วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 01:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 01:43
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คือ พอ ดีว่า เลิกกับแฟนได้สองสามเดือนแล้วคะเค้าทิ้งเราไปมีแฟนใหม่

แต่เค้าก็ยังโทมาหาเราอยู่แล้วก็บอกว่ารักเรา ไม่ได้รักแฟนใหม่

ที่ทนคบอยู่เพราะว่า พลาดไปแล้วต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น

เราอยากทำใจลืม เค้า

แต่ก็ยังลืมเค้าไม่ได้สักที


วันๆเอาแต่คิดถึงเรื่องเดิมๆ ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ

พอจะมีวิธีไหน? ช่วยทำให้ปล่อยวางได้มั้งค่ะ

ตอนนี้ ก็ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 06:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


น้องฟีม เขียน:
คือ พอ ดีว่า เลิกกับแฟนได้สองสามเดือนแล้วคะเค้าทิ้งเราไปมีแฟนใหม่

แต่เค้าก็ยังโทมาหาเราอยู่แล้วก็บอกว่ารักเรา ไม่ได้รักแฟนใหม่

ที่ทนคบอยู่เพราะว่า พลาดไปแล้วต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น

เราอยากทำใจลืม เค้า

แต่ก็ยังลืมเค้าไม่ได้สักที


วันๆเอาแต่คิดถึงเรื่องเดิมๆ ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ

พอจะมีวิธีไหน? ช่วยทำให้ปล่อยวางได้มั้งค่ะ

ตอนนี้ ก็ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว



คุณขอรับ คุณรู้ไหมขอรับว่า คำว่า "ปล่อยวาง"คืออะไร มีแต่คนพูดมีแต่คนกล่าวว่า ปล่อยวาง ปล่อยวาง พวกเขารู้หรือเข้าใจกันหรือเปล่าก็ไม่รู้
คำว่า "ปล่อยวาง" หมายถึง "อุเบกขา" หรือ ความวางเฉยในอารมณ์ ความรู้สึก และความคิด หมายถึง ไม่ปรุงแต่งอารมณ์ ความรู้สึก และความคิด เมื่อได้รับการสัมผัส ทางอายตนะทั้งภายใน และภายนอก
ความคิด เกิดจาการได้สัมผัส ทางกาย วาจา แล้วปรุงแต่งเป็น อารมณ์ ความรู้สึกทางใจ ถ้าคลื่นจากากรได้รับการสัมผัสนั้น เข้าไปสุ่ส่วนที่เล็กที่สุดของจิตแล้วละก้อ ขจัด หรือ ปล่อยวาง หรือคายมันออกจากตัวเราได้ยากที่สุด เพราะเป็นกลไกการทำงานของร่างกายมนุษย์ เมื่อคลื่นเหล่านั้นเข้าสุ่ส่วนที่เล็กที่สุดแล้ว มันจะแพร่ กระจาย ไปทั่ว ลบที่หนึ่ง ขจัดที่หนึ่งได้ อีกที่หนึ่งก็มาแทนที่อีก จึงเกิดการ ลืมได้ยาก หรือไม่ลืมเลย ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม บางครั้งก็ไปหลบอยูหรือซ่อนอยู่ในที่ใดที่หนึ่งของอวัยวะในร่างกาย วันดีคืนดี ก็ไหลหรือเคลื่อนที่ออกมาทำให้เกิดความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ให้ได้เศร้าหมอง ถ้าคุณมีสมาธิ หรือฝึกสมาธิบ่อยๆ มีสติสัมปชัญญะดี ก็ยับยั้งมันได้ เพราะความรู้สึกตัวและระลึกได้ จะทำให้เราไม่อ่อนแอ ย่อมไหล หรือคล้อยตามไปกับความคิด
คุณอย่าหวังว่าจะลืมมันได้ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไป แต่คุณหวังที่จะไม่คิด ไม่มีอารมณ์ ความรุ้สึก คุณสามารถทำได้ อย่างแน่นอน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรายังมองไม่เห็นความสวัสดี
จักมีแก่สัตว์ทั้งหลาย
นอกจากปัญญาและความเพียร
นอกจากความสำรวมอินทรีย์
และความสละวางทุกสิ่งทุกอย่าง



ความโศกทั้งหลาย
ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท
เป็นมุนีผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ ผู้คงที่
สงบระงับแล้วมีสติในกาลทุกเมื่อ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2009, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านข้อความแล้ว รู้สึกว่าเจ้าของกระทู้น่าจะอายุยังน้อยนะค่ะ ชีวิตมีอะไรข้างหน้าอีกมากมายให้เรียนรู้ค่ะ อย่ายึดติดกับอดีต โลกกลมๆ ใบนี้ มีอะไรที่น่าค้นหาในสิ่งดีๆ อีกเยอะ

ขออนุญาตเรียกว่า "น้องนะค่ะ" อยากให้น้องเข้าไปอ่านกระทู้ของหลายท่าน ที่ชีวิตนี้ผ่านไปเกินครึ่งชีวิตแล้วก็ยังเจอะเจอปัญหาครอบครัว และบางท่านก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับเหตุการณ์เหล่านั้นอยู่ เพราะติดปัญหาหลายๆ เรื่อง

แต่น้องยังมีโอกาสที่จะเจอคนดีๆ มองไปข้างหน้านะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2009, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 16:49
โพสต์: 21

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่ก็เคยเป็นค่ะ ตอนผิดหวังในความรักเสียใจเป็นปีเลยค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปแล้วพ้นจุดนั้นมาได้แล้วตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ พี่ไม่ได้ผิดหวังแค่ครั้งเดียวนะ 3 ครั้งแล้วละ :b2: แต่ละครั้งก็เจ็บเหลือเกิน เพิ่งมารู้ทีหลังว่าที่เจ็บมากเพราะเรายึดติด เราคาดหวังนั่นเอง พี่เข้าใจว่าคุณยังคงเสียใจอยู่เป็นธรรมดาค่ะ ตอนนี้พี่แนะนำให้สวดมนต์ทุกคืนนะคะ สวดเสียงดังๆ ไปเลยค่ะ หลังสวดมนต์แล้วก็แผ่เมตตาแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขานะ อุทิศให้เขามีความสุข ช่วงแรกพี่เชื่อว่าสวดมนต์ไปคงร้องไห้ไปชัวร์ แต่พยายามทำให้ได้นะคะสักสองเดือนน่าจะดีขึ้นบ้าง หรือหาซีดีธรรมะมาฟังก็ดีนะมีพระดีๆ ตั้งหลายองค์ที่น่าฟังหาโหลดได้เยอะแยะค่ะ แล้วคิดเสียว่าเรากับเขาคงไม่ใช่คู่กัน ถ้าคู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกันหรอกค่ะ ถ้าใช่ยังไงสักวันเขาก็ต้องมีเหตุให้กลับมา แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องมีเหตุให้เลิกกันค่ะ เหมือนกับที่บุญกรรมจัดสรรให้เรามาเจอะเขาน่ะค่ะ แล้วถึงเวลาถ้าไม่ใช่ก็จัดสรรให้มีเหตุแยกกันไปนะคะ บุญรักษานะคะ รักษาใจตัวเองให้ได้นะคะ แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปนะคะ เมื่อก่อนเราก็ไม่เคยมีเขานะ เขาเข้ามาในชีวิตเราแค่ชั่วคราวนะ ตอนนี้ก็แค่เขาก็ออกไปจากเรา เราก็อยู่เหมือนที่เราเคยอยู่ไปนะ เดี๋ยวก็พรุ่งนี้แล้วนะ :b4: ยังไงรักตัวเรา รักพ่อแม่เรามากๆ นะ นึกถึงพ่อแม่เข้าไว้นะ สู้ๆ ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 03:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2008, 18:57
โพสต์: 41


 ข้อมูลส่วนตัว


:b34: กลับมาอ่าน คำถามของคุณ ทำอย่างไรให้ปล่อยวาง (ภาษาธรรมก็คือละตัวตน ของตน หรือตัวกู ของกู) :b33:
ชีวิตคนเรานั้น เหมือนถูกขังอยู่ในคุก มันไม่มีทางออก ปล่อยวางเรื่องนั้นได้ ก็มีเรื่องใหม่ให้ทุกข์ ให้ยึดถืออีก ไม่มีจบ ตายแล้วก็ยังไม่จบ เพราะกรรมต่อเนื่อง ดังนั้น ต้องแก้ให้ถูกจุด หรือเกาให้ถูกที่คัน นั้นคือแก้ที่ใจ จะแก้อย่างไร ก็ต้องมีตาใจ(สติ)คอยดูแลตนเองเสมอ
มีอาจารย์ ที่ท่านนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาสอนโดยใช้คำพูด ภาษาที่เข้าใจง่าย เทคนิค วิธีการสอน (อุปกรณ์ เช่น มีตุ๊กตา ละครสด จากคณะผู้จัดงาน)ทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ้ง มีกำลังใจ ที่จะเดินบนทางสู่ความพ้นทุกข์นี้ :b35:
เรื่องบวช นั้น เป็นเพียงหนีออกไปหาความสงบชั่วคราว ไม่ใช่การแก้ที่ถูกจุด
การแก้ที่ถูกจุด เหมือนหมอที่ต้องวินิจฉัยโรคให้ถูกก่อน จึงจะจัดยาได้ถูก :b39:
อยากแนะนำให้คุณและสามี ไปเข้าอบรม ตามที่ดิฉันโพสต์ ไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ หัวข้อ 26114
แม้แต่ฝรั่งที่ไม่เคยรู้เรื่องพระพุทธศาสนา ยังเข้าใจการทำงานของขันธ์ห้า เพราะอาจารย์สอนแบบมีโครงสร้าง มีต้น มีปลาย มีจุดจบ อีกทั้งคำสอนของพระพุทธเจ้าก็เป็นเหตุเป้นผล เป็นวิทยาศาสตร์ :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 04:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


น้องฟีมขา หนูเปิดไปดูกระทู้ในบอร์ดนี้แหละค่ะ เอาเรื่อง "เจ็บซ้ำๆ" ของคุณอ็อฟ
หรือ "ทำอย่างไรถึงจะลืมใครบางคนได้" ของคุณbunbun ดูเหมือนจะตรงกับของหนูที่สุดเลย
คำตอบมีในนั้นหมดแล้ว และถ้าว่างก็เข้าไปดูเรื่องอื่นๆ มีเยอะแยะเลยค่ะลูก อย่ามัวแต่คิดถึงสิ่งที่มันผ่านมา
แล้วก็กำลังผ่านไปแล้วอยู่เลยค่ะ หนทางข้างหน้ามีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมาย คนดีๆก็ยังมี
ให้เรารู้จักอีกเยอะแยะ อย่ามัวย้ำเท้าอยู่ที่เดิมเลย ประโยคยอดฮิตที่ว่า "รัก"อยู่นะ
แต่ต้อง "รับผิดชอบ" มันเป็นคำพูดของ"พระเอก"ในหนัง เรื่องจริงไม่มีหรอกค่ะ
ถ้าอ่านแล้วยังหาทางออกไปเจอก็มาระบายอีก
จะแวะมาเยียมนะค่ะ :b4:

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2009, 09:06
โพสต์: 45


 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำให้พิจารณาไตรลักษณ์
ใด ๆ ในโลกล้วน อนิจจัง,ทุกขัง,อนัตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พอจะมีวิธีไหน? ช่วยทำให้ปล่อยวางได้มั้งค่ะ


การไม่ยึดติด การปล่อยวาง การไม่ยึดมั่นถือมั่น ..ล้วนเกิดเป็นผลที่เกิดขึ้นแล้วเพราะอำนาจของสติปัญญาที่เกิดมารู้ความจริง
โดยความเป็นจริงแล้ว.. ไม่มีใครสั่งจิตใจได้ ห้ามไม่ได้..ผลธรรมทั้งหลาย เกิดจากเหตุปัจจัย ดังนั้นเมื่อมีเหตุมีปัจจัยเขาก็ต้องเกิดขึ้น หากหมดไป ไม่มีเสียซึ่งเหตุปัจจัย เขาก็ย่อมหมดไปเป็นธรรมดา
ดังนั้น ความจำเป็นจึงจะต้องกล่าวแนะวิธีที่จะสร้างเหตุสร้างปัจจัย เพื่อที่ให้เกิดผลคือ ความคลายความยึดมั่น การปล่อยวาง..นั่นเอง ได้แก่ การพิจารณาอารมณ์ที่กำลังกระทบนั้นให้ถูกตรงกับความเป็นจริงของเขา ต้องเห็นถูกต้อง สติและปัญญานั่นเอง จึงเกิดมาเพื่อทำการงานในการรู้เห็นตามความเป็นจริงอย่างนี้ได้
แล้วอะไรหนอ เป็นเหตุของ ปัญญา?
ตอบว่า ต้องมีการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นเหตุใกล้ มีการพบหากัลยาณมิตร มีการตั้งตนไว้ชอบ เป็นอาทิ... เมื่อฟังธรรรมที่ประกอบเหตุผลแล้ว แล้วย่อมเกิดการพิจารณารู้ตามความเป็นจริง ปัญญาย่อมเกิดด้วยเหตุอย่างนี้ คือ การฟังธรรม เป็นปัจจัยใหญ่..

เหมือนคนอยู่ในที่มืด เห็นเชือกแล้วคิดว่า เป็นงู เกิดกลัวขึ้นมาแล้ว ..ก็สำคัญว่า เห็นเป็นงูอยู่อย่างนั้น จะให้คลายกลัวได้อย่างไร จะสั่งให้ปล่อยวางได้หรือ? สั่งใจไม่ได้เลย
แต่เมื่อปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง ย่อมเหมือนได้พบแสงสว่าง รู้และเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นความจริง ก็เห็นว่าเป็นเชือก ไม่ใช่งู คราวนี้ ไม่ต้องสั่งใจหรอก

.. เมื่อมีปัญญา มีแสงสว่างเกิดขึ้นย่อมรู้ถูกต้อง ใจก็ไม่บิดเกลียว ย่อมปล่อยวางของเขาเอง ย่อมไม่ยึดมั่นถือมั่น เลิกใส่ใจอารมณ์นั้นๆ ไม่เห็นเป็นสาระอีกต่อไป..นี่ผลอย่างนี้ ย่อมเกิดด้วยเพราะเหตุอย่างนั้นทีเดียว
การรู้ตัว รู้ความจริง เป็นเรื่องของสติสัมปชัญญะ เกิดขึ้นเองไม่ได้เหมือนกัน ต้องฝึก ต้องทำความเข้าใจให้ดี เห็นประโยชน์ แล้วก็ฝึก ให้เกิดความชำนาญเป็นปัจจัย ฝึกบ่อยๆ
ขณะที่ใจรู้เรื่อง ก็เดือดร้อนเพราะไม่รู้ตัว ไม่รู้ความจริงตรงนั้น..เรื่องที่คิดถึงก็ไม่มีจริงสักหน่อย จบไปแล้วเป็นอดีตบ้าง เป็นอนาคตที่คิดนึกเอาเองบ้าง คิดถึงเรื่องที่ไม่จริงทั้งนั้น ก็พาใจเดือดร้อน..กลับมารู้เนื้อรู้ตัว รู้ที่ตัวบ่อยๆ ไม่รู้เรื่องนอกตัว ก็เป็นการสร้างเหตุปัจจัยเพื่อการปล่อยวาง

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2009, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ย. 2009, 16:25
โพสต์: 23

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: :b41: :b41: [color=#FF0040...ทำ "ใจ" ของตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ค่ะ ถ้าเค้าไม่รักเรา...เราก็จงรักตัวเองเถอะค่ะ...ตอนนี้อาจจะรู้สึกสับสน วุ่นวายใจ..คิดถึงแต่เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างกัน...แต่..เวลา..ก็จะช่วยให้เราดีขึ้น เพียงแต่ว่าในแต่ละวันที่ผ่านไป...หาอะไรทำเพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวเองฟุ้งซ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...ขอให้ "ใจ" แข็งแรงโดยไวนะจ๊ะ :b53: :b53: :b53: [/color]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 13:24
โพสต์: 13

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รักตัวเองดีกว่าค่ะ ผู้ชายที่ทำแบบนี้เรียกว่าคนเห็นแก่ตัวนะคะ เรายังมีอนาคตอีกไกล อย่ามาจมปักกับคนคนเดียวเลยค่ะ ที่ผู้ชายเขาบอกนั้นเราก็ไม่สามรถรู้ได้ว่าเขาพูดจากใจหรือแค่อยากให้คุณลืมเขาไม่ได้กันแน่ ทำบุญมากๆเถอะค่ะขอพรพระท่านให้คุณได้เจอแต่คนดีๆ ผลบุญจะช่วยคุณเองค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตรงข้ามกับปล่อยวาง ก็คือ ทิ้งมันเสีย


หน้าที่ของผู้ชายคนนั้นถูกต้องแล้ว .. คือต้องรับผิดชอบ

ที่เขาพลาดไปนั่นเพราะกรรมของเขาเอง และที่คุณคิดถึงนั่นก็กรรมของคุณเหมือนกันนะ

อนุโมทนาครับ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร