วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 21:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 00:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


. smiley.

จริงหรือปล่าวครับ สำหรับคนที่มีสามี เขาพูดกันอย่างนี้

อ่านกระทู้มาหลายวัน ปัญหาหนึ่งที่เจอมาก ๆ คือ รัก ๆ ใคร่ สามี ภรรยา มีหลวง มีน้อย
อ่านจนเวียน ผมก็เป็นผู้ชาย ก็ไม่รู้ว่า จริงหรือปล่าว ที่ท่านสุนทรภู่ กล่าวไว้ว่า


จะโศกอื่นหมื่นแสน.........ในแดนโลก
มันไม่โศกสุดซึ้ง............. เท่าหึงผัว
ถึงเสียทองของรัก......... สักเท่าตัว
ค่อยยังชั่งไม่เสียใจ .......... เท่าชายเชือน


จะจริง ไม่จริง ก็คงไม่อาจทราบได้ เรื่องเฉพาะตัว

ทีนี้ ผมขออนุญาตนำข้อมูลมาเล่าประกอบ เพิ่มเติมครับ

คำว่า “เนื้อคู่กันแล้ว ก็คงไม่แคล้ว คงไม่คลาด
ถ้าเราทำบุญร่วมชาติ พี่คงเป็นทาส แม่ดวงสุดา” มันมีจริงมั๊ย


ในธรรมบท ภาค ๔ มีคาถาบทหนึ่ง ว่า
ปุพฺเพ สนฺนิวาเสน ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา เอวนฺตํ ชายเต เปมํ อุปฺปลํ ว ยโถทเก

ความรัก เกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการคือ ด้วยเคยอยู่ร่วมกันในกาลก่อน ๑
ด้วยเกื้อกูลในปัจจุบัน ๑ เหมือนดอกบัวอาศัยน้ำและตมเกิดฉะนั้น


เพราะเกื้อกูลกันในกาลก่อน เพราะอาทรห่วงใยในชาตินี้
จึงถูกศรรักปักหัวใจในทันที ดังวารีเคียงคู่กับอุบล


อธิบายนิดนึง คำพูดที่ว่า
“เพียงได้พบ ศรรัก สลักจิต เพียงใกล้ชิด ซาบซึ้ง สเน่หา
เพียงได้พบ ศรรัก ปักอุรา เพียงสบตา ก็พาให้ ใจเลื่อนลอย”


เจอปุ๊บ รักปั๊บ ประมาณนี้ เขาว่าเป็นบุพเพสันนิวาส ศรศิลป์มันกินกัน นี้คือสาเหตุแรก
ที่ทำให้รักกัน (ไม่ใช่เจอกันแล้วปิ๊งกัน พอได้เสียกันแล้วก็ทิ้ง แบบนี้ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นราคะ)


สาเหตุที่สอง มันค่อย ๆ พัฒนาเรื่อย ๆ จาก รู้จัก ทักทาย คุยกัน สนิทสนม เป็นเพื่อน
ไว้วางใจ เชื่อใจ คิดถึง เป็นห่วง ห่วงหาอาทร รักกัน อยู่ด้วยกันซะเลย รู้แล้วรู้รอด ประมาณนี้


ถามว่า “จำเป็นมั๊ย ที่เนื้อคู่กัน ต้องเป็นเนื้อคู่ตลอด”


เพราะปัญหาก็คือ พอแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน พอเนิ่นนานน้ำตาลก็พาลขม
ใหม่ ๆ ก็ใช่เลย คนนี้ รอเขามานาน แต่พอนานไป ไม่น่าเลยเรา ทำไมถึงเป็นเช่นนี้
เลือกอีกคนน่าจะดีกว่านี้


ทำไมถึงอยู่กันไม่ยืด ตลอดรอดฝั่ง


ตอบตามหลักพุทธศาสนานะครับ ตอบหลักอื่น คงพันกันยุ่ง

มีเรื่องมาในสมชีวิสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ความว่า ดังนี้


สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าเภสกฬามฤคทายวัน (มฤคทายวัน - เขตอภัยทาน)
ใกล้บ้านสุงสุมารคีระ แคว้นภัคคะ
พอเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงเสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของนกุลบิดาคฤหบดี
แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้


ครั้งนั้นแล ทั้งบิดาและมารดา ของนกุลคฤหบดี ได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค แล้วนั่งสงบอยู่มุมหนึ่ง
ครั้นแล้ว บิดาของนกุลคหบดี ได้กราบทูลกะพระผู้มีพระภาคว่า


ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับตั้งแต่ มารดาของนกุลนี้เป็นสาวมา
แต่งงานกับข้าพระองค์ ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม ข้าพระองค์มิได้รู้สึกจะประพฤตินอกใจ
มารดาเขาแม้ด้วยใจเลย ที่ไหนจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า
ข้าพระองค์ทั้งสองปรารถนาพบกันและกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า


ผู้มารดาก็กราบทูลเหมือนกัน ไม่เคยคิดนอกใจ ปรารถนาจะพบกันทุกชาติไป

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

"ดูกรคฤหบดีและคฤหปตานี ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง
หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้ ทั้งสองเทียว
พึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน ๑
มีศีลเสมอกัน ๑
มีจาคะเสมอกัน ๑
มีปัญญาเสมอกัน ๑
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ ฯ

(แล้วทรงตรัสคาถาต่อว่า)

ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของ
ผู้มาขอรับบริจาค, มีความสำรวม, เป็นอยู่โดยธรรม, เจรจาคำที่น่ารักแก่
กันและกัน, ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก
ทั้งสองฝ่าย, มีศีลเสมอกัน, รักใคร่กันมาก, ไม่มีใจร้ายต่อกัน,
ประพฤติธรรม ,ในโลกนี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตร
เสมอกัน, ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจ
อยู่ในเทวโลก ฯ

ทีนี้ อธิบายแบบบ้าน ๆ ถ้าอยากจะอยู่กันยืดตลอดไป คือ
ความเชื่อศรัทธา ต้องคล้าย ๆ กัน ระดับเดียวกัน
น้ำใจต้องกว้างเหมือนกัน อย่าขี้เหนียวคนนึง แจกแหลกคนนึง,
ถือศีลระดับเดียวกัน มันจะเชื่อใจกัน ไม่ระแวงกัน
ระดับมันสมองปัญญา การศึกษา ไม่ห่างกันมาก


ถ้ามันเริ่ม แตกต่างกันมาก จูนกันไม่ได้ ทิ้งช่วงกันมากเมื่อไร
ไม่ต้องรอชาติหน้า เห็นผลชาตินี้ละครับ


ตัวใครตัวมัน ได้มาโพสกันยาวเป็นหางว่าวแล

:b2: :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 06:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตกลงต้องการคำตอบหรือเปล่าค่ะ?
หรือแค่เล่าสู่กันฟัง? :b10:

อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตกลงเล่าสู่กันฟังนะค่ะ
ถามต่อนิดนึง แล้วเนื้อคู่นี่ มีเพียงหนึ่งเดียวไหมในชาติภพใด
และจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือเนื้อคู่ที่แท้ของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 13:41
โพสต์: 57

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอตอบคำคำถามของคุณ นนนน นะครับให้ขึ้นไปอ่านพุทธพจน์ของพระพุทธองค์ที่กระทู้นี้ด้านบนครับ แล้วจะได้คำตอบว่า " มี "
รู้ได้อย่างไร...." ปัจจัตตัง เวทิปปัพโพ วิญญูหิ"
บางครั้งเป็นอะไรที่เรารู้อยู่แล้ว แต่เราหลงลืมไป หรือที่เราเรียกกันว่า"ลึกลงไปในก้นบึ้งของหัวใจ"
หลายท่านอาจจะเคยอ่าน เคยได้ยินเรื่องการระรึกชาติได้มาแล้ว นี่ก็เป็นจริงครับ
แล้วรู้ได้อย่างไร....ให้ท่านปฏิบัติ 1.กาย เวทนา จิต ธรรม 2.ศีล สมาธิ ปัญญา
เมื่อทุกสิ่งท่านได้แล้ว...ปัจจัตตังเวทิปปัพโพ วิญญูหิ (คือคำตอบครับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ด.ช. ฉันทะ เขียน:
ขอตอบคำคำถามของคุณ นนนน นะครับให้ขึ้นไปอ่านพุทธพจน์ของพระพุทธองค์ที่กระทู้นี้ด้านบนครับ แล้วจะได้คำตอบว่า " มี "
รู้ได้อย่างไร...." ปัจจัตตัง เวทิปปัพโพ วิญญูหิ"
บางครั้งเป็นอะไรที่เรารู้อยู่แล้ว แต่เราหลงลืมไป หรือที่เราเรียกกันว่า"ลึกลงไปในก้นบึ้งของหัวใจ"
หลายท่านอาจจะเคยอ่าน เคยได้ยินเรื่องการระรึกชาติได้มาแล้ว นี่ก็เป็นจริงครับ
แล้วรู้ได้อย่างไร....ให้ท่านปฏิบัติ 1.กาย เวทนา จิต ธรรม 2.ศีล สมาธิ ปัญญา
เมื่อทุกสิ่งท่านได้แล้ว...ปัจจัตตังเวทิปปัพโพ วิญญูหิ (คือคำตอบครับ)


:b6: :b6: ยังสงสัย...ไม่จบ...เรย... ท่านก็มาด่วนจบไปซะแล้ว...

ยังฟังความเห็นจากท่านอีก...หง่ะ

:b16: :b8: :b16: :b8:

เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่ริมคลองตรงอนุสาวรีย์ชัย หง่ะ

ชามมันเล็กไป ขอเบิ๊ล...อีกสักสอง...ต๊วยยยย หง่ะ

:b12: :b8: :b12: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 22 ม.ค. 2010, 10:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 11:39
โพสต์: 85

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.....

ผมว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ ผมเคยเห็นผู้หญิงแย่งผู้ชาย

ตีกันหัวร้างข้างแตก คืออย่างอื่นพอแบ่งปันกันได้

แต่เรื่องแบบนี้ คงไม่มีใครเขายอม

ของใครของมัน เพื่อนก็เพื่อน

..........
คนที่สามีนอกใจ ถ้าเขาคิดว่าแบ่ง ๆ กันไป คงจะดี

จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจ

.........


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอถามต่อค่ะ
ในพุทธศาสนา สอนให้ไม่ประพฤติผิดในกาม
ดิฉันเข้าใจถูกไหมว่า ควรมีผัวเดียว เมียเดียว
แล้วไหว จึงสร้างให้คนมีเนื้อคู่มากกว่า 1
ก็จะทำให้เป็นการทำให้เกิดการนอกใจขึ้นหรือไม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2010, 22:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
ขอถามต่อค่ะ
ในพุทธศาสนา สอนให้ไม่ประพฤติผิดในกาม
ดิฉันเข้าใจถูกไหมว่า ควรมีผัวเดียว เมียเดียว
แล้วไหว จึงสร้างให้คนมีเนื้อคู่มากกว่า 1
ก็จะทำให้เป็นการทำให้เกิดการนอกใจขึ้นหรือไม่



คำว่า ผัวเดียว เมียเดียว กับประพฤติผิดในกาม คนละอย่างครับ

การล่วงประเวณีชายหรือหญิงที่มีเจ้าของปกครองอยู่ (อคมณียวัตถุ มี ๒๐ ประเภท)โดยไม่รับอนุญาต
จึงชื่อว่าประพฤติผิดในกาม



เนื้อคู่อาจมีมากกว่า ๑ คนได้ และอาจถาวร หรือ ไม่นานก็ได้ แล้วแต่เหตุปัจจัย
ไม่มีใครสร้าง มนุษย์สร้างเหตุปัจจัยที่สมควรเอาเอง แล้วปรารถนากันเองครับ


ตัวอย่าง ดูได้จากประวัติท้าวสักกะ
ตอนเป็นมฆมาณพ มีภรรยา 4 คน คือ
1.นางสุธัมมา
2.นางสุนันทา
3.นางสุจิตรา
4.นางสุชาดา


พอเป็นท้าวสักกะ (ตำแหน่งนี้ไม่ผูกขาดครับ ทำบุญเอาได้) ก็หาทางจน ทั้ง ๔ คนไปอยู่ด้วย

ชาย จะมีภรรยามาก หรือ หญิงมีสามีมากพร้อมกัน (ในธิเบต หญิง ๑ คน อาจเป็นภรรยา พี่น้องชายหลายคนโดยพร้อมกัน) ถ้ายินยอมพร้อมใจทุกฝ่าย ก็ไม่ผิดประเวณี

สำคัญที่เจ้าของ เขาหวงมั๊ย เจ้าของทั้งฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย นะครับ ตามเงื่อนไขและกติกาที่ตกลงกันไว้
ว่าระดับไหน ชายหรือหญิงบางคนมีคู่ ได้ตกลงแต่แรกว่าอีกฝ่ายอยู่ระดับไหน สถานะใด ถ้าอีกฝ่ายยอมรับสถานะ หรือ เงื่อนไขนั้นแล้ว จะทึกทักมากว่านั้น ก็ไม่ถูกต้อง (มันจึงเกิดคำว่า แฟน กิ๊ก เก็บ น้อย ใหญ่ หลวง อำนาจต่อรองไม่เท่ากัน)

ไม่รู้ผมจะล่วงเกินเบื้องสูงรึปล่าว ผมขออนุญาตยกเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ทางธรรมะ

รัชกาลที่ ๔ ท่านจะทรงศีล ๘ ทุกวันพระ ทรงศีล ๕ ในวันธรรมดา ไม่ขาด
พระองค์มี พระอัครมเหสี พระอัครชายา หลายพระองค์
มีคนเคยทูลถามพระองค์ท่านว่าไม่ขัดกับศีลที่ทรงรักษาหรือ

พระองค์ก็ตอบทำนองว่า "ได้บังคับ หรือ ขืนใจ หรือพ่อแม่ เขาไม่เต็มใจ หรือ หญิงนั้นมีเจ้าของก็หาไม่
ทุกคน ล้วนพ่อ แม่ เต็มใจ นำเข้ามาถวายตัว ย่อมไม่ผิดองค์แห่งศีล"

วันเวลา และคนที่ถาม ผมจำไม่ได้ครับ แต่มีเรื่องทำนองนี้จริง



อนุโมทนา ครับ

:b51: :b51: :b51:


แก้ไขล่าสุดโดย ไวโรจนมุเนนทระ เมื่อ 23 ม.ค. 2010, 23:12, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b45: จะหักอื่น ขืนหัก นั้นหักได้ :b11:
:b45: หักอาลัย..นี้ไม่หลุด...สุดจะหัก :b3:
:b45: สารพัด...ตัดขาด..ประหลาดนัก :b5:
:b45: แต่ตัดรัก...นี้ไม่ขาด...ประหลาดใจ :b23:

:b47: นี่ก็เป็นอีกหนึ่บทกลอนของท่านสุนทรภู่
:b47: ที่จำได้ขึ้นใจ...และสามารถนำมาใช้ได้บ่อย
:b47: เสียด้วยซิค่ะ..... :b12:

:b50: รื้อฟื้นคดีเก่าให้
:b50: ท่านไวโรจนมุเนนทระ
:b50: อยากทราบจังว่าชื่อนี้มีคำแปลไหม? :b10: :b10:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 19:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:


รื้อฟื้นคดีเก่าให้
ท่านไวโรจนมุเนนทระ
อยากทราบจังว่าชื่อนี้มีคำแปลไหม?


ขอบคุณครับ พี่ทักทาย ชื่อ ไวโรจนมุเนทระ เป็นชื่อแปลง แต่ มีเหตุ
คือ เมื่อเคยมีวาสนาได้บวชพระ พระอุปัชฌาย์ ท่านตั้งให้ เป็น วิโรจนมุนินโท

ในรูปสันกฤต เขียนเป็น ไวโรจนมุเนนทระ ขอรับ

วิโรจน ไวโรจน แปลว่า รุ่งเรือง
มุนี นักบวช อินโท อินทระ เจ้า จอม ผู้เป็นใหญ่

มุนินโท มุเนนทระ จอมมุนี

ไวโรจนมุเนนทระ จอมมุนีผู้รุ่งเรือง

ชือดีเกินไป คนไม่สมชื่อ จึงบวชอยู่ไม่นานแล

ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไวโรจนมุเนนทระ เขียน:
ขอบคุณครับ พี่ทักทาย ชื่อ ไวโรจนมุเนทระ เป็นชื่อแปลง แต่ มีเหตุ
คือ เมื่อเคยมีวาสนาได้บวชพระ พระอุปัชฌาย์ ท่านตั้งให้ เป็น วิโรจนมุนินโท

ในรูปสันกฤต เขียนเป็น ไวโรจนมุเนนทระ ขอรับ

วิโรจน ไวโรจน แปลว่า รุ่งเรือง
มุนี นักบวช อินโท อินทระ เจ้า จอม ผู้เป็นใหญ่

มุนินโท มุเนนทระ จอมมุนี

ไวโรจนมุเนนทระ จอมมุนีผู้รุ่งเรือง

ชือดีเกินไป คนไม่สมชื่อ จึงบวชอยู่ไม่นานแล

ขอบคุณครับ


พระอุปัชฌาย์ท่านใดบอกได้รึเปล่าคะ ตั้งได้เพราะจริง ๆ

ชื่อดีเกินไป ใช่ เพราะดีเกิน ก็เลยไปดีไง :b12:

:b13: เหลือไว้แต่ อิ อิ กำลังหัวหกก้นขวิด... :b13:

หายไปไหนหลายวัน ท่านหาธรรมงาม ๆ มามะเหงกเขกหัวเอกอนซะดี ๆ

คิดถึงธรรมงาม ๆ จากท่านจะแย่อยู่แล้ว... :b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 11:37
โพสต์: 59

งานอดิเรก: reading
อายุ: 45

 ข้อมูลส่วนตัว


ชอบจังค่ะ ชาติก่อนคุณคงเป็นประมาณน้องสุนทรภู่แน่นอน น่ารักจังนิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 23:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 21:56
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำตัวน่ารักไปวัน ๆ
สิ่งที่ชื่นชอบ: คู่มือสะกดใจคน - เดวิด เจ.ไลเบอร์แมน
ชื่อเล่น: นุช
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


cool สวัสดีคร๊า
เนื่อคู่ประตูถัดไป แปร่ววว ... กลอนของท่านสุทร ภู่ อ่านทีไรไพเราะทุกทีเลยคร๊า

.....................................................
กฏเหล็กข้อแรกสุด ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 16:32
โพสต์: 323

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชอบ ๆๆ ของมงาย สนุกสนาน ด้วยคน

"ถึงต้องง้าวหลาวแหลน สักแสนเล่ม
ให้ติดเต็มตัวฉุด พอหลุดถอน
แต่ต้องตาพาใจ อาลัยวรณ์
ยากจะถอนให้หลุดลงกลางคัน"


ถึงงมงายใช่ใจไม่มีรัก
ต้องคอยหักห้ามใจไม่ให้หลง
แต่พอหลับฝันเห็นแต่นวลอนงค์
โอ้ โฉมยงค์ อยากหลับใหลไปแรมเดือน

ต้องหักห้ามตัณหาแลราคะ
ต้องเป็นประทีปไฟให้คนเห็น
แผดเผาใส้คือใจทุกเช้าเย็น
เพราะฉันเป็นผู้งมงายในหลักการณ์



.....
พอแระ หมดสมรรถภาพในการแต่ง

งมงาย
...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไวโรจนมุเนนทระ เขียน:
taktay เขียน:


รื้อฟื้นคดีเก่าให้
ท่านไวโรจนมุเนนทระ
อยากทราบจังว่าชื่อนี้มีคำแปลไหม?


ขอบคุณครับ พี่ทักทาย ชื่อ ไวโรจนมุเนทระ เป็นชื่อแปลง แต่ มีเหตุ
คือ เมื่อเคยมีวาสนาได้บวชพระ พระอุปัชฌาย์ ท่านตั้งให้ เป็น วิโรจนมุนินโท

ในรูปสันกฤต เขียนเป็น ไวโรจนมุเนนทระ ขอรับ

วิโรจน ไวโรจน แปลว่า รุ่งเรือง
มุนี นักบวช อินโท อินทระ เจ้า จอม ผู้เป็นใหญ่

มุนินโท มุเนนทระ จอมมุนี

ไวโรจนมุเนนทระ จอมมุนีผู้รุ่งเรือง

ชือดีเกินไป คนไม่สมชื่อ จึงบวชอยู่ไม่นานแล

ขอบคุณครับ


แม้ว่าชื่อ...ไม่ได้เป็นตัวกำหนด
ว่าเราจะด๊...หรือไม่ตามชื่อ....แต่ชื่อที่ดีมีความหมาย
ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง..... :b11:

คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา...นับว่ามีวาสนา....แล้วได้มีโอกาส
เข้าสู้ใต้ร่มบวรพระพูทธศาสนา แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่ง....ก็ถือว่าวาสนาสร้างสม :b8:

ชื่อแปลก...เพราะ และความหมายดีมากๆ
พี่คิดว่าชื่อนี้เหมาะสมกับคุณจัง.... :b20:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 30 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร