วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 09:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 71 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2011, 06:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


รู้ทันหัวใจ เขียน:
คาถานี้ใช้ได้ผลจริง ๆ น่ะ พิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง
ผ่านไปแล้ว ให้มันแล้วไป อยู่กับปัจจุบัน
อยู่กับสายเลือดที่ต้องดูแล นั่นคือเด็กผู้ชาย 2 คนที่ต้องพึ่งพาบุพการี
ถ้าวันนั้น เราเอาใจตัวเองเป็นที่ตั้ง วันนี้เราคงไม่หลุดพ้นจากความยึดติด
เหมือนเอาชนะใจตัวเองให้ได้ แล้วสิ่งดี ๆ จะเข้ามาแลกเปลี่ยนให้ชีวิตเอง


เห็นด้วยและยินดีด้วยค่ะ....ขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ :b35:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2011, 06:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


Fhasai เขียน:
อ่านกระทู้ของคุณ รู้ทันหัวใจ ทำให้ดิฉันมีแรงฮึดสู้กับปัญหาที่มีอยู่
ดิฉันมีลูกสาว 2 คน 1 ขวบ 10 เดือน กับ 4 เดือน ต้องอยู่กันเพียงลำพัง
สามีกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดและติดผู้หญิง ลองไปอ่านชีวิตของดิฉันนะคะ
ทำให้ดิฉันรู้ว่าทุกคนต่างมีปัญหา ดิฉันต้องเป็นเสาหลักให้ลูกสาว 2 คน
เพราะเขากำลังเติบโตและเรียนรู้ ถึงแม้แม่คนนี้จะอ่อนแอบ้าง ขี้แยบ้าง อย่างน้อยก้อมี
นางฟ้าน้อยๆ2 คน คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับแม่เสมอ.....ชีวิตและหัวใจแม่อยู่เพื่อหนูจ้า


เมื่อมีโอกาสที่ดีอย่างนี้แล้ว....ก็ขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด...
ดูแลพวกเขาให้ดี วันข้างหน้าเราจะได้ยึดอกได้อย่างเต็มที่...
ไม่ต้องเฉลี่ยความภาคภูมิให้ใคร

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2011, 11:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 12:23
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.................ก้อนหิน หรือ ก้อนกรวดนั้น โยนทิ้งมันไปซะ..........................

เคยมีใครสักคนได้บอกฉันมา
ว่าเวลาใครทำกับเราให้เจ็บช้ำใจ
ลองไปเก็บก้อนหินขึ้นมาสักอัน
ถือมันอยู่อย่างนั้นและบีบมันไว้

บีบให้แรงจนสุดแรง ให้มือทั้งมือมันเริ่มสั่น
ใครคนนั้นยิ้มให้ฉัน ถามว่าเจ็บมือใช่ไหม

ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง
ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ
ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ
ก็แค่ให้ก้อนหินก้อนนั้นให้เธอรับมา
เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา
หรือเธอปรารถนาจะเก็บมันไว้

หากยิ่งยอมยิ่งแบกไป หัวใจของเธอก็ต้องสั่น
หากยังทำตัวแบบนั้น ถามว่าปวดใจใช่ไหม

ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง
ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ
ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง
ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ
ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอรับไว้เอง


..................ขอเป็นกำลังใจให้คนที่อ่อนแอเช่นตัวดิฉันเหมือนกัน.........................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2011, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




กุหลาบ163.jpg
กุหลาบ163.jpg [ 57.83 KiB | เปิดดู 5113 ครั้ง ]
:b41: ทุกข์เพราะรัก

ความวุ่นวายที่ทุกคนมีอยู่ยังดับไม่ลง เดี๋ยวเรื่องนั้นเข้ามาแทรกเดี๋ยวเรื่องนี้เข้ามาซ้อน เรื่องลูกหลานเรื่องบ้านเรือน เรื่องรักเรื่องใคร่ เรื่องโลภโกรธหลงมีอยู่ในหัวใจทุกคน แสวงหาความอยาก ความรัก เช่นไปขอความรักเขา อยากให้เขารักเรามากๆ รักน้อยไม่เอา อยากให้มันเพิ่มมากขึ้น ที่จริงมันเพิ่มทุกข์ทั้งนั้น สามีก็อยากให้ภรรยารักให้มากรักให้หลงเลย ให้รักตนคนเดียวไม่ให้ไปรักคนอื่น ภรรยาก็อยากให้สามีรักตนคนเดียวไม่อยากให้รักผู้หญิงอื่น ให้รักคนเดียวและอยากให้รักมากๆ มีเพื่อนฝูงก็อยากให้เพื่อนฝูงรักและเห็นใจตนคนเดียว

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็ทุกข์มากขึ้น รักมากก็กังวลมาก กลัวจะเป็นโน่นเป็นนี่ กลัวจะไม่ดี กังวลกลัวจะเปลี่ยนแปลง เกิดความทุกข์กระสับกระส่ายกระวนกระวาย เมื่อรักมากห่วงมากก็เป็นทุกข์มาก ห่วงมากๆเข้าก็หึงหวงเกิดทะเลาะขัดแย้งกัน เพราะไม่ตรงตามที่ตกลง

ภรรยาก็เป็นอย่างนั้น เมื่อสามีไปไหนไม่ตรงตามเวลา คอยแล้วคอยอีกคอยจนดึกดื่น ถ้าไม่มาคืนนี้ก็เป็นปัญหาเพราะมันรักหมดหัวใจจนหลงมากก็ห่วงมาก เป็นทุกข์กังวล ผลที่สุดเมื่อไม่สมใจแล้วก็ขัดแย้งกันต่อว่ากันถากถางกันรุนแรง ทีแรกก็หวานกันดีหนักเข้าคำพูดที่ไม่ดีก็ออกมา การต่อว่ากันทะเลาะขัดแย้งกันก็มาจากความรักมากนั่นเอง เพราะรักมากจึงต้องห่วงกลายเป็นว่าเอาความรักมาทะเลาะกัน

แม้รักลูกมากก็ตาม ลูกกลับดึกดื่นกลับไม่ตรงเวลา แม่ก็ด่าสาดเข้าไปคอยบ่นคอยว่า ลูกก็ไม่ชอบ ความรักจึงกลายเป็นความทุกข์เสียแล้ว

“ทำไมรักแล้วต้องเป็นอย่างนี้ด้วย” รักแล้วต้องคอยติดตามเป็นเงาตามตัวทำไม?

คนถูกรักก็ไม่เข้าใจในความรัก คนที่รักก็ไม่เข้าใจในความรัก รักแล้วกลายเป็นห่วงกลายเป็นเฝ้าติดตามจนกลายเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา รักไม่มีธรรมะมักเป็นอย่างนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วไม่มีครอบครัวหรือชีวิตใดที่เป็นไปตามความหวัง ตามความต้องการตามที่ตนปรารถนาได้ ลูกต้องการให้พ่อแม่ตนรักอย่างมีขอบเขต แต่พ่อแม่ก็รักมากเกินไปจนไม่มีขอบเขต สามีก็อยากให้ภรรยารักตนให้มาก และให้มีขอบเขต แต่มันก็ไม่มีขอบเขต ภรรยาก็มีรักที่ไม่มีขอบเขตกับสามีหรือสามีก็มีรักที่ไม่มีขอบเขตกับภรรยา พิษภัยความทุกข์จึงเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความรักมาก แล้วปัญหานี้ก็แก้ไม่ตก

ถ้าเราไม่เข้าหาธรรมะมันก็หนักเอียงไปทางเดียว เอียงไปทางที่เป็นทุกข์อยู่เรื่อย เพราะเราอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันตรงกับตามความต้องการ แต่มันก็ไม่เป็นดังที่เราต้องการสักที นี่แหละชีวิตคนเราถ้าไม่มีธรรมะแล้วก็จะมีปัญหา

แม้แต่ความรักก็เป็นเรื่องใหญ่โตเป็นความทุกข์ที่เข้ามาแทรกซ้อนอยู่ทุกลมหายใจ

แม้คนที่รักเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอะไรขึ้นมาก็เป็นทุกข์กับคนที่รัก ทรมานจิตใจเหลือเกินเจ็บหัวใจเหลือเกินเพราะไม่อยากให้เขาเจ็บไข้ไม่อยากให้เขาตาย อยากให้เขาดีอยู่ตลอดเวลา เพราะความรักมากเป็นห่วงมากจึงเฝ้าเป็นทุกข์อยู่คนเดียว

ส่วนพ่อแม่ที่รักลูกมาก ลูกไม่เป็นทุกข์แต่พ่อแม่เป็นทุกข์เพราะห่วงลูกมากอยากให้ลูกเป็นไปตามที่ตนต้องการ แต่ลูกก็เป็นลูกอย่างนั้นเองที่ไม่เข้าใจพ่อแม่ แม้ภรรยาก็เป็นภรรยาอย่างนั้นเองที่ไม่เข้าใจสามี หรือแม้สามีก็เป็นสามีอย่างนั้นเอง ที่ไม่เข้าใจภรรยา จึงเป็นความรักที่ไม่เข้าใจกัน

ความรักจะเข้าใจกันทีแรกเท่านั้น อยู่ไปนานๆ มันไม่รู้จักความเข้าใจเพราะมันเกินเลยไม่มีขอบเขต คนเราจึงมีปัญหาหัวใจ เป็นทุกข์เพราะห่วง เพราะหวง เพราะกังวล เพราะมันไม่ตรงตามที่เราต้องการ

แม้ความรักที่สาบานว่าจะรักกันจนตายมันก็ยังทิ้งกันได้ ต่างคนต่างเกิดมาก็ตายจากกันได้ ไม่มีอะไรเป็นของเที่ยงเลย แล้วจะไปยึดมั่นถือมั่นว่าทุกอย่างนั้นจะเป็นไปตามสัญญาไม่มีหรอก

ถ้าเขาไม่รักแล้วจะทำอย่างไร

เขาไม่ห่วงเราแล้วเราจะห่วงเขาทำไม?

เขาไม่รักเราแล้วเราจะรักเขาทำไม?

เมื่อรักไม่สมปรารถนา เราจะตายบูชาความรักทำไม?

เขานั่งยิ้มอยู่แต่เราไปผูกคอตาย เป็นความคิดผิดๆ รักเขามากเขาไม่รักด้วยไปตายดีกว่า โธ่! เขาไม่รักแล้วจะตายทำไมจะต้องทำใจให้ได้ รักตัวเองเข้าหาธรรมสิ!

คนเรามันโง่ก็คิดไปผิดๆ เขาไม่รักเรายิ่งทุกข์ใหญ่ เขาไม่รักเราสิสบายใจเราไม่ต้องไปปรนนิบัติเอาใจเขา เป็นทาสของความรัก เรียกว่าเป็นทุกข์เพราะความรัก

ถ้าเป็นคนมีธรรมะใครไม่รักไม่หวงไม่ห่วงก็ไม่เป็นไร เราจะได้อยู่กับธรรมะ จะได้ไปบวชเรียนไปสร้างบารมีจะได้คบคนดีเป็นมิตร จะได้ไม่ผิดหวัง ไม่เจอคนหลอกลวง ถ้าฝืนทนอยู่กับคนที่เขาไม่รัก เขาไม่จริงใจด้วย เป็นความคิดผิด เป็นความทุกข์

ถ้ามีธรรมะประจำใจแล้วจะปลงตก ผัวไปมีเมียน้อยก็ยกให้เมียน้อยเลย จะได้ไปหาธรรมะรอเวลานี้มานานแล้วจะได้หมดห่วงเสียที อยู่กับคนไม่ดีคนสองใจนี่ไม่มีความสุขหรอก ไปอยู่กับธรรมะใจเดียวดีกว่าสบายใจดี ถ้าฉลาดคิดสักหน่อยสลัดทิ้ง เหมือนผ้าขี้ริ้วเลย ถ้าไม่ฉลาดคิดก็เป็นทุกข์อยู่นั่นเองต้องตกเป็นทาสของมันเป็นทาสของความรัก ความหวง ความห่วง

การปรุงแต่งที่ผิดๆว่าลูกเราครอบครัวเราทำไมจึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เกิดความกังวลเป็นทุกข์ นึกคิดขึ้นมาเพราะความหลงผิดปรุงแต่งผิดๆ ไปนึกถึงคนนั้นคนนี้ขึ้นมาก็เกิดความร้อนรุ่มกลุ้มใจ ถ้าเราเพิ่มความรักมากขึ้นก็ทุกข์มากขึ้น ควรทำใจให้สงบคิดเสียว่า (ช่างมึ..ช่างมัน) มันจะเกิดก็ต้องเกิดมันจะดับก็ต้องดับมันเป็นของมันอยู่อย่างนี้นานเนแล้ว

ความรู้ความเข้าใจมีสติระลึกรู้ระวังใจตัวเองนี้ต้องฝึกฝนอบรมไปเรื่อยๆ ทำให้เรามีความสุขได้มากเหมือนไปสวรรค์ในครั้งหนึ่งเหมือนมีวิมานในใจ ธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักยึดเหนี่ยวทำให้ใจร่มเย็น เรามีความสุขสงบครั้งหนึ่ง ก็เท่ากับเป็นทุนเป็นปัจจัยที่ฝังลึกลงไปในหัวใจเราว่าทางดับทุกข์มีทางเดิน แต่ที่วุ่นวายอยู่นี่เพราะเรายังเดินทางไปไม่ถึง เรายังอยู่กับความวุ่นวาย เราต้องละความห่วงความกังวลให้มันน้อยลงมันก็สิ้นทุกข์ไปเอง

การมีธรรมะฝึกอบรมใจช่วยให้จิตใจเรามีพื้นฐาน เมื่อมีทุกข์จะได้ไม่ไปทุกข์กับมัน อดทนรู้ทันอารมณ์รู้ทันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมา อันนี้เขาเรียกว่าธรรมะคุ้มครองปกป้องรักษา อยู่กับพระรัตนตรัยแล้วก็จะมีความสุข

การมีธรรมะได้เปรียบอย่างนี้แหละ พยายามฝึกใจฝึกให้เห็นธรรมให้รู้ธรรมที่ใจ ทุกข์มันเกิดที่ใจก็ต้องแก้ปัญหาที่ใจด้วยความคิดทางธรรม และแก้ปัญหาด้วยการภาวนา (พุทโธ) ทำให้ใจเราเย็นลงสงบลง ภาวนามากๆ เข้า ใจมันสบายเอง จิตมันไม่สับสนกังวล ความห่วงก็น้อย

เพราะอะไร เพราะมีปัญญาที่ตัดใจได้ เมื่อเราเกิดมาคนเดียวก็ตายคนเดียว ห่วงกันก็แค่นั้นเองช่วยอะไรกันไม่ได้ พอมีปัญญาก็ปลงตก ถ้าไม่มีปัญญาก็ทุกข์คนเดียวทั้งที่คนอื่นเขาไม่ทุกข์เท่าไหร่ ฉะนั้นธรรมะนี้จึงแก้ปัญหาหัวใจตนเอง

เราต้องรู้จักบั่นทอนตัดกิเลสอย่างหยาบอย่างกลางอย่างละเอียดให้มันลดน้อยถอยลง ขัดเกลาให้มันว่างบ้างสงบบ้าง จากหนักกลายเป็นเบา เบาลงๆเกิดความปล่อยวางขึ้นก็สบาย เพราะความรู้ทันว่าอะไรควรคิดอะไรไม่ควรคิด อะไรควรรับอะไรไม่ควรรับจึงจะมีความสุข เมื่อเข้ามาสู่แดนธรรมมาสู่ทางสว่างทางสงบ

รู้จักละวางให้ใจว่างบ้างด้วยการภาวนา ด้วยการเข้าใจธรรม พอมันไปห่วงไปรักไปกังวลคนอื่นมันเป็นทุกข์ทุกทีอีกแล้วว่าเขาจะเป็นโน่นเป็นนี่ ตัดใจให้ได้ช่างมันเถอะเกิดคนเดียวตายคนเดียว เอาความตายมาตัดปุ๊ปสบายใจ คนเรากรรมใครกรรมมัน เขาทำบุญไว้ก็ต้องไปดีเขาทำบาปก็ต้องไปตามกรรมของเขา ใครจะไปดึงรั้งเขาได้

จึงว่าเราเกิดมาแล้วก็ศึกษาชีวิตให้เป็นธรรมะเสีย เกิดคนเดียวตายคนเดียวกินคนเดียวทุกข์คนเดียว ถ้าเรายังช่วยใจตนเองให้สงบไม่ได้ ก็ช่วยคนอื่นไม่ได้จะต้องช่วยเหลือตนเองก่อน เมื่อช่วยเหลือตนเองได้ก็ช่วยเหลือผู้อื่นได้

หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ

กราบขอบพระคุณที่มา :: วัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี


:b41: กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2011, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2011, 20:25
โพสต์: 27


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ ที่เตือนสติ ชีวิตเราเหมือนกันเลยค่ะ เค้าเป็น ผช คนแรกและคนเดียว ของดิฉัน คบมา14ปี ดิฉันก็เลือกที่จะอยู่กับเค้าเพื่อลูกเหมือนกันค่ะ มันทำยาก ยากมากๆค่ะ อยากจะหนีไปไกลๆไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเค้าเลย แต่มันก็คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เราเป็นแม่คน ต้องเลือกและทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก....นานไหมค่ะ กว่าคุณจะตัดใจได้? 1ปีแล้วสำหรับดิฉัน...อยู่ด้วยกันแบบเดิม เค้าเลิกกับ ผญนานแล้ว แต่เราก็ไม่รักกันอีกแล้วค่ะ แย่จังนะคะ จะจำคำของคุณให้ขึ้นใจเลยคะ "หัวใจดวงนี้ไม่มีอีกแล้ว กับ รักที่ไม่ฉลาด" ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ความดีที่คุณทำ นำมาแต่สิ่งดีๆสำหรับคุณและลูกนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2011, 00:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 03:20
โพสต์: 48

งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: เดอะซีเคร็ต
ชื่อเล่น: สา
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ
นานมั๊ยหรือค่ะ กว่าจะทำใจได้
7 เดือนค่ะ คิดไปคิดมา ตั้งสติได้บ้าง
เผลอสติไปบ้าง สลับไปมา
และก็จบที่ว่า ถ้าเราอารมณ์แบบนี้ เราจะดูแลลูกเล็ก ๆ 2 คนได้อย่างไรกัน
เริ่มคิดได้ว่า ถ้าเอาใจไปผูกกับสามี แสดงว่าเขาสำคัญกว่าลูก
แล้วก็คิดว่าเขาเป็นใคร เวลาบาดหมางกัน นั่นดูเหมือนคนอื่นชัด ๆ
หันไปมองหน้าลูก ๆ แล้วคิดว่า นี้ต่างหากคือสิ่งมีชีวิตที่มาจากเลือดเรา
เราต้องดูแล ไม่ว่าพ่อของลูก จะทำตัวเช่นไร แม่จะต้องเป็นที่พึ่งของลูกให้ได้
ทุกวันนี้ สามีก็ดีกับลูก ดีกับเรา วันพระเราก็ช่วยเตรียมของไหว้พระให้ นั่งสมาธิด้วยกันในห้องพระ
ช่วยกันดูแลลูก เราก็รู้สึกดีและบอกกับตัวเองว่า ให้อภัย และอยู่กับปัจจุบัน
เพราะอดีตมันผ่านไปแล้ว ไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมา ไม่เสนอความคิดเห็น
ถ้าคนรอบข้างเกิดปัญหาแนวนี้
ขณะเดียวกันเราก็ทำใจให้ปกติ ว่านี้คือการเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ารักมั่นคง
อย่าได้หลงไปยึดให้เจ็บใจอีก
ดูแลบุพการีเราเอง ดูแลตัวเอง ดูแลลูก อยู่กับปัจจุบัน ทำให้ดีที่สุด
วางแผนล่วงหน้า วางแผนที่ชีวิต เตรียมความพร้อมไว้บ้าง
ตั้งสติดี ๆ คิดแต่งสิ่งดี ๆ กฎแห่งแรงดึงดูด สร้างพลังดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตเองค่ะ
เขาจะเป็นอย่างไรช่างเขา เราต้องดูแลตัวเองและอยู่ให้ได้ ได้ด้วยดีและมั่นคงด้วยค่ะ
เชื่อว่าคุณเองก็ทำได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2011, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:20
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้เข้ามาอ่านกระทู้ของคุณ รู้ทันหัวใจ หลายต่อหลายครั้ง ชื่นชมในความคิดและวิธีจัดการกับปัญหาของคุณมากค่ะ เวลาไม่สบายใจก็จะเปิดหน้านี้อ่าน ก็จะรู้สึกดีขึ้น อยากทำได้แบบคุณมั่งจัง สิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน ก็คือ คำว่า"ลูก" ที่ผู้เป็นแม่ยอมเสียสละ ยอมทน ยอมทุกข์ใจ เพื่อ ลูกได้มีความสุข ถึงแม้ว่าเราต้องทุกข์ใจกับผู้ชายคนนี้เท่าไหร่ แต่ตราบใดที่เค้ายังได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูก เค้ายังรักและเลี้ยงดูลูก เราก็ไม่อาจให้อารมณ์ส่วนตัว ความแค้นต่างๆ มาทำลายได้

หัวข้อนี้ "ยอมตัดใจทันที กับยอมทุกข์ใจไปก่อน เป็นคุณจะเลือกอย่างไหน" ตรงกับชีวิตของสุธินาตอนนี้มากๆค่ะ ทุกวันนี้สามีและดิฉัน ก็เป็นแค่พ่อและแม่ของลูกเท่านั้นค่ะ ไม่มีคำว่า สามีภรรยา มาร่วม1ปีแล้ว
แต่ยังอยู่ร่วมบ้าน ยังต้องเจอหน้ากัน ทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่เคยไปไหนกัน2คน มีแต่คำว่า พ่อ แม่ ลูกเคยคิดจะแยกกันหลายครั้งแล้ว โดนตกลงว่าจะแยกบ้านกันอยู่ ให้พาลูกมาทุกวันหยุด จะไม่โกรธกัน เป็นเพื่อน คุยกันแต่เรื่องลูกเท่านั้น เอาเข้าจริงๆเรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะตัดสินใจง่ายๆเลย สงสารลูกมาก ถ้าลูกไปอยู่กับเราเค้าจะไม่สุขสบายอย่างทุกวันนี้ ก็เลยทนๆๆๆๆ เพื่อลูกจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

ทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ใช่รอให้เค้ากลับมารักเรา มาเหมือนเดิมกับเรา (ยอมรับว่าแรกๆมานี้ ทำใจไม่ได้เลย หลอกตัวเอง ว่าเดี๋ยวก็ดีได้หนะ )จนบัดนี้ก็มีแต่แย่ลง และชินชา เหน็ดเหนื่อย กับสิ่งที่เราคิด เราทำ ไม่มีอะไรดีขึ้น รอวันที่เราเข้มแข็งกว่านี้ ไม่ว่าจะใช้เวลากี่เดือน กี่ปี ก็จะพยายาม แล้วถึงวันนั้น ก็คงได้เป็นวันของเรา วันที่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้สำคัญอะไรกับเราอีก วันที่เราออกไปโดยที่เราไม่ต้องเป็นทุกข์กับมันอีก ได้แต่บอกตัวเอง และ พยายามรักตัวเอง รักคนรอบข้าง รักคนที่รักเรา นั่นคือ ลูก และแม่ของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2011, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2011, 20:25
โพสต์: 27


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ คุณรู้ทันหัวใจ คุณเป็นคนที่เก่งและเข็มแข้งอย่างเยี่ยมยอดจริงๆค่ะ ดิฉันต้องทำให้ได้แบบคุณค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติ ตอนนี้ดิฉันก็เหมือนคนบ้า บางทีก็ทำใจได้ บางทีก็สับสน ร้องไห้ หัวเราะในเวลาเดียวกัน อยากให้เค้าไปๆจากชีวิตเสียที อยู่ด้วยกันไม่มีความสุขเลยทั้งเค้าทั้งดิฉัน เชื่อค่ะว่าเค้าก็ทนอยู่เพื่อลูกเหมือนกัน แต่เค้าไม่ได้ทำดีกับเราเลย พูดจาด่าทอ รำคาน แล้วก็เที่ยวดึกทุกวัน กลับบ้านก็ไม่สนอะไร อยู่กับคอมตลอดเวลา เล่นกับลูกวันหนึ่งไม่ถึง 15นาที ดิฉันก็ได้พยายามพูดคุย หาทางออก เช่นการแยกกันอยู่ หรือไม่ก็เลิกไปเลย แล้วเป็นเพื่อน ช่วยกันเลี้ยงลูกไป (คล้ายๆคุณสุธินาค่ะ) เค้าก็ไม่คุย ไม่พยายามใดๆทั้งสิ้น บอกอีกว่าดิฉันหาเรื่อง อย่ามายุ่งกับเค้า เฮ้อแล้วทำยังไงดีค่ะ เค้าไม่สื่อสารอะไรกับเราเลย มาคิดๆดูมันก็เพราะเค้าไม่ได้รักเรา ใช้ชีวิตแบบไม่ได้มีเราหรือลูกอยู่่ในนั้น เค้าก็ไม่เดือดร้อนเราจะเป็นหรือตาย เรื่องของเรา ดิฉันกำลังคิดว่าจะย้ายออกไปเลยกับลูกดีไหม เพราะว่าอยู่แบบนี้ต่อไปก็คงตัดเค้าไม่ขาดสักที แล้วก็คาดหวังในตัวเค้าไม่จบสิ้น มีแต่เรื่องบั่นทอนจิตใจทุกวัน ลูกก็เริ่มรู้เรื่อง เริ่มถามเวลาพ่อไม่อยู่ดิฉันกลัวว่าเวลาที่ถึงจุดแตกหัก ลูกจะปรับตัวไม่ได้ ดิฉันพยายามปล่อยวางไม่รับรู้ แต่มันทำไม่ได้จิงๆค่ะ ปัญหามันอยู่ที่ตัวดิฉันค่ะ ที่ไม่ปล่อยสักที เพื่อนๆว่าดิฉันมีทางออกไหนค่ะ ช่วยทีค่ะ อยากพ้นจากทุกข์นี้เหลือเกิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2011, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 12:23
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันก้อตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับคุณ
ทุกข์ทรมานมาก ต้องทนอยู่อย่างเดียวดาย
ทำหน้าที่แม่โดยลำพัง รับภาระทั้งหมดถึงจะเหนื่อยและมีน้ำตาบ่อยๆ
แต่ก้อภาคภูมิใจ ที่เลี้ยงลูกมาด้วยสองมือแม่นี้เอง
เพียงแค่หวังเล็กๆว่า วันนึงจะเป็นวันที่เรามีความสุขอย่างแท้จริง[color=#FF40BF]
[/color]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2011, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 22:30
โพสต์: 104

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้อ่านเรื่องราวของคุณรู้ฯแล้วก็รู้สึกชื่มชมและเป็นแบบอย่างที่ดีจังเลยค่ะ แอนเองก็จะพยายามทำให้ได้บ้าง ตอนนี้ก็ทุกข์มากเช่นเดียวกัน กับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างสามี ปากบอกรักลูก แต่กลับไม่เคยดูแล เอาใจใส่ คิดแล้วก็รู้สึกน้อยใจแทนลูกเหลือเกิน แต่ก็เอาเถอะ อย่างที่คุณรู้ฯเคยพูดไว้ เค้าจะเป็นยังไง จะดูแล ไม่ดูแล ก็ปล่อยดีกว่า เรากลับมาเต็มที่ในส่วนของเรา นั่นคงจะดีที่สุด แอนขอเป็นกำลังใจให้คุณรู้ฯและท่านอื่นๆที่มีปัญหา ขอให้พวกเราสามารถผ่านพ้นมันไปได้อย่างมีสติ และ ปัญญาด้วยเถิดนะค่ะ สาธุๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2011, 20:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มิ.ย. 2011, 20:38
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นเดียวกันกับเพื่อนๆ อ่านข้อความของคุณรู้ทันหัวใจ แล้วรู้สึกดีค่ะ พยายามอยู่กับความรู้สึกของหัวใจของตัวเรา หวังว่าสักวันความสุขต้องมาอยู่กับพวกเราทุกคน :b8: :b8: :b8: พนา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 71 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 58 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร