยที่ว่าคับที่อยู่ได้แต่คับใจอยู่ยากนั้นเป็นความจริง...คุณ DENTกำลังทำในสิ่งที่จะทำให้เขารู้สึกว่าบ้านกำลังแคบเข้ามาแล้ว ต้ิองระวังให้มาก..

เรื่องระหว่างเขากับภรรยาเก่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องใส่ใจนำมาวิเคราะห์หาเหตุผลด้วยการคาดเดาใส่สีตีไข่ปรุงแต่งจนสำเร็จเป็นเรื่องที่เอามาข่มขู่สั่นคลอนความมั่นคงของชีวิตคู่ของตนเองอย่างที่คุณกำลังทำอยู่...การที่เขาเลิกราไปแล้วก็จบไปแล้ว ก็ถ้าเขายังรักกันอยู่ เหตุใดชายจึงมาแต่งงานกับคุณ?..สิ่งทีคุณพึงใส่ใจคำนึงถึงไม่ใช่เรื่องราวระหว่างเขากับแฟนเก่าแล้ว แต่เป็นเรื่องของคุณเองว่าจะสามารถผูกใจสามีได้อย่างไร.. ความรักจะไม่หายหกตกหล่นเป็นอื่นไปหากทั้งคุณและสามี มีศรัทธา ศีล และปัญญาเสมอกัน ..

หากไม่เคยเข้าวัดทำบุญเลยก็พึงชวนกันไปบ้าง ชวนกันไปฟังธรรมตามโอกาส ดูในข่าวประชาสัมพันธ์ของเว็บนี้ก็ได้..ชวนกันรักษาศีล หรือเข้าปฏิบัติกรรมฐานตามควร การมุ่งหน้ามาทางนี้ย่อมเป็นทางที่ปลอดภัยเพราะเมื่อต่างฝ่ายได้ฟังธรรมรักษาศีลย่อมได้ปัญญาสามารถหลีกเลี่ยงการเบียดเบียนตนและคนอื่นได้อย่างแท้จริง.. เมื่อมีศีลศรัทธามั่นคงแล้ว ความหวาดระแวงก็ไม่จำเป็นอีกเพราะรู้ว่าอย่างไรเสีย ก็ไม่มีใครคิดทำบาปล่วงศีลทั้งหลายความเบาสบายสงบสุขย่อมหวังได้...

การติดตามสอดส่องความเคลื่อนไหวของสามีนั้น ทำไม่ได้ตลอดเวลา และไม่ควรทำ คุณจะทำให้เขาอึดอัดและจะกลายเป็นความรำคาญในที่สุด ..คุณพึงให้เกียรติตลอดจนความไว้วางใจในตัวสามี ยิ่งคุณหวาดระแวงเท่าใด..แสดงออกเ่ท่าใด..ก็คล้ายกับการที่คุณประกาศด้วยการกระทำว่า.."ข้าพเจ้าไม่เชื่ิอคำพูดของท่านหรอก ข้าพเจ้าไม่ไว้ใจท่านโดยประการทั้งปวง..." ..

หากเรารับรองอะไรๆกับใครๆแล้วเขาไม่เชื่อ ในที่สุดเราก็คงเลิกรับรองเพราะไม่มีประโยชน์..จริงใหมครับ..

ปัญหาเวลานี้มาจากความคิดของตนเอง จึงพึงพิจารณาว่าสิ่งนี้ไม่เป็นประโยชน์เพราะเป็นสภาพจิตที่เป็นบาป(ฟุ้งซ่าน) เมื่อใจเป็นบาป ย่อมเป็นช่องทางนำร่องเอาบาปเก่าอื่นๆมาส่งผลให้ได้รับทุกข์เพิ่มเติม ทั้งยังทำให้"รูป"เสียหายคือหน้าตาหมองคล้ำหมดงามจนสามีอาจนึกเบื่อเอาง่ายๆ ไม่ควรเลย... :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 27 เม.ย. 2010, 19:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณพี่ dd เป็นอย่างสูงค่ะ.....อ่านไปมาประมาณ 10 รอบเห็นจะได้ ไม่มีอะไรจะพูดเลยค่ะ..ตรงใจจริงๆๆ มีก็แต่เพียงการอนุโมทนาที่ได้ชี้แนะแสงสว่างนำทาง และเหลือก็เพียงการปฏิบัติที่จะทำให้เกิดเหตุปัจจัยเกื้อหนุนให้เป็นความดีที่เกิดต่อกัน จะพยายามอย่างถึงที่สุดนะคะ

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 01:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ความวาดระแวง ทำลายครอบครัวที่ดีมานักต่อนักแล้ว
เปิดใจให้กว้างๆนะค่ะ ข้อแรก คุณมาที่หลัง เขารู้จักกันมาก่อน รักกันมาก่อน
แต่ด้วยเหตุและปัจจัย ทำให้เขาทั้งสองไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตร่วมกันได้

ข้อสอง สามีคุณเขาเลือกคุณ เขาเป็นคนดี คุณก็บอกเอง ในเมื่อเขาเป็นคนดี
ทำไมไม่คิดในสิ่งที่ดีๆ ว่าเขาก็ต้องซื่อสัตย์ต่อคุณ...ต้องไม่ทำร้ายคุณ
ที่เป็นอยุ่ทุกวันนี้ คุณทำร้ายตัวเอง เรื่องไม่ได้มี แต่คุณก็กลับหาให้มี
หาเหตุให้ใจตัวเองเป็นทุกข์ ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

ข้อสามเขาอยู่ไกลกันคนละฟากฟ้า....ขนาดอยู่ใกล้ๆกัน เขายัง
ไม่สามารถครองคู่อยุ่กินกันได้ แล้วไกลกันขนาดนั้น อย่างมากก็แค่
มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก รัก หรือคิดถึง ก็ทำได้
แค่นั้น คุณยังจะหวงแม้กระทั่งความรู้สึกของสามีอีกหรือค่ะ

ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวร้าวฉานได้ อย่างไม่น่าจะเป็นไป ก็คือ
ชอบหาข้อมูล แล้วนำมาปรุงแต่ง จากไม่มีเรื่อง ไม่มีอะไร ก็กลายเป็น
มีทั้งเรื่อง และอะไรได้....เลิกหาข้อมูล เพื่อมาทำลายล้างสัมพันธภาพ
ของคุณกับสามีเถอะค่ะ ให้เขาคุยกันไป แค่ทางตัวหนังสือ เขาจะทำ
อะไรกันได้มากไปกว่านี้ ถ้ารับรุ้แล้วไม่รุ้สึกอะไร ก็เข้าไปอ่าน เข้าไปดู
ของเขา แต่ถ้าเห็นแล้ว ใจไม่เป็นสุข ก็อย่าพยายามหามูล หาเหตุมา
ทำร้ายจิตใจตัวเองเลย

มองในด้านดี แฟนเก่าของเขายังอยากติดต่อคบหาสามีของคุณอยู่
แม้ว่าจะอยู่ไกลกัน และเลิกลากันไปแล้ว ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนดี
เป็นคนที่น่าคบหาจริงๆ.....มีเยอะแยะไปที่เลิกเป็นแฟนกัน แต่ยังคงสภาพ
ความเป็นเพื่อนไว้ได้ดีและเหนี่ยวแน่น....ทำใจให้กว้างหน่อยค่ะ ถ้าแฟนคุณ
เขาจะมีอะไรกับใคร?....เขาคงไม่เลือกคนที่ห่างไกลกัน...จนทำอะไรกันไม่ได้
นอกจากแค่คุยกันผ่านตัวหนังสือ จริงไหมค่ะ? รักษาสภาพและทำหน้าที
ของการเป็นภรรยาที่ดี น่าจะสงบสุขกว่าการเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของสามี

ขอให้โชคดีนะค่ :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 10:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณพี่ทัทายอย่างสูงค่ะ คนเรามักจะเป็นยังงี้เสมอนะคะ ชอบทำให้ตัวเองทุกข์แล้วก็มาทุกข์ซ้ำอีก จะทำตามคำแนะนำของทุกท่านนะคะ มีประโยชน์มากที่สุดค่ะ

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 10:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สบายใจขึ้นบ้างแล้วยังค่ะ? :b12:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ พี่ทักทาย...สบายใจขึ้นแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากมายนะคะ พร้อมๆๆกับด้านมืดจิตใจค่อยๆๆสว่างขึ้น พี่พูดถูกทุกอย่าง( ทุกท่านด้วยค่ะ) จริงๆๆ ณ ตอนนี้สามีเราไม่เคยทำร้ายเราเลย มีแต่พยายามทำให้ชีวิตครอบครัวเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าสิ่งไหนเค้าทำแล้วเราไม่สบายใจ ถ้าเค้ารู้เค้าจะพยายามทำเป็นที่มาของการพูดคุยกันแบบเปิดอกมาโดยตลอด แต่คนที่ทำร้ายตัวเองไม่ใช่ใครเป็นตัวเอง ที่ปล่อยไม่ลงปลงไม่เป็นทั้งๆๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าคิดแบบนี้แล้วมีแต่จะรังทำให้ชีวิตแย่ลง แต่คงด้วยสติที่อ่อนกำลังทำให้ไม่สามารถที่จะคิดอะไรได้ทันกิเลส พอคิดทีไรเตลิดทุกที ณ ตอนนี้ตระหนักดีแล้วล่ะค่ะว่า เราเองต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด เป็นภรรยาอย่างดีที่สุด พร้อมน้อมนำธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิตคู่ ที่เหลืออะไรจะเกิดคงเป็นไปตามเหตุปัจจัยค่ะ คิดแต่ว่าสร้างเหตุปัจจุบัน ให้ดีที่สุด ที่ว่ามาคงเป็นหลักการนะคะที่ตั้งไว้ในใจ ถึงทำไม่ได้ทั้งหมดก็จะพยายามปฏิบัติไปค่ะ คงดีกว่าไม่เริ่มซะเลย เดี๋ยวอะไรๆๆจะสายจะเกินไป ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 12:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 17:14
โพสต์: 84

แนวปฏิบัติ: ตามดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงแมว/ดูหนัง/เล่นเนต
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนที่เราจะไปแก้ปัญหาข้างนอก เราควรจะต้องเริ่มแก้ปัญหาที่ใจเราก่อนนะคะ
ถ้าใจของเรามันเตือน มันสอนตัวของตัวเองได้ คุณก็จะสามารถแก้ปัญหาที่กำลังประสบอยู่ได้เช่นกัน
คำแนะนำ คำปลอบโยน วิธีการต่างๆนั้น เป็นเพียงเรื่องของปัจจัยภายนอก
ถ้าใจของคุณไม่เข้มแข็ง และสอนตัวเองไม่ได้ ผ่านไปสักพัก คุณก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิมอีก
อารมณ์นั้น รวดเร็ว เปลี่ยนผันง่าย
แต่ถ้าใจของคุณนั้น มันนิ่งเป็นภูผาแล้ว ไม่จำเป็นที่ใครจะต้องบอกคุณว่าจะต้องทำอย่างไร คุณก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้กับปัจจุบัน
นี่คือ..วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดนะคะ แก้ที่ใจ ไม่ต้องไปแก้ที่แฟน หรือคนอื่นๆ
วิธีแก้ก้อไม่ยากจนเกินไป อย่างที่กัลยาณมิตรหลายๆท่านแนะนำมา ณ ที่นี่ก็ถือว่าถูกต้อง ดีแล้ว
แต่สิ่งสำคัญ ต้องย้ำเตือนตัวเอง อย่าเผลอไผลไปกับ อารมณ์ที่ขุ่นมัว นั้น เมื่อใดที่ต้องนึก ต้องคิด ถึงสิ่งที่ีเป็นทุกข์ คุณต้องมีอีกด้านที่คอยเตือนตัวเอง

อีกอย่างที่สำคัญ...ดิฉันเคยพบเจอผู้หญิงหลายๆท่านที่ผ่านโลก ผ่านทุกข์ในชีวิตรักและครอบครัวมาอย่างโชกโชน ซึ่งคนเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งที่หนึ่งที่เหมือนกัน คือ ความหนักแน่น

ความหนักแน่นนั้น มันอาศัยองค์ประกอบอะไรหลายๆอย่างรวมกันไว้ ทั้ง
ความวางใจ (ดิฉันเขียนว่า "วางใจ" นะคะ ไม่ได้เขียนว่า "ไว้ใจ") วางใจต่อสิ่งที่ตนรัก ตนหวงแหน บางครั้งเราต้องมองผู้ที่เรารักด้วย "ความเมตตา" บ้าง ต้องเข้าใจว่าบางครั้งอะไรๆก็คงไม่เป็นอย่างที่เราคิด คนเรามีสิทธิ์ทำสิ่งที่เราไม่่พึงใจ แต่ถ้าเรามีเมตตาและรู้จักให้อภัย มันก็ย่อมสร้างเกราะหุ้มให้คุณและครอบครัวแข็งแรงได้ คุณเชื่อดิฉันเถอะนะคะ ผู้หญิงที่มีจิตใจเมตตาและอารีนั้น ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ เพราะเธอจะทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกเย็น และอบอุ่น

การเป็นคนที่เข้าใจในการกระทำของผู้อื่น หรือ คนใจกว้างนั้นเอง ดิฉันคิดว่า คนที่ใจกว้างนั้น ย่อมได้เปรียบกว่าคนใจแคบ ซึ่งความใจกว้างจะเกิดขึ้นก็ได้ก็ต่อเมื่อ คุณรู้สึกเข้าใจและเห็นใจต่อผู้อื่น เมื่อรู้สึกเช่นนั้นแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ย่อมเกิดตามด้วยเช่นกัน

สุดท้าย การแก้ปัญหา
บางครั้งวิธีการแก้ปัญหาของเรา นั้น มักต้องอยู่บนความต้องการของตนเองเป็นหลัก โดยที่เราลืมนึกไปว่า วิธีการนนั้นจะไป กระทบจิตใจใคร หรือ ก้าวล่วงล้ำสิทธิของใครหรือเปล่า
คุณต้องจำไว้อย่างนะคะ ทุกคน ย่อมมีพื้นที่ของตนเอง ทั้งนั้น ไม่ว่าเป็น พ่อแม่ลูก สามีภรรยา ก็ตาม
ทุกคนย่อมต้องมีเรื่องส่วนตัว บางครั้งเราต้องย้อนมองดูว่า วิธีการแก้ปัญหาของเรา นั้นได้ไปทำให้ใครรู้สึกอึดอัดใจหรือไม่ บางครั้งเขาอาจจะไม่แสดงออก แต่เมื่อกระทำมากไป บ่อยๆเข้า มันก็จะกลายเป็นความรู้สึกที่สะสมไว้จนทำให้มีรอยร้าวเกิดขึ้น

บางครั้งการที่เราลองปิดหู ปิดตาบ้าง มันอาจจะดีกว่า การที่เราอยากจะรู้ อยากจะเห็นไปเสียหมดก็ได้นะคะ

ทั้งหมดนี้ ก็เริ่มต้นจากตัวเราเอง พระท่านถึงว่า คนเราถ้าคิดจะแก้ปัญหาให้คิดแก้ที่ตัวตนของเราเสียก่อน ไม่ต้องไปแก้ที่อื่นหรอก
โชคดีค่ะ

.....................................................
จงขอบคุณเมื่อความทุกข์เกิด เพราะมันคือบทเรียนให้เราก้าวหน้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณพี่ panatson อย่างสูงสุดค่ะ ..... ทุกอย่างเกิดที่ใจ(ตน) ก็ต้องย่อมต้องแก้ที่ใจ(ตน) ค่ะ
จะปฏิบัติตามคำแนะนะและคอยเตือนตนอยู่เสมอค่ะ

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 06:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


DENT เขียน:
ณ ตอนนี้ตระหนักดีแล้วล่ะค่ะว่า เราเองต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด เป็นภรรยาอย่างดีที่สุด พร้อมน้อมนำธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิตคู่ ที่เหลืออะไรจะเกิดคงเป็นไปตามเหตุปัจจัยค่ะ คิดแต่ว่าสร้างเหตุปัจจุบัน ให้ดีที่สุด ที่ว่ามาคงเป็นหลักการนะคะที่ตั้งไว้ในใจ ถึงทำไม่ได้ทั้งหมดก็จะพยายามปฏิบัติไปค่ะ คงดีกว่าไม่เริ่มซะเลย เดี๋ยวอะไรๆๆจะสายจะเกินไป ขอบคุณอีกครั้งนะคะ


ขอให้สว่างทั้งทางโลกและทางธรรมนะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 12:57
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณพี่ทักทายจร้า.....ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดจร้า ตอนนี้ดีขึ้นเยอะค่ะ...พอใจเราดี ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดูดีตามไปด้วย โลกที่เรามองจะเป็นสีอะไร คงอยู่ที่เราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลกนะคะ...

.....................................................
จงเตือนตน ด้วยตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


DENT เขียน:
ขอบคุณพี่ทักทายจร้า.....ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดจร้า ตอนนี้ดีขึ้นเยอะค่ะ...พอใจเราดี ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดูดีตามไปด้วย โลกที่เรามองจะเป็นสีอะไร คงอยู่ที่เราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลกนะคะ...


ใช่แล้วค่ะ....โลกเราจะสดใส...หรือจะหม่นหมอง
ก็อยู่ที่ว่าเราจะมองในด้านใด.....ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวอย่างที่คาดกัน
และยิ่งชีวิตแต่งงานแล้ว....บางทีสั้นจนเราไม่ทันตั้งตัวก็มี...เพราะฉะนั้น
ณ.วันนี้...วันที่ยังมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกัน....ก็ควรที่จะ "ให้ และ "รับ"
แต่สิ่งที่ดีๆ ให้กันและกันดีกว่านะค่ะ....ขอให้มีความสุขค่ะ :b12:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร